บทนำ

1406 Words
บทนำ “นี่คืองานแรกของเรา” “อะไรเหรอคะพี่จอย” เสียงเล็กเอ่ยถามหน้าตาสงสัย เมื่อ ‘จอย’ หัวหน้างานที่คอยดูแลเรื่องการฝึกงานของเธอนั้นเลื่อนภาพถ่ายภาพหนึ่งมาให้ มือเล็กหยิบภาพถ่ายนั้นขึ้นมาดูและก็มองคนตรงหน้ากับเพื่อนสนิทข้างกายสลับไปมา เด็กนักศึกษาฝึกงานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยไฟการทำงานรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย เมื่องานแรกที่ได้รับมอบหมายนั้นอยู่เพียงเอื้อมมือ “เขาเป็นนักแข่งรถที่อายุแค่ยี่สิบห้าปี หล่อ เท่ และที่สำคัญให้สัมภาษณ์ยากมาก!” คนตัวเล็กพยักหน้าหงึก ๆ ตามคำพูดของหัวหน้าสาว “นี่มันภาคินนักแข่งรถชื่อดังนี่ครับ” “ไอ้เตอร์ นี่แกรู้จักเขาด้วยเหรอ” “รู้จักดิวะ ไอ้จูนแกไปอยู่ไหนมาเขาออกจะดัง เปิดทีวีก็เจอแต่เขา” ‘เนปจูน’ หรือ ‘จูน’ นักศึกษาฝึกงานคณะสื่อสารมวลชน ชั้นปีที่สี่ เด็กสาวที่มีไฟในการทำงานล้นเหลือ สดใสร่าเริง ผู้มีใบหน้าหวาน ผิวขาว ดวงตากลมโต “ก็ฉันไม่รู้จักนี่ แต่หล่อดีนะ” “ใช่! เขาหล่อ...แต่พี่ขอเตือนเลยนะอย่ายุ่งกับเขามาก เขาไม่ได้ใจดีเหมือนหน้าตา” ทั้งเนปจูนและเตอร์ต่างเงียบลงและตั้งใจฟังในสิ่งที่จอยบอก “แต่พี่จอยบอกว่าเขาให้สัมภาษณ์ยากมากไม่ใช่เหรอครับ แล้วเด็กฝึกงานอย่างพวกเราจะทำได้เหรอ” เตอร์พูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล เขาเองก็เคยเห็นตามทีวีและสื่อโซเชียลมาบ้างว่าเขานั้นคิวทองยิ่งกว่าดารา แถมยังค่อนข้างถือตัวอีกด้วย “ต้องได้เพราะนี่คือคำสั่ง” อึก... “ได้ค่ะ! จูนกับเตอร์จะทำให้ได้!” เนปจูนโพล่งขึ้นด้วยแววตามุ่งมั่น ไม่ว่าเธอตั้งใจจะทำอะไรเธอก็ต้องทำมันให้สำเร็จ “พวกเราก็รู้ดีว่าคนอื่น ๆ สบประมาทเราแค่ไหน ถ้าพวกเราทำงานนี้สำเร็จ พวกนั้นต้องเปลี่ยนความคิดแน่ ๆ” ทั้งเนปจูนและเตอร์มองหน้ากันอย่างมีความหวัง ตั้งแต่ที่ทั้งคู่เข้ามาขอฝึกงานที่นี่ก็เจอทั้งคำดูถูกและสายตาเหยียดหยาม เพียงเพราะอายุและประสบการณ์ที่น้อยกว่า ซึ่งผลงานชิ้นนี้นับว่าเป็นงานชิ้นแรกและงานชิ้นสำคัญสำหรับนักศึกษาฝึกงานทั้งสองคน หากทำเสร็จโอกาสที่จะเติบโตทางหน้าที่การงานหลังเรียนจบของเนปจูนและเตอร์ก็คงจะไปได้ดีอย่างแน่นอน “พวกผมทำได้แน่นอนพี่จอย! ไว้ใจได้เลยครับ!” “ใช่ค่ะ! พี่จอยไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ” “ดีมาก พี่คิดถูกจริง ๆ ที่ให้พวกเรามาทำสายกีฬากับพี่” “เราสองคนจะทำงานอย่างเต็มที่ไม่ให้พี่จอยผิดหวังเลยนะคะ” สองหนุ่มสาวยิ้มร่า ภายในนั้นมีแต่ความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างล้นเหลือ หากแต่ว่าคำพูดถัดไปของหัวหน้ากลับทำเอาเบิกตาโพลงจนแทบอยากเปลี่ยนใจพัลวัน “ดีมากจ้ะ...