บทที่ 1
2077 Words
“หนูดี ทำไมลูกถึงทำแบบนี้!?”
ภาพเหตุการณ์ ตัดกลับมาที่ปัจจุบัน
อันที่จริง อุบัติเหตุเกิดขึ้นเมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว
ทว่าตอนนี้สาวน้อยกลับโดนเฉ่งเป็นที่เรียบร้อย
เพราะตัวเองหนีออกจากบ้านในยามวิกาล เพื่อไปดื่มสังสรรค์กับเพื่อน ทั้งที่อายุยังไม่ถึงยี่สิบ (ความผิดหนึ่งกระทง) มิหนำซ้ำ ยังเป็นตัวต้นเหตุ ทำให้ว่าที่คู่หมั้นโดนรถชน แม้ว่าจะโดนชนทั้งคู่ แต่คนที่บาดเจ็บเยอะสุด ก็คือคู่หมั้น
ยังดีที่รถแพง (รถราคาพันล้าน!) เซฟตี้เลยดีเยี่ยม
ไม่อย่างนั้น คงได้ไปนอนเฝ้าพระอินทร์แบบแพ็คคู่
“ป๊าไม่โอเคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คราวนี้หนูดีทำผิดจริงๆ” ผู้เป็นพ่อต่อว่าลูกสาวคนเล็ก ขณะที่พี่ชายสองคนยืนประกบ พร้อมกับญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ที่มากันเกือบสิบชีวิต ไหนจะตำรวจ ไหนจะคู่กรณี ดูวุ่นวายวาไรตี้สุดๆ ไปเลย
“หนูดี ลูกรู้ไหม ว่าพี่รามเขาต้องเย็บแผลกี่ร้อยเข็ม?”
หม่าม้าเอ่ยถามลูกสาว ที่ยืนมองความวุ่นวายทั้งหมด
“(ส่ายหน้า) หนูดีรู้เพียงแค่ว่า หนูดีไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้พี่เขาเจ็บตัว หนูดีขอโทษทุกคนนะคะ” สาวน้อยยกมือไหว้ขอโทษทุกคน โดยเฉพาะพ่อแม่ของฝ่ายชาย ที่เป็นเพื่อนสนิทระหว่างสองตระกูล ท่านทั้งสองพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ และไม่ถือโทษโกรธว่าที่ลูกสะใภ้ เพราะเข้าใจว่าคงไม่มีใครอยากให้อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้น จึงเข้ามาช่วยกอดปลอบขวัญอีกแรง
“แต่ยังไงเสีย หนูดีก็ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองทำ”
ป๊ายังคงคาดโทษหนัก พี่ชายทั้งสองคน จึงเข้ามาช่วย
“จัดการเลยป๊า ลงโทษเด็กดื้อ เอาให้หนักๆ”
“สร้างเรื่องขนาดนี้ อย่าปล่อยไปนะครับป๊า”
พี่น้องแท้ๆ ต้องช่วยซ้ำเติม ไม่ใช่ช่วยเหลือสินะ (T~T)
“ครั้งนี้ป๊าไม่ปล่อยไปแน่ ตลอดเวลาที่ผ่านมา ป๊าให้ท้ายหนูดีจนเสียคน แต่หลังจากนี้ ป๊าจะให้รามสูรเป็นคนกำราบ ถ้ายังไม่เชื่อฟัง ป๊าจะให้หนูดีแต่งงานกับรามสูรทันที”
“ดะ เดี๋ยวค่ะป๊า หนูดียังเรียนไม่จบเลยนะคะ”
“ดื้อขนาดนี้ ต่อให้เรียนยังไงก็เรียนไม่จบหรอก”
‘พี่เนม’ พี่ชายคนกลางพูดแทรก เพราะรู้จักนิสัยของน้องสาวตัวเองดี ว่าหัวดื้อขนาดไหน ถึงขั้นหนีเที่ยวสถานบันเทิงทั้งที่อายุยังไม่ถึงเกณฑ์ ถือว่าดื้อเกินเบอร์ไปมากจริงๆ
“ผมเห็นด้วยกับป๊า”
‘พี่นนท์’ พี่ชายคนโตสนับสนุนความเห็นของป๊า ทั้งที่เอ่ยปากมาโดยตลอด ว่ายังไม่อยากให้น้องสาวแต่งงานก่อนตัวเอง เพราะหวง และเป็นห่วง แต่พอเกิดเหตุการณ์นี้ กลับยุให้น้องสาวแต่งงานกับเพื่อนสนิท พี่รามสูรกับพี่นนท์ เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก จนตอนนี้ทั้งคู่อายุ ‘สามสิบแปด’ แล้ว
“แต่หนูดีคิดว่า การผลักภาระหน้าที่ ให้คนเจ็บมาควบคุมพฤติกรรมเด็กดื้อ ไม่ใช่ทางออกที่ดีเลยนะคะ” สาวน้อยพูดอย่างมีเหตุมีผล ทว่าสามหนุ่ม สามรุ่น กลับยกมือขึ้นกอดอกอย่างพร้อมเพรียงกัน จังหวะนั้น คนเจ็บที่เพิ่งจะเย็บแผลเสร็จ เดินออกมาพอดิบพอดี สภาพของเขาดูยับเอาเรื่อง
ตอนโดนชน รถถูกอัดจนกระจกแตก บาดเนื้อตัวฝ่ายชาย โดยเฉพาะแขนขวากับขาขวา และแผ่นหลัง ที่บาดลึกลากยาว แม้ว่าเขาจะไม่ส่งเสียงร้องโอดโอย แต่บาดแผลค่อนข้างน่ากลัว เห็นตอนแรกเธอยังเกือบวูบ เพราะเลือดสีแดงสด อาบชุ่มเสื้อเชิ้ตสีขาวที่เขาสวมใส่ ใครเห็นก็ต้องตกใจ
“ป๊าต้องขอโทษแทนลูกสาวด้วยนะ”
ทันทีที่ลูกเขยในอนาคตเดินออกมา พ่อก็รีบจับแขนลูกสาวตัวแสบ ไปขอโทษว่าที่สามี และครอบครัวของเขา ที่มีพี่ชายอีกสองคนมาเสริม (หล่อทั้งบ้าน พี่รามสูรเป็นน้องเล็ก)
“หนูดี”
ผู้เป็นพ่อเรียกชื่อ ให้ลูกสาวยกมือไหว้ขอโทษพี่รามสูร
“หนูดีขอโทษค่ะ”
สาวน้อยยกมือไหว้ ประหนึ่งนางสาวไทยประกวดมารยาทงาม พลางทำสีหน้ารู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งอีกฝ่ายก็ตอบรับคำขอโทษ โดยการรับไหว้ เพราะอยู่ต่อหน้าญาติผู้ใหญ่ และพ่อแม่ของตัวเอง แต่ถ้าอยู่กันสองต่อสอง เธอมั่นใจว่าเขาจะเมินคำขอโทษ และเดินหนีไป เพราะเขาไม่ชอบเด็กก๋ากั่นอย่างเธอ แต่ต้องจำใจเป็นคู่หมั้น เพราะผู้ใหญ่สองฝ่าย สัญญาเอาไว้ ว่าจะให้ลูกชายกับลูกสาวแต่งงานกัน
หวยจึงมาออกที่เราสองคน ซึ่งเป็นน้องเล็กของสองตระกูล ตอนแรก เธอจะได้คู่กับพี่เจ้าสัว พี่ใหญ่ของ ‘ตระกูล วงศ์วิวัฒน์ศนันท์' แต่ด้วยอายุที่ห่างกันจนเกินไป เลยถูกเปลี่ยนเป็นพี่นรสิงห์ พี่รองของตระกูล ทว่าเขากลับปฏิเสธที่จะเป็นคู่หมั้น แล้วยกเธอให้น้องชายคนเล็ก นั่นก็คือ พี่รามสูร
เป็นผู้หญิง ที่ผู้ชายเกี่ยงกันไม่เอา น่าเศร้าจริงๆ (T~T)
“รามสูรติดไหม ถ้าป๊าจะขอให้หนูดีไปอยู่ด้วยสักสามเดือน” ระหว่างที่กำลังคิดถึงเรื่องที่น่าเศร้า สาวน้อยรีบหันขวับไปมองผู้เป็นพ่อ ที่เสนอตัวให้ลูกสาวไปอยู่กับว่าที่ลูกเขย
“แค่ช่วงปิดเทอมเท่านั้น ช่วยกำราบลูกสาวให้ป๊าที”
ป๊าเอ่ยปากขอ ทว่าลูกสาวกลับส่ายหน้าไม่เห็นด้วย
“มะ ไม่ดีมั้งคะป๊า พี่เขายังเจ็บอยู่เลย อย่าเอาหนูดีไปทำให้พี่รามสูรลำบากใจเลยนะคะ” เสียงหวานน่ารัก พูดกับผู้เป็นพ่อให้เปลี่ยนความคิดเสียใหม่ ถึงเธอจะมองคู่หมั้นเป็นหนุ่มหล่อ น่าขย้ำ แต่ถ้าให้ไปอยู่ด้วยกัน มีหวังได้ถูกขย้ำเสียเอง เวลาเขานิ่งก็นิ่งมาก แต่เวลาเขาดุบอกเลยว่าน่ากลัวสุดๆ
“ได้ครับ”
จู่ๆ ฝ่ายชายก็ตอบตกลง ทำเอาสาวน้อยถึงกับยืนอึ้งไปสามวินาที ก่อนจะถูกคนในครอบครัว จัดแจงใส่พานถวาย
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นไวมากค่ะ คุณกิตติ (-0-!)
รู้ตัวอีกที ก็มาอยู่ที่คอนโดของคู่หมั้นเสียแล้ว
“ลุงรามน่าจะอยู่ดูอาการที่โรงพยาบาลก่อนนะคะ”
สรรพนามเดิม ถูกนำกลับมาใช้ เมื่ออยู่กันสองต่อสอง
เหตุผลที่เรียกว่า ‘ลุง’ เพราะเขาแก่กว่าเธอยี่สิบปี จบ!
“โกรธหนูดีหรือเปล่า?”
สาวน้อยยังคงตั้งคำถาม ขณะที่เดินตามร่างสูงต้อยๆ
“ถ้าโกรธ ลุงรามน่าจะปฏิเสธป๊าไป ไม่น่าพาหนูดีมาอยู่ด้วยเลย รบกวนพื้นที่ส่วนตัวเปล่าๆ” เสียงเจื้อยแจ้วยังคงพูดไม่หยุด พลางกวาดสายตามองห้องพักขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่ในคอนโดมิเนียมสุดหรู ถูกตกแต่งคุมโทนสีดำ บ่งบอกถึงความชอบของเจ้าของห้อง ที่ดูเก็บตัวลึกลับ มีเสน่ห์แบบลึกๆ
[ลึกมาก จนมองไม่เห็น เพราะเขาค่อนข้างรักสันโดษ]
“มีห้องนอนแค่ห้องเดียว”
เจ้าของร่างสูงใหญ่กำยำ หันกลับมาประจันหน้า แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง พลางกดสายตามองคนตัวเล็ก (เตี้ย)
“อุ้ย~ ไม่ต้องให้หนูดีนอนในห้องก็ได้ค่ะ หนูดีเกรงใจ”
“แหงละ เพราะโซฟาในห้องรับแขกคือที่นอนของเธอ”
อะ อ้าว นึกว่าจะใจดี เจอแบบนี้ ถึงกับยิ้มแห้งเลยเรา
ออดดด!
เสียงกดออดดังขึ้น กระเป๋าเดินทาง น่าจะมาถึงแล้ว
“ไปรับกระเป๋า แล้วรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ เหม็น”
เอิ่ม…เหม็นที่เขาหมายถึง คือเหม็นกลิ่นแอลกอฮอล์ใช่ไหม เพราะถ้าเหม็นกลิ่นตัว คงทำให้เธอเสียศูนย์ตั้งแต่วันแรก แม้ว่านิสัยจะเปรี้ยวซ่า แต่กลิ่นตัวหอมลาเวนเดอร์นะคะ
ไม่เชื่อ ลองเอาหน้ามาซุกร่องนม ถ้าตายเดี๋ยวพาไปเผา แถมสวดอภิธรรมให้สิบวันเพราะเป็นการตายแบบพลีชีพ
“อาบน้ำด้วยกันไหมคะ?”
พอได้กระเป๋าเสื้อผ้า เธอก็ไม่ลืมที่จะเอ่ยปากชวนคู่หมั้น ที่ชะงักฝีเท้าหน้าประตูห้องนอน แล้วหันกลับมาพูดใส่
“ยังไม่สร่างเมาอีกหรือไง?”
“สร่างแล้วค่ะ หนูดีแค่ถามเป็นมารยาท เผื่อคุณว่าที่สามีอยากจะไปอาบน้ำป๋อมแป๋มด้วยกัน แต่ดูจากสีหน้าแล้ว คำตอบชัดเจนว่าไม่ งั้นหนูดีขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ จุ๊บ~”
สาวน้อยส่งจูบ เพื่อทำลายบรรยากาศอึดอัด ก่อนจะเดินตัวปลิวไปเข้าห้องน้ำ โดยที่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายยืนกลั้นอารมณ์
ซ่าาาา~
น้ำอุ่นจากฝักบัวสีเงิน ชโลมเรือนร่างอรชรอ้อนแอ้น ไร้อาภรณ์ ระหว่างนั้น เพลงสากลที่มีกลิ่นอายความเซ็กซี่ อย่างเพลง Leave the door open ก็บรรเลงเสียงดนตรีจากสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด สร้างบรรยากาศให้สาวน้อยที่สร่างเมาแล้ว ได้เพลิดเพลินไปกับการชำระล้างร่างกาย ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ซึ่งกินเวลาไปเกือบชั่วโมง ในการอาบน้ำครั้งนี้
“โอ๊ะ~”
กระต่ายน้อยแสนซน ที่เพิ่งอาบน้ำจนหอมฟุ้ง อุทานด้วยน้ำเสียงน่ารัก พลางจ้องมองเจ้าของห้อง ที่ยืนสูบบุหรี่อยู่นอกระเบียง ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาตีสี่จะตี่ห้าแล้ว (เกือบเช้า!)
ทันทีที่เห็นคู่หมั้นยังไม่นอน คนตัวเล็กในชุดคลุมอาบน้ำสีชมพูหวานแหวว ก็รีบวิ่งดุ๊กดิ๊กไปหยิบรองเท้าปุยนุ่ม ลายกระต่ายน้อยมาสวมใส่ แล้วเดินกึ่งวิ่งไปหาชายด้านนอก
“จ๊ะเอ๋ คุณว่าที่สามี~”
ดวงหน้าจิ้มลิ้มน่ารัก โผล่หัวออกไปทักทายด้วยความทะเล้น ตอนนี้เธอปล่อยผมแกะที่เปียกหมาดๆ จากการสระนวด ให้เส้นไหมสีน้ำตาลประกายสวยยาวสลวยลงมาถึงไหล่
“ทำไมยังไม่ไปนอนพักอีกคะ?”
เสียงอ่อนนุ่มเอ่ยถาม พร้อมกับย้ายร่างในชุดคลุมอาบน้ำ ออกไปยืนรับลมด้านนอก ทว่าอีกฝ่ายกลับดันไหล่บอบบางให้คนตัวเล็กกลับเข้าไปข้างใน แล้วปิดประตูใส่หน้า
“หือ?”
เด็กสาวเอียงคอเล็กน้อยด้วยความสงสัย แต่พอเห็นฝ่ายชายรีบดับเปลวเพลิงบริเวณปลายบุหรี่ ก็รู้ทันที ว่าเขาไม่อยากให้เธอสูดดมควันบุหรี่เข้าปอด ถึงได้ห้ามไม่ให้ออกไปข้างนอก ขณะที่เขากำลังผ่อนคลายตัวเองด้วยสารพิษเหล่านี้
จะว่าไปแล้ว เขาก็เป็นคนดีเหมือนกันนะเนี่ย~
ตอนเกิดอุบัติเหตุ ก็เอาตัวเองมาปกป้อง จนบาดแผลเต็มตัวไปหมด ตอนนี้ก็ยังรับมาดูแล แม้ว่าจะเป็นการทำโทษที่เธอทำตัวดื้อด้าน แต่การมาอยู่กับเขาอาจจะเป็นเรื่องดีก็ได้
“ทำไมไม่ไปแต่งตัวให้เรียบร้อย?”
ประตูกระจกสีใสถูกเปิดออก ก่อนที่คนด้านนอกจะเอ่ยถาม เขายังสวมใส่ชุดเปื้อนเลือด แสดงว่ายังไม่ได้อาบน้ำ
“แล้วทำไมลุงยังไม่ไปอาบน้ำล่ะคะ?”
สาวน้อยถามกลับ พลางเดินดุ๊กดิ๊กตามหลังคนตัวสูง
“กำลัง”
ตอบเสียงเรียบ ขณะที่เขากำลังเดินกลับไปที่ห้องนอน
“เอ๋~ คงไม่ได้รอให้หนูช่วยถูหลังอยู่ใช่ไหมคะ?”
สองขายาวเหยียดหยุดชะงัก ทำเอาคนตัวเล็กเบรกไม่ทัน หน้าผากมนชนเข้ากับแผ่นหลัง (เอิ่ม…เรียกว่าชนเอวเลยดีกว่า เพราะเธอสูงแค่ร้อยห้าสิบ ส่วนเขา สูงเกือบสองเมตร!)
“โอ๊ะ!”
คนตัวใหญ่หันกลับมา แล้วกดสายตาคมกริบมองต่ำ
“เมื่อไหร่จะเลิกพูดจาแบบนี้”
“แบบนี้คือแบบไหนเหรอคะ?”
กระต่ายน้อยตีหน้ามึน ทั้งที่รู้ตัวดี ว่าชอบพูดจาสองแง่สามง่าม โดยเฉพาะกับเพศตรงข้าม ที่ชอบบริหารเสน่ห์ใส่
“ก็แบบที่พูดอยู่นี่ไง มันแก่แดด”
“ลุงไม่ชอบเด็กแก่แดดเหรอคะ?”
“ไม่ชอบ”
“ไม่ชอบก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่หนูดีชอบ”
พูดจบ เด็กสาวก็ส่งวิ้งค์ตาหวาน แล้วค่อยๆ ปลดสายชุดคลุมอาบน้ำ ต่อหน้าชายคู่หมั้น พอเขาเห็นเนินอกขาวอมชมพู ก็รีบหันหลัง แล้วเดินหนีกลับเข้าห้อง ด้วยความเร็วแสง
- Writer
