ตอนที่ 5
“ปล่อยไอย่านะ! ไอ้โจรบ้ากาม”
“แกนี่อึดจริงๆ ไอ้หนุ่ม แต่ถ้าฉันไม่ทำตามความต้องการล่ะ น้ำหน้าอย่างแกจะทำอะไรฉันได้” ขุนโจรร้ายถามอย่างดูถูกในความไม่ประมาณตนของหนุ่มน้อยตรงหน้า แล้วยังตอกย้ำฝังความโกรธแค้นซ้ำลงไป ด้วยการกดจมูกบนแก้มหอมนุ่ม พร้อมความเสียดายด้วยใบหน้าสาวน้อยมีผ้าบางขวางกั้นอยู่
ขุนโจรร้ายมองเจ้าบ่าวหนุ่มวัยกระเตาะที่ทำท่าทางง่ำๆ ฮึ่มๆ จะกระโจนใส่อย่างกับสุนัขจนตรอกที่ต้องสู้จนหลังชนฝาด้วยความหงุดหงิดระคนรำคาญใจ
“ไอ้เจ้าหนุ่มนี่มันรักเธอมากสินะเมียจ๋า” ฮิบรานเอ่ยกับคนในอ้อมแขนเสียงหวาน แต่ปลายสายตาเกรี้ยวกราดดุร้ายไปมองอันเดซาอีด้วยความไม่พอใจอย่างรุนแรง
“ฉันไม่ค่อยชอบให้ใครมายุ่มย่ามกับข้าวของที่เป็นของฉันเสียด้วยสิ!” รักมากก็ต้องมีความพยายามมาก...ไอ้หนุ่มนี่ต้องตามรังควาญเขา เพื่อแย่งชิงสาวน้อยในอ้อมแขนนี้ไป ไม่มีทาง! อย่างนี้ควรตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลมเสียจะดีกว่า
ทั้งที่รายรอบกายเต็มไปด้วยเสียงอึกทึกครึกโครมจากการหนีตายกันจ้าละหวั่น ไหนจะเสียงกรีดร้องของความเจ็บปวดและตกใจ แต่ทำไมเขาถึงได้รู้สึกเหมือนรอบกายเงียบสนิทไร้แม้กระทั่งเสียงลมพัด
“ซีกัลป์!!!”
เสียงของใสๆ ของใครบางคนก็ดังสอดแทรกเข้ามากระทบโสตประสาท พร้อมความเจ็บปวดกึ่งกลางทรวงอกก่อนแผ่ขยายไปทั่ว และเมื่อก้มดูก็ได้ว่าเสื้อสีขาวเริ่มมีสีแดงแต่งแต้ม ค่อยๆ ขยายจนใหญ่จนเสื้อที่ใส่เปียกชุ่ม ก่อนร่างหนาทรุดลงกองนอนบนพื้น ขณะที่สายตาจับจ้องมองไปที่ขุนโจรร้ายซึ่งตะโกนโหวกเหวกสั่งลูกน้องให้ล่าถอย พร้อมพาเอาดวงใจของเขาไปด้วย!
นี่สินะ...คำสาปที่โอซามุมอบให้ ความรักที่ไม่มีวันสมหวัง ดวงใจถูกพรากไปโดยที่เขาช่วยเหลืออะไรไม่ได้เลย แต่ไม่...เขาไม่มีวันยอมแพ้ ต่อให้ร่างกายต้องแหลกละเอียดเป็นผุยผงก็จะตามเอาหัวใจคืนมา
รอนะ...ไอซาย่า อดทนรอสักนิด ฉันจะรีบเอาความเจ็บนี้ออกไป แล้วจะตามหาเธอให้เจอ...ดวงใจของฉัน!
อันเดซาอียื่นไปไขว่คว้าร่างเล็กบอบบาง ที่ค่อยๆ ลอยหายไปจนลับและหนังตาที่ปิดลง เมื่อความเจ็บปวดแผ่ขยายไปทั่วร่าง พร้อมสติสัมปชัญญะที่ขาดหายไป!
“ไอซาย่า!!”
เสียงร้องดังออกมาจากคนที่นอนกระสับกระส่ายไปมาบนเตียงนอนใหญ่ ผวาลุกขึ้นพร้อมยื่นมือไปไขว่คว้า เพื่อจับรั้งแขนของหญิงในชุดสีขาวบริสุทธิ์ซึ่งถูกเงาสีดำกระชากพรากไปจากอ้อมอก ทว่าสิ่งที่ได้กลับคืนมากลายเป็นความว่างเปล่าจนใจหาย ที่มาพร้อมกับความจริงซึ่งเขาไม่อยากรับรู้…การสูญเสียคนรักไปอย่างไม่มีวันกลับ!
กรามหนาขบกัดจนแก้มตอบนูนขึ้นสัน นัยน์ตาเป็นประกายกร้าวแข็งเจิดจ้า เขาไม่อยากนอนหลับแม้แต่น้อย ทว่าร่างกายคนเรามิใช่เครื่องจักร ที่ยิ่งใช้การทำงานหนักเพื่อดึงเวลาคิดถึงหญิงสาวที่ถูกพรากไป เลยโดนประท้วงจนไม่รู้ตัวว่าเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ก่อนจะต้องตื่นมาเพราะ...ฝันร้าย! คอยตามหลอกหลอนทุกครั้งที่หลับตาลง
ศีรษะทุยสะบัดส่ายไล่ความมึนงงออกไป พลางลุกขึ้นเดินไปหยุดที่หน้าต่าง ทอดสายตามองออกไปเบื้องนอก
ดึกสงัดราตรีมืดมิดไร้แสงจากดวงจันทรา มีเพียงดวงดาราส่องกะพริบให้แก่เหล่านักเดินทางยามค่ำคืนเฉกเช่นทุกค่ำคืน ถึงเวลาที่เขาต้องเดินทางตามล่าควานหาจอมโจรผู้พรากดวงใจไปอย่างไม่มีวันกลับคืนมาอีกครั้ง แม้ยากจะพบเจอได้โดยง่าย แต่อันเดซาอีก็ไม่เคยทำให้ย่อท้อ วันเวลาไม่ได้ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างลบเลือนไปจากใจ แต่กลับตอกย้ำให้มุ่งมั่นมากกว่าเดิมหลายเท่านัก ถ้าไม่ได้เห็นเจ้าหัวหน้าโจรใจบาปนั่นตายต่อหน้าต่อตาด้วยสองมือนี้...เขาไม่มีวันหายแค้น!
อันเดซาอีหมุนตัวเดินกลับไปยังตู้ผ้า แสงจากไฟห้องน้ำที่เปิดอยู่สะท้อนกระจก ทำให้เห็นเงาร่างหนาแกร่งกำยำ ไหล่กว้างอกผึ่งผาย ซึ่งมีรอยตำหนิเป็นจุดเล็กๆ ที่ตอกย้ำมิให้เขาลืมเหตุการณ์ร้าย กรามหนาขบกัดจนแก้มตอบนูนขึ้นสัน นัยน์ตาเข้มจัดเป็นประกายแข็งกร้าวและดุ ราวกับเหยี่ยวร้ายแห่งท้องทะเลทราย
เวลาผ่านพ้นนานเกือบยี่สิบปีที่จะครบรอบในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่ใจเขากลับรู้สึกเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง วันที่ต้องสูญเสียทุกสิ่งอย่าง...
จากที่เคยคิดเอาไว้ เมื่อหายจากอาการบาดเจ็บ จะเร่งรุดไปตามหาและช่วยเหลือเธอจากเงื้อมมือโจรร้าย แต่ใครจะคิดเล่า เขาบาดเจ็บเจียนตาย ต้องนอนรักษาตัวอยู่เป็นแรมเดือน เมื่อลุกขึ้นได้หัวใจก็แทบจะขาดรอนจากข่าวร้ายที่ได้รับรู้...
คนรักถูกพรากไปอย่างไร้ข่าวคราว แม้เฝ้ารอด้วยความหวัง แต่นานวันเข้าทุกอย่างก็ยิ่งเลือนราง ยังจะมีบางครั้งเหมือนหูจะแว่วไปกับสายลมที่ดังมา คล้ายจะนำเอาคำล่ำลาของไอซาย่ามาบอก
“รักษาตัวเองให้ดีๆ นะซีกัลป์ ชาตินี้เราไร้วาสนาต้องจากลากันแล้ว หากแม้มีชาติหน้าจริงๆ ไอย่าจะขอรักและเป็นภรรยาของซีกัลป์ จะไม่ยอมให้อะไรหรือสิ่งใดมาพรากเราจากกันได้อีก”
เพียงแค่คิดว่า นับจากนี้เขาจะไม่ได้เจอกับไอซาย่าอีก หัวใจก็เจ็บปวดราวกับถูกคมแก้วแตกบาดเฉือน
ไม่เพียงแค่คนรักถูกแย่งชิงไป บ้านหลังใหญ่ที่เคยอาศัยตั้งแต่เด็กก็ยังถูกเผาจนวอดวายทิ้งไว้เพียงแค่เถ้าถ่าน ไหนจะหลานชายอายุเจ็ดขวบที่หายสาบสูญไปโดยไม่รู้ชะตากรรมอีกล่ะ แม้พยายามตามหาแต่ก็ไม่เคยล่วงรู้ข่าวคราว รวมถึงญาติๆ หลายคนและ...บิดาเขาเองก็ถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม ทำให้มารดากลายเป็นคนเศร้าซึม สุขภาพไม่ดี สามวันดีสี่วันไข้และนอนฝันร้ายอยู่บ่อยครั้ง
วิถีชีวิตที่เคยมีความสุขสะดวกสบายต้องเปลี่ยนแปลงไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ สายสัมพันธ์สองบ้านขาดสะบั้น เมื่อบิดาและมารดาของไอซาย่าโทษว่าเป็นความผิดของเขา ทำให้เกิดเรื่องร้ายพรากลูกสาวสุดที่รักจากไป ส่วนเขานอกจากความเจ็บร้าวลึกฝังแน่นในดวงจิต ก็ยังต้องแบกรับความผิดที่เกิดขึ้น กลายเป็นบาดแผลที่มิอาจลืมเลือนได้
ข้าวของเสียหายไป ยังไงก็สามารถซ่อมแซมหรือหามาทดแทนกันได้ แต่ดวงใจที่แหลกสลาย เปรียบเสมือนแก้วที่แตกร้าว ไม่ว่าจะทำอย่างไร ก็มิอาจกลับมาเป็นเฉกเช่นเดิม!
หนทางสำหรับคนสูญเสียเช่นเขามีให้เลือกไม่มากนัก แต่ถึงเลือกได้เขาก็ยังเลือกที่จะติดตามไล่ล่าทำลายที่พำนักและชีวิตเหล่าสมุนขุนโจรผู้โหดร้ายนั่นอยู่ดี ทว่าติดตามมานานแรมปีก็ไม่เคยได้ข่าวจอมโจรฮิบรานเลยสักนิด ค่ำคืนนี้หวังว่าโทยาเอกัลป์ตาจะปรานี ทำให้เขาได้ล่วงรู้ข่าวคราวไอ้เจ้าโจรร้ายนั้นบ้าง
เสื้อป่านสีดำยาวเลยไปถึงเข่าถูกสวมลงบนกายแกร่ง ตามติดด้วยการนำเอาปืนพกแนบไว้ที่ข้อเท้า ใช้ผ้าพันไว้อีกรอบหนึ่ง ถึงจะใส่รองเท้าหนังเนื้อนุ่มและพันซ้ำอีกรอบ ขยับดูถึงความแน่นของอาวุธที่ยามเดินทางต้องคล่องแคล่วว่องไว
การเดินทางรอนแรมกลางทะเลทราย อาวุธคู่กายไม่ควรมีชิ้นเดียว ชายหนุ่มจึงเปิดลิ้นชักหยิบเอาปืนอีกกระบอกมาเกี่ยวไว้กับเชือกหนังเส้นหนาคงทนผูกรัดไว้ที่สะเอว และยังมีดาบโค้งราวกับพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวเกี่ยวไว้ใกล้ๆ กัน หยิบเอาผ้าสีดำสนิทพันบนศีรษะรวมถึงใบหน้า จนเหลือเพียงแค่ลูกตาสีดำสนิทราวกับนิล เพียงเท่านี้ก็พร้อมสำหรับการเดินทางไปตามล่าขุนโจรร้าย ส่วนหนึ่งเพื่อแก้แค้นและอีกส่วนเพื่อป้องกันมิให้สินค้าถูกฉกชิงไปด้วย!