งานชิ้นนี้พี่ขอภายในสองอาทิตย์นะจ๊ะ พี่จะส่งคำถามไปให้ในกลุ่ม บาย” “ฮะ!? สองอาทิตย์!” อีกด้าน ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูทำให้คนที่อยู่ในห้องเงยหน้าขึ้นไปมองตามต้นเสียง ก่อนที่ประตูจะถูกเปิดออกพร้อมกับชายวัยกลางคนที่เดินเข้ามาด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “หวัดดีเฮีย” เสียงเข้มของชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้น เมื่อท่านประธานสูงสุดเข้ามาในห้องพักส่วนตัวของนักแข่งชื่อดัง “ได้ข่าวว่าไอ้นักแข่งสามตัว ภ. นี่มันให้สัมภาษณ์ยากนักหนา มันจริงอย่างที่เขาพูดหรือว่า ฮึ!” เสียงทรงพลังของประธานบริษัทเอ่ยขึ้นพร้อมกับยืนกอดอกมองชายหนุ่มทั้งสามคน แต่คำพูดดุดันเหล่านั้นก็ไม่ได้ทำให้เกิดความเกรงกลัวต่อเจ้าของฉายา ‘สามตัว ภ.’ แต่อย่างใด ‘ภาคิน’ นักแข่งชื่อดังอายุยี่สิบห้าปี ผู้มีเจ้าของรอยสักรูปเสือที่หลังมือ เจ้าของใบหน้าคม ผิวขาว ส่วนสูงหนึ่งร้อยแปดสิบเจ็ดเซนติเมตร เจ้าของฉายา ‘เสือเหี้ยม’ ที่ดุ โหด อารมณ์ร้อน เข้าถึงยาก * ‘ภูริ’ นักแข่งชื่อดังอายุยี่สิบห้าปี ผู้มีเจ้าของรอยสักรูปกวางที่แขนข้างซ้าย ใบหน้าหล่อเหลา นิ่งเรียบ ผิวขาวละเอียด ส่วนสูงหนึ่งร้อยแปดสิบแปดเซนติเมตร เจ้าของฉายา ‘กวางเลือดเย็น’ ที่พูดน้อยต่อยหนัก ชอบอยู่คนเดียว โลกส่วนตัวสูง ** ‘ภูผา’ นักแข่งชื่อดังอายุยี่สิบห้าปี ผู้มีเจ้าของรอยสักรูปเหยี่ยว ใบหน้าหล่อคม ดุดัน ผิวเข้ม ส่วนสูงหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร เจ้าของฉายา ‘เหยี่ยวนักล่า’ ที่เจ้าชู้ตัวพ่อ ข่าวเรื่องผู้หญิงนับว่าเป็นข่าวประจำวันไปแล้ว “โดยเฉพาะแกไอ้คิน!” ท่านประธานทรงอิทธิพลจั่วหัวไปที่ภาคินที่กำลังนอนอยู่บนโซฟาไม่สนใจกับเสียงรอบข้าง เขาลืมตาขึ้นมองเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจออกด้วยความเบื่อหน่าย “เฮียก็รู้ว่าไอ้คินมันให้สัมภาษณ์แค่ผู้หญิงสวย ๆ เท่านั้น” ภูผายกยิ้มร้ายอย่างรู้ทันเพื่อนสนิท “เฮียล่ะปวดหัวกับพวกแกจริง ๆ ถ้าไม่ติดว่าทำเงินให้บริษัทเยอะนะ เฮียบ่นหูชาแน่!” “โห้เฮีย! แค่ออกรายการเดียวก็ทำเงินให้เฮียได้ทั้งเดือนละ เอ็นดูพวกผมไปนาน ๆ เหอะ” ภูผาเอ่ยต่อแต่มันเป็นจริงอย่างที่ว่าทุกอย่าง ทั้งสามคนนี้เป็นนักแข่งรถชื่อดังที่กำลังเป็นที่จับตามองของสื่อมากมาย อีกทั้งยังมีสำนักข่าวและรายการโทรทัศน์ติดต่อให้ไปร่วมอยู่ตลอด “ก็ทำตัวให้มันดี ๆ หน่อย ไอ้คินแกช่วยลดความหยิ่งลงหน่อย นักข่าวผู้ชายก็ให้สัมภาษณ์เขาหน่อยเหอะ” “หึ” ภูริเค้นเสียงขำเมื่อภาคินเอาแต่นอนนิ่งไม่สนใจคำพูดของคนเป็นประธานบริษัท “แกด้วยไอ้ภู รู้ไหมตั้งแต่ร่วมงานกันมาเจ็ดปีเฮียคุยกับแกไม่ถึงสิบคำ” ภูผาหลุดขำเสียงดังเมื่อเห็นทั้งสองถูกดุ “ก็ผมไม่รู้จะพูดอะไร” ภูริเอ่ยเสียงเรียบพลางหันหน้าหนี “วันนี้มีสัมภาษณ์อะไรบ้างเฮียเดี๋ยวผมเคลียร์ให้หมดเลย พอใจไหมเฮีย” ภาคินที่เงียบมาตั้งแต่ต้นลุกขึ้นพร้อมกับเอ่ยด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายเพื่อตัดปัญหา “เออดี! อีกหนึ่งชั่วโมงทางแองเจลเบลนิวส์เขาจะมาสัมภาษณ์พวกแกทั้งสามคน เตรียมตัวไว้ด้วย” “ครับ! รับทราบครับ!” ภาคินและภูผาตอบรับเสียงหนักแน่น ผิดกับภูริที่ได้แต่ทำหน้านิ่งตามประสาคนพูดน้อย “ไอ้ผา! เมื่อวานแกไปนัวกับสาวที่ไหนอย่าคิดว่าเฮียไม่รู้นะ! เพลา ๆ ลงบ้างเรื่องผู้หญิง เฮียเหนื่อยกับการตามเก็บข่าวแกแล้ว” “โธ่เฮียผมก็ผู้ชายคนหนึ่งนะ เรื่องผู้หญิงมันเป็นเรื่องปกติ” “ปกติพ่อมึงอะ! กูกับไอ้ภูไม่เห็นจะนัวถี่เหมือนมึงเลย” ภาคินแย้งพร้อมกับโยนหมอนใส่หน้าภูผาด้วยความหมั่นไส้ “สัส!” “อย่าลืมไปเตรียมตัวล่ะ สำนักข่าวนี้เขาเป็นสปอนเซอร์รายใหญ่ ให้ความร่วมมือด้วย” “ครับเฮีย” ชายวัยกลางคนเดินออกจากห้องไปทำให้ภาคินถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ แค่คิดว่าต้องมานั่งให้สัมภาษณ์กับคำถามเดิม ๆ เขาก็เบื่ออยู่แล้ว ซ้ำยังต้องมาเสียเวลาแต่งตัวแต่งหน้าอีก โดยปกติแล้วเขามักจะมีนักข่าวคู่ใจที่ชอบให้สัมภาษณ์อยู่บ่อย ๆ ซึ่งข้อแลกเปลี่ยนก็คงเดาไม่ยากนั้นก็คือ ‘การขึ้นเตียงกับเขา’ และใครบ้างที่จะไม่ยอม... นักแข่งรถดาวรุ่งหน้าตาดีฐานะร่ำรวย แถมพ่วงด้วยงานสัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ สำนักอื่นก็ทำไม่ได้เพียงแค่นอนกับเขาก็สามารถทำให้ได้งานแล้ว “ไปไอ้คิน ลุกไปแต่งตัว” ภูริเอ่ยเมื่อเห็นว่าภาคินเอาแต่นั่งทำหน้าบึ้ง “โคตรจะเบื่อ” “ช่วยเฮียเขาหน่อยเหอะ” แม้ว่าภูรินั้นจะเป็นคนที่พูดน้อยแต่เวลาอยู่กับกลุ่มเพื่อนสามคนเขาก็มักจะพูดคุยมากกว่าปกติคงเป็นเพราะความสบายใจและความสนิทสนมที่รู้จักกันมานานเกือบสิบปี “เออไอ้คิน ไปเว้ย เผื่อมึงเจอนักข่าวสวยๆไง” “เออ! ไปก็ไปวะ!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD