บริษัท
วายุกำลังนั่งถอนหายใจ เขาเป็นผู้ชายใจเย็นที่หัวร้อนเพราะผู้หญิงที่เขาดีลมาเป็นอีหนูคนโปรด ไอรดากล้าบล็อกเขาทุกช่องทาง แบบนี้มันใช่เหรอ เขาไม่ได้ทำผิดด้วยซ้ำ ไม่มีโอกาสอธิบายเลย
ตอนที่เธอเข้าหาไอรดาพูดอะไรก็เชื่อฟังทุกอย่าง มีดื้อรั้นบ้างแต่ไม่เคยเมินเฉยใส่กัน เธอยืนยันจะจีบเขาต่อ บอกว่าเขาคือคนที่ใช่ไม่สนอะไรทั้งนั้น กระทั่งคืนที่ตกเป็นของกันและกัน ไอรดาก็ยังยอมทำตามทุกอย่างที่เขาบอก
เขาชอบคนว่านอนสอนง่าย แต่หงุดหงิดใจทุกครั้งที่ไอรดายอมทำตามเขาไปซะทุกอย่าง บอกไม่ให้หึงก็ไม่เคยหึง บอกไม่ให้หวงก็ทำ เธอต้องบ้าแล้วแน่ ๆ ที่เมินคนที่นอนด้วยได้ แถมตัดเขาออกจากชีวิตอย่างง่ายดาย
ชายหนุ่มนั่งคิดไม่ตก อยากไปหาไอรดาเสียตอนนี้แต่ทำไม่ได้เพราะหน้าที่ของตัวเอง การโดดงานไปง้อผู้หญิงมันไม่ใช่สิ่งที่ควรทำนัก ภาระงานไม่เอื้ออำนวยเขาในตอนนี้
เสียงเรียกเข้าดังดึงสติวายุให้กลับมาอยู่กับตัว เขากดรับเมื่อเห็นว่าแม่โทรมา
‘แกทำเรื่องงามหน้าอะไรไว้วายุ!’ คุณเอมอรดุลูกชายทันทีที่รับสาย
“ทำอะไรครับแม่” คนโดนแม่ดุยกโทรศัพท์ออกห่างจากหู เขานึกอยู่ครู่หนึ่งแต่ก็ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดไว้
‘แกเลี้ยงผู้หญิงเหรอ ตอบมา!’ นึกหน้าไอรดาแล้วท่านนึกสงสาร
“แม่รู้ได้ยังไงครับ” วายุประหลาดใจมากกว่าเก่าเพราะเรื่องนี้เขาไม่ได้บอกใครเลย
‘นั่นไง แกนี่มันจริง ๆ เลยนะวายุ ใช้เงินฟาดหัวผู้หญิงมันใช้ได้ที่ไหน แม่รู้นะว่าแกซื้อคอนโดให้ผู้หญิง แกจะคบใครทำไมไม่ทำให้มันถูกต้อง’
“ผมไม่ได้อยากคบใคร ผมยังอยากใช้ชีวิตอิสระ”
งานเยอะขนาดนี้มีคนรักจะต้องทะเลาะกันแน่นอน เขาบ้างานคงไม่เหมาะกับการมีคนรักแบบจริงจัง เพราะผู้หญิงล้วนงี่เง่ากันแทบทุกคน
‘กรี๊ด! แกพูดอะไรออกมา เห็นแก่ตัวที่สุด แม่หนูคนนั้นน่าสงสารมากที่มาเจอคนอย่างแกตาวายุ’ เสียงแหลมกรี๊ดลอดโทรศัพท์ ตามด้วยเสียงบ่นแกมด่ากลาย ๆ จนวายุต้องยกให้ห่างหู
“แม่รู้อะไรมาครับ” เขาจับใจความได้เพียงแค่น่าสงสาร
‘มิราตามไปอาละวาดทำร้ายคนของแก แม่บังเอิญไปเห็นเข้า แกนี่มันน่าตีให้หลังแอ่น จะมีแฟนทำไมไม่บอกแม่ก่อน เรื่องหมั้นจะทำยังไงทีนี้’ คุณเอมอรถอนหายใจ
“หมั้นอะไรครับ” วายุเสียงแข็งขึ้นเมื่อแม่เริ่มเอ่ยถึงสิ่งที่เขาไม่ชอบ
‘กลับบ้านมาค่อยคุยเถอะ ปวดหัวเหลือเกินตอนนี้ ไปดูแม่หนูคนนั้นด้วย โดนด่าไม่พอโดนทำร้ายอีก คงเสียใจมาก’
ลูกชายท่านรู้อะไรบ้าง ผู้หญิงทิ้งก็สมควรแล้ว เขาบล็อกขนาดนี้ยังไม่หาวิธีอื่นง้อ
“ไอเป็นอะไรครับ” วายุเป็นกังวล นึกห่วงไปเสียหมด ลูกสาวเพื่อนแม่เอาสิทธิ์อะไรไปทำร้ายคนของเขา เพราะแบบนี้สินะ ไอรดาถึงเข้าใจผิด
‘ห่วงมากทำไมไม่ดูแลให้ดี อย่าทำตัวโง่ให้มากเลยก่อนที่แม่จะโมโหไปมากกว่านี้’ หากอยู่ใกล้ท่านจะบิดให้หูขาด
“พรุ่งนี้ผมถึงกลับบ้านนะครับ คืนนี้ผมเคลียร์งาน”
ชายหนุ่มได้ยินเสียงบ่นก็รีบตัดบทสนทนา
‘โกหก…’ ตู๊ด!!! พูดจบวายุก็ตัดสายบุพการีในทันที แม่เขารู้เยอะขนาดนี้ คงไม่ต้องไปนั่งอธิบายอะไร เลี้ยงไอรดาคนเดียวมันจะเป็นไรไป
วายุไม่ทันได้พักโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานก็ดัง
“คุณมิรามาขอพบครับ” เลขาหนุ่มแจ้งกับท่านประธานหนุ่ม เทวามองแขกที่มาขอพบอย่างเหนื่อยหน่าย
“แจ้งไหมว่ามาติดต่อเรื่องอะไร” วายุมองงานบนโต๊ะ เขาคำนวณดูแล้วว่าพอคุยได้ อยากรู้เหมือนกันว่ามาทำไม ปกติเขาไม่ได้สนิทกับอีกฝ่ายอยู่แล้ว
“บอกมีเรื่องจะมาแจ้งครับ ขอเวลาไม่นาน” เทวารายงานตามที่หญิงสาวสั่ง
“บอกไปว่าสะดวกแค่สิบนาที” ร่างสูงเอนหลังพิงเก้าอี้
เทวารับคำสั่งเสร็จ เขาแจ้งกับมิราไม่นาน หญิงสาวก็เข้ามาในห้องทำงานของคนที่ตนเองหมายตา เธอรีบตรงมาหาเขาทันทีเพราะจะเอาเรื่องที่เจอมาเล่า คนฉลาดแบบวายุต้องโกรธมากแน่นอน คนอย่างเขาไม่มีทางชอบผู้หญิงหิวเงินอย่างไอรดา
“มีธุระอะไรคุณว่ามาเลย” อารมณ์ขุ่นมัวของเขาส่งผลให้น้ำเสียงที่เอ่ยห้วนจัด
“ผู้หญิงของพี่วายุหาเรื่องมิราค่ะ เธอมาอวดว่านอนกับพี่ไม่กี่ครั้งได้คอนโด พี่วายุหลงมากหลอกอะไรก็ได้หมด มิราไม่รู้ว่าเขารู้จักมิราได้ยังไง แต่เขาดูไม่ชอบมิรามาก”
มิราเล่าด้วยการเอ่ยถึงไอรดาในทางไม่ดี
คอยดูเถอะเธอจะเอาเรื่องนี้ไปบอกคุณป้าเอมอร คราวนี้ไอรดามันจะต้องอยู่ไม่เป็นสุขแน่
“…” วายุมองหน้าคนเล่าด้วยท่าทีเงียบสงบ ไม่ได้เอ่ยขัดแต่อย่างใด ฟังจากหลายมุมดู
“มิราแอบถ่ายรูปผู้หญิงคนนั้นมาด้วยนะคะ คนนี้แหละที่เข้ามาหาเรื่อง” เห็นอีกฝ่ายเฉยก็รีบเปิดรูปที่สั่งคนแอบถ่ายให้วายุดู
ในภาพเห็นเพียงใบหน้าบางมุมของไอรดาเท่านั้น..
“แต่ที่ผมรู้คุณเป็นคนไปหาเรื่องไอ แล้วไม่ต้องเรียกผมว่าพี่ ผมลูกคนเดียว” หาเรื่องจนเขาซวยไปด้วย
“มันมาฟ้องเหรอคะ คุณวายุเชื่อมันมากว่ามิราได้ยังไงคะ มันตั้งใจมาปอกลอก” มิราคาดเดา หญิงสาวใบหน้าแดงเถือกเพราะโกรธที่วายุหลงไอรดา เธออุตส่าห์ขุดหาเรื่องราวน่ารังเกียจของอีกฝ่าย
“ถ้าไอจะหลอกผม นั่นก็คือปัญหาของผมไม่ใช่ของคุณ หมดเวลาแล้วคุณออกไปได้แล้ว” เจ้าของบริษัทลุกจากเก้าอี้ทำงาน
วายุรำคาญมาก คนประเภทมิรา….
“แต่เรากำลังจะหมั้นกัน ไม่กี่วันก่อนน้าเอมกับคุณแม่คุยกันแล้ว คุณคงไม่ทำให้ผู้ใหญ่ผิดใจกันหรอกนะคะ”
มิราไม่ยอมแพ้ยกเรื่องราวที่ผู้ใหญ่คุยกันมาอ้าง
อย่างไรเสียวายุก็ต้องแต่งงานกับเธอ ส่วนผู้หญิงหิวเงินคนนั้นเธอจะหาทางกำจัด
“ออกไป” เสียงเย็นสั่งอีกรอบ
ใบหน้ามืดครึ้มกับงานหมั้น ไม่รู้แม่คิดอะไรถึงได้ไปพูดเรื่องงานหมั้น หากไอรดารู้ต้องมีปัญหาแน่นอน ป่านนี้ไม่รู้เป็นอย่างไรบ้าง…
หย่อนระเบิดทิ้งไอรดาก็เดินเที่ยวสบายใจ ขากลับแวะซื้อชาไข่มุกฝากคนในบริษัทด้วย เธอเดินเข้ามาพร้อมกับส่งยิ้มทักทายเพื่อนร่วมงาน
“อ้าว ไอลาพักร้อนไม่ใช่เหรอ” นุนีทักเพื่อนร่วมงาน แม้อีกฝ่ายจะเป็นหัวหน้าแล้ว แต่ความเป็นเพื่อนยังคงเช่นเดิม
“ไอผ่านมาแถวนี้ ซื้อชาไข่มุกมาฝาก” เธอวางถุงชาไข่มุกบนโต๊ะ
“ว่าแต่กับคุณวายุเป็นไงบ้าง” ลันตาแอบเดินมากระซิบถามเพราะคืนที่ไปเที่ยวด้วยกัน ไอรดากลับกับคุณวายุ
เรื่องไอรดาตามจีบวายุตั้งแต่จบงานอีเวนต์ ทุกคนในทีมรู้หมด ลันตากับนุนียังคอยส่งกำลังใจและช่วยส่งเสริมเพื่อนเสมอ
“คุยบ้างไม่คุยบ้าง ไอไม่อยากตื๊อใคร” ไอรดารู้สึกว่าชื่อวายุจะวนเวียนอยู่รอบตัวของเธอไม่จบสิ้น
“แสดงว่าได้คบแล้วเหรอ” นุนีทำตาโตเป็นประกายยินดีกับเพื่อน
“ไม่ใช่สักหน่อย แอบแซ่บเฉย ๆ” หญิงสาวแอบกระซิบเบา ๆ ไม่ได้บอกถึงความสัมพันธ์ลับ บอกเพียงแค่เรื่องคืนนั้น
“หู้ย เริ่ด ว่าแล้วคืนนั้นต้องไม่รอดมือ” นุนียกนิ้วให้เพื่อน ไอรดาสวยมากจะพลาดได้อย่างไร
“งู้ยยยย ฟิน จบเคสนี้แล้วมาช่วยลันบ้างนะ เล็งคุณเตชอยู่”
ลันตานึกถึงเจ้าของบริษัทน้ำอัดลมแล้วเคลิ้ม ผู้ชายอะไรหล่อจนใจเจ็บ
“เค ๆ งั้นไอกลับก่อนนะ ฝากชาไข่มุกให้บอสกับคนในทีมด้วย วันจันทร์หน้าเจอกัน”
“เค ขอบใจมาก” ลันตากับนุนีขอบคุณเพื่อนก่อนจะนั่งทำงานของตัวเองต่อ
พวกเธอสามคนมารู้จักกันที่ทำงาน ด้วยนิสัยหลายอย่างคล้ายคลึงกัน จึงสนิทและกลายเป็นเพื่อนมาจนปัจจุบันนี้