นับจากวันนั้นเขาไม่ได้แวะเวียนมาที่นี่ แต่เจ้านายฉันนั่นแหละที่วิ่งแล่นไปหาเขา ข่าวก็อตซิปมีทุกวันในหน้าข่าวบันเทิง ผู้หญิงหลายคนที่ตกเป็นข่าวกับเขา งดงามไม่มีที่ติ เขาเป็นซาตานที่สวมครอบไว้ด้วยคราบนักบุญ หน้าตาหล่อเหลาของเขามีไว้เพื่อล่อลวงผู้หญิงโดยเฉพาะ แต่แปลกนะ เขามีแค่ข่าวฉาวๆ แต่ไม่เคยมีข่าวคาวหลังจบความสัมพันธ์กับผู้หญิงสักคน พวกหล่อนจากด้วยดี ชื่อเสียของเขาไม่มีผู้หญิงคนไหนสนใจ พวกหล่อนเต็มใจยอมเป็นเครื่องเล่นของเขา แบบไม่มีข้อแม้
ฉันวุ่นวายกับการเคลียร์ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับงานปาร์ตี้ที่เขาและเจ้านายคนสวยฉันจัดขึ้นทุกวัน บิลสารพัดบิลถาโถมเข้ามาให้ฉันคอยจัดการเคลียร์ ไม่มีเสียงบ่นจากฝ่ายบัญชี ไม่ว่ายอดรายจ่ายจะสูงจนฉันอดเสียดายไม่ได้
ตระกูลบริโอ้ ไม่มีคนในตระกูลคนไหนจน
ต่อให้เป็นสายครอบครัวที่ห่างแทบต่อไม่ติด ก็ยังอุดมไปด้วยทรัพย์สิน
ฉันถอนใจแรงๆ พิมพ์บิลไว้ในรายงานส่วนตัวของราเชล
หากมีโอกาส ฉันควรเตือนเจ้านายเสียบ้าง ต่อให้ร่ำรวยเงินทอง แต่การใช้อย่างเดียวเช่นนี้ ในอนาคตไม่ดีแน่
“ไฮ คิดถึงไอไหมแพร” เสียงทักทายร่าเริง แต่สีหน้าไม่ดีเลย
“ไหวไหมคะ น้ำขิงร้อนสักแก้วดีไหมคะบอส”
สามวันติดๆ ที่อยู่แต่ในปาร์ตี้ของเมเลี่ยน ราเชลเองแทบไม่ไหว ไม่รู้เหมือนกันว่าญาติผู้น้องของเธอคิดอะไรในใจ สมัยหนุ่มเมเลี่ยนดื่มจัดก็จริง แต่พอขึ้นแท่นแทนมารินอาของเธอ น้องชายที่อายุมากกว่าก็ปรับตัวได้ เขายังคงเส้นคงวาเรื่องเดียวคือหวงความโสด เมเลี่ยนยินดีที่จะสนองตอบผู้หญิงทุกคน แต่เมื่อใดที่เก้าลงจากเตียง เขาไม่เคยไยดีคู่นอนเลย
มันเหมือนวังวนเก่าๆ วนกลับมา เมเลี่ยนเสเพลเต็มที่ มันคงเป็นเพราะครั้งนี้มารดาผู้เข้มงวดไม่ได้ตามมาด้วยก็ได้ เขาระบายความอึดอัดออกมาเต็มที่ เธอเองก็ไม่ได้อยากขัดขวาง แต่ร่างกายมันจะแย่เอานี่สิ
“ดีเหมือนกัน ของข้าวต้มร้อนๆ รองท้องด้วยได้ไหม”
ฉันอมยิ้มมองตามนายสาวที่เดินซัดเซเข้าไปในห้องทำงาน ฉันชงน้ำขิงร้อนๆ และรวบแฟ้มงานที่รอให้เจ้านายเซ็นติดมือเข้ามาด้วย ฉันปล่อยให้ราเชลพักในห้องรีบออกมาจัดการต้มข้าวต้มร้อนให้เจ้านายกินแก้แฮงก์
มัวสาละวนกับงานที่รับมอบหมายมา เมื่อยกชามข้าวต้มควันกรุ่นเข้ามาด้านในห้องทำงานนายสาว ฉันจึงพบว่า ราเชลไม่ได้อยู่แค่คนเดียวเหมือนเดิม
“ยกมานี่เลย มีเหลืออีกไหมล่ะแพร ตักมาเผื่อมิเลี่ยนสักชาม หมอนี่ก็ท่าทางจะแย่เหมือนกัน”
ฉันวางชามข้าวต้มไว้ตรงหน้าเจ้านายคนสวย แอบชำเลืองอาคันตุกะที่มาตอนที่ฉันเผลอ เขานั่งหลับตานิ่งๆ ท่าทางคงสะบักสะบอมพอควร เขาไม่ได้เนี๊ยบเหมือนทุกครั้ง ไรหนวดใต้คางเขายาวเกินหนึ่งนิ้ว สามวันที่หายไปของพวกเขาคงมั่วสุมอยู่ในปาร์ตี้นั่นเอง ฉันเดินเลยออกมาตักข้าวต้มและชงกาแฟเผื่ออีกหนึ่งแก้ว ตอนที่ฉันยกถาดมาเสิร์ฟ เขาปรือตามอง ฉันเลยรีบหดมือกลับ วางไว้ทั้งถาดโดยไม่ได้ยกออก
ใจฉันเต้นระรัว ฉันเสียอาการทันทีที่สบตาคู่นั้น
ฉันกัดริมฝีปากล่างที่สั่นระริกสงบจิตสงบใจแทบแย่ ตอนเดินออกมาฉันบังคับตัวเองให้เดินตรงๆ ขาฉันอ่อนยวบและแทบไม่มีแม้แรงเดิน
ผู้ชายคนนั้นมีอิทธิพลต่อฉันเหลือเกิน แค่สบตาเขา ฉันก็แทบสลบเหมือด
ผมฉวยแก้วกาแฟขึ้นจิบ รสขมๆ สัมผัสลิ้นช่วยให้ร่างกายตื่นตัว นี่เป็นอีกครั้งที่หล่อนรู้ใจผม กาแฟแก้วนี้คือกาแฟเพียวๆ ไม่มีแม้แต่น้ำตาลสักหน่อย ร่างกายผมแทบไม่รับรู้รสอะไรเลย ผมดื่มหนักสามวันติดๆ ลิ้นของผมชา จนต้องยอมถอดใจกลางคัน ผมพนันกับราเชลไว้ และราเชลเองก็คงไม่ไหว หล่อนเผ่นกลับบ้านตั้งแต่เมื่อคืน ปาร์ตี้ดื่มมาราธอนเลยจบลง
“ลองสิ รับรองช่วยได้ แพรทำไอ้นี่ให้ไอกินทุกครั้งที่ไอแย่”
สีหน้าราเชลดีขึ้นหลังซดข้าวต้มร้อนๆ เข้าไป ผมยิ้มแหย ชะเง้อมองชามสีขาวกับน้ำอะไรข้นๆ เหมือนซุป แต่ผมมันคนกินยาก ผักสีเขียวแทบไม่แตะ ถ้วยใบนั้นมีผักอยู่น้อยนิด เหมือนกับหล่อนจะรู้ความชอบของผม อาหารอะไรก็ตามผมเลือกเสมอ มีฝีมือแม่เท่านั้นแหละที่ผมไม่ต้องเจาะจง
ครั้งก่อนผมแกล้งให้ผู้หญิงคนนั้นทำมื้อเช้าให้ ผมกินเพลินๆ รู้ตัวอีกทีผมก็กวาดอาหารที่หล่อนเตรียมให้จนหมด
ถือว่าหล่อนฝีมือใช้ได้ และรู้ความชอบส่วนตัวผม
มันอาจเป็นเพราะหล่อนชั่งสังเกต เลขานุการส่วนใหญ่ที่ผมรู้จักก็มักจะเป็นแบบนี้
ผมชอบไข่ดาวไม่สุกไข่ขาวรอบๆ กรอบๆ แฮมต้องเกรียมนิดๆ พอมีกลิ่นควันไฟ ไส้กรอกไม่เอาแบบทอด ผมชอบแบบลวกผ่านน้ำ แค่สามอย่างที่หล่อนทำให้วันนั้นไม่ต่างอะไรกับที่แม่เตรียมไว้ให้ผมตอนเช้า หากผมอยู่ที่โรม
ผมเลยลองใช้ช้อนจุ่มน้ำสีขาวข้นขึ้นมาแตะปลายลิ้น รสชาติอ่อนกำลังดีและไม่ร้อนจนเกินไป ครั้งนี้ผมเลยใช้ช้อนตักยกขึ้นใส่ปาก มันอุ่นวาบในช่องท้องและอาการมึนๆ ในหัวเริ่มลดลง กว่าจะรู้ตัวผมก็ตักน้ำสีขาวข้นๆ จนเกลี้ยงถ้วย และหากไม่อายสายตาล้อเลียนของราเชลผมคงยกถ้วยนั่นขึ้นซดแน่ๆ
“เลขาฯ ไอสมบูรณ์แบบไหมล่ะ”
ราเชลถือแก้วใส่น้ำสีเหลืองเดินมาหย่อนก้นนั่งใกล้ๆ ยกแก้วขึ้นจิบช้าๆ ด้วยท่าทางสบายใจเหลือเกิน ผมมองเพราะอดสงสัยไม่ได้ ราเชลเหมือนจะรู้ใจผม เธอเอื้อมกดอินเตอร์คอมบนโต๊ะ สั่งคนที่อยู่ด้านนอกให้จัดการนำสิ่งที่ผมอยากรู้มาเสิร์ฟ “แพร ขอน้ำขิงเพิ่มอีกแก้วสิ”
ผมแน่ใจว่าท้องไส้ที่ปั่นป่วนของผมไม่มีทางรับอะไรได้อีกแล้วแม้แต่น้ำ
แต่นั่นผมคิดผิด หลังหล่อนเดินเอาน้ำสีเหลืองมาเสิร์ฟ ราเชลคะยั้นคะยอให้ผมทดลอง ผมตัดรำคาญด้วยการยกขึ้นจิบแบบเสียไม่ได้ ที่ไหนได้ล่ะสรรพคุณน้ำรสประหลาดนั่นดีเกินคาด ท้องผมที่ลั่นโครกครากสงบลง อาการอยากขย้อนทุกห้านาทีหายเป็นปลิดทิ้ง
“มันคืออะไรอะราเชล ไอไม่เคยรู้จัก”
“มันคือน้ำสมุนไพร วันไหนที่ไอดื่มจัดแพรจะชงมาให้จิบทั้งวัน”
ราเชลคุยฟุ้ง ผมเห็นดีด้วย ผมควรหาน้ำนี่ติดห้องไว้บาง เวลาที่ผมทรมานเพราะอาการแฮงก์จะได้ไม่ต้องรบกวนใคร
“ไอไปขอตัวอย่างน้ำนี่ที่เลขาฯ ยูนะราเชล ครั้งหน้าถ้าไปแฮงก์ไอจะได้ไม่มากวนยู”
ราเชลไม่ได้ท้วง ญาติผมลุกขึ้นไปนั่งที่โต๊ะทำงาน แฟ้มกองใหญ่นั่นน่าจะรอให้ราเชลจัดการเคลียร์ผมเดินเลยออกมาด้านนอก มองตรงไปที่โต๊ะทำงานหน้าห้อง ผมกดมุมปากโค้งลง อาการผวานั่น ผมเห็นเต็มสองตา
หากผมทดสอบหล่อน ก็ไม่น่าพลาด ผู้หญิงที่ยากกว่านี้ผมยังจัดการได้เลย
ผมเท้าแขนเหนือโต๊ะแล้วโน้มตัวลงไปใกล้ๆ แกล้งพ่นลมหายใจแรงๆ ใส่หล่อน
“ตะ ต้องการอะไรอีกไหมคะคุณ”
เสียงหล่อนสั่นพร่า ท่าทางประหม่าอย่างเห็นได้ชัด ท่าทางมาดมั่นก่อนหน้านี้หายไปเกือบหมด ผมหัวเราะลงลูกคอ กระซิบเสียงแผ่วพร่า อารมณ์ในตัวผมพลุ่งพล่านจนน่าตกใจ “ช่วยอะไรหน่อยสิ”
ฉันอยากหายตัวได้ ฉันไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์ล่อแหลมเช่นนี้ได้ สติฉันใกล้จะหลุดเต็มทีและหากฉันลืมตัวขึ้นมา ฉันจะมองหน้าเขาติดได้ยังไง ฉันพยายามรวบรวมสติที่เหลือน้อยเต็มทนกลับคืนมา ฉันต้องประคับประคองตัวเองเพื่อให้ผ่านสถานการณ์สุดอันตรายนี้ไปให้ได้
“ชะ ช่วยอะไรคะ” ฉันไม่น่าถามเขาแบบนั้นเลย
มันเหมือนกับว่าหากเขาต้องการให้ฉันทำอะไรพิเรนทร์สักอย่างฉันก็จะเต็มใจทำ
เขายิ้ม...อกอีแป้นจะแตก แค่ยิ้มทรงเสน่ห์นั่นก็ทำให้ฉันเพ้อได้แล้วนี่นะ
ฉันมองรอยยิ้มนั้นตาฉ่ำ “ฉันอยากได้....” เขาหยุดพูด หลุบเปลือกตาลงเหมือนมองมาที่ริมฝีปากฉัน ฉันเม้มปากแบบไม่ตั้งใจแต่แล้วฉันก็ต้องตัวชาวาบ!
ปลายนิ้วเรียวสวยของเขากดลงที่ริมฝีปากล่างพร้อมกับเสียงแหบสุดเซ็กซี่นั่นดังขึ้น “อย่ากัดปากสิ ช้ำหมดแล้ว เธอควรปากช้ำเพราะอย่างอื่นมากกว่า”
อุณหภูมิในร่างกายฉันพุ่งพรวดๆ และหากตอนนี้ฉันเลือดกำเดากระฉอกมันก็มาจากเขานั่นแหละ
ความอดทนต่ำต้อยเรี่ยดินของฉันใกล้ขาดวิ่นเต็มที่
ภายในสองนาทีนี้หากผู้ชายตรงหน้ายังไม่ขยับตัว ฉันคงได้สลบตรงนี้แน่
ผมถอยหลังจากมา เกมสนุกๆ ของผมจบลงตามต้องการแล้วนี่ หล่อนไม่ใช่หุ่นยนต์ไร้ความรู้สึก กำแพงนั่นหากผมตั้งใจทลายก็ไม่ยากเกินความสามารถ ผมเดินกลับมานั่งที่เดิมปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นว้าวุ่นอยู่ในที่ทางของหล่อน ผมวางแผนในใจกับข้อเสนอสุดโต่งที่ตัวเองก็ไม่เคยคิดถึงเช่นกัน