ตอนที่ 1
EP 1: น้องผัวรสวาท
ผู้ใหญ่คนสุดท้ายก้าวออกไปจากห้องหอ พร้อมๆ กับประตูที่ถูกปิดสนิทลง หล่อนหันมายิ้มหวานให้กับคนรักที่ตอนนี้ได้กลายเป็นสามีทางนิตินัยโดยสมบูรณ์แล้วอย่างมีความสุข
“น้ำมีความสุขมากเลยค่ะพี่พีร์”
พีรวัตรคือทายาทเศรษฐีนีสุดหล่อ เจ้าของบริษัทที่หล่อนทำงานด้วย หล่อนตกหลุมรักเขาตั้งแต่แรกเห็น แต่ก็ไม่คิดว่าผู้บริหารหนุ่มจะมองหล่อนด้วยความรู้สึกเดียวกัน
เขาเฝ้าตามจีบ ส่งขนม ดอกไม้ และของมีค่ามากมายมาประเคนให้กับหล่อน พร้อมกับเลื่อนตำแหน่งให้หล่อนขึ้นไปเป็นเลขาส่วนตัวของเขาด้วย
แรกๆ หล่อนคิดว่าเขาคงจะแค่จีบหล่อนเล่นๆ ไม่จริงจังอะไร ตามแบบฉบับของผู้ชายเพอร์เฟ็คที่เห็นผู้หญิงเป็นดอกหญ้าริมทาง แต่เพียงแค่สามเดือนผ่านไปเท่านั้น เขาก็ขอหล่อนแต่งงาน
หล่อนตกใจมาก ยอมรับว่าไม่เคยคิดเคยฝันมาก่อนว่าตนเองจะได้กลายเป็นซินเดอเรลล่ายุคสองพันสิบเจ็ดแบบนี้ แต่ทุกอย่างมันคือความจริง
งานแต่งถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โต ประกาศให้ทุกคนทราบว่าหล่อนกับเขาคือสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์
ชาลินีเต็มไปด้วยความสุข พ่อแม่ของหล่อนเองก็ล้วนแล้วแต่มีความสุขด้วยเช่นกัน เงินทองที่พีรวัตรหยิบยื่นมาให้กับครอบครัวของหล่อนนั้นแม้จะไม่ได้มากมายสำหรับเขา แต่สำหรับครอบครัวฐานะยากจนเช่นครอบครัวของหล่อน มันมหาศาลเลยทีเดียว
“พี่ก็มีความสุขครับ”
ชายหนุ่มที่ทั้งหล่อทั้งนิสัยดี เพรียบพร้อมไปซะทุกอย่างลุกขึ้น และก้าวลงจากเตียง
“พี่ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ”
“เอ่อ... ให้น้ำช่วยไหมคะ”
“ไม่ต้อง”
แว่บหนึ่งในสายตาของพีรวัตรเต็มไปด้วยความไม่พอใจ แต่ไม่นานมันก็จางหายไป จนเหมือนกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“พี่หมายถึง... พี่ไม่อยากกวนน้ำน่ะครับ”
“เอ่อ... ค่ะ พี่พีร์”
แล้วเจ้าบ่าวสุดหล่อก็ก้าวหายเข้าไปในห้องน้ำ พร้อมๆ กับคว้าโทรศัพท์มือถือที่กำลังกรีดร้องดังลั่นเข้าไปด้วย
หล่อนรู้สึกไม่ดีนักกับท่าทางห่างเหินของพีรวัตร แต่ก็พยายามจะไม่คิดมาก นี่อาจจะเป็นนิสัยส่วนตัวของชายหนุ่มก็ได้ เพราะหล่อนกับเขาคบหากันแค่สามเดือนก็แต่งงานกันเลย หล่อนจึงไม่รู้จักนิสัยบางมุมของเขาดีพอ
หญิงสาวถอนใจแผ่วเบา ไล้มือไปบนกลีบกุหลาบสีแดงสดที่ถูกโรยเอาไว้บนเตียงนอน แก้มนวลแดงระเรื่อ เมื่อนึกถึงสิ่งที่จะเกิดภายในค่ำคืนนี้
สามเดือนที่ผ่านมา พีรวัตรสุภาพกับหล่อนมากเหลือเกิน เขาไม่เคยแตะต้องหล่อนมากไปกว่าการจับมือเลยสักครั้ง ซึ่งหล่อนก็ชอบกับความเป็นสุภาพบุรุษของเขาเป็นที่สุด
“พี่พีร์... น้ำรักพี่พีร์จังเลยค่ะ”
ความคิดบางอย่างแว่บเข้ามาในหัวสมอง ทำให้หญิงสาวยิ้มเอียงอาย และก้าวลงจากเตียง ร่างอรชรยืนกับพื้น ค่อยๆ ปลดชุดแต่งงานสีขาวออกจากตัว ตอนนี้ร่างสาวเหลือเพียงชุดชั้นในตัวจิ๋วเท่านั้นที่ปกปิดร่างกายอยู่
“พี่พีร์จะต้องชอบแน่ๆ”
หล่อนคิดอย่างมีความสุข และเดินไปคว้าเสื้อคลุมมาสวมทับเอาไว้ จากนั้นก็เดินตรงไปที่ห้องน้ำ กำลังจะยกมือขึ้นเคาะประตูไม้ แต่เสียงสนทนาภายในดังแว่วมาเข้าหูเสียก่อน แม้มันจะฟังไม่ค่อยรู้เรื่องนัก แต่บางประโยคหล่อนก็พอจะจับใจความได้เล็กน้อย
“คุณอย่างี่เง่าสิ คืนนี้คืนแต่งงานของผมนะ”
ชาลินีเอียงคอสงสัย และพึมพำในลำคอแผ่วเบา “พี่พีร์กำลังคุยกับใครน่ะ”
“รอพรุ่งนี้ไม่ได้หรือไง เดี๋ยวผมจะไปหา”
ใครกัน? ที่พีรวัตรบอกว่าจะไปหา
ยิ่งฟังชาลินีก็ยังไม่เข้าใจ หล่อนพยายามแนบหูกับประตูแน่นขึ้น
“โอเคๆ ผมจะออกไปหาเดี๋ยวนี้ อย่าเพิ่งทำอะไรบ้าๆ เชียวนะ”
ผัวะ
บานประตูถูกกระชากให้เปิดออกกะทันหัน และนั่นก็ทำให้คนที่แนบหูอยู่กับบานประตูไม้เสียหลักถลาไปข้างหน้า ร่างของหล่อนชนเข้ากับร่างกำยำที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของพีรวัตรเต็มแรง
เขาควรจะสวมกอดหล่อนไว้ และไถ่ถามด้วยความเป็นห่วง แต่เปล่าเลย ปฏิกิริยาแรกของเขาคือผลักหล่อนออกห่างจนกระเด็น
ร่างของหล่อนเซถอยหลังเกือบจะล้ม หล่อนมองเขาอย่างตกใจ เขาเองก็มองหล่อนด้วยสายตาไม่พอใจเช่นเดียวกัน
“ทำอะไรน่ะ น้ำ”
“เอ่อ คือน้ำ...”
“ถึงเราจะแต่งงานกันแล้ว แต่อย่ายุ่งกับเรื่องส่วนตัวของพี่ จำเอาไว้”
คนถูกดุน้ำตาซึม และเขาก็คงปรับอารมณ์ได้แล้วล่ะมั้งจึงรีบแก้ไขคำพูดใหม่
“พี่หมายถึง... อย่ามายืนอยู่หลังประตูแบบนี้ เห็นไหมว่ามันอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้”
หล่อนพยักหน้ารับน้อยๆ แต่ก็ยังคงน้อยใจนัก “น้ำขอโทษค่ะ น้ำแค่อยากจะเข้าไปช่วยพี่พีร์ในห้องน้ำ”
“ก็พี่บอกแล้วไงว่าไม่ต้อง!”
“น้ำ... ก็แค่อยากช่วย ทำไมพี่พีร์ต้องดุน้ำด้วยคะ” หล่อนน้ำตาร่วงกราวอย่างห้ามไม่อยู่
พีรวัตรถอนใจแรงๆ ก่อนจะเดินเข้ามาจับมือของหล่อนเอาไว้
“พี่ขอโทษนะ พี่คงเหนื่อยน่ะ งานแต่งงานมันยุ่งยากเหลือเกิน นี่ถ้าย้อนเวลาไปได้ พี่คงจะพาน้ำไปจดทะเบียนอย่างเดียวพอ”
“ก็แค่ครั้งเดียวในชีวิตเองค่ะพี่พีร์...”
เขาพยักหน้ารับน้อยๆ และรีบเบี่ยงตัวหลบ เมื่อหล่อนทำท่าจะสวมกอด
“พี่จะต้องออกไปทำธุระนอกบ้านสักพัก น้ำนอนไปก่อนเลยนะครับ”
คนฟังตกใจแทบช็อก “พี่พีร์คะ โบราณเขาถือกันนะคะว่าเข้าหอแล้วห้ามออกไปไหนจนกว่าจะถึงเช้า”
คนที่กำลังยืนสวมเสื้อผ้าอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าส่ายหน้าน้อยๆ
“ไร้สาระน่ะ พี่ไม่เชื่อเรื่องพวกนี้หรอก”
“แต่น้ำ...”
“อย่าบอกนะว่าน้ำงี่เง่าเชื่อเรื่องพวกนี้ด้วย” เขาหันหน้ามามอง และถามเสียงดุ
หล่อนจำต้องเม้มปาก และส่ายหน้าน้อยๆ “ปละ เปล่าค่ะ”
“เปล่าก็ดีแล้ว” เขาแต่งตัวเสร็จแล้วเดินเข้ามาหา คว้ามือเล็กของหล่อนไปกุมเอาไว้ และพูดจาอ่อนโยน “พี่ไปไม่นานหรอก แล้วจะรีบกลับมานะครับ”
“แต่...”
“เพื่อนพี่น่ะ มันกำลังอกหัก แล้วก็จะฆ่าตัวตาย พี่ก็เลยต้องออกไปดูมันหน่อย”
“ผู้... หญิงเหรอคะ”
พีรวัตรส่ายหน้าน้อยๆ พลางล้วงโทรศัพท์มือถือออกมายื่นให้ชาลินีดู
“นี่ไงเบอร์โทรเข้าล่าสุดเมื่อกี้นี้น่ะ”
“เอก...?” เบอร์ที่หน้าเจอบันทึกชื่อว่าเอก
“ใช่ครับ เอกวิทย์ เพื่อนซี้พี่”
หญิงสาวถอนใจอย่างโล่งอก เมื่อพีรวัตรไม่ได้ออกไปหาผู้หญิงอย่างที่หล่อนกลัว เขาไปหาเพื่อน แถมเพื่อนคนนี้ยังเป็นผู้ชายอีกด้วย
“เดี๋ยวถึงบ้านมันแล้ว พี่จะถ่ายรูปส่งมาให้ดูทางไลน์นะครับ”
แม้จะรู้สึกเสียใจมากที่ไม่ได้เข้าหอกันฉันท์สามีภรรยา แต่หล่อนก็ไม่มีทางเลือก
“ค่ะพี่พีร์ ขับรถดีๆ นะคะ”
“ขอบคุณครับ” เขายกมือขึ้นลูบศีรษะของหล่อนเบาๆ ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปจากห้องหอ
ร่างอรชรของชาลินีทรุดลงนั่งกับโซฟา มองบานประตูที่ปิดสนิทลงทั้งน้ำตา
“ไม่เป็นไรน่ะ แต่งงานกันแล้ว จะนอนด้วยกันเมื่อไหร่ก็ได้... พี่พีร์มีความจำเป็น เมียที่ดีต้องเข้าใจสามีสิ”
หล่อนพยายามบอกให้ตัวเองคิดบวก แม้จะรู้สึกไม่สบายใจเลยก็ตาม
ชาลินีสะดุ้งตื่นตอนเก้าโมงเช้าของวันต่อมา หล่อนเต็มไปด้วยความอิดโรย เพราะเมื่อคืนนั่งรอพีรวัตรทั้งคืนจนผล็อยหลับไปไม่รู้ตัว
หล่อนขยับกายลุกขึ้นนั่ง และก็รีบมองไปที่เตียงนอนข้างตัว ผ้าปูที่นอนเรียบกริบทำให้พอจะรู้ว่าเมื่อคืนไม่มีใครมานอนข้างๆ ตัวเลย
“พี่พีร์...”
