ปุณณ์ นุกูล

1166 Words
กรุงเทพฯ “ว่ายังไงนะคะแม่โอบ” ปุณณ์ นุกูล หรือปุณณ์ วัย 25 ปี ถามผู้เป็นแม่อย่างไม่เชื่อหูตัวเองเมื่อท่านออกคำสั่งเด็ดขาดให้เธอย้ายไปอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัดเป็นเวลาสามเดือน ถ้าไปอยู่ได้เธอถึงจะได้เงินจากท่านมาลงทุนเปิดร้านอาหาร เธอเรียนจบเชฟมา และเตะฝุ่นมานานหลายปี ด้วยฐานะทางการเงินของทางบ้านดีพอสมควร ไม่ทำงานก็มีกินเลยทำให้สาวสวยผิวดำแดงผอมแห้งใช้ชีวิตเที่ยวเล่นไปวันๆ แล้วอยู่ๆ เธอก็ค้นพบว่าความฝันของเธอคืออะไร นั่นคือการเปิดร้านอาหาร เพราะอยากเป็นเจ้าของร้านอาหารไทยจึงไปเรียนเชฟ จริงอยู่ที่ว่าเมื่อเรียนจบมาควรจะทำงานหรือเปิดร้าน แต่เพราะที่บ้านมีอันจะกินเลยทำให้เธอไม่อยากทำอะไร แล้วเพราะอะไร อะไรทำให้นึกอยากเปิดร้านอาหาร เวลานัดเจอเพื่อนๆ ทุกคนก็คุยแต่เรื่องงาน เรื่องร้านอาหารของตัวเองนี่แหละ พอถามถึงหล่อน หล่อนไม่มีอะไรพูดอวดเพื่อนและโดนเพื่อนๆ ดูถูกด้วย เรื่องที่เรียนจบมาแทนที่จะทำงานทำการ ไม่ใช่วันๆ เอาแต่แบมือขอเงินแม่ไปวันๆ นี่แหละ เรื่องมันก็เป็นแบบนี้ ปุณณ์ถึงอยากเปิดร้านอาหาร ปกติโอบขวัญ แม่ของเธอนั้นใจดี ขออะไรก็ให้และตามใจ แต่ครั้งนี้ท่านกลับมีเงื่อนไข เธออยากจะบ้าตาย.... “ปุณณ์ได้ยินไม่ผิดหรอกลูก ถ้าลูกอยากได้เงินมาลงทุน ลูกต้องไปอยู่กับญาติของแม่ที่ต่างจังหวัด” นางย้ำเสียงหนักแน่น เพราะคิดว่าดีที่สุดแล้ว นางก็ดีใจที่ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนนึกอยากจะเปิดร้านอาหาร แต่มันจะไปรอดเหรอ คนที่ไม่เคยทำงานทำการ คนไม่เอาไหนที่ใช้ชีวิตและใช้เงินเที่ยวเล่นไปวันๆ จะมาเป็นเจ้าของกิจการเอง และที่สำคัญที่อยากส่งไปอยู่พิษณุโลกนั่นเพราะอยากดัดนิสัยติดหรู ติดวัตถุนิยมของลูกสาวด้วย อยากรู้นักว่าไปอยู่ที่นั่น ลูกสาวจะโตขึ้นไหม โอบขวัญเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวเป็นหม้ายสามีตายตั้งแต่ปุณณ์อายุได้ 7 ขวบ สามีของนางเป็นทายาทของร้านพลอยและเหมืองพลอยทางกาญจนบุรี พอสามีเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิต สมบัติทุกอย่างก็ตกเป็นของเธอกับลูก ส่วนเหมืองพลอยนั้นก็ให้คนเก่าคนแก่ของสามีดูแล นางและลูกสาวย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ ดูแลร้านพลอยและจัดส่งออกต่างประเทศตามที่ลูกค้าต้องการ นางทำงานทุกอย่างโดยมีผู้ช่วยคนเก่าคนแก่ที่ไว้ใจได้ของสามีช่วยงานจึงทำให้กิจการรุ่งเรืองมาถึงทุกวันนี้ ส่วนลูกสาวคนเดียวนั่นเหรออย่างที่เล่ามา ไม่เอาไหน ดีแต่แต่งตัวปากแดงเดินลอยไปลอยมาแล้วก็มาขอเงินไปช้อปปิ้ง “เงินห้าล้านเองนะแม่โอบ ปกติแม่โอบก็ให้ปุณณ์ได้ไม่ใช่เหรอคะ แล้วทำไมปุณณ์ต้องไปอยู่พิษณุโลกกับญาติของแม่ด้วย ไม่รู้ว่าที่อยู่จะเป็นยังไง ของกินอะไรพวกนี้สะอาดไหมก็ไม่รู้” เธอพูดดูถูกทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ไปเห็นกับตาและสัมผัสเอง “เงินห้าล้านไม่ใช่น้อยๆ นะปุณณ์ แม่ให้ลูกเอาไปลงทุนเล่นไม่ได้หรอก แม่ตามใจหนูจนเคยตัว ต่อไปนี้แม่จะไม่ให้อะไรหนูแล้ว บัตรเครดิตแม่ก็จะอายัดทุกบัตร รถแม่ก็จะยึดไม่ให้ขับ อยากไปไหนก็นั่งแท็กซี่ รถเมล์ ไม่ก็รถไฟฟ้า” นางยื่นคำขาดขณะยกขาไขว่ห้างยกถ้วยกาแฟขึ้นจิบ “แม่โอบใจร้าย” “แม่ใจดีกับหนูมามากพอแล้วปุณณ์ ลูกต้องไปพรุ่งนี้ คืนนี้แม่จะจัดการโทรหาญาติแม่ให้เตรียมห้องหับให้ ส่วนจะเดินทางไปด้วยรถโดยสารหรือขับรถยนต์ส่วนตัวเองไปก็ได้” “หนูยังไม่ตกลงเลยนะแม่โอบ” “หนูไม่ต้องตกลงปุณณ์ เพราะยังไงลูกก็ต้องไป ลองไปใช้ชีวิตแบบไม่มีของหรูหรา ไม่มีของแบรนด์เนมดูสักสามเดือน ถ้าอยู่ครบสามเดือนลูกจะได้มากกว่าห้าล้าน” “ได้ค่ะ ปุณณ์จะไป หนูจะไป แม่ต้องการแบบนี้ใช่ไหมคะ ปุณณ์จะพิสูจน์ให้แม่เห็นว่าปุณณ์อยู่ได้ แค่พิษณุโลกหนูไปเองได้ ขับรถไปเองได้” ยังดีที่แม่ของหล่อนยอมให้เอารถยนต์ส่วนตัวไปใช้ได้ ถ้าไม่มีรถเธอจะอยู่ที่นั่นได้ยังไง แล้วญาติแม่เป็นคนยังไงอีกล่ะ เพิ่งจะรู้เนี่ยแหละว่าท่านมีญาติที่พิษณุโลก “พรุ่งนี้เช้าแม่จะรอส่งหนู คืนนี้แม่จะจัดการเรื่องทุกอย่างให้เรียบร้อย ส่วนเงินแม่จะให้เงินสดติดตัวไปเจ็ดพันและเติมน้ำมันให้เต็มถัง หนูจะไม่มีบัตรเครดิตหรือเอทีเอ็มใช้ทั้งนั้น หนูต้องรู้จักช่วยงานเมื่อไปอยู่บ้านป้าพลอยกับลุงหาญ” “แม่ทำแบบนี้กับหนูไม่ได้ ปุณณ์จะอยู่ได้ยังไงสามเดือน เงินแค่นี้ปุณณ์อยู่ไม่ได้แน่” ที่ทำให้ไม่อยากเชื่อหูตัวเองคือจำนวนเงินสดที่ผู้ให้กำเนิดจะให้ติดตัวไปใช้เมื่อตอนอยู่ต่างจังหวัด จะบ้าตาย...เธอจะอยู่ต่อได้ยังไง เงินแค่เจ็ดพัน จะอยู่ได้พ้นวันไหมยังไม่รู้เลย “ได้สิ ถ้าหนูรู้จักเอาตัวรอด หนูเป็นคนเก่งและฉลาด หนูไม่ปล่อยให้ตัวเองอดตายหรอกปุณณ์ อีกอย่างข้าวปลาก็ไม่ได้ซื้อ ที่อยู่ก็ไม่ได้เช่า ดีแค่ไหนแล้วแม่ให้ไปเจ็ดพันน่ะ” ปุณณ์อยากจะกรี๊ดให้บ้านแตก แต่ก็ทำได้แค่เพียงกำมือแน่นแล้วลุกขึ้นเดินหนี เมื่อผู้เป็นแม่ยื่นคำขาด เธอต้องไปอยู่ต่างจังหวัดด้วยเงินเพียงเจ็ดพันบาทเนี่ยนะ ตายๆ กินข้าวแค่มื้อเดียวก็หมดแล้ว อย่างนี้จะไปอยู่ยังไงตั้งสามเดือน แล้วญาติที่แม่บอกจะใจดีกับเธอเหรอ โอบขวัญหยักยิ้มเมื่อลูกสาวยอมแพ้ตนเองแล้วเดินหนี เมื่อเหลือตัวคนเดียวก็เรียกสาวใช้ในบ้านให้ขึ้นไปช่วยปุณณ์เก็บข้าวของใช้จำเป็นเพื่อที่พรุ่งนี้ปุณณ์จะได้พร้อมเดินทาง เมื่อสั่งงานสาวใช้เสร็จก็เรียกคนรถของตัวเองไปเอารถลูกสาวไปเติมน้ำมันไว้ให้เต็มถังพรุ่งนี้จะได้เดินทางสะดวก เมื่อจัดการเรียบร้อยก็ลุกขึ้นเดินไปทำงานเหมือนเช่นที่เคยทำในทุกๆ วัน ที่ต้องไปดูแลร้าน แม้จะมีพนักงานและผู้จัดการ แต่นางก็อยากไปดูแลด้วยตัวเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD