นายแพทย์จิรายุ(วายุ)

1296 Words
หลายเดือนผ่านไป ภายในห้องพักแพทย์ หมอหนุ่มนั่งเหม่อด้วยใบหน้า ที่ไม่สามารถคาดเดาความรู้สึกได้ เมื่อบิดามารดาให้เขาเดินทาง ไปรับนุชวรากลับมาที่เมืองไทย และดูเหมือนว่าเธอนั้นจะรู้เห็นเป็นใจ เมื่อหญิงสาวเองก็ปรารถนาอยากแต่งงานกับเขาให้เร็วที่สุด ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เสียงคนเคาะประตูดังขึ้น ก่อนที่จะมีร่างอรชรของหมอสาว เดินเข้ามาภายในห้องพักแพทย์ พร้อมกับฉีกยิ้มกว้างให้กับหมอหนุ่ม เธอชื่อว่าแพรวกนก หญิงสาวเป็นหมอที่เรียนจบมาพร้อมกับหมอวายุ เธอเป็นศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการผ่าตัด การวินิจฉัยโรคที่แม่นยำเก่งพอๆ กับหมอวายุ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสูตินรีเวชศาสตร์ จึงทำให้คนไข้ และเพื่อนแพทย์ด้วยกัน ยอมรับในความอัจฉริยะของคนทั้งคู่ เธอจึงมีความสนิทสนมกับหมอจิรายุในระดับหนึ่ง "ทำไมทำหน้าเครียดจังค่ะ คุณหมอ" หมอแพรวเอ่ยถามออกมาเสียงหวาน ก่อนจะนั่งลงข้างๆ หมอหนุ่ม ในขณะที่เขากำลังจับจ้องมองแผ่นภาพอัลตร้าซาวด์ด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม ซึ่งฉายแววความเครียดออกมาอย่างชัดเจน "คนไข้รายนี้เป็นเคสพิเศษเหรอคะ ทำไมดูคุณหมอใส่ใจในรายละเอียดมากจัง หรือว่าสนิทกันมาก่อน" หมอสาวถึงกับถามออกมาด้วยความแปลกใจ ซึ่งมีไม่กี่ครั้งที่หมอวายุ จะนั่งมองแผ่นอัลตร้าซาวด์คนไข้ในห้องพักแพทย์ยาวนานขนาดนี้ ในขณะที่ใบหน้าของเขาดูเคร่งขรึมเป็นกังวลใจเหมือนกับคนไข้รายนี้มีความสำคัญกับเขามาก "ถ้าเธอต้องตัดมดลูกทิ้ง โอกาสที่จะมีลูกเป็นศูนย์เลยนะครับ" ที่หมอวายุพูดออกมาแบบนั้น เพราะเขาเป็นคนตรวจภายใน และซักประวัติฝนสุดา จึงทราบถึงความเป็นมา ที่สำคัญเธอไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลยในชีวิต การคิดที่จะมีลูกมันจึงเป็นเรื่องใหญ่ เพราะถ้าหากทำกิ๊ฟต์ หญิงสาวก็จะกลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ซึ่งมันไม่แฟร์กับชีวิตของเด็กที่กำลังจะเกิดมาลืมตาดูโลก เพราะเขาจะไม่มีทางรู้ด้วยซ้ำ ว่าบิดาที่ให้กำเนิดนั้นเป็นใคร "ความจริงถ้าเธอมีแฟนอยู่แล้ว ถ้าหากอยากมีลูกก็สามารถมีได้ แพรวเคยเจอเคสแบบนี้มาก่อน ให้คนไข้เป็นคนตัดสินใจดีกว่านะคะ เธออยากจะมีลูกหรือเปล่า" หมอสาวพูดพร้อมกับหยิบผลไม้เข้าปาก แม้จะรู้สึกแปลกๆ ที่หมอวายุเป็นกังวลกับอนาคตของคนไข้ แต่เธอก็พยายามสลัดมันทิ้งไป เพราะส่วนใหญ่แพทย์ก็ต้องนึกถึง ผลที่จะตามมาหลังจากการรักษาของคนไข้เป็นสำคัญอยู่แล้ว ~ฝนสุดา~ หญิงสาวเดินทางมาฟังผลตรวจ ด้วยความรู้สึกตื่นเต้น เมื่อเธอรู้สึกหวั่นใจกลัวว่าตัวเองจะกลายเป็นโรคร้ายรักษาไม่หาย น้องคงต้องอยู่เดียวดาย ซึ่งหญิงสาวคงยอมรับความจริงข้อนี้ไม่ได้ "เชิญคุณฝนสุดา ปัญญาเป็นเลิศค่ะ" เมื่อได้ยินคุณพยาบาลเรียก ฝนสุดาค่อยๆ ลุกขึ้น แล้วเดินเข้าไปในห้องเพื่อพบแพทย์ ที่นัดมาฟังผลตรวจด้วยหัวใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ "เชิญนั่งครับ" "ขอบคุณค่ะ" หญิงสาวกล่าวขอบคุณเขาออกไปด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา จนหมอหนุ่มสัมผัสได้ถึงความกลัว นั่นคงเป็นเพราะว่า เธอกำลังจดจ่ออยู่กับผลตรวจ "ผลตรวจออกมาแล้วนะครับ นี่คือผลอัลตร้าซาวด์ หมออยากแนะนำให้คุณรีบมีบุตร ก่อนที่จะถูกตัดมดลูกทิ้ง เพราะเนื้องอกในมดลูกจะโตขึ้นเรื่อยๆ มันเสี่ยงต่อโรคร้ายมากเลยนะครับ" คำบอกเล่าจากคุณหมอ ทำให้ฝนสุดาหูอื้อไปชั่วขณะ เธอจะมีลูกได้ยังไง ในเมื่อหญิงยังไม่เคยมีแฟนเลย และที่สำคัญเธอยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าจะตัดสินใจเรื่องนี้ยังไงดี เนื่องจากการมีบุตรมันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนั่นหมายถึงเธอต้องรับผิดชอบชีวิตของเด็กคนหนึ่ง ให้ความรักความอบอุ่นพร้อมที่จะเติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ พร้อมที่จะเผชิญโลกนี้เพียงลำพังได้ เมื่อวันที่เขาไม่มีเธอ "ฉันขอกลับไปคิดดูก่อนได้ไหมคะ เรื่องนี้มันใหญ่พอสมควร เพราะตอนนี้ฉันยังไม่มีแฟน การที่จะมีบุตรได้นั้น มันจึงเป็นเรื่องยากสำหรับฉันมาก" ฝนสุดาตัดสินใจพูดไปตามความเป็นจริง ซึ่งเธอเคยให้ข้อมูลเขาไปแล้วครั้งหนึ่ง ตอนที่มาตรวจ "คุณสนใจทำกิ๊ฟต์ไหมล่ะครับ ผมยินดีทำให้เพราะเห็นใจที่คุณจะไม่สามารถมีบุตรได้ หากต้องตัดมดลูกทิ้งไป" หมอหนุ่มเริ่มทางเลือกให้กับหญิง ในขณะที่แววตาของเขาฉายแววเจ้าเล่ห์ออกมาอย่างชัดเจน จนยากแท้หยั่งถึง ซึ่งมันมีนัยซ่อนเอาไว้ ในขณะที่ฝนสุดาไม่ได้สังเกต เธอมัวแต่ก้มมองลงต่ำ เพราะกังวลในสิ่งที่กำลังเผชิญ "แล้วฉันจะใช้สเปิร์มจากไหนละคะ" ฝนสุดาพอจะทราบรายละเอียดในการทำกิ๊ฟต์อยู่บ้าง ภายในใจของเธอมันเริ่มขัดแย้งกัน อีกใจหนึ่งก็อยากมีลูก เผื่ออนาคตข้างหน้าจะได้พึ่งพา ในยามแก่ตัวลง แต่อีกใจก็เป็นกังวล ถ้าหากลูกถาม ว่าบิดาคือใคร เธอจะตอบลูกได้ยังไง ถ้าหากลูกจะต้องกำเนิดเกิดมาจากสเปิร์มของใครก็ไม่รู้ "ทางโรงพยาบาลของเรามีธนาคารสเปิร์ม รับรองว่าคุณจะได้สเปิร์มที่แข็งแรงที่สุด ครั้งแรกก็ติดแล้วไม่ต้องเป็นกังวล" "ฉันไม่ได้กังวลเรื่องสเปิร์มหรอกค่ะ แต่ที่ฉันเป็นกังวลก็คือ ถ้าวันหนึ่งลูกถามว่าพ่อของเขาเป็นใครฉันจะตอบลูกได้ยังไง ฉันสงสารลูก ที่เขาเกิดมาแล้วไม่รู้ว่าพ่อเป็นใคร ฉันควรจะทำยังไงดีค่ะหมอ" ฝนสุดาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ดวงตากลมโตเริ่มแดง เธอพยายามกะพริบตาถี่ๆ เพื่อไม่ให้น้ำตาคลอหน่วยไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย เมื่อกำลังคิดว่าลูกน้อยของเธอจะต้องกำพร้าบิดา ตั้งแต่เริ่มปฏิสนธิในครรภ์ นายแพทย์หนุ่มถึงกับอึ้ง ไม่คิดว่าเธอจะซึ้งได้ถึงเพียงนี้ ขนาดยังไม่มีลูกฝนสุดายังห่วงใยเจ้าตัวเล็กมากกว่าตัวเอง ความรู้สึกแบบนี้ มันอาจจะเกิดได้กับแม่ทุกคน แต่หญิงสาวตรงหน้าไม่เคยมีแฟนมาก่อน ทำไมเธอถึงคิดการณ์ไกล ยิ่งได้รู้จักเธอหมอวายุก็ยิ่งรู้สึกดีต่อเธอ เขายังคงจำรอยยิ้มของฝนสุดาได้ไม่เคยลืม ครั้งแรกที่ได้พบกับเธอบนเครื่องบิน กับการเดินทางไปยุโรปครานั้น ใบหน้าและรอยยิ้มของหญิงสาวยังคงตราตรึงใจเขาตราบจนถึงทุกวันนี้ "คุณกลับไปคิดให้ดีก่อน พร้อมที่จะมีลูกหรือยัง สำหรับเรื่องสเปิร์มถ้าวันหนึ่งลูกของคุณถาม ว่าพ่อของเขาคือใคร คุณสบายใจได้ ให้เขากลับมาเอาคำตอบที่ผม" น้ำเสียงของหมอหนุ่ม แฝงไปด้วยความรู้สึกหนักแน่นน่าเชื่อถือ เขาดูเคร่งขรึมจนน่าเกรงขาม พร้อมกับการยืนกราน ห้ามโต้แย้งใดๆ จนฝนสุดาเดาไม่ออก ว่าทำไมเขาถึงจะมีคำตอบให้กับลูกของเธอ คำพูดอาการและท่าทางของหมอหนุ่มนั้น เหมือนกับจงใจอยากให้หญิงสาวทำกิ๊ฟต์ด้วยซ้ำไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD