“ทำไมคนสมัยนี้ถึงมีความรักแปลกเข้าไปทุกที เพราะแบบนี้ใช่ไหมฉันถึงต้องรับงานแปลกๆเพิ่มขึ้นทุกวัน”
เมริษาบ่นกับตัวเองหลังจากได้รับการติดต่อจากลูกค้าคนล่าสุด ทั้งที่ก่อนหน้านี้เธอเคยให้คำปรึกษาเรื่องความรักกับผู้คนมามากมายหลากหลายรูปแบบ มีทั้งความรักแบบครอบครัว ความรักแบบหนุ่มสาว หรือแม้แต่รักข้ามเพศ แต่ก็ไม่เคยมีงานไหนที่แปลกเท่างานนี้มาก่อน
เพราะงานที่ว่าคือรับจ้างเป็นแฟนเพื่อสอนให้เขารู้จักความรักและทำให้เขาตกหลุมรักให้ได้ภายในระยะเวลาหนึ่งเดือน เป็นงานที่เธอต้องมาตั้งคำถามในใจอีกว่า
‘มีด้วยหรือคนที่ไม่เคยรู้จักความรัก และต้องการทุ่มเงินจำนวนมหาศาลเพื่อที่จะเรียนรู้จักความรัก’
แต่เมื่อมาทบทวนดูอีกทีเธอก็พอจะเข้าใจคนที่ไม่เคยมีความรักแบบหนุ่มสาว เพราะถ้าหากเป็นความรักในลักษณะนี้เธอก็เป็นอีกหนึ่งคนอยู่ในกลุ่มคนพวกนี้ เมื่อคิดมาถึงตรงนี้เมริษาก็ต้องกุมขมับด้วยความเคร่งเครียดทันที
มันก็อาจจะไม่ยากเท่าไหร่หากเธอเคยมีคนรักหรือเคยผ่านประสบการณ์การมีแฟนมาก่อน แม้ในวงการมายาเธอสร้างตัวตนขึ้นมาในเรื่องความรักจนกลายเป็นที่รู้จักของกลุ่มคนที่มีปัญหาเรื่องหัวใจก็จริง แต่เรื่องทั้งหมดเธอก็ศึกษาจากนิยาย ตำรา หรืออินเตอร์เน็ตบวกกับจิตนาการเท่านั้น ไม่เคยประสบพบเจอมากับตัวแต่อย่างใด
แต่ถ้าจะให้ปฏิเสธงานนี้ไปเห็นทีจะไม่ได้ เพราะนั่นหมายถึงชื่อเสียงที่เธออุตส่าห์สะสมมาอย่างยาวนาน เธอทำใจไม่ได้หากถูกจับได้ว่าไม่เคยมีความรักและเคยถูกรักมาก่อนอย่างที่เธอเคยคุยโวไว้หนักหนา เพราะถ้าหากความจริงปรากฏเธอจะต้องถูกตราหน้าว่าเป็นคนหลอกลวงและอาจจะตกงาน พร้อมกับถูกเลิกจ้างเป็นดาราตัวประกอบ รายได้หลักในวงการที่มีน้อยอยู่แล้วก็อาจจะไม่มีอีกเลย
“มีงานอะไรที่ทำให้เมริษาผู้ไม่เคยกลัวงานหนักเครียดถึงขนาดนี้นะ”
นาราเพื่อนสนิทสาวในวงการมายาของเมริษาเอ่ยถามลอยๆทั้งที่ยังคงสะบัดแปรงแต่งหน้าลงบนแก้มเนียนของตนเองดวงตากลมโตยังไม่ละจากกระจกบานใหญ่ตรงหน้า
“เฮ้อ! รับจ้างเป็นแฟนเพื่อสอนให้เขารู้จักความรักแล้วทำให้เขาตกหลุมรัก”
เมริษาถอนหายใจก่อนจะบ่นให้เพื่อนฟังเพื่อระบายความอัดอั้นตันใจ
“อืม…แปลกจริงๆด้วย แต่ก็ไม่น่าจะยากอะไร”
“แต่ฉันไม่เคยมีแฟนนะ จะทำให้เขาตกหลุมรักเป็นได้ยังไง”
เมริษาเอ่ยด้วยน้ำเสียงกังวลจนเพื่อนสาวต้องหยุดสะบัดแปลงหันมาเผชิญหน้า
“ไม่เห็นต้องกังวลอะไรนี่แค่หน้าตาเธอก็เอาใจไปแล้วเกินครึ่งส่วนที่เหลือก็ขยันออดอ้อนหน่อยเขาก็ตกหลุมรักเธอจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว ไม่มีผู้ชายคนไหนไม่หวั่นไหวกับผู้หญิงสวยๆหรอก นอกเสียจากว่าเขาไม่ใช่ชายแท้”
นาราบอกวิธีการกับเพื่อนสาวพร้อมความจริงบางข้อที่เพื่อนควรรู้ สองสาวเลยระบายยิ้มออกมาพร้อมกันเหมือนคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
“ก็จริงนะ ผู้ชายอะไรอายุสามสิบห้าแล้วยังไม่เคยมีแฟนหรือว่าหน้าตาเขาหน้าเกลียดหน้ากลัวมากจนไม่มีใครอยากเข้าใกล้หรือบางทีเขาอาจจะเป็นเกย์เลยไม่เคยมีความรักกับผู้หญิง”
เมริษาทำหน้าครุ่นคิดอย่างหนักจนเพื่อนสาวต้องเอ่ยถาม
“แล้วค่าจ้างคุ้มหรือเปล่าล่ะ ถ้าไม่คุ้มถอนตัวตอนนี้ยังทัน”
นาราแนะนำเมื่อเห็นเพื่อนอาการหนักเข้าไปทุกที
“ห้าล้านทันทีที่ฉันยอมตกลงเป็นแฟน และถ้าภายในหนึ่งเดือนฉันสามารถทำให้เขาตกหลุมรักได้เขาจะเพิ่มให้อีกห้าล้าน”
“สิบล้าน!”
นาราอุทานออกมาเสียงดังดวงตากลมโตจ้องมองเพื่อนด้วยความตื่นเต้นเพราะจำนวนเงินมากมายที่เพื่อนเอ่ยถึง
“ใช่สิบล้านถ้าฉันทำสำเร็จ”
“สิบล้านเลยนะเพื่อน แสดงเป็นตัวประกอบมาเป็นสิบปียังเก็บเงินไม่ได้เท่านี้เลย”
นารากระตุ้นเตือนเพื่อน เพราะจำนวนเงินดังกล่าวมากมายพอที่จะลงทุนสร้างอาชีพเล็กๆสักอย่างได้ แม้ทุกวันนี้ผู้ใหญ่จะป้อนงานมาบ้างแต่ก็ไม่ได้มีบทเด่นอะไรแถมรายได้ก็น้อยนิดแทบจะยึดเป็นอาชีพหลักไม่ได้ ที่ผ่านมาสองสาวเคยคุยกันว่าหากเก็บเงินได้สักก้อนจะหันหลังให้กับวงการมายาแล้วมาลงทุนขายอะไรสักอย่างเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับอนาคตในวันข้างหน้า
“ก็เพราะสิบล้านนี่แหละที่ทำให้ฉันรู้สึกกดดันอยู่นี่ไง”
“โอ๊ยไม่ต้องคิดมากแล้ว! เอาห้าล้านก่อนส่วนสิบล้านค่อยไปคิดหาวิธีทีหลัง รีบกดโทรศัพท์หาลูกค้าตอบตกลงด่วนเลยเพื่อน”
นาราเอ่ยพลางดึงโทรศัพท์ในมือเพื่อนสาวกดเปิดจอสว่างพร้อมเข้ารหัสปลดล็อกให้เรียบร้อยราวกับเป็นเจ้าของโทรศัพท์เสียเอง
“เบอร์ไหน รีบบอกมาต้องกดโทรออกให้ไว”
นาราเสียงสั่นจ้องเพื่อนรอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
“เขาไม่ได้โทรมาแต่เขาติดต่อมาทางอีเมลล์”เมริษาเอ่ยพลางดึงโทรศัพท์จากมือเพื่อนสาวพร้อมเปิดอีเมลล์ขึ้นมา“ฉันลืมบอกไปเขาอยู่อิตาลี ถ้าฉันตกลงเป็นแฟนอาจจะต้องไปอยู่ที่อิตาลีด้วยเป็นระยะหนึ่งเดือนตามข้อตกลง”
“โอ้โห…นี่เพื่อนฉันมีชื่อเสียงโด่งดังไปถึงอิตาลีเลยเหรอ ดังใหญ่แล้วนะเมริษา”
“หยุดล้อเล่นได้แล้ว ฉันซีเรียสอยู่”
เมริษาค้อนให้เพื่อนสาวที่กำลังกลั้วเสียงหัวเราะเห็นเรื่องซีเรียสของตนเองเป็นเรื่องสนุก
“ไหนขอดูสัญญาข้อตกลงหน่อยสิ”
นาราดึงโทรศัพท์ในมือเพื่อนมาเปิดอ่านอีเมลล์ข้อตกลงของลูกค้าที่เสนอมาซึ่งข้อความการสนทนาทั้งหมดถูกพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษบ่งบอกชัดเจนว่าเขาไม่สามารถสื่อสารภาษาไทยได้เลย แต่นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเพราะเมริษาสื่อสารภาษาอังกฤษได้สบายหายห่วง
“ข้อตกลงน่าสนใจดีนะริษา ในนี้บอกว่าถ้าสนใจเขาจะส่งภาพและข้อมูลคร่าวๆของเขามาให้ดูเพื่อเป็นการตัดสินใจก่อนที่จะไปทำข้อตกลงเป็นแฟนกัน เราลองตอบสนใจไปก่อนก็ไม่เสียหายนะเผื่อจะทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น”
นาราอ่านข้อความภาษาอังกฤษตอนท้ายก่อนจะเงยหน้ามาถามเพื่อสาว แต่ก็นั่นแหละ เมริษายังไม่ทันเอ่ยอะไรปลายนิ้วของเพื่อนสาวก็จิ้มส่งตกลงไปเรียบร้อยแล้ว
“โทษทีมือลั่น”
“มือไม่ได้ลั่นหรอก แต่ตั้งใจ”
เมริษารู้ทันแต่ก็ไม่ได้ถือโทษโกรธอะไรเพื่อนแต่อย่างใด เพราะเธอเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าลูกค้าที่ติดต่อมามีหน้าตาเป็นยังไงเผื่อเธอจะต้องนำไปใช้ในการตัดสินใจรับงาน
ไม่นานเกินรอเสียงข้อความอีเมลล์ก็ดังขึ้นพร้อมข้อความตอบกลับจากอีกฝ่าย
“โอ้แม่เจ้า! แน่ใจนะว่านี่เป็นเกย์”
นาราอุทานเสียงดังพร้อมกับเอามือทาบอกเมื่อกดเปิดข้อความอีเมลล์ดู เมริษาดึงโทรศัพท์จากมือเพื่อนมาดูบ้างก่อนที่ดวงตาคู่สวยจะเบิกกว้างด้วยความตกตะลึงกับภาพบุรุษหนุ่มในจอโทรศัพท์
เมริษากระพริบตาถี่ๆหลายครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้ตาฝาดไปกับภาพตรงหน้า และสิ่งที่รับรู้ต่อมาคือ…หัวใจดวงน้อยของเธอเต้นแรงชนิดที่ว่าแทบจะทะลุออกมาจากอกเสียให้ได้
แว๊บแรกที่เห็นภาพบุรุษหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาปานเทพบุตรบนจอโทรศัพท์เธอสามารถตัดช้อยส์ที่ว่าเขามีหน้าตาหน้าเกลียดหน้ากลัวจนไม่มีใครอยากเข้าใกล้ออกไปได้เลย หลงเหลือเพียงช้อยส์เดียวคือเขาเป็นเกย์
“โอ้ย…ดูเหมือนฉันจะเจองานหินแล้วนารา แค่สอนให้ผู้ชายแมนๆตกหลุมรักยังยากเลยแล้วฉันจะสอนให้เกย์ตกหลุมรักผู้หญิงได้ยังไงกัน”
เมริษาทั้งบ่นทั้งโอดครวญเมื่อคิดถึงงานที่กำลังตัดสินใจจะรับดีหรือไม่รับดี เพราะคำว่าชื่อเสียงแท้ๆ ทำให้เธอต้องตกมาอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่ได้คลายไม่ออกอยู่แบบนี้ แต่ส่วนลึกข้างในกลับเต้นลิงโลดจนหลุดท่าทางตื่นเต้นให้เพื่อนจับได้
‘ให้ตายเถอะ! เกย์อะไรจะหล่อขนาดนี้ ฉันจะเปลี่ยนเกย์ให้แมน’
“เก็บอาการหน่อยเมริษา น้ำลายจะหกอยู่แล้ว”
นาราว่าพลางส่งค้อนใส่คนที่ปากโอดครวญจะเป็นจะตาย แต่กิริยาท่าทางกลับกระดี๊กระด๊าตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง
“สรุปแกจะรับงานนี้หรือเปล่า”
“รับค่ะ! งานนี้เมริษาสู้ตาย คุณพระถ้าเกิดฉันตกหลุมรักเขาขึ้นมาเองแล้วจะเป็นยังไง ฉันต้องคืนค่าจ้างเขาไปด้วยหรือเปล่านารา”
สายตาคู่สวยยังคงจับจ้องอยู่ที่จอโทรศัพท์ขณะพูด อยู่ในวงการมานานเจอพระเอก เจอนายแบบหล่อๆมาก็เยอะแต่ไม่เคยเห็นใครหล่อบาดใจเท่านี้มาก่อน หล่อซะจนทำหัวใจเต้นแรงทั้งที่ยังไม่เคยเจอตัวจริงเลยด้วยซ้ำ
‘หวังว่าตัวจริงจะตรงปกนะพ่อคุณ ไม่งั้นเมริษาคนนี้คงผิดหวังแย่’
เมริษาคิดในใจอย่างขำๆ รอยยิ้มประกายระยับของหญิงสาวระบายไปทั่วใบหน้างามทำให้นาราต้องถอนหายใจออกมายาวๆด้วยความรู้สึกหนักอกขึ้นมาแทน
“มันก็น่าตกหลุมรักอยู่หรอกหล่อปานเทพบุตรลงมาจุติขนาดนั้น อยู่ใกล้ก็ต้องมีหวั่นไหวบ้างแหละ แต่อย่าเผลอใจไปตกหลุมรักเขาเชียวเดี๋ยวหมดสัญญาจะทำใจลำบาก”
นารายอมรับว่าบุรุษในภาพมีเสน่ห์รุนแรงจนทะลุจอภาพออกมา เธอเชื่อว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะไม่รู้สึกหวั่นไหวเวลาที่ได้อยู่ใกล้ชิดเขาแน่ และนั่นก็ทำให้เธอรู้สึกเป็นห่วงเพื่อนสาวขึ้นมา เพราะหากเมริษาตกหลุมรักลูกค้าเสียเองต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ เมริษายิ่งไม่เคยมีความรักด้วยถ้าเกิดอกหักขึ้นมาเธอไม่อยากจะคิดถึงสภาพของเพื่อนสาวเลยจริงๆ
“ที่ฉันเตือนได้ยินหรือเปล่าริษา มันเป็นเรื่องคอคาดบาดตายเลยนะ”
นาราเขย่าแขนเพื่อนเรียกสติให้กลับคืนมา เมริษาเงยหน้าขึ้นจากจอโทรศัพท์หัวเราะคิกคักอย่างขบขันกับท่าทางหวาดกลัวเกินเหตุของเพื่อนสาว
“โธ่…ฉันรู้หรอกน่า!ไม่ต้องห่วงหรอก ไว้ฉันจะย้ำกับตัวเองทุกลมหายใจเลยว่าเขาเป็นเกย์จะได้ไม่เผลอใจดีไหม”
พูดจบก็ต้องหัวเราะขบขันอย่างสนุกสนานเมื่อนาราค้อนใส่ไม่เชื่อใจคำพูดเล่นทีจริงทีของเธอ แต่นาราไม่มีอารมณ์จะขำด้วยเลยสักนิด
“ริษาฉันไม่ตลกนะ ฉันจริงจังและเป็นห่วงแกอยู่นะ”
“เธอจะเป็นห่วงอะไรนักหนายายนารา ฉันอายุยี่สิบเจ็ดแล้วนะ โอกาสจะหาแฟนหล่อปานเทพบุตรแบบนี้จะหาได้ที่ไหนอีกถ้าไม่ใช่งานนี้ ปล่อยฉันไปพบกับความรักสักครั้งเถอะนะเพื่อน ”
แม้เมริษาจะแสดงน้ำเสียงและแววตาอ้อนวอนแต่ก็มิวายทำตาปริบๆจนเพื่อนสาวเผลอระบายยิ้มออกมา เพราะดูน่าตลกเสียมากกว่าจะเป็นการขอร้องแบบจริงจัง สมแล้วที่เธอเป็นนักแสดงสาวอารมณ์ดี
“แล้วเธอจะมั่นใจได้ยังไงว่าเขาไม่ได้มาหลอกลวง หรือเป็นพวกอัญญากรข้ามชาติหลอกผู้หญิงสวยๆไปขายน่ะ ถ้าเป็นแบบนั้นขึ้นมาเธอจะทำยังไง”
“เพ้อไปกันใหญ่แล้วยายนารา ถ้าแกจะกลัวขนาดนั้นก็ช่วยฉันหาข้อมูลเขาสิ ชื่อนามสกุลจริงเขาก็ส่งมา นี่เอาไปดูแล้วก็หา”
เมริษายื่นโทรศัพท์วางลงบนมือเพื่อนสาวอีกครั้ง แต่นารากลับไม่ยอมรับพลางส่ายหน้าไปมา
“แกจะให้ฉันหาจากไหน ถ้าในอินเตอร์เน็ตหยุดคิดไปได้เลยเพราะถ้าเกิดเป็นอัญญากรข้ามชาติจริงเขาก็คงไม่ใช้ชื่อจริงนามสกุลจริงของตัวเองหรอก เผลอๆไปเอาคนดังที่ไหนมาก็ไม่รู้มาหลอกลวง”
“แล้วจะให้ฉันทำยังไง ไม่รับแกก็ว่า รับแกก็ว่า”
“ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรแกสักหน่อย แค่อยากให้แกได้ดีแต่อีกใจก็ไม่อยากให้แกเสี่ยงเกินไป อย่าลืมสิชีวิตฉันก็มีแค่แกคนเดียวถ้าฉันไม่เป็นห่วงแกแล้วจะให้ฉันเป็นห่วงใคร”
นาราบอกเสียงเบา ใบหน้างามเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
“ฉันรู้หรอกน่าว่าแกเป็นห่วง แต่หยุดทำหน้าเครียดได้แล้ว เรื่องมันอาจจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เราคิดก็ได้ แกลองคิดดูดีดีนะ ถ้าเกิดว่าลูกค้าที่ติดต่อมาเขามีปัญหาเรื่องความรักจริง เราจะเสียโอกาสทั้งสองฝ่ายนะ ฉันอยากให้แกคิดในแง่ดีไว้”
เมริษาให้เหตุผลกับนาราเพราะปกติชีวิตเธอไม่เคยมองโลกในแง่ลบแม้เธอจะกำพร้าพ่อแม่มาตั้งแต่เด็กๆก็ตาม เธอเชื่อเสมอว่าโลกนี้ไม่ได้โหดร้ายจนเกินไปหากกล้าที่จะเผชิญกับปัญหาและความจริง
“หนึ่งเดือนกับค่าจ้างห้าล้าน เฮ้อ! ตกลงฉันอนุญาตให้แกไปก็ได้”
“ขอบใจมากเพื่อน”
เมริษาตบไหล่เพื่อนเบาๆด้วยความรู้สึกขอบคุณที่เพื่อนเข้าใจและอนุญาต เพราะเธอจะได้ทำงานอย่างสบายใจไม่ต้องกังวลถึงคนข้างหลัง