กว่าแรดแต่ละนางจะหาโอกาสแยกร่างจากผู้ชายของตัวเองมาพบปะสังสรรค์กับเพื่อนแรดนั้นยากเย็นแสนสาหัส ยกเว้นขม (แรดเชอรี่) กับขิงดอง (แรดฮา) ที่ยังไม่มีพันธะ เพราะนางพึ่งผ่านการผสมพันธุ์อย่างจริงจังเมื่อไม่นานมานี่เอง และเป็นเหตุผลสำคัญให้บรรดาแรดทั้งหลายมารวมตัวกันในครั้งนี้
“เพื่อนแรดมากันครบแล้ว! ไหนแกช่วยเล่าทุกรายละเอียด เอาแบบยิบย่อยให้พวกฉันฟังชัด ๆ ซินางขิง”
เปรี้ยว (แรดนางเอก) เริ่มประเด็นแทนเพื่อน ๆ แก๊งสตรีแรด ที่มีสมาชิกแรดทั้งหมดแปดนาง ได้แก่ แรดนางเอก (เปรี้ยว) แรดเงียบ (ข้าวเม่า) แรดมโน (อ๊บอ๊บ) แรดฮา (ขิงดอง) แรดสตรอง (โมรา) แรดเป (วิปครีม) แรดซุ่ม (ลูกขวัญ) และแรดเชอรี่ (ขม) ที่พึ่งมาถึงคนสุดท้ายในสภาพระโหยโรยแรงเหมือนเดินทางผ่านสมรภูมิรบเพื่อมาเจอกลุ่มเพื่อนแรด
“เอ่อ...คือ” ขิงดองทำกระมิดกระเมี้ยนนิด ๆ นั่งทำหน้าสวยหวานที่ไม่ได้เข้ากับบุคลิกของเจ้าตัวแดงระเรื่อ
ในบรรดากลุ่มเพื่อนสตรีแรดคงจะมีแต่เธอที่พึ่ง ‘เสียซิง’ เพราะภายใต้บุคลิกสวยเนี้ยบมีราคา เพื่อนแรดแต่ละนางล้วนผ่านประสบการณ์แรดมาอย่างโชกโชน เธอถึงต้องเรียกแรดรวมพลเพื่อขอคำปรึกษาจากบรรดาแรดตัวแม่ทั้งหลาย
“พวกแกอย่าจ้องสิ! พวกแกรุมจ้องกันตาถลนแบบนี้ ฉันพูดไม่ออกนะ!” ขิงดองเจ้าของเรื่องโวยวาย
นอกจากแรดสาวทั้งแปดที่นั่งประชุมเพลิงกัน ภายในรัศมีห้าเมตรของพื้นที่ใน ‘ร้านแซ่บจกครก’ ยังมีแขกของร้านคนอื่นนั่งอยู่ใกล้ ๆ และมองมายังเหล่าสาวงามทั้งแปดด้วยความสนอกสนใจ
“จ้องสิ! ตั้งแต่แกโดนของตาลุงเข้าไป ฉันว่าแกดูสวยเปล่งประกายกว่าตอนจิ้นอีกนะนางขิง” วิปครีม ไฮโซสาวเจ้าของฉายา (แรดเป) ทักความเปลี่ยนแปลงในด้านดีที่เธอสังเกตเห็นได้ชัดจากใบหน้าของขิงดอง เพื่อนสาวหน้าใสผู้พึ่งจะเสียซิงให้หนุ่มรุ่นพ่อ
“หน้าใสแบบนี้ แกพอกหน้าด้วยเซรุ่มทารก ใช่ปะ?” อ๊บอ๊บ (แรดมโน) เย้าเพื่อนสาวที่หน้าแดง เพราะตกเป็นเป้าสายตาของเพื่อนแรดทั้งเจ็ด