นี่พีรวัตรไม่ได้กลับบ้านมาเมื่อคืน หรือว่าเขากลับมาแล้วแต่ไม่ได้เข้ามานอนบนเตียงด้วยกัน น่าจะอย่างหลังนั่นแหละ พีรวัตรกลับมาแล้ว แต่กลับดึกมาก คงกลัวจะทำให้หล่อนตื่นขึ้นกลางดึก เลยไปนอนที่อื่น หญิงสาวพยายามคิดบวก
ร่างอรชรก้าวลงจากเตียง หายเข้าไปในห้องน้ำ ทำความสะอาดร่างกายไม่นานก็ก้าวออกมา หล่อนแต่งตัวด้วยชุดที่สวยที่สุด และเดินออกไปจากห้อง
พีรวัตรจะต้องอยู่ภายในบ้านนี้แหละ อาจจะกำลังนั่งจิบกาแฟในสวนเพื่อรอหล่อนตื่น หรืออาจจะกำลังนั่งรอหล่อนที่ห้องรับแขกก็เป็นได้
ชาลินีระบายยิ้มอย่างมีความสุข และรีบลบเลือนเรื่องเมื่อคืนนี้ไปในทันที
หล่อนก้าวลงมาจนถึงบันไดขั้นสุดท้าย มองเข้าไปภายในห้องรับแขก แต่ไม่เห็นเขา สาวใช้เดินผ่านมาพอดีจึงรีบถาม
“คุณพีร์อยู่ที่ไหนจ๊ะ”
สาวใช้หยุดเดินและหันมามองหล่อน ก่อนจะตอบหล่อนด้วยวาจาสุภาพ
“เอ่อ เช้ามานี่หนูยังไม่เห็นคุณพีร์เลยค่ะ”
“เหรอ อืม... งั้นมีอะไรก็ไปทำเถอะ”
สาวใช้เดินจากไปแล้ว ในขณะที่หล่อนยังเต็มไปด้วยความแคลงใจ
“พี่พีร์ไปอยู่ที่ไหนนะ ทำไมนกไม่เห็น”
หล่อนเดินออกไปนอกตึก เจอแม่บ้าน “สวัสดีค่ะคุณน้ำ วันนี้ตื่นสายนะคะ”
“สวัสดีค่ะป้าอิ่ม น้ำนั่งรอพี่พีร์ดึกน่ะค่ะ แล้วก็เผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้”
“อ้าว คุณพีร์ออกจากห้องหอด้วยเหรอ” แม่บ้านตกใจมาก
ชาลินียิ้มหน้าเจือนๆ “ใช่ค่ะ แต่พี่พีร์บอกว่ามีธุระสำคัญจริงๆ”
“โธ่ๆ โบราณว่าเอาไว้ว่าห้ามออกจากห้องหอเด็ดขาดนะคะ”
“น้ำทราบค่ะ แต่พี่พีร์ไม่ถือเรื่องนี้” หล่อนเองก็ไม่รู้จะแก้ตัวต่อยังไง
“แล้วนี่คุณพีร์อยู่ไหนซะล่ะคะ”
“น้ำก็ยังไม่เห็นพี่พีร์เลยค่ะ ไม่รู้ว่าหายไปไหนแต่เช้า”
ป้าอิ่มแม่บ้านหันซ้ายแลขวาก่อนจะควักมือเรียกลุงจุกที่เป็นคนขับรถประจำบ้าน
“ตาจุก แกเห็นคุณพีร์บ้างหรือเปล่า”
“คุณพีร์ออกไปข้างนอกตั้งแต่เมื่อคืน ป่านนี้ยังไม่กลับมาเลยครับ”
สีหน้าของชาลินีซีดเผือดลง “เอ่อ... ยังไม่กลับมาจริงๆ เหรอคะลุงจุก”
“ใช่ครับ ผมรอทั้งคืนก็ยังไม่เห็นมา”
ป้าอิ่มมองหน้าชาลินีอย่างสงสาร “สงสัยมีธุระสำคัญมาก”
“ค่ะ พี่พีร์บอกว่าออกไปหาเพื่อนสนิทที่ชื่อเอก”
“อ๋อ... คุณเอก ป้ารู้จักค่ะ”
ชาลินีเบิกตากว้าง “ป้าอิ่มรู้จักด้วยเหรอคะ”
“รู้จักสิคะ คุณเอกเป็นเพื่อนสนิทกับคุณพีร์ค่ะ คบหากันมาตั้งแต่สมัยประถม มานอนค้างที่นี่บ่อยๆ ทุกคนที่นี่ก็รู้จักทั้งนั้นค่ะ แกเป็นคนดีนะคะ สุภาพ คุยสนุก”
“เอ่อ... ใช่คนนี้ไหมคะ”
ชาลินีหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดโปรแกรมไลน์ และกดภาพที่พีรวัตรส่งมาให้เมื่อคืนให้ป้าอิ่มดู
“คนนี้เลยค่ะ คุณเอก”
ชาลินีอดโล่งอกไม่ได้ หล่อนระบายยิ้มออกมา “พี่พีร์ออกไปหาคนนี้แหละค่ะ เห็นว่ากำลังอกหัก”
“อกหักเหรอคะ ป้าไม่เห็นคุณเอกมีแฟนเลย สงสัยแอบซุกเอาไว้แน่ๆ” ป้าอิ่มพูดไปหัวเราะไป “คุณน้ำก็ลองโทรหาคุณพีร์ดูสิคะว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน บอกว่าเป็นห่วงน่ะค่ะ”
“น้ำจะโทรหลายรอบแล้วล่ะค่ะ แต่กลัวพี่พีร์ดุ”
“จะมาดุได้ยังไงกันคะ เป็นผัวเป็นเมียกันแล้ว” คำพูดของป้าอิ่มทำให้ชาลินีมีความกล้ามากขึ้น
“ขอบคุณป้าอิ่มมากนะคะ งั้นน้ำขอตัวไปโทรหาพี่พีร์ก่อนค่ะ”
“เชิญตามสบายค่ะคุณน้ำ”
ชาลินีปลีกตัวออกมาจนไกล ก่อนจะกดต่อสายหาสามีของตัวเอง
โทรครั้งแรกชายหนุ่มไม่รับ จนต้องโทรหาครั้งที่สองนั้นแหละเขาถึงจะรับสาย
“พี่พีร์อยู่ไหนเหรอคะ น้ำเป็นห่วงน่ะค่ะ”
“พี่ขอโทษนะน้ำ กำลังจะกลับแล้วล่ะ”
“เอ่อ ตอนนี้พี่พีร์อยู่ที่ไหนเหรอคะ” หญิงสาวทำใจกล้าถามออกไป เพราะระแวงว่าเขาจะอยู่กับผู้หญิง
“พี่อยู่กับเอกน่ะ เดี๋ยวให้คุยกับมันนะ เอก... คุยกับน้ำหน่อยสิ”
“อะไร... คนจะนอน”
หล่อนได้ยินเสียงผู้ชายอีกคนดังเข้ามาในสาย ก่อนที่พีรวัตรจะพูดขึ้นอีกครั้ง
“มันไม่ยอมคุยน่ะ สงสัยยังไม่หายแฮง เดี๋ยวไม่เกินครึ่งชั่วโมง พี่กลับไปหานะครับ”
“เอ่อ... ค่ะพี่พีร์ ขับรถดีๆ นะคะ”
“ขอบคุณครับ”
หล่อนกำลังจะวางสาย แต่ได้ยินเสียงสนทนาอู้อี้ของเพื่อนพีรวัตรดังเข้ามาในหูเสียก่อน หล่อนจึงยังไม่ตัดสายสนทนาทิ้ง
“ใครโทรมาแต่เช้า”
“เมียฉันเองน่ะ ไม่เอาสิ อย่าทำหน้าบูด ไปๆ ไปอาบน้ำได้แล้ว...”
แล้วหล่อนก็ต้องขมวดคิ้วมุนด้วยความแปลกใจ เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของสองคนดังขึ้น
“ก็แค่เพื่อนผู้ชายน่ะ อย่าคิดมากสิน้ำ” หล่อนตัดสายทิ้ง ก่อนจะเดินเล่นฆ่าเวลาในสวนสวย เพื่อรอการกลับมาของพีรวัตร สามีสุดที่รัก