ตอนที่6 ผู้มาใหม่

4814 Words
ร่างใหญ่ในเงามืดยืนจ้องพิมพลอยที่หายใจสม่ำเสมออยู่บนเตียง มือหนาค่อยๆเปิดมุ้งออกแทรกกายเข้าไป ร่างบางพลิกตัวตื่นลืมตาขึ้นแต่มือใหญ่ตะปบปากกดลงเสียก่อน!!! มือหนาปิดปากพิมพลอยแน่น เธอลืมตาโพลงในความมืดอย่างตื่นกลัว มือทั้งสองข้างหาทางดิ้นรนแต่ถูกมือใหญ่จับล๊อคไว้เหนือหัว ใจของหญิงสาวเต้นรัวร่างบางสั่นสะท้านน้ำตาเอ่อล้นคลอเบ้า นี่เธอกำลังเจอกับไอ้ฆาตกรร้ายเหมือนกับปาลีและเปียอย่างนั้นหรือ เงาดำโน้มกายลงมาใกล้ พิมพลอยเมินหน้าหนีอย่างขยะแขยงลมหายใจร้อนเป่ารดชิดใบหน้าได้กลิ่นบางอย่างคละคลุ้ง "ผมเอง คุณพิม"เสียงทุ้มดังขึ้นกลิ่นเหล้าป่าหึ่ง โชยตามลมหายใจของนายทหารหนุ่มพิมพลอยยิ้มทั้งน้ำตาความโล่งใจเข้าแทนที่ความหวาดกลัว โผเข้ากอดชายตรงหน้าแน่น "คนบ้า คุณทำอะไรของคุณ"หญิงสาวร้องไห้สะอึกสะอื้นทุบไหล่กว้างร่างของเธอสั่นจากความหวาดกลัว "ผมทำให้คุณกลัวหรอ"นายทหารเชยคางมนขึ้นปาดน้ำตาบนแก้มใสหญิงสาวพยักหน้าน้อยๆชายหนุ่มรู้สึกสงสารขึ้นจับใจ เขาแค่เป็นห่วงพิมพลอยแต่กลัวคนอื่นจะรู้จึงแอบมาเงียบๆแต่หญิงสาวตื่นขึ้นพอดีเขากลัวเธอจะร้องเสียงดังจนมะเมียะรู้ จึงรีบปิดปากของหญิงสาวไว้ "มะเมียะหายไปไหนครับ"ชายหนุ่มพูดขึ้นหลังจากจุดตะเกียงสว่างแต่มองไม่เห็นมะเมียะในมุ้ง "ไม่ทราบค่ะ ฉันก็พึ่งตื่นตอนที่คุณมา แต่เมื่อครู่ยังเข้านอนพร้อมกันอยู่เลย"พิมพลอยทวนความจำมองไปยังที่นอนว่างเปล่าเบื้องล่าง "เดี๋ยวผมไปตามหาให้" "ฉันไปด้วยค่ะ"พิมพลอยลุกเดินตามนรินทร์ลงบันไดไป นายทหารหนุ่มเปิดไฟฉายสาดส่องไปยังห้องน้ำนอกบ้านพักจูงมือหญิงสาวเดินตามทาง "ซี๊ด...อ่าห์"เสียงผู้หญิงร้องครวญคราง นายทหารหนุ่มและหญิงสาวทั้งสองหันมองหน้ากันเบิกตาโต "มะเมียะ!" "คนร้าย" เสียงในความคิดของทั้งคู่ดังขึ้นพร้อมกัน พิมพลอยกอดแขนชายหนุ่มแน่น นายทหารหนุ่มก้มหยิบเสียมที่ใต้บันไดปิดแสงจากไฟฉายย่องขึ้นบันไดบ้านพักอีกหลังพร้อมพิมพลอยอย่างเงียบกริบ "เอ้ย!/อ๊าย..." เมื่อร่างใหญ่ของชายหนุ่มพลักประตูเข้าไปพร้อมแสงไฟฉายสาดขึ้น ภาพเบื้องหน้าทำให้นรินทร์ตาค้าง พิมพลอยต้องเมินหน้าหลบหลังนายทหารหนุ่ม เพราะร่างเปลือยเปล่าของมะเมียและคะฉิ่นอยู่ในท่ารวมรักอย่างเผ็ดร้อน ปัง! ไวกว่าความคิดนรินทร์กระชากประตูปิดทันควัน นายทหารหนุ่มมองหน้าแดงกล่ำของหญิงสาวหลังจากที่เห็นหนังสดต่อหน้าต่อตา นรินทร์ยิ้มนึกขันหญิงสาวผู้ไม่ประสาเรื่องอย่างว่าก้มหน้างุดเดินหนีชายหนุ่มไปยังบ้านพักของตนเอง "คืนนี้ผมนอนเป็นเพื่อนคุณดีกว่า" "แล้วเออ...มะเมียะล่ะค่ะ"หญิงสาวพูดเบาๆเมื่อคิดถึงภาพเมื่อครู่ "ผมว่าเขาคงไม่ว่างมา"นายทหารหนุ่มยิ้มกรุ้มกริ่ม "แต่ว่าชาวบ้าน..." "คุณไม่ต้องกลัวชาวบ้านนินทานะครับเพราะยังไงเราก็จะแต่งงานกันอยู่ดี" "ไม่ใช่เรื่องนั้นค่ะ เรื่องข้อห้าม คุณก็รู้นิว่าที่หมู่บ้านนี้เคร่งครัดเรื่องประเพณีไม่งันเราคงไม่แต่งงานกันหลอกๆ"พิมพลอยพูดด้วยความกังวล แต่นรินทร์คิดถึงเรื่องเมื่อเช้าที่พิมพลอยคุยกับเขา 'คุณบอกกับชาวบ้านแบบนั้นได้ยังไงค่ะ' 'ผมคิดว่ามันเป็นทางออกที่ดีที่สุดนะ' 'การแต่งงานไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะคะ แล้วเราจะแต่งงานกันได้ยังไงในเมื่อ...' 'หรือว่าคุณมีคนรักแล้ว'พิมพลอยส่ายหน้า นรินทร์แอบยิ้มอยู่ในใจ 'ผมว่ามันแฟร์ดีนะ คุณไม่เสื่อมเสียชื่อเสียงส่วนผมก็ไม่โดนมองว่าเป็นฆาตกร'เขาพยายามยกเหตุผลหาข้ออ้างเผื่อแต่งงานกับหญิงสาว พิมพลอยพยักหน้าอย่างจนใจในเหตุผลของคนเจ้าเล่ห์ "คุณค่ะ ผู้หมวดฟังฉันพูดอยู่หรือเปล่าคะ" "ครับๆว่าไงนะครับ" "เรื่องที่คุณมาเจอฉัน ฉันว่ามันไม่สมควรเพราะชาวบ้านเขาถือถ้าคู่ไหนเจอกันก่อนวันแต่งจะไม่ได้แต่ง" "ผมไม่ถือ คุณจะถือทำไมในเมื่อคุณบอกว่ามันเป็นงานแต่งหลอกๆ"นรินทร์ทวนคำพูดหญิงสาวเมื่อครู่อย่างเจ็บช้ำแต่คนที่สำอึกกลับเป็นพิมพลอยที่ยืนนิ่งอยู่ "ใช่ค่ะก็แค่งานแต่งหลอกๆ"พิมพลอยพูดขึ้นก่อนมุดตัวเข้ามุ้ง นรินทร์ยืนมองท่าทีของหญิงสาวเงียบๆก่อนดับตะเกียงมุดลงนอนที่มุ้งด้านล่าง เขารู้สึกเหมือนโดนหญิงสาวปฏิเสธ เธอทำเหมือนไม่สนใจและเฉยชา เขาคิดถูกหรือไม่ที่เลือกแต่งงานด้วยวิธีแบบนี้ "ถ้าคุณกลัวชาวบ้านจะว่า พรุ่งนี้ผมจะออกไปตั้งแต่เช้ามืด"เสียงชายหนุ่มดังขึ้นพิมพลอยนิ่งไม่ตอบแต่น้ำตาไหลออกมาอย่างเงียบๆจนหลับไป นรินทร์แอบลุกออกมาเงียบๆหลังจากที่หญิงสาวหลับไปแล้วเพียงไม่นาน จิตใจของชายหนุ่มว้าวุ่น เขาเดินกลับไปยังบ้านของอูเลในความมืดมีเพียงแสงจันทร์เท่านั้นที่ส่องทาง นายทหารหนุ่มนั่งลงบนแคร่ตัวเดิมที่หน้าบ้านบัดนี้วงเหล้าแตกไปแล้วเหลือเพียงไหเหล้าที่ว่างอยู่ นรินทร์ยกไหเหล้าขึ้นกระดกลงคอ สุรามีจะมีฤทธิ์ช่วยให้ลืมคนใจดำได้บ้างหรือไม่เขาไม่แน่ใจ แต่ถ้าเมาแล้วไม่เจ็บเขาก็จะดื่ม เมื่อแรกที่พบพิมพลอยเขารู้สึกแค่เพียงชอบแต่เมื่อยิ่งได้รู้จักความรู้สึกนั้นก็เริ่มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนเมื่อมีวิธีที่จะทำให้เขาผูกมัดเธอเอาไว้ได้ เขาก็ไม่รีรอที่จะรีบคว้ามันไว้แม้ต้องบังคับใจเธอก็ตาม ​พิมพลอยรู้สึกตัว ตื่นขึ้นเมื่อมะเมียะมาปลุกในเช้ามืด มะเมียะหลบตาลงต่ำหน้าแดงไม่มองเธอ สงสัยเด็กสาวยังอายกับเรื่องเมื่อคืนอยู่แต่พิมพลอยทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพื่อลดความกระดากอายของสาวน้อย "วันนี้ต้องทำอะไรบ้างหรอ"พิมพลอยถามแต่ตามองไปที่ข้างเตียงเธอไม่รู้เลยว่าเขาลุกออกไปตอนไหน "เดี๋ยวหมอพิมแต่งตัวนะจ๊ะฉันเตรียมไว้ให้แล้ว แต่หมอพิมไม่สบายหรือเปล่าจ๊ะดูตาบวมๆ"มะเมียะเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วง "แค่เหนื่อยนิดหน่อยจ้ะ"พิมพลอยฝืนยิ้ม รับเสื้อผ้าชุดพื้นเมืองที่มะเมียะยื่นให้แล้วเดินไปอาบน้ำ หมู เห็ด เป็ด ไก่ ถูกฆ่าเพื่อเซ่นสังเวยบวงสรวงเป็นคู่ๆ ดอกไม้ป่านานาชนิดถูกจัดตกแต่งไว้กลางลานส่งกลิ่นหอมอบอวล ผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านและชาวบ้านต่างมารวมตัวกันเป็นสักขีพยานในงานแต่ง พิมพลอยในชุดสีขาวของชาวพื้นเมืองที่คอมีสร้อยพลอยเพทายสีฟ้าเม็ดใหญ่สมบัติดูต่างหน้าของพ่อที่เธอไม่ค่อยได้หยิบมาใส่ประดับอยู่ ผมยาวสลวยถูกเกล้าขึ้นเป็นมวยทัดแซมด้วยดอกไม้ ใบหน้างามอย่างธรรมชาติสร้างสรรค์ให้ จนนรินทร์ตะลึงในความงามถูกสะกดแทบเกือบลืมหายใจเมื่อหญิงสาวย่างกายเข้ามา "ณ เวลานี้เป็นฤกษ์ดีแล้วขอให้คู่บ่าวสาวจุดธูปไหว้บวงสรวง ขอขมาเจ้าป่า เจ้าเขา ผีปู่ ผีย่า ผีบรรพบุรุษ "เสียงทุ้มของพ่อเฒ่าประจำหมู่บ้านดังขึ้น พิมพลอยและนรินทร์รับธูปมาอธิฐานแล้วปักลงดิน ผู้เฒ่าผู้แก่ต่างพากันผูกข้อมือของทั้งคู่และอวยพรตามด้วยชาวบ้านทุกคนในหมู่บ้าน พิมพลอยยิ้มรับทุกคำอวยพรน้ำตารื่น นรินทร์เองก็เช่นกันมันเหมือนช่วงเวลาในฝันเลยทีเดียว เมื่อทุกคนผูกข้อมือทั้งคู่เสร็จ อูเลจับมือทั้งคู่ให้มาจับกัน "ต่อจากนี้ขอประกาศให้ทั้งคู่เป็น..." "นี่มันเรื่องอะไรกันคะ!" เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นทำให้ชาวบ้านทุกคนหันจับจ้องไปยังต้นเสียงเป็นตาเดียว ร่างระหงษ์ยืนอยู่กับทหารอีกสองคนเบื้องหลัง ใบหน้างามแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพง ตาสวยเฉี่ยว จมูกโด่งรั้นขึ้นปากกระจับเผยอขึ้นดูเซ็กซี่ยวนใจแบบสาวชาวกรุง "ลดา คุณมาได้ยังไง"เสียงนายทหารหนุ่มดังขึ้น ใบหน้าของเขาเข้มขึ้นเอ่ยชื่อหญิงสาวผู้มาใหม่ "ลดาก็มาตามหา นะไงค่ะ คุณไม่ติดต่อกลับมาเลย พอลดาสืบจนรู้ว่าคุณอยู่ไหนแต่พวกทหารบอกว่าคุณหายเข้าไปในป่า ลดาให้พวกเขารีบตามหา" "คุณมีธุระอะไร"นรินทร์ถามหญิงสาวผู้มาใหม่ตรงหน้า "เรื่องของเรามันยังไม่จบนะคะ ทำไมนะหนีมาแบบนี้"เสียงหญิงสาวคนเคยคุ้นเอ่ยขึ้น นรินทร์ขมวดคิ้วเข้ม "เรื่องของเรามันจบไปแล้วเพราะผมกำลังจะแต่งงาน"นรินทร์คว้าข้อมือพิมพลอยจับขึ้นมาแสดงให้ลดาเห็นก่อนโอบกระชับหญิงสาวให้บิดชิดเขาอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ "กับแม่สาวชาวบ้านนี้เหรอคะ"ลดาชายตามองพิมพลอยหัวจรดเท้าด้วยสายตาเหยียดๆก็สวยอยู่หรอกแต่แบบจืดๆหล่อนคิดในใจก่อนเดินเข้าใกล้นายทหารหนุ่ม "นะเมาหรือเปล่าคะกลิ่นเหล้าหึ่งเชียว หรือชาวบ้านพวกนี้มอมเหล้าคุณแล้วบังคับให้นะแต่งงานกับแม่นี่ใช่ไหม ร้ายจริงนะ"ลดาทำจมูกฟุดฟิดดมชิดจนถึงซอกคอชายหนุ่มก่อนเขาจะพละออกห่าง นรินทร์ตกใจเอามือไปดันร่างสูงเพียวของลดาออกห่าง พิมพลอยมองการกระทำเมื่อครู่อย่างรู้สึกตะลึงงัน ความอับอายจากสายตาชาวบ้านเข้าแทรก หญิงสาวรีบเดินหนีจากชายหญิงตรงหน้า "คุณพิม!" "หมอพิม"มะเมียะตะโกนไล่หลังวิ่งตามพิมพลอยไปชาวบ้านในพิธีต่างตกตะลึงจนไม่มีใครพูดคำใดออกมา สถานการณ์ตอนนี้เรียกได้ว่าเลวร้าย "อ่อ เป็นหมอหรอคะสงสัยจะพวกหมอตำแย หมอผี หรือว่ามันทำเสน่ห์ยาแฝกใส่นะ"เสียงของลดาดังขึ้นอีก นรินทร์หันมองมาที่หล่อนตาเขียว "คุณตามผมมานี้เดี๋ยวนี้เลย"นรินทร์ดึงแขนลดาเลี่ยงหลบออกมาก่อนก้มหัวเป็นเชิงขอโทษชาวบ้านทุกคน "นี่มันอะไรกันครับ"นายทหารหนุ่มหน้าเคร่งถามเมื่อแยกลดาออกมาได้ "ลดาต้องถามนะมากกว่าค่ะว่าอะไร นะทะเลาะกับลดาก็ย้ายหนีมาเกือบครึ่งปีเลยนะคะ "เสียงหวานกึ่งง้องอน เบียดกายเข้าใกล้ร่างใหญ่ มือเรียวงามไล้ผ่านปลายคางลงมาจนถึงคอเสื้อ "เราเลิกกันแล้วคุณจำไม่ได้หรอลดา"นายทหารหนุ่มดันหล่อนออกมองในตาหญิงสาวนิ่ง "ลดาไม่เลิก ลดาได้ไม่ได้พูดมีแต่นะที่พูด นะไม่อยากอยู่หน่วยนั้นบอกลดาก็ได้นี่ค่ะ ไม่เห็นต้องทำแบบนี้เลย" นรินทร์นิ่งเงียบมองหน้าอดีตคนรักแล้วคิดย้อนถึงความทรงจำเก่า เขาเคยรักผู้หญิงคนนี้มากเพราะคนอย่างลดาลูกสาวนายพลกับเด็กวัดอย่างเขาต่างกันราวฟ้ากับเหว ทั้งชนชั้น ฐานะ รสนิยมแต่ลดายังลดตัวมาคุยกับคนอย่างเขาก็นับว่าเหมือนฝัน แต่ช่วงหลังลดาได้เป็นนางแบบหน้าใหม่ดาวรุ่งเธอก็พยายามยัดเยียดทุกอย่างให้เขาดูสมฐานะกับเธอ เขารู้สึกเหมือนที่ลดาทำดีกับเขาเพราะเธอแค่หลงรูปลักษณ์ภายนอกของเขาเท่านั้น และเรื่องที่ทำให้เขาหมดความอดทนกับเธอ คือลดาขอร้องพ่อของเธอให้เลื่อนยศให้เขาและให้เขาย้ายไปคุ้มกันรัฐมนตรีที่พ่อเธอรู้จักเพื่อจะได้ทัดเทียมกับเธอ แต่ไม่มองถึงศักดิ์ศรีของเขาเลย "ผมว่าผมคุยกับคุณรู้เรื่องแล้วนะลดา ผมจะไม่ย้ายไปหน่วยไหนทั้งนั้น อ่อแล้วอีกอย่างผมก็แต่งงานแล้ว คุณควรเลิกยุ่งกับผมสักที"นายทหารหนุ่มดันร่างสูงออกห่าง "ลดาไม่เข้าใจแม่นั้นดีกว่าลดาตรงไหน"นรินทร์ยิ้มเมื่อนึกถึงผู้หญิงอีกคนที่ถูกพาดพิงถึงแล้วพูดเสียงดังว่า "อย่างน้อยเขาก็ยอมรับในสิ่งที่เป็นตัวผม" พิมพลอยวิ่งกลับมาที่บ้านพักของตนร้องไห้หน้าซุกลงกับหมอน นี่คงเป็นสิ่งที่เธอได้รับจากการโกหก ความอับอายความเจ็บช้ำเข้ามาถาโถมจนเกินรับไหว ถ้าเธอไม่ยอมแต่งงานหลอกๆกับเขาเรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น เธอจะไม่ถูกมองเยียดหยาม หรือถูกด่าว่าหลอกจับผู้ชายแต่งงาน เธอรู้สึกอาย อายเกินกว่าจะกล้าสู้หน้าใครได้อีก เสียงสะอื้นเบาๆหมอนเปียกชุ่มเต็มไปด้วยน้ำตา มะเมียะนั่งลงด้านล่างข้างๆเตียงไม่รู้จะปลอบหญิงสาวอย่างไร หล่อนรู้สึกสงสารพิมพลอยขึ้นมาจับใจ แม่คนกรุงตัวดีนั่นก็อีกคนไม่รู้โผล่มาจากไหนวุ่นวายไปหมด มะเมียะได้แต่ถอนหายใจมองดูพิมพลอยร้องไห้จนหลับไป "ตื่นแล้วหรือจ้ะหมอพิม"มะเมียะยกปิ่นโตมื้อเย็นมาให้ เห็นพิมพลอยลุกขึ้นนั่งพอดีใบหน้างามซีดเซียว ดวงตาช้ำบวมแดง "จ้ะ"พิมพลอยพยักหน้าน้อยๆใช้มือนวดคลึงที่หัวตาคลายอาการปวดศีรษะจากการร้องไหอย่างหนัก "ทานอะไรหน่อยนะจ๊ะหมอ ฉันเพิ่งทำมาร้อนๆเลย"มะเมียะจัดแจงเปิดปิ่นโตออกให้พิมพลอย หญิงสาวตักกินเพียงสองสามคำเท่านั้น จนมะเมียะเห็นแล้วก็สงสาร คนนึงก็ร้องไห้จนหลับ อีกคนก็...มะเมียะนึกภาพนรินทร์กินเหล้าไปหลายไหจนเมาหลับอยู่ใต้ถุนบ้านของเธอ ตอนที่เธอกลับบ้านไปทำกับข้าว "ถ้าหมอพิมไม่หิวงันไปแช่น้ำที่บ่อกูณฑ์กันดีไหมจ้ะ จะได้ชำระล้างเรื่องที่ไม่ดีออกไป"มะเมียะรีบเสนอ พิมพลอยพยักหน้าอย่างเห็นด้วย "ไปสิมะเมีย "พิมพลอยลุกขึ้นยืนเดินตามมะเมียะไปเหมือนร่างไร้วิญญาณ บ่อน้ำพุร้อนใสสีเขียวมรกตกว้างราวๆสองเมตรอยู่ทางทิศตะวันตกของหมู่บ้าน น้ำที่ผุดจากใต้ดินไร้ซึ่งกลิ่นกำมะถันเหมือนที่อื่นๆควันจางๆลอยขึ้นจากผิวน้ำกระทบอากาศหนาวในช่วงเย็น พิมพลอยถอดเสื้อผ้าออกมีเพียงผ้าถุงสีขาวผืนใหญ่ที่นุ่งปิดบังร่างกายเปลือยไว้ ชาวบ้านเชื่อว่าบ่อน้ำพุร้อนนี้ศักดิ์สิทธิ์ช่วยชำระล้างสิ่งที่ไม่ดีออกไปได้ ร่างบางก้าวเดินลงในบ่ออุณหภูมิร้อนของน้ำช่วยให้ร่างกายอุ่นขึ้น พิมพลอยรู้สึกผ่อนคลายเธอนอนหลับตาซบโขดหินที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมา มะเมียะเห็นหญิงสาวกำลังเพลิดเพลินอยู่จึงถอยหลังหลบออกมา "เรียบร้อยแล้วพี่ ของพี่ล่ะ"มะเมียะปลีกตัวออกมาหาคะฉิ่นที่ยื่นอยู่ "ไม่มีปัญหา"คะฉิ่นยิ้มอย่างชอบใจที่แผนการช่วยคนคืนดีกันกำลังไปได้สวย นรินทร์นั่งซุ่มหลังพุ่มไม้ใหญ่ใกล้ๆกับบ่อน้ำร้อนเพราะคะฉิ่นบอกเขาว่ามีร่องรอยของไอ้ฆาตรกรร้ายป้วนเปี้ยนวนเวียนแถวนี้ ทำให้เขาสร่างเมาทันที "คะฉิ่นหายไปไหนแล้ว"นายทหารหนุ่มมองหาคะฉิ่นแต่ไม่เห็นแม้เงาทำให้เขากำลังลุกขึ้นไปตามหา แต่ต้องชะงักเสียก่อนเมื่อเห็นร่างของคนสองคนเดินมาจากในหมู่บ้าน "พิมพลอยกับมะเมียะ"ชายหนุ่มพึมพำทรุดตัวนั่งลงที่เดิม พิมพลอยดูท่าทางอิดโรยและไม่ค่อยสบาย ถ้าเขาโผล่ออกไปตอนนี้เธออาจจะหนีอีกได้ ชายหนุ่มจึงตั้งใจนั่งอยู่เงียบๆ แต่ไม่รู้เทวดาเจ้าป่าเจ้าเขาหรืออะไรดลใจให้หญิงสาวมาเปลื้องผ้าเปลี่ยนชุดหน้าพุ่มไม้นี้ ผิวขาวเนียนท่อนบนที่ไร้ซึ่งอาภรณ์เมื่อยามแสงแดดยามเย็นตกกระทบราวกับงานศิลป์ชั้นดี อกชิดสวยเต่งตึงได้รูป ยอดปทุมถันสีชมพูอมแดงดูน่ารัก หน้าท้องนวลเนียนเอวคอดรับสะโพกกลมกลึง แต่ที่ทำให้นรินทร์แทบหยุดหายใจคือเมื่อหญิงสาวดึงผ้าถุงขึ้นถอดชั้นในตัวน้อยเผยให้เห็น เนินสวรรค์โหนกนูนกลีบบางที่ปิดแนบสนิทมีเพียงเส้นขนบางๆปกคลุมเท่านั้น ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่อารมณ์สวาทปะทุขึ้นทันที กินรีลงสรงหรือไร หรือเขาหลุดมาอยู่ป่าหิมพานต์มีนางมโนราห์มาเล่นน้ำให้เชยชม นรินทร์กัดริมฝีปากแน่นสะกดใจตนเอง ยิ่งหญิงสาวก้าวลงน้ำผ้าถุงสีขาวเปียกชุ่มแนบเนื้อเห็นชัดทุกสัดส่วนแต่ก็ดูยั่วยวนเสียงยิ่งกว่าแก้ผ้าแบบโจ่งแจ้ง นายทหารหนุ่มตกอยู่ภวังค์มองภาพตรงหน้าอย่างหลงไหลขาทั้งสองข้างก้าวออกจากพุ่มไม้ไปราวต้องมนต์สะกด "ว๊าย!!"เสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้พิมพลอยรี่ตาขึ้นมองเพราะคิดว่าเป็นมะเมียะแต่เป็นนายทหารหนุ่มที่ยืนจ้องเธอไม่วางตา "มาที่นี่ได้ยังไง คุณออกไปเดี๋ยวนี้นะ"หญิงสาวเลื่อนตัวลงแช่ในน้ำโผล่ขึ้นมาแค่ช่วงคอแต่เธอหารู้ไม่ว่าน้ำในบ่อใสยิ่งกว่ากระจก "ออกไปนะ คุณไม่เห็นหรอฉันอาบน้ำอยู่"พิมพลอยกวักน้ำกระเซ็นใส่ชายหนุ่มเพื่อขับไล่ ร่างใหญ่ยังไม่ขยับแต่ถอดเสื้อของตนเองออกแทนเผยให้เห็นอกกว้างเต็มไปด้วยมัดกล้าม "คุณทำบ้าอะไรฉันบอกให้ออกไป"พิมพลอยหันหลังให้ภาพตรงหน้า ขณะที่ชายหนุ่มกำลังถอดกางเกง "ก็ผมจะแช่น้ำเหมือนกัน"เสียงนายทหารหนุ่มดังขึ้นพร้อมเสียงเดินลงน้ำมา "ถ้าคุณไม่ไปฉันไปเอง"พิมพลอยก้าวขึ้นจากน้ำอีกฝั่งแต่ถูกมือใหญ่เกี่ยวเอวรั้งลงมาเสียก่อน "อ๊าย..."ร่างบางปะทะอกกว้างน้ำในบ่อแตกกระจาย ชายหนุ่มยังคงรัดร่างเล็กไว้เบียดแนบชิดกาย "หยุดนะคุณจะทำอะไร ฉันจะร้องให้คนช่วย" "เชิญเลยครับ ร้องเลยเรื่องของผัวเมียไม่มีใครอยากยุ่งหรอก"นายหนุ่มกระซิบที่ใบหูหญิงสาวจนกายน้อยๆเสียวสะท้าน มือใหญ่เลื่อนจากหน้าท้องขึ้นเกาะกุมอกงามบีบเคล้นเขี่ยยอดถันเล่นนอกผ้าถุง ริมฝีปากร้อนพรมจูบทั่วซอกคอและหัวไหล่จนหญิงสาวยืนตัวเกร็งเพราะความเสียวซ่านแปลกใหม่ ขาของชายหนุ่มยกดันบั้นท้ายหญิงสาวช้อนขึ้นให้นั่งบนตัก อีกมือลูบไล้ขาเรียวเลิกผ้าถุงขึ้น แก่นกายแข็งขันเสียดสีสะโพกงามนิ้วยาวแหวกกลีบบางอย่างเบามือค่อยๆบดคลึงปุ่มกระสันเสียวจนร่างเล็กบิดเร่าหนีสิ่งแปลกปลอมเธอรู้สึกเสียวซ่านและตื่นกลัวในเวลาเดียวกัน "อ่ะ...อ่าห์.."เสียงใสเล็ดลอดจากริมฝีปากงามทำให้คนตัวโตยิ่งได้ใจค่อยๆสอดนิ้วลึกเข้าในเขตหวงห้าม "ยะ...อย่าค่ะ" "ทำไมครับในเมื่อคุณเป็นเมียผม"พูดจบนายทหารหนุ่มดันนิ้วลึกเข้าไปความอ่อนนุ่มภายในขมิบตอดรัดสิ่งแปลกปลอมแน่น "ไม่ต้องกลัวนะครับ"นรินทร์กระซิบแผ่วขบใบหูของเธอเบาๆก่อนเริ่มขยับนิ้วหมุนวนภายใน "อ่าห์..."พิมพลอยแอ่นกายหนีแต่ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงทำแค่ได้เอนกายพิงอกกว้างไว้เท่านั้น ร่างกายหญิงสาวตอบสนองได้อย่างดีเยี่ยมน้ำหวานใสจากกลีบดอกไม้ไหลมาหล่อลื่น นรินทร์จับแท่งแข็งถูกสะโพกเนียน เอ็นร้อนแนบชิดกลีบบางพยายามมุดเข้าเชยชม "ไม่ได้ค่ะ"หญิงสาวสะดุ้งเฮือกพูดขึ้นเสียงแข็ง นรินทร์ชะงักค้างเธอหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้า "ในน้ำที่นี่ไม่ได้ค่ะ"พูดจบหญิงสาวยิ้มเขินหน้าแดงยิ่งกว่าลูกตำลึงเดินขึ้นจากน้ำหนีไป ปล่อยชายหนุ่มค้างอยู่ในธารอุ่น "ถ้างัน..บนบกได้ใช่ไหมครับ"นรินทร์เดินตามมากอดร่างบางจากด้านหลังแต่พิมพลอยแกะมือหนาของเขาออก "เริ่มมืดแล้วค่ะ กลับบ้านก่อนดีกว่า"พิมพลอยพูดรัวปลีกตัวออกรีบหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาใส่หลังพุ่มไม้ "ได้คร้าบ.."นายทหารหนุ่มบอกอย่างร่าเริงพร้อมจัดการใส่เสื้อผ้าของตนอย่างอารมณ์แจ่มใส พระอาทิตย์สิ้นแสงลงแล้วมีเพียงแสงดาวดวงน้อยที่ส่องสว่างอยู่ไกลลิบๆ นรินทร์โอบไหล่บางของหญิงสาวเดินออกมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มด้วยความสุขใจ "ผู้หมวดครับ เชิญทางนี้หน่อยได้ไหมครับ"นายทหารที่ติดตามลดาโผล่มาดักขณะที่เขากับพิมพลอยกำลังเดินกลับบัานพัก "ได้สิ เดี๋ยวคุณกลับไปรอผมที่บ้านก่อนนะ"นรินทร์จำใจต้องปล่อยให้ร่างบางเดินไปก่อน พิมพลอยพยักหน้าอย่างว่าง่ายจนเขารู้สึกอยากฟัดแม่ตัวน้อย "มีอะไรก็ว่ามา"นายทหารหนุ่มหันกลับมาจ้องทรงยศนายทหารรุ่นน้องที่เคยร่วมโรงเรียนนายร้อย ราตรีเข้าปกคลุมเห็นเป็นเพียงแค่เงาของหญิงสาวนอนอยู่ในบ้านพัก ร่างใหญ่ยืนจ้องมองอย่างหื่นกระหาย เดินเข้าประชิดร่างบางมือใหญ่ลูบไล้ไปทั่วร่าง ความเสียวซ่านปะทุขึ้นทุกครั้งที่มือลูบไล้ผ่าน ไฟสวาทเกิดขึ้นอย่างยากจะดับลง เสียงเล็กครางบ่งบอกความพึงพอใจในลำคอ "พิมพลอย!" นรินทร์ตะโกนหาหญิงสาวไปทั่ว เขาเดินส่องแสงไฟฉายสาดไปในความมืดเมื่อไม่พบร่างบางในบ้านพักตอนที่เขากลับมาถึง ใจของชายหนุ่มตกไปอยู่ที่ตาตุ่มเห็นบ้านพักว่างเปล่า บนเตียงและพื้นบ้านเต็มไปด้วยคราบโคลน "พิมพลอยคุณอยู่ไหนเนี่ย"นายทหารหนุ่มปาดวิ่งเข้าไปคว้าปืนประจำกายมากระชับแน่น เดินดุ่มๆมุ่งหน้าเข้าไปในหมู่บ้าน "คุณกำลังจะไปไหนคะ"เสียงหญิงสาวดังขึ้นด้านหลัง นรินทร์หันควับเห็นพิมพลอยยืนอยู่ เขารีบถลาคว้าร่างบางเข้ามากอดแน่นแนบอก "เป็นอะไรคะ แล้วคุณจะถือปืนไปไหน"พิมพลอยพลักอกชายหนุ่มออกจ้องเข้าไปในตาลึก "คุณหายไปไหนมา ผมนึกว่าคุณโดนไอ้ฆาตกรนั้นจับตัวไป" "จะบ้าหรอค่ะ ฉันเดินกลับมาถึงบ้านแล้วนึกได้ว่าลืมสร้อยคอไว้ที่บ่อเลยย้อนกลับไปเอา ทำไมหรอคะเกิดอะไรขึ้น" "ผมกลับมาไม่เห็นคุณ แล้วบนบ้านก็มีแต่รอยโคลนจะไม่ให้ผมตกใจได้ไง"ชายหนุ่มพูดอย่างออดอ้อนจับมือเล็กมาแนบแก้มสาก "ฉันไม่เป็นไรแล้วค่ะ นี่เห็นไหมปลอดภัยดี"พิมพลอยยิ้มน่ารัก จนคนมองอดไม่ได้ที่จะดึงเข้ากอดอีกครั้งพร้อมก้มลงจูบหน้าผากมน "ผู้หมวดครับ คุณลดาหายตัวไปครับ"ทรงยศกับปกรณ์วิ่งหน้าตาตื่นมาหาทั้งคู่ "จะหายไปได้ยังไง เขาคงอยู่แถวนี้แหละ"นรินทร์บอกอย่างไม่ใส่ใจ "ไม่ครับผมหาทั่วแล้วไม่เห็นมี ถามชาวบ้านก็บอกไม่เห็น"ทหารทั้งสองรีบรายงาน นรินทร์เอะใจวิ่งกลับเข้าไปในบ้าน ส่องไฟฉายไปทั่วบ้านเจอกระเป๋าถือของลดาตกอยู่ "ตายจริง"พิมพลอยตามเข้ามาเห็นปิดปากอุทาน "เห็นลดาครั้งสุดท้ายเมื่อไร"นรินทร์ถามเสียงเข้มกับทหารทั้งสอง "ตอนผมมาคุยกับผู้หมวด ให้คุณลดาอยู่กับปกรณ์แต่เผลอแป๊บเดี๋ยวก็หายไปแล้วครับ"ทรงยศรีบพูด "แยกกันตามหาแถวๆนี้ก่อน ฉันจะไปขอให้ชาวบ้านช่วยตามหาอีกแรง"นรินทร์สั่งเสียงรัวรีบวิ่งเข้าไปในหมู่บ้าน "ฉัน ไปด้วย ค่ะ" พิมพลอยวิ่งตามร่างนายทหารหนุ่มไป อูเล คะฉิ่นและมะเมียะล้อมวงกินข้าวอยู่ใต้ถุนบ้าน ร่างใหญ่ของนรินทร์ก็วิ่งมาอย่างกระหืดกระหอบพร้อมกับพิมพลอย "มีอะไรหรือนายทหาร หมอ" "ผมมีเรื่องให้อูเลช่วยครับ"นรินทร์นั่งลงเล่าเรื่องราวให้พวกอูเลฟังทั้งหมด "ฉันก็ว่าอยู่เห็นแม่คนกรุงเดินไปทางบ้านหมอเมื่อค่ำ สงสัยเห็นหมอเดินออกจากบ้านไปคงสวมรอยขึ้นไปนอนบนบ้านแทน เป็นไงล่ะแทนที่จะได้ผัวเป็นนายทหารได้ผัวเป็นคนร้ายแทน"มะเมียะพูดแทรกขึ้นจนอูเลต้องหันมามองเพื่อห้ามปรามในความปากไว แต่มันก็ตรงใจใครหลายๆคนที่อยู่ตรงนั้น "ฉันจะให้ชาวบ้านช่วยตามหาอีกแรงแล้วกันนะนายทหาร แต่ไม่รู้ว่าจะเจอในสภาพไหน"ตาเฒ่าเอ่ยขึ้น "ผมว่าลดาเขาน่าจะมีชีวิตอยู่นะ เพราะปกติคนร้ายมันจะฆ่าเหยื่อเลยแต่นี่ไม่"นายทหารหนุ่มออกความเห็นอูเลกับคะฉิ่นพยักหน้าอย่างเห็นด้วย "ผมว่าคนร้ายยังไปไม่ได้ไกลมาก เรารีบออกตามหากันดีกว่า"คะฉิ่นพยักวิ่งไปเอาปืนแก๊ปบนบ้านลงมา ส่วนอูเลเดินเร่งไปบอกชาวบ้านให้ช่วยกันค้นหาสาวชาวกรุงอีกแรง "คุณรอผมอยู่กับมะเมียะนะ"นายทหารหนุ่มบอกด้วยความเป็นห่วง "ค่ะ ระวังตัวด้วยนะคะ"พิมพลอยจับมือชายหนุ่มแน่นเขาพยักหน้าดึงพิมพลอยเข้ามากอด "รีบไปเถอะค่ะ คุณต้องช่วยคุณลดาให้ได้นะคะ"พิมพลอยพลักอกเขาเร่งให้ไป เธอรู้สึกผิดที่ลดาต้องมารับเคราะห์แทนเธอแต่ถ้าเธอไม่ลืมสร้อยไว้คนที่จะโชคร้ายคงเป็นเธอ พิมพลอยนึกกลัวขึ้นมาจับใจจับสร้อยเพทายที่คอไว้แน่น "คุณพ่อช่วยลูกไว้ใช่ไหมคะ"เธอพึมพำถึงบิดาที่ล่วงลับไปแล้ว นรินทร์และชาวบ้านชายฉกรรจ์ทั้งหลายออกตามหาหญิงสาวที่หายไป แบ่งกันแยกเป็นกลุ่มๆเพื่อออกตามหา แสงไฟฉายหลายกระบอกและคบเพลิงสาดส่องหาร่องรอยของคนร้าย เสียงตะโกนเรียกหาชื่อของหญิงสาวชาวกรุงดังระงบป่า "รอยมาทางนี้นะนายทหาร"อูเลก้มๆเงยๆดูรอยเท้าที่ปรากฎในดินเปียก "ทำไมรอยมีคนเดียว"ปกรณ์ก้มลงดูตามตาเฒ่าแล้วเกิดความสงสัย "โง่อีกแล้วไอ้กร ไม่เห็นหรอว่ารอยเท้าจมลึกลงไปแสดงว่าคนแบกของหนักไปด้วยเป็นทหารได้ไงว่ะ" "เออจริงด้วย"ปกรณ์ยิ้มแห้งๆเมื่อถูกทรงยศต่อว่า "รีบตามรอยไปครับอูเล"นรินทร์เร่งหน้าเครียดส่องไฟหารอยเท้าที่พื้น "พ่อรอยไปทางนี้"คะฉิ่นที่แยกไปอีฝั่งร้องบอก "ทางนี้ก็มีครับ"ทรงยศก็ตะโกนมาอีกเช่นกัน นรินทร์มองอูเลหน้าฉงนทำไมรอยเท้าถึงแยกเป็นสองทาง "หรือพวกเราจะหลงรอยกันเองครับ"ปกรณ์รีบถามในป่ามีแต่ความเงียบและวังเวงถ้าไม่นับรวมเสียงพวกเขา "ถ้าจะไม่ดีเสียแล้วนายทหาร คืนนี้เดือนดับ"อูเลเงยหน้ามองฟ้าที่มีแต่แสงดาวไร้ซึ่งดวงจันทร์ "ทำไมครับอูเล" "ถ้าคนร้ายมาเข้าไปในป่าจริงตอนนี้เราก็คงตามหากันไม่ได้เพราะป่าปิด แถมผีป่ายังบังตาไว้อีก" "พูดอะไรของลุงน่ะ ผีที่ไหนคนหายไปทั้งคนนะจะไม่ตามหาหรอ"ทรงยศพูดโพลงขึ้น "ใจเย็นก่อนนะทรงยศ ฟังอูเลอธิบายก่อน"นรินทร์ร้องห้าม "ถ้าพวกคุณอยากตามหาต่อก็ไปเถอะ แต่ชาวบ้านอย่างเราคงมาได้เท่านี้แหละ ถ้าลึกไปกว่านี้คงไม่มีใครไปหรอกเพราะเดินในป่ากลางคืนมันอันตรายมาก"คะฉิ่นปราดมายืนด้านหน้าอูเลอธิบายแทน นรินทร์พยักหน้าอย่างเข้าใจ เขาไม่ชินป่าทางแถบนี้เลยเพราะขนาดคนชินทางอย่างชาวบ้านยังไม่มีใครกล้าเข้าไป แนวป่าดำมืดสนิท คนทั้งหมดหยุดรออยู่ตรงแนวป่าทะมึนลำไฟฉายสาดไปมาสว่างได้ไม่ไกลนัก "แล้วคุณลดาล่ะครับผู้หมวด"ทรงยศถามนายทหารรุ่นพี่เสียงเข้ม "ผมว่าเราต้องรอตอนเช้าคงทำอะไรไม่ได้มาไปกว่านี้" "แต่คุณลดาอยู่ในอันตรายนะครับ" "ผมมีลางสังหรณ์ว่าเขายังปลอดภัยเพราะถ้ามันจะทำคงทำไปแล้วไม่พาตัวลดาไปแบบนี้"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD