สนามบินสุวรรณภูมิ
ร่างบางเดินลากกระเป๋าออกมาด้วยหัวใจที่ห่อเ**ยว เพราะนานแล้วที่เธอไม่ได้กลับมาที่ไทย คั้นจะไปหาอาจารย์ที่เคยช่วยชีวิต เธอก็ไม่กล้าบากหน้าเข้าไป เพราะป่านนี้คุณนายซูกุกคงโทรไปด่าว่าเธอต่างๆนานาแล้ว
" ไม่ทราบว่าจะไปไหนครับ" เสียงของชายวัยกลางคนเจ้าของแท๊กซี่ สีเหลืองถามร่างบางที่ลากกระเป๋าเดินเข้ามา
" ไปโรงแรม XXX คะ" จุ๊บแจงบอกชายวัยกลางคน ชายวัยกลางคนก็รับทราบก่อนจะเดินเข้ามายกกระเป๋าเธอขึ้นรถแท๊กซี่
บรื้น.......บรื้น........
เสียงรถแท็กซี่วิ่งออกตัวตรงมายัง ถนนสายหลักของเมืองหลวงที่เธอไม่ได้มานานมากแล้ว จากนั้นไม่นานรถแท็กซี่ก็วิ่งเข้ามาจอดที่โรงแรม ที่หญิงสาวให้มาส่ง
" ขอบคุณมากคะลุง" หญิงสาวยื่นเงินให้ก่อนจะยกมือไหว้แล้วเดินลงจากรถมา ชายวัยกลางคนก็ลงมาหยิบกระเป๋าที่อยู่ท้ายรถส่งให้เธอ ร่างบางของจุ๊บแจงที่นั่งเครื่องมาเกือบ14ชั่วโมง ก็รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ก่อนจะเดินมาแชกอินที่เคาร์เตอร์ทางโรงแรมที่เธอบุ๊กไว้ 2 อาทิตย์เพื่อที่เธอจะมีเวลาหาที่ทางและที่พักให้ตัวเอง เพราะเงินเก็บที่เธอเก็บหอมรอมลิบมา7ปีก็มากอยู่พอสมควรมากพอที่เธอจะไม่ลำบากไปอีกนาน
“ สวัสดีค่ะ ชื่อจุ๊บแจงค่ะ “ จุ๊บแจง ยื่นบัตรประชาชนให้ พนักงานรีเซฟชั่นของโรงแรม
“ สวัสดีครับ “ เสียงชายหนุ่มใครบางคนเดินมาแชคอินข้างๆเธอ จุ๊บแจงรู้สึกตกใจจนสะดุ้งว่าทำไมเสียงคุ้นๆ
“ คุณ…../คุณ” เสียงของจุ๊บแจง ตกใจเผลอตะโกนออกมาจนรีเซพชั่น หันไปมองทั้งสองคน จุ๊บแจงเห็นว่าเป็นใครที่มาเช็คอินข้างๆเธอ เธอก็รีบชักบัตรประชาชนกลับมาทันที
“ ขอโทษนะคะ ฉันไม่เช็กอินที่นี้แล้วค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ “ จุ๊บแจงทำท่าจะเดินสะบัดตูดออกไป แต่เธอเดินไม่ถึง2ก้าว ก็ต้องหยุดชะงักทันทีเมื่อเสียงของคนที่ตามเธอกลับมา พูดคุณ
“ ทำไมกลัวผมเหรอ ถึงไม่กล้าอยู่ที่นี้” แบรดดี้ พูดออกมาก่อนจะแสยะยิ้มออกมาอย่าง
กวนๆ เพราะเขารู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้เกลียดคนดูถูกและท่าทายที่สุด และยิ่งเป็นเขาแล้วละก็…..หึหึหึ เธอไม่มีทางออ่นข้อให้แน่
“ ก็ได้ค่ะฉันขอเช็คอิน ที่นี้ วันนี้ และก็ตรงนี้ เดี๋ยวนี้” จุ๊บแจงพูดออกมา ด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทัน ก่อนจะยื่นบัตรประชาชนให้พนักงานรีเซพชั่นอีกครั้ง พนักงานสาวยิ้มแหยๆ มองคนทั้งคู่ด้วยสายตาที่มีแต่คำถามก่อนจะถามออกมา
“ ขอโทษนะคะ พวกคุณสองคนเป็นแฟนกันเหรอค่ะ” พนักงานสาวรีเชฟชั่น ถามแล้วก็ยิ้มออกมาอย่างเขินอาย เพราะเธอเห็นมานักต่อนักแล้ว แบบสองคนนี้ที่กำลังงอนกัน
“ ไม่ใช่ค่ะ / ใช่ครับ “ เสียงทั้งสองประสานเสียงกัน แต่เป็นคนละประโยชน์ พนักงานรีเชฟชั่นเห็นท่าทางโมโหของหญิงสาวเธอก็ยิ้มออกมา ส่วนแบรดดี้ที่กวนประสาทเธอก็ยิ้มออกมาอย่างกวนๆ พร้อมกับกอดเอวคอดของจุ๊บแจงแล้วดึงเข้าหาตัวเอง ก่อนจะหอมหนักๆไปที่หัวของหญิงสาวหนึ่งที จุ๊บแจงที่โดนชายหนุ่มตัวโตหอมแบบนั้นเธอก็ผลักเขาออกห่างก่อนจะเอามือปัดๆทำท่ารังเกรียจ แบรดดี้ ที่ตั้งใจตามมาง้อเธอแล้วก็ตามาดูงานที่นี้ด้วย เขาเลยถือโอกาส แอบถามพี่เหมียวแม่ครัว กว่าเธอจะยอมเปิดปากก็เล่นเอาเขาเสียเงินไปเยอะเลย
“ ขอโทษนะคะ อย่าหาว่าพี่เผือกเลยนะคะ พี่เห็นมาเยอะแล้วแบบน้องสองคนนะ ลูกหัวปีท้ายปีเลยนะคะ “ รีเซฟชั่นสาวขาเผือก พูดแซวออกมาจุ๊บแจงกำลังอ้าปากจะพูดแต่ก็ไม่ทันที่เธอจะอ้าปากพูด เธอก็ต้องช็อกอีกครั้งเป็นครั้งที่สอง
“ จริงเหรอครับพี่ ผมก็คิดว่าหน้าจะเป็นแบบนั้นแหละครับ “ แบรดดี้ ยิ้มให้สาวพนักงาน ก่อนจะหันไปยักคิ้วใส่ คนตัวน้อยที่ยืนหน้าบูดหน้าบึ้งมองเขา จุ๊บแจงเหนื่อยที่จะอธิบายอะไรให้ทุกคนที่กำลังยืนมองและยิ้มตามตาเป็นกอบ เธอเลยไม่พูดอะไรก่อนจะหยิบคีการ์ดแล้วเดินหน้าบึ้งไปยังลิฟต์
“ ผมขอห้องติดกับแฟนผมนะครับพี่คนสวย เธองอนผมมาก….จนผมต้องตามมาง้อเธอถึงที่นี้ ว่าแต่เธออยู่ที่นี้กี่วันครับ “ แบรดดี้ ที่แอคติ้งเหมือนจะลุ้นเอาตุ๊กตาทอง ก็ทำหน้าตาออดออ้นหญิงสาวจนเธอใจออ่นแล้วยอมบอกออกไปว่า จุ๊บแจงจะพักอยู่ที่นี้ 7วัน แบรดดี้ได้ยินแบบนั้นก็บุ๊ก7วันเหมือนกัน ทางโรวงแรมเลยได้เงินเพิ่ม ที่นี้ละวินๆทั้งสองฝ่าย
ติ่ดๆ
เสียงเปิดประตูห้อง 303 ซึ่งก็เป็นห้องของจุ๊บแจง
" ไอ้บ้ากามตามมาถึงนี้เลยเหรอเนี่ย ตายจริงฉันจะทำยังไงดีว่ะเนี่ย หรือว่าเราจะให้เขานอนด้วยซะ แล้วอะไรๆจะได้จบๆ" จุ๊บแจงบ่นกับตัวเองคนเดียว เมื่อเธอนึกถึงคำพูดของพี่ๆที่ทำงานด้วย ที่แบรดดี้ ยังไม่เลิกยุ่งกับเธอเพราะเขายังไม่ได้สิ่งที่ต้องการแต่เมื่อไหร่ที่เขาได้แล้ว เขาจะไม่มายุ่งหรือแม้แต่เห็นหน้าอีก แต่เธอไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะอยากได้เธอมาก มากจนต้องตามเธอมาถึงเมืองไทย