โรงพยาบาล N
“อ้วกก”
“ไหวไหมครับนาย”
เกริกพลที่ยืนลูบหลังกฤษฎิ์อยู่ถามอย่างเป็นห่วงเมื่อผู้เป็นนายอาเจียนอย่างเอาเป็นเอาตายมาได้เกือบสองเดือนแล้วโดยที่ไม่รู้สาเหตุ จะว่าแพ้ท้องแทนเมียก็ไม่ใช่เพราะนายเขา โสด แค่ไม่ซิงเฉย ๆ เท่านั้นเอง
“เฮ้อ ทรมานฉิบหาย โรคห่าไรวะ อ้วกได้ทุกวัน ทำซีทีสแกนก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ผลเลือดก็ปกติ แล้วฉันเป็นอะไรนักหนาเนี่ย”
โวยวายกับลูกน้องคู่ใจอย่างหมดเรี่ยวแรงก่อนที่เกริกพลจะหิ้วปีกผู้เป็นนายมานั่งลงบนโซฟา
“ไปหาซื้อสตรอว์เบอร์รีกับลิ้นจี่มาให้หน่อยสิ”
กฤษฎิ์สั่งเกริกพลที่กำลังยื่นยาดมมาให้ผู้เป็นนาย
“นายว่าอะไรนะครับ ลิ้นจี่ สตรอว์เบอร์รี ปกติไม่เห็นนายกินนี่ครับ”
เกริกพลถามอย่างแปลกใจ นายเขากินเป็นแต่เหล้ากับไวน์ ผลไม้เคยแตะเสียที่ไหน ไม่รู้นึกคึกอะไรขึ้นมาอีกถึงอยากกินลิ้นจี่กับสตรอว์เบอร์รี
“อย่าถามให้มากความได้ไหมเอาลูกเปรี้ยว ๆ นะอยากกิน”
สั่งลูกน้องก่อนที่เกริกพลจะรีบวิ่งออกจากห้องไปอย่าง งง ๆ เพื่อตามหาผลไม้ตามที่นายสั่งอยากกินทันที
“อืม อร่อย อร่อยมาก”
เกริกพลนั่งมองกฤษฎิ์ที่ตอนนี้กำลังนั่งกินสตรอว์เบอร์รีที่ยังไม่สุกดีกับลิ้นจี่ที่เขาแอบชิมยังรู้สึกเข็ดฟัน
“กินไหม”
ยื่นจานผลไม้มาให้เกริกพลแต่เกริกพลส่ายหัวปฏิเสธอย่างไว เปรี้ยวเข็ดฟันขนาดนั้นใครจะกินลงกันเล่า
“บ่ายนี้ฉันมีงานอีกไหม”
กินไปด้วยถามเลขาคู่ใจไปด้วย
“เย็นนี้มีงานเลี้ยงเดินแบบการกุศลของคุณหญิงเพชรมณีครับนาย ตอนหนึ่งทุ่มตรง ผมเตรียมสูทให้เรียบร้อยแล้วครับ”
รายงานตารางงานให้ผู้เป็นนายทราบก่อนที่กฤษฎิ์จะพยักหน้าตอบรับแล้วตั้งหน้าตั้งตาทานผลไม้อย่างเอร็ดอร่อย
ทางด้านที่รักตอนนี้เธอตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว สุขภาพของเธอและเด็กในครรภ์แข็งแรงดีเพราะได้กำลังใจและความเอาใจใส่จากผกาและอ้อยอย่างล้นเหลือ
“นี่ยายสาย ๆ แกได้ยินข่าวไหม ลูกสาวผกาน่ะท้องไม่มีพ่อนะแก”
แช่มแม่ค้าตลาดสดมาคุยกับสายที่ตั้งแผงขายข้าง ๆ กันอย่างออกรสชาติ
“ได้ยินมาเหมือนกัน วันก่อนเห็นท้องโตออกมาแล้วนะ เด็กอะไรเพิ่งเรียนจบก็ใจแตกมีผัวแต่เด็ก ทำไมไม่รู้จักป้องกันเลยนะแล้วไอ้ผู้ชายเป็นใครที่ไหนไม่รู้มั่วมาหรือเปล่าเลยไม่มีใครกล้ารับผิดชอบ”
สายตอบแช่มเสียงค่อนข้างดังจนผกาที่เดินมากับที่รักถึงกับหยุดชะงักเท้าทันทีแต่ทั้งคู่มองไม่เห็นยังคงนินทาในระยะเผาขนไม่หยุด
“เฮ้อ สงสารผกามันนะ ผัวก็ตาย ตัวเองก็ป่วย จะตายเมื่อไหร่ยังไม่รู้ ลูกสาวคนเดียวก็ดันมาใจแตกท้องตั้งแต่ยังเด็กซะนี่”
แช่มถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วงประหนึ่งว่าบุคคลที่พูดถึงเป็นตัวเธอเองอย่างไรอย่างนั้น
“ขอบใจนะจ๊ะพี่แช่มพี่สายที่เป็นห่วงฉันแต่เรื่องในบ้าน ฉันดูแลเองได้จ้ะไม่รบกวนพวกพี่ ๆ หรอกจ้ะ”
ผกากัดฟันกล้ำกลืนฝืนทนกับคำดูถูกที่โดนว่า ก่อนจะเชิดหน้าตอบทั้งสองคนไปด้วยรอยยิ้ม
“เอ่อ เอ่อคือ เราก็แค่เป็นห่วงแม่ผกาน่ะจ้ะเห็นว่ากำลังจะมีสมาชิกเพิ่มมายังไงก็ยินดีกับหลานที่จะเกิดด้วยนะจ๊ะ”
แช่มเฉไฉกลบเกลื่อนเรื่องที่นินทาผกากับที่รักไว้ก่อนจะแสร้งทำเป็นยินดีด้วยที่ผกากำลังจะมีหลาน
“ขอบใจจ้ะ แต่ทีหลังไม่ต้องนะจ๊ะ”
ผกาตอกกลับทั้งคู่ไปก่อนที่จะจูงมือที่รักเดินหนีมาจากตรงนั้นทันทีทิ้งให้แช่มกับสายเข็ดเขี้ยวเคี้ยวฟันที่โดนผกาตอกจนหน้าหงายแบบนั้น
“โห ป้าผกา อีป้าแช่มกับป้าสายทำไมมันปากดีแบบนี้ล่ะให้อ้อยไปจัดการให้ไหม แก่แล้วยังชอบเสือกเรื่องชาวบ้านอีกเดี๋ยวแม่เลาะฟันให้หมดปากเลยนี่”
อ้อยพ่นคำพูดออกมาอย่างเกรี้ยวกราดเมื่อผกาเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นที่ตลาดบ่ายวันนี้
“ช่างมันเถอะจ้ะพี่อ้อย ที่รักทนได้”
ยิ้มให้อ้อยอย่างไม่ถือสากับเรื่องราวที่เกิดขึ้นแต่ในใจนั้นเก็บความเจ็บปวดที่โดนดูถูกไว้คนเดียวจนใจเจ็บไปหมดไปไหนใคร ๆ ก็ว่า เพื่อนที่คบก็พากันแอนตี้ นี่สินะสังคมสมัยนี้แค่พลาดท้องไม่มีพ่อ คนก็มองว่าไม่ดีพากันดูถูกเหยียดหยามจนเธอรู้สึกเสียใจไม่น้อยที่โดนนินทาบ่อยครั้ง
“ป้า อ้อยว่าเราย้ายไปอยู่ที่อื่นกันเถอะ สิ่งแวดล้อมที่เรากำลังเจออยู่อ้อยเข้าใจนะว่าป้ากับที่รัก แล้วก็ตัวอ้อยเองสตรองพอที่จะผ่านมันไปได้ แต่วันหนึ่งที่ที่รักคลอดยายหนูออกมาแล้ว เด็กมันโตขึ้นมันต้องมาทนนั่งฟังพวกปากหอยปากปูพวกนี้มาชี้หน้าว่าหลานไม่มีพ่อเหรอ เด็กอะมันเหมือนผ้าขาว ใครเอาอะไรมาใส่มันก็ฝังใจนะป้า นะที่รัก”
อ้อยหันมาปรึกษาผกากับที่รักด้วยน้ำเสียงจริงจังจะทนแบบนี้จริง ๆ เหรอเธอทนไม่ได้หรอกที่จะให้หลานโตมากับสังคมและคำดูถูกแบบนี้ถึงไม่ใช่ลูกเธอเองแต่เธอก็น้าไหมล่ะ
“เงินที่เขาให้มาเหลือเท่าไหร่”
ผกาหันไปถามที่รักด้วยสีหน้าจริงจังเพราะเธอก็คิดตามที่อ้อยพูดเหมือนกันหลานเธอ ๆ ก็รักเธอไม่อยากให้หลานเกิดมาแล้วต้องมาโดนพวกผู้ใหญ่ใจร้ายพูดใส่แบบนี้
“สี่ล้านกว่าจ้ะแม่ เพราะค่ารักษาคุณเขาออกให้ ที่รักใช้ซื้อโน้ตบุ๊กกับเอามาใช้ตอนที่แม่พักรักษาตัวไปแค่แสนเดียวเองจ้ะ”
บอกแม่ก่อนจะเลิกคิ้วด้วยความสงสัยที่แม่ถามเรื่องเงิน
“เราไปจากที่นี่กันเถอะลูก เพราะยังไงเรื่องเรียนก็ต้องรอคลอดยายหนูก่อนแล้วถึงจะตั้งหลักใหม่ได้ เราพอมีเงินอยู่บ้าง ไปอยู่ในสภาพแวดล้อมดี ๆ กันเถอะ ไปช่วยกันทำมาหากิน เลี้ยงยายหนูให้เติบโตมาอย่างดีแบบนี้ดีไหม”
ถามที่รักอย่างขอความคิดเห็นส่วนอ้อยพยักหน้าเห็นด้วยกับที่ผกาพูด ที่รักเงียบไปสักพักก่อนที่จะพยักหน้าอย่างตัดสินใจ
“เราไปจากที่นี่กันเถอะจ้ะแม่ ไปหาที่ ๆ มีความสุขให้ลูกของหนูได้อยู่กันเถอะ”
ตอบรับทั้งรอยยิ้มก่อนที่จะปรึกษาหารือกันเสร็จแล้วอ้อยก็ติดต่อหาญาติที่กรุงเทพให้ช่วยหาที่พักให้ทันทีซึ่งทุกคนไม่รู้เลยว่า การเดินทางครั้งนี้จะทำให้ชีวิตของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ส่วนจะพบกับทุกข์หรือสุข อนาคตข้างหน้าคือคำตอบ
งานเลี้ยงเดินแบบการกุศล
“แก หมอกฤษฎิ์หล่อมากเลยอะ เคยได้ยินแต่ชื่อเสียงวันนี้ได้เห็นตัวจริง โคตรหล่ออะ ฉันชอบฉันอยากได้”
แอมมี่นางแบบวันนี้วี้ดว้ายอย่างตื่นเต้นเมื่อออกไปเดินแบบมาแล้วเห็นกฤษฎิ์ พิสิฐกุลวัตรดิลก ทายาทหมื่นล้านของเจ้าสัวธาวินทร์มาดูแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ด้วย
“หน้าตาก็ดี หุ่นก็แมน เห็นแล้วน้ำลายไหลเลย”
คิตตี้สาวเอวบางนมโตเพราะผ่านมีดหมอมายกมือขึ้นประสานกันพร้อมกับทำหน้าเพ้อฟันจนแอมมี่หมั่นไส้
“แต่เอ๊ะ ได้ข่าวว่าเขาดีลพี่แคทไว้นี่แก”
หมวย สาวหน้าหมวยสมชื่อพยักพเยิดไปที่แคทนางแบบสาวชื่อดังหุ่นดี หน้าสวยเก๋ที่กำลังถอดเครื่องประดับออก
“จริงอะแก ปกติพี่แคทเล่นตัวจะตายเห็นไปแต่กับพวกดารานะ แต่ถ้าฉันเป็นพี่แคทฉันก็เอาว่ะ หล่อขนาดนั้นไม่เอาก็บ้าแล้ว”
แอมมี่บอกเพื่อนก่อนที่จะปรายตามองแคทที่หน้าเชิดคอตั้งดั่งนางพญา ยอมรับนะว่าสวย แต่หยิ่งทะนงตัวฉิบหาย
“กลับกันดีกว่าพวกเรา อยู่ไปก็นก”
หมวยชวนเพื่อน ๆ กลับ ก่อนที่จะพากันเก็บของเพื่อกลับไปพักผ่อนเพราะพวกเธอทำงานที่ได้รับมอบหมายเสร็จแล้ว
“นายครับเรียบร้อยแล้วนะครับ เจอกันที่ห้อง 201 เธอจะไปรอที่นั่น”
เกริกพลเข้ามารายงานกฤษฎิ์เมื่อไปติดต่อนางแบบสาวสวยดาวเด่นของค่ำคืนนี้มาให้นายของเขาได้เชยชม
“อืม โอเค ขอบใจมาก”
กฤษฎิ์พยักหน้ารับทราบและนั่งพูดคุยดื่มไวน์กับบรรดาเพื่อนนักธุรกิจด้วยกันก่อนที่จะถึงเวลากฤษฎิ์ก็ขอตัวทันที
ติ๊ด
แกรก
เสียงเปิดประตูที่ดังขึ้นส่งผลให้แคทนางแบบสาวแนวหน้าของเมืองไทยตาลุกวาวด้วยความดีใจทันที ไม่เสียแรงที่ลงทุนอ่อยตอนที่กำลังเดินแบบอยู่บนเวที
“แคทรอคุณกฤษฎิ์ตั้งนานแน่ะค่ะ”
ร่างสวยสมส่วนในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำของทางโรงแรมรีบวิ่งมาเกาะแขนกฤษฎิ์ทันที
“อยากได้ฉันขนาดนั้นเชียว”
กฤษฎิ์ถามแคทดวงตาเยิ้มหวานด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์หาใช่เพราะพิศวาสคนตรงหน้า
“แหม ใคร ๆ ก็ว่าคุณกฤษฎิ์ลีลาดี เปย์หนักแคทก็อยากเป็นเด็กในสังกัดคุณบ้างนี่คะ”
ยิ้มอย่างยั่วยวนใส่กฤษฎิ์ก่อนที่มือเรียวสวยจะค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของกฤษฎิ์ออกช้า ๆ ส่วนกฤษฎิ์เมื่อเห็นแบบนั้นก็ก้มหน้าลงซุกไซ้ที่ซอกคอของแคททันที
“อ๊า อื้อ คุณกฤษฎิ์ขาา”
ร้องครางเสียงหลงทันทีเมื่อกฤษฎิ์ไซ้ซอกคอลากเรื่อยลงมาหยุดที่หน้าอกอวบขาวใหญ่ที่ดูก็รู้ว่าผ่านมีดหมอมา มือหนาขย้ำอย่างแรงไม่แม้แต่จะทนุถนอม ผู้หญิงที่ผ่านผู้ชายมาหลายมือเขาไม่จำเป็นต้องอ่อนโยน เขาแค่แวะมาปลดปล่อยแล้วก็ไปเท่านั้นไม่เคยคิดจะเลี้ยงดูใครไว้สักคน
“หืม อุ๊บ แหวะ”
กฤษฎิ์ผินหน้าออกจากอกอวบทันทีที่รู้สึกว่าได้กลิ่นเหม็นเขาจะอ้วกก่อนที่จะผลักแคทออกไปให้ห่างเต็มแรง
“อะ เอ่อ คุณกฤษฎิ์เป็นอะไรคะเนี่ย”
แคทตกใจละล่ำละลักถามเสียงสั่นอยู่ ๆ ก็มาผลักเธอออก กำลังฟินได้ที่เชียว
“เธอใช้น้ำหอมยี่ห้ออะไรเนี่ย ทำไมเหม็นแบบนี้”
ยกมือแกร่งขึ้นมาปิดจมูกไว้ทันทีส่วนแคททำตาโตอย่างตกใจปนงงงวย
“อะไรกันคะคุณกฤษฎิ์ แคทใช้ของ Dior แบรนด์ดังราคาเหยียบแสนเลยนะคะไม่เห็นเหม็นเลยหอมจะตาย”
แคทบอกกฤษฎิ์ก่อนที่จะพยายามเดินเข้ามาหากฤษฎิ์อีกครั้ง
“อย่าเข้ามานะ อ้วกก”
บอกแคทก่อนที่จะวิ่งไปอาเจียนในห้องน้ำทันที แคทมองภาพนั้นอย่างงุนงงไปชั่วขณะก่อนจะวิ่งตามไปลูบหลังให้แต่กลับถูกกฤษฎิ์ตวาดไล่ออกมาเสียงดังลั่น
“ออกไปไกล ๆ ฉันเดี๋ยวนี้”
หันมาบอกแคทที่กำลังจะยกมือลูบหลังจนร่างบางชะงักทุกการกระทำลงทันที
“ตะ แต่ว่า คุณกฤษฎิ์ไม่สบายหรือเปล่าคะ”
ถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นกฤษฎิ์อาเจียนไม่หยุด
“ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของฉัน ฉันดูแลตัวเองได้ ออกไปซะ ตัวเธอโคตรเหม็นเลย”
เมื่อโดนไล่แบบไม่ไว้หน้าแบบนั้นแคทก็สะบัดหน้าพรืดหนีออกไปทันทีก่อนที่จะไปเปลี่ยนชุดแล้วออกจากห้องไปทิ้งให้กฤษฎิ์นั่งพิงชักโครกอย่างหมดสภาพ
“โรคเหี้ยไรวะ จะเอากับใครทีไรอ้วกแตกทุกที กูอยากจะบ้าตายเอาใครไม่ได้มาสองเดือนแล้วเนี่ย”
บ่นพึมพำคนเดียวอย่างเจ็บใจและหมดเรี่ยวแรงก่อนที่จะลุกขึ้นเดินโซซัดโซเซออกมาจากห้องพักเพื่อกลับไปพักผ่อนที่บ้าน
“นาย นายครับนาย”
เกริกพลที่เห็นกฤษฎิ์เดินหมดแรงออกมาจากห้องพักรีบถลาเข้ามาหิ้วปีกผู้เป็นนายทันที
“อีกแล้วเหรอครับนาย”
ถามอย่างเป็นห่วงกับอาการของนาย เวลาที่จะเข้าด้ายเข้าเข็มทีไรเป็นต้องหมดสภาพอ้วกแตกแบบนี้ทุกทีเลย
“หรือฉันจะแอบไปทำใครท้องวะเกริกพล”
หันมาถามลูกน้องคู่ใจอย่างต้องการความเห็นแต่เกริกพลก็ยิ้มแหย ๆ ให้ผู้เป็นนาย เรื่องบนเตียงของนายเขาจะไปรู้ได้ไงล่ะ
“คงไม่หรอกมั้งครับ แค่ป่วยทั่วไปไม่น่าจะพลาดทำใครท้องผมอยู่กับนายมาตั้งหลายปีไม่เคยเห็นมีใครมาบอกว่าเป็นแม่ของลูกนายสักคนเลยนี่ครับ”
บอกกฤษฎิ์ตามสิ่งที่คิดอยู่ในหัวก่อนที่กฤษฎิ์จะพยักหน้าเห็นด้วยก่อนที่เกริกพลจะพาผู้เป็นนายหลบนักข่าวออกอีกทางหนึ่งแล้วกลับที่พักทันที ขืนพาออกไปสภาพนี้พรุ่งนี้คงขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์แน่เลยเขาว่า