“เซรุ่มทารก? ของยี่ห้ออะไร? ทำไมไม่เคยได้ยิน?” ลูกขวัญ (แรดซุ่ม) ตามเพื่อนไม่ทัน เพราะในบรรดาแรดทั้งแปดเธอคือ แรดไร้เดียงสาในภาคทฤษฎีเรื่องเพศที่สุด ส่วนภาคปฏิบัติไร้เดียงสาที่สุดคือขิงดองซึ่งเก่งกาจแต่ทางทฤษฎี เพราะมีคู่หูอย่างสาวขมสุดเผ็ดคอยพิสูจน์ข้อสงสัยทุกกรณีเรื่องเพศศึกษาแทนเพื่อนเลิฟ
“แกคงไม่เคยโดนแตกใส่หน้าล่ะสิถึงไม่รู้จักเซรุ่มทารก นางลูกขวัญ” ขม (แรดเชอรี่) พูดจบก็หยิบขาปูม้าในจานส้มตำมาดูดเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย
“พูดเรื่องอื่นกันได้ไหม ฉันกินไม่ลง” เปรี้ยวแว้ดเพื่อน ๆ ที่กำลังเริ่มจะชวนกันสนทนาเข้าเรื่องติดเรต
“นังนางเอก! ที่นี่ไม่มีกล้องกับสปอตไลต์ แกไม่ต้องห่วงภาพพจน์ แหม... กินไม่ลง ฟาดส้มตำปูม้าคนเดียวหมดจาน คงกินลงหรอกนะ!”
ขมเหน็บเปรี้ยวเพราะตัวเองมาช้าที่สุด อาหารที่สั่งมาบางส่วนก็เริ่มร่อยหรอลง
“นี่ตกลงพวกเราจะมาแดก หรือมาช่วยนางขิงหาทางแก้กรรมวะ?”
ข้าวเม่า(แรดเงียบ) แผดเสียงขึ้นบ้าง หลังจากกินจนท้องเริ่มตึง
“เออ! นั่นสิ... แล้วนี่แกโดนยังไงบ้าง... นางขิง! เฮ้ย... พูดผิด! แกไปพลาดอีท่าไหน?” โมรา (แรดสตรอง) วกมาถามเพื่อนแรดผู้ประสบปัญหา
“ฉันว่าเราไปคุยกันที่อื่นไหม? ร้านนี้คนเยอะไปนะ”
ขิงดองเริ่มระอาบรรดาเพื่อนแรดที่พากันเซ้าซี้ แย่งกันพูดจนความตั้งใจที่จะเรียกมาระดมสมองคงตกไป เพราะแต่ละคนส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวด้วยความดีอกดีใจที่ได้เจอเพื่อน ๆ
“ท่าทางปัญหาของแกคงจริงจังระดับท็อปนะ คุยกันวันนี้ก็ไม่จบ” เปรี้ยวพูดพลางมองหน้าขิงดองอย่างจริงจัง
“แกอยากหาเรื่องไปเที่ยวเกาะพงันอีกแล้วใช่ไหมนางเชอรี่?”
ข้าวเม่า (แรดเงียบ) พูดดักคอออกมาอย่างรู้ทันแม่เชอรี่
“อ๊าย! แกนี่ รู้ใจฉันทุกทีเลย น่าร๊าก...” เชอรี่ทำกระดี๊กระด๊าเหมือนปลากระดี่จะได้เจอน้ำ แรดสาวเผ็ดสุดโผเข้ากอดข้าวเม่าแล้วทำท่าปากจู๋
“ไม่ต้องมาจุ๊บ!” ข้าวเม่าดันใบหน้าของเพื่อนรักออก
“โอย... พวกแกนี่จริง ๆ เลย ช่วยเงียบ ๆ กันหน่อยได้ไหม ตกลงวันนี้ฉันจะได้ฟังนางขิงมันพูดรึเปล่านี่ฮะ?”
“หยุด!... ห้ามพูดเรื่องซีเรียสต่อหน้าจานส้มตำ!”
“ใช่ ๆ นาง...พูดถูก กรุณาอย่าบั่นทอนรสชาติอาหารจานโปรดตอนนี้ ให้ฉันจกส้มตำหมดค่อยพูด”
“สรุปว่าที่พวกแกมากันเนี่ย พวกแกอยากชวนมาจกส้มตำหรือเรียกมาระดมสมองตอบ!” ปากก็ต่อว่ากันไปมา ส่วนมือของแต่ละนางล้วนสาละวนอยู่กับอาหารบนโต๊ะเหมือนกลัวจะกินไม่ทันเพื่อน
“เอางี้... จะไปเกาะพงันเมื่อไหร่บอกด้วย ฉันจะได้เปลี่ยนตารางการทำงานโว้ย...” เปรี้ยวเริ่มประเด็น
“วันที่สิบสี่ สิบห้า สิบหกแล้วค่อยกลับสิบเจ็ดนะ นาน ๆ เจอกันที” เชอรี่พูดขึ้นมาทันที
“ใครมีปัญหาไหม ฉันปิดกองพอดี ไม่ติดถ่ายละคร แต่... แล้วที่ฉันนัดกับพี่ดอย...” เปรี้ยวขยับปากเอ่ยถึงสามี
“หยุด...” ขิงดองยกมือขึ้นห้าม
“งานนี้ไม่มีผัว จบนะ...” ทุกคนต่างพยักหน้า เปรี้ยวทำปากงอนจนจะชิดกับจมูก กลับไปบ้านโดนพี่ดอยจัดแน่งานนี้
แรดนางสาวพอยิ้มออก แต่แรดที่ตอนนี้มาใช้คำนำหน้าว่านางเริ่มยิ้มแห้ง ๆ แต่สุดท้ายทุกคนก็ตกลงใจไปพงันกัน
“โอเค ตามนี่นะ ใครเบี้ยว ฮึ... มีเฮ” เชอรี่ทำหน้าตามุ่งมั่น
ณ ท่าเรือเกาะพงัน
“แกดูผู้ชายคนนั้นสิ หล่อลากไส้ ซู้ด...” อ๊บอ๊บชี้ให้เพื่อนดูฝรั่งหนุ่มหล่อล่ำกล้ามใหญ่ที่กำลังเดินแทรกตัวจากกลุ่มสาว ๆ แล้วเดินออกไป แค่เขาหันมามองพวกเธอแค่เสี้ยวเดียว แรดมโนก็มโนไปได้อีก
“พวกแก เขาส่งซิกให้ฉัน” อ๊บอ๊บพูดขึ้นทำตาลอย
“ค่ะ / ค่ะ” เสียงเปรี้ยวกับขมพูดขึ้นพร้อม ๆ กัน ทำเสียงสูง
“อย่าชักช้านะพวกแก ฉันจะเปลี่ยนใส่บิกินีแล้วลงหน้าหาด” เชอรี่ทำส่ายสะบัดตัวเหมือนซาบซ่านขึ้นมาเต็มหัวใจ
“อีหรี่... งานนี้มีภารกิจนะโว้ย เอาเรื่องยายขิงก่อน” เปรี้ยวดักคอเหมือนเคย
“เอ่อ... รู้แล้วนะ” ขมหันมาค้อนตากลับ แต่ก็หันไปผสมโรงกับอ๊บอ๊บชี้ชวนกันดูผู้ชายตามสัญชาตญาณแรดหื่นต่อไป
“รีสอร์ตผัวใครวะ น่าอยู่เป็นบ้า”
“ไปถามดูสิ มีลูกชายหรือเปล่าจะได้ลากมากินในนี้”
“เฮ้ย... เอาแบบแปดรุมหนึ่งเลยดีไหม”
หลังจากนั้นเสียงหัวเราะและการแข่งขันทอล์กแอนด์เมาท์ก็ดังลั่นไปทั้งวิลล่าที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัวหลังใหญ่
แรดสาวต่างเล่าเรื่องราวของตัวเองหลังจากที่แยกย้ายกันไปในเส้นทางชีวิตของตนเองหลังจากเรียนจบ ม. หก