“คุณพ่อว่าอะไรนะคะ บ้านเรากำลังจะล้มละลาย!”
เสียงตกใจของลูกสาวดังเข้ามาในวงสนทนา หลังจากบิดาตัดสินใจบอกกับคนในครอบครัวด้วยความรู้สึกผิด เพราะตนเองเผลอเข้าไปเล่นการพนันจนเป็นหนี้ก้อนโต เอรีน่า ชนาวัฒน์โสภณพัตร
นางร้ายหน้าเหวี่ยงแสดงสีหน้าไม่พอใจขึ้นมาทันที หลังจากเห็นบิดาพยักหน้าตอบรับคำถามของเธอผู้เป็นลูกสาว
“ใช่ลูก พ่อกำลังจะถูกฟ้อง” คุณเอริคแสดงสีหน้าสลด มองหน้าลูกสาวกับภรรยาเด็กสลับกันหลังจากพูดจบ
“ทำไมคะ เกิดอะไรขึ้น” เอรีน่าถามด้วยความใจเย็นเท่าที่จะทำได้ แต่มือทั้งสองข้างกำแน่น คิ้วผูกกันเป็นปม เริ่มใจเสียเมื่อเห็นบิดาไม่กล้าสู้หน้าตนเอง คุณเอริคสูดลมหายใจเข้าปอดก่อนจะเอ่ยปากบอกลูกสาวตามตรง
“พ่อติดหนี้การพนัน”
“คุณพ่อ!”
“พ่อขอโทษ พ่อไม่รู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้”
“น้องบอกคุณพี่แล้วใช่ไหม อย่าลงเงินเยอะ หึ เป็นไงล่ะ จนกันหมดทั้งบ้าน” ภรรยาคนใหม่ของคุณเอริคเอ่ยด้วยน้ำเสียงประชดประชัน เธอเป็นคนชวนสามีเข้าวงการพนันก็จริง แต่เธอก็เตือนเขาแล้วว่าอย่าลงเงินเยอะ เป็นไงล่ะทีนี้ถึงกับหมดตัว
“ไม่ใช่เพราะเธอหรอกเหรอ พี่ถึงเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการพนัน”
“อย่ามาโทษน้องนะคะ คุณพี่นั่นแหละโลภมากเอง”
“หมายความว่ายังไง คุณเป็นคนพาพ่อฉันเข้าไปยุ่งกับการพนันเหรอ”
“ก็พ่อของเธอโง่เองนี่ ช่วยไม่ได้ เอาเป็นว่าน้องขอหย่าค่ะ ช่วยหย่าให้ด้วย”
กระดาษที่มีผลต่อทางกฎหมายถูกดึงออกมาจากซองเอกสาร พร้อมด้วยปากกาหนึ่งด้ามเพื่อให้สามีซึ่งมีอายุมากกว่าหลายปีลงลายมือชื่อยินยอม คุณเอริคมองภรรยาสาวที่แต่งงานได้ไม่กี่ปีด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจคาดไม่ถึงว่าภรรยาจะทำกันแบบนี้ ก่อนจะค่อย ๆ จรดปลายปากกาลงด้วยความจำยอม เห็นธาตุแท้กันขนาดนี้เขาเองก็ไม่อยากให้แสงอรุณเป็นภรรยาอีกต่อไป
ในขณะที่ลูกสาวคนโตอย่างเอรีน่าได้แต่ยืนกำหมัดแน่นมองแม่เลี้ยงใจร้ายด้วยความเคียดแค้นใจ เธอเคยเตือนบิดาแล้วให้ระวังผู้หญิงคนนี้ดี ๆ เพราะหล่อนไม่ได้รักท่านจริง แต่คุณเอริคกลับไม่เชื่อหนำซ้ำยังกล่าวหาลูกสาวว่าอคติภรรยาใหม่ด้วย
“ได้สิ่งที่ต้องการแล้วก็ออกไปจากบ้านของฉัน แล้วอย่ากลับมาเหยียบที่นี่อีก” นางร้ายแสนสวยตะโกนไล่แม่เลี้ยงหน้าดำหน้าแดงพลางชี้ไปทางประตูบ้านเพื่อให้เจ้าหล่อนออกไป
“ไม่ต้องไล่หรอก บ้านหลังนี้อีกไม่นานก็ถูกยึด แม้แต่เธอสองคนพ่อลูกก็จะไม่มีที่ซุกหัวนอน”
แสงอรุณเอ่ยก่อนจะสะบัดตูดลุกจากโซฟาแล้วเดินขึ้นไปบนห้องนอนเพื่อเก็บของย้ายออกไปจากบ้านหลังใหญ่ ไม่แม้แต่จะเห็นอกเห็นใจอดีตสามีที่นั่งคอตก ตอนนี้ในสมองของคนเป็นหนี้เต็มไปด้วยความเครียดเนื่องจากลูกชายคนเล็กกำลังเรียนต่ออยู่เมืองนอก ค่าใช้จ่ายที่ส่งไปให้อาเรสใช้ในแต่ละเดือนไม่ใช่น้อย ๆ น้ำตาเม็ดโตจึงไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
“พ่อขอโทษรีน่า พ่อขอโทษ” เขาโทษตัวเองด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ลูกสาวเห็นอย่างนั้นก็อดสงสารไม่ได้จริง ๆ ไหน ๆ เรื่องมันก็เกิดขึ้นแล้วก็ต้องช่วยกันแก้ไขปัญหา เธอจะไม่ยอมให้พ่ออยู่ในสภาวะล้มละลายแน่นอน และจะไม่ยอมให้น้องชายรู้เรื่องนี้เด็ดขาด ในฐานะพี่เธอต้องแก้ปัญหานี้ให้ได้
“ไม่เป็นไรนะคะคุณพ่อ รีน่าจะช่วยคุณพ่อเอง”
“ช่วยยังไง พ่อติดหนี้เขาเยอะมาก”
“คุณพ่อติดหนี้ใครคะ”
“แสนปิติ มหาโชคดำรงวรกุล”
หญิงสาวถึงกับหน้าถอดสีหลังจากได้ยินชื่อผู้ชายที่ตนเองแอบชอบ แสนปิติ คือเจ้าของธุรกิจ MDK Group บุรุษเนื้อหอมที่สาว ๆ หมายปองอยากถวายทั้งตัวและหัวใจกันถ้วนหน้าไม่เว้นเธอ
เอรีน่าหลงใหลได้ปลื้มชายหนุ่มตั้งแต่เข้าวงการบันเทิงใหม่ ๆ แต่ตอนนั้นเขามีแฟนแล้วเธอจึงตัดใจและคอยมองอยู่ห่าง ๆ จนกระทั่งแสนปิติเลิกกับแฟน ความหวังของเธอสว่างไสวขึ้นมาอีกครั้งเมื่อบริษัทของชายหนุ่มจ้างเธอเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าในเครือของบริษัท และอีกสองวันต่อจากนี้เธอก็กำลังจะเข้าไปเซ็นสัญญาครั้งที่สองหลังจากครั้งแรกผลงานเป็นที่น่าพอใจ ทางบริษัทจึงต้องการต่อสัญญาให้เธอเป็นพรีเซนเตอร์อีกหนึ่งปี
“คุณพ่อต้องเล่าเรื่องทั้งหมดให้รีน่าฟังแล้วค่ะ รีน่าจะหาทางช่วยคุณพ่อเอง”
“พ่อติดหนี้พนัน พ่อหมุนเงินไม่ทัน พ่อก็เลยไปขอยืมคุณแสน ตอนนี้เขาทวงเงินแล้ว ถ้าพ่อไม่คืนเขาจะฟ้องพ่อ”
“คุณพ่อติดหนี้คุณแสนกี่ล้าน”
“พ่อติดหนี้เขาทั้งหมดห้าสิบล้าน พ่อเอาโฉนดของบ้านหลังนี้ไปค้ำด้วย”
“ห้าสิบล้าน! คุณพ่อเอาโฉนดไปค้ำด้วย แล้วเขาให้เวลาเราหาเงินอีกนานแค่ไหนคะ”
“ไม่เกินสิ้นเดือนนี้ พ่อบอกเขาแล้วว่าเราจะค*****นทั้งหมดไม่เกินสิ้นเดือนนี้”
“สิ้นเดือนนี้! ไม่ทันหรอกค่ะ รีน่าต้องถ่ายละครหลายเรื่องมากถึงจะหาเงินได้เยอะขนาดนั้น”
“แล้วเราจะทำยังไงดีรีน่า พ่อจนหนทางแล้วจริง ๆ พ่อขอโทษ”
“เอาเป็นว่าเราขายของที่มีให้หมด ทั้งเครื่องเพชร กระเป๋า รองเท้า ได้เงินมาแค่ไหนก็แค่นั้นแล้วเดี๋ยวรีน่าจะเข้าไปเจรจากับคุณแสนเองค่ะ คุณพ่อใจเย็น ๆ อย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้ให้อาเรสรู้ เดี๋ยวน้องจะเครียด อีกไม่นานอาเรสก็เรียนจบแล้ว”
“ได้ลูก พ่อฝากลูกด้วยนะรีน่า พ่อขอโทษจริง ๆ พ่อขอโทษ”
คำขอโทษจากปากของบิดาไม่อาจทำให้ความเครียดและความไม่สบายใจของเอรีน่าลดน้อยลงเลย ถึงแม้ครอบครัวจะมีบริษัทเป็นของตัวเองแต่เป็นบริษัทเล็ก ๆ เท่านั้นเทียบไม่ติดกับบริษัทของแสนปิติ
หากถามว่าโกรธบิดาไหม เธอตอบได้เลยว่าโกรธ แต่ในฐานะลูกสาวคนโตไม่อาจนิ่งนอนใจปล่อยให้บิดาจัดการเรื่องนี้เพียงลำพัง ไหนจะน้องชายอีกเธอจะไม่ยอมให้ครอบครัวล้มลงเด็ดขาด ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนเพื่อหาเงินมาปลดหนี้เธอก็จะทำ พรุ่งนี้เธอจะเข้าไปคุยกับเขาตั้งแต่เช้า
MDK Group
เช้าวันต่อมาหญิงสาวขับรถคันหรูของตนเองมาจอดหน้าบริษัทของชายหนุ่มก่อนจะลงจากรถแล้วก้าวเท้าฉับ ๆ เข้าไปในตัวอาคารด้วยท่าทางของนางพญา ใบหน้าแต่งแต้มไปด้วยสีสันราวกับสาวมั่น ปากได้รูปเคลือบด้วยลิปสติกสีแดงซึ่งเป็นสีที่เธอชื่นชอบ ไม่นานนักเธอก็ขึ้นไปยังชั้นบนซึ่งเป็นห้องทำงานของแสนปิติ แม้จะไม่ได้นัดล่วงหน้าแต่เธอเชื่อว่าชายหนุ่มต้องให้เข้าพบอย่างแน่นอน
“สวัสดีค่ะคุณรสา”
รสาคือเลขาคนที่สองของแสนปิติ ด้วยงานที่มีมากมายทำให้เขาต้องมีเลขาถึงสองคนก็คือรสากับอินทิวา
เอรีน่าคุ้นเคยกับรสาเพราะคุยกันบ่อยในช่วงที่เธอมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้ MDK
“อ้าว สวัสดีค่ะคุณเอรีน่า วันนี้มาทำอะไรคะ”
“วันนี้รีน่ามาหาคุณแสนค่ะ ไม่ทราบว่าคุณแสนว่างไหม”
“ตอนนี้คุณแสนกำลังคุยกับลูกค้าต่างประเทศอยู่ค่ะ เดี๋ยวคุณเอรีน่านั่งรอสักครู่นะคะ”
“ได้ค่ะ งั้นขอนั่งรอตรงนี้นะคะ”
“ตามสบายเลยค่ะ”
เลขาแสนสวยของแสนปิติยิ้มหวานให้แก่ผู้มาเยือนก่อนจะเคาะประตูห้องทำงานของเจ้านายเบา ๆ แล้วเดินเข้าไปแจ้งเขา ครู่เดียวเธอก็ออกมาเชิญแขกสาวให้เข้าไปข้างในตามคำสั่งของแสนปิติ ผู้ที่มีนิสัยสุขุมเยือกเย็น ปากร้ายเป็นบางครั้ง สมองฉลาดเป็นกรด และเปลี่ยนคู่นอนไม่ซ้ำหน้า แต่ไม่ค่อยเป็นข่าวเพราะอำนาจของเงิน นับตั้งแต่เขาเลิกรากับอดีตแฟนก็ไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนอีกเลย
“สวัสดีค่ะคุณแสนปิติ”
“สวัสดีครับคุณเอรีน่า เชิญนั่งครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
หญิงสาวใจเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ หลังจากเดินเข้ามาในห้องของเจ้าหนี้หนุ่ม เมื่อได้ยินเขาอนุญาตให้นั่งเธอก็ค่อย ๆ เลื่อนเก้าอี้ตรงหน้าเขาแล้วนั่งลงพร้อมกับถอนหายใจออกมาเบา ๆ ถึงแม้ในใจจะหวาดกลัวแค่ไหนแต่เธอถอยไม่ได้แล้ว มือทั้งสองข้างของหญิงสาวที่ประสานกันอยู่บนตักจึงค่อนข้างเย็นเฉียบราวกับว่าเพิ่งไปสัมผัสน้ำแข็งมา
“คุณมาหาผมวันนี้เพราะเรื่อง...” แสนปิติมองคนตรงหน้าด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก เขาพอจะเดาได้ว่าเธอมาทำไม
“ฉันมาคุยเรื่องของคุณพ่อค่ะ” เอรีน่ายิ้มสู้
“อ้อ เรื่องนี้เองเหรอ ผมนึกว่าคุณมาหาเรื่องเป็นพรีเซนเตอร์ซะอีก” เขายิ้มร้าย ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ ถ้าเดาไม่ผิดเธอต้องมาประนีประนอมหนี้แน่นอน เงินตั้งมากมายคุณเอริคจะหามาจากไหน
นี่ก็ใกล้สิ้นเดือนแล้วด้วย จริง ๆ เขาไม่อยากให้ยืมเงินด้วยซ้ำแต่ไม่รู้ทำไมถึงได้ยอมให้บิดาของหญิงสาวมายืมเงิน ทั้งที่ไม่ได้สนิทชิดเชื้อกันเขาเองก็แปลกใจ ปกติคนอย่างแสนปิติไม่ให้ใครยืมเงินง่าย ๆ มีแต่คุณเอริคนี่แหละที่เขาไม่คิดมาก
“เรื่องนั้นเรานัดวันคุยกันแล้ว แต่เรื่องนี้ด่วนกว่า ฉันเลยมาหาคุณวันนี้ ต้องขอโทษที่ไม่ได้นัดล่วงหน้า”
ดาราสาวแสดงความเกรงใจผ่านสีหน้าและแววตา เธออายมากจริง ๆ ที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้แต่มันช่วยไม่ได้ ระหว่างหน้าตากับบิดาอย่างไรเสียเธอก็ต้องเลือกบิดา เธอเป็นนางร้ายในจอเท่านั้น ส่วนนอกจอโคตรจะเป็นนางฟ้า เสียอย่างเดียวใบหน้าเหวี่ยงไปหน่อยทำให้โดนข้อหาหยิ่งเป็นประจำ
“เอาเถอะ ผมไม่มีปัญหาหรอก แล้วคุณจะมาคุยอะไรกับผม” ชายหนุ่มวางปากกาในมือลงก่อนจะทำหน้าจริงจังเข้าประเด็น
“คือ ฉันพูดตรง ๆ นะคะ ฉันมาเพื่อขอยืดเวลาจ่ายหนี้ออกไปอีก” หญิงสาวเอ่ยตามตรง มองคนตรงข้ามด้วยหัวใจเต้นรัว และภาวนาขอให้เขายินยอมผ่อนปรน เธอรับรองไม่หนีแน่นอน ด้วยเกียรติของความเป็นบุคคลสาธารณะ
“ยืดระยะเวลาออกไป? นานแค่ไหน”
“หนึ่งปีค่ะ ฉันคิดว่าเวลาหนึ่งปี ฉันต้องมีเงินมาจ่ายคุณแสนครบทุกบาททุกสตางค์แน่นอน”
“แล้วผมจะได้อะไรจากเรื่องนี้ ผมเป็นนักธุรกิจนะครับคุณเอรีน่า แบบนี้ผมก็เสียผลประโยชน์สิ” น้ำเสียงของเขาเจ้าเล่ห์นัก หญิงสาวถึงกับพูดต่อไม่ถูกแต่ยังไม่ละความพยายาม เธอจึงเสนอออกไปโดยไม่คิดให้รอบคอบ ลืมไปว่าตอนนี้กำลังคุยกับใคร
“คุณอยากได้อะไรก็ว่ามาเลยค่ะ ฉันยินดีหามาให้คุณทุกอย่าง ขอแค่ยืดระยะเวลาออกไปก่อน”
“คุณแน่ใจนะว่าคุณจะให้ผมได้”
น้ำเสียงของเขาแปลก ๆ ทำให้หญิงสาวรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก แต่ทำเป็นใจดีสู้เสือข่มความกลัวเอาไว้ ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟเธอก็ยอมขอเพียงยืดระยะเวลาออกไปหนึ่งปีก็พอ เอรีน่าคิดว่าภายในหนึ่งปีตนเองต้องมีเงินมาจ่ายหนี้แสนปิติได้แน่ เพราะมีคนติดต่อให้เธอไปเล่นละครหลายเรื่อง
“แน่ใจค่ะ ขอแค่คุณแสนบอกมา ฉันทำให้ได้ทุกอย่าง”
“งั้นผมจะไม่อ้อมค้อม”
“ค่ะ คุณแสนบอกมาได้เลย”
“ผมต้องการให้คุณมาเป็นคู่นอนของผม”
“คู่นอน! หมายถึง...”
“ครับ ตามที่คุณคิด”
“ฉันว่ามันมากไปนะคะ”
“แล้วแต่ ถ้าคุณทำไม่ได้สิ้นเดือนนี้ก็เอาเงินมาพร้อมดอกเบี้ย”
“ดอกเบี้ยด้วยเหรอคะ”
เธอถามด้วยความตกใจ รู้สึกงานนี้ไม่ง่ายเลย แค่เงินต้นก็จะตายแล้ว นี่อะไรยังมีดอกเบี้ยอีก ตอนนี้เธอไม่รู้จะโกรธใครดีระหว่างเจ้าหนี้หน้าเลือดกับคุณพ่อสุดที่รักของตนเองจึงทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอเล็กน้อย แม้จะไม่พอใจแต่เธอก็ยังเก็บอาการได้ดี
แสนปิติเห็นอาการลังเลในดวงตาของคนตรงหน้าก็ยิ่งอยากเอาชนะ จริง ๆ คนอย่างแสนปิติไม่จำเป็นต้องมีนางบำเรอก็ได้ แต่ช่วงนี้เขามีความรู้สึกเบื่อ ๆ ไม่อยากเปลี่ยนคู่นอนบ่อย อยากลองมีคู่นอนแบบผูกปิ่นโตดูบ้างเผื่อความเบื่อจะหายไป เอรีน่าเข้ามาได้จังหวะพอดี
“ใช่ เงินต้นพร้อมดอกเบี้ย รวม ๆ ก็เกินห้าสิบล้าน เรื่องนี้คุณเอากลับไปคิดก่อนก็ได้”
“แล้วคุณแสนจะให้ฉันเป็นนางบำเรอนานแค่ไหน”
“ไม่มีกำหนด จนกว่าคุณจะหาเงินต้นมาให้ผมครบ ส่วนดอกก็คิดจากตัวคุณ”
“...” คำตอบเอาแต่ได้ของเขาทำเอาหญิงสาวเงียบไปชั่วครู่ สมองคิดไปคิดมาก็ตัดสินใจได้
“ว่าไงครับ คุณจะตกลงรับข้อเสนอของผมไหม”
“ได้ค่ะ ฉันตกลง รับรองไม่เกินปีนี้ฉันต้องหาเงินทั้งหมดมาคืนคุณแสนได้แน่”
“ดีมาก แต่เรื่องนี้ห้ามให้ใครรู้เด็ดขาด นอกจากคุณ ผม และลูกน้องคนสนิทของผมอีกหนึ่งคน”
“ไม่มีปัญหาค่ะ เพราะฉันก็ไม่อยากให้ใครรู้เหมือนกัน”
“อีกเรื่องที่ผมต้องเตือนคุณ”
“คุณแสนบอกมาได้เลย ฉันยินดีทำตามค่ะ”
“ห้ามหึงหวง ห้ามหลงรักผม ห้ามแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ต่อหน้าคนอื่นเราไม่สนิทกัน”
“ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา แล้วคุณแสนจะให้ฉันเริ่ม...เริ่มงานนั้นเมื่อไหร่”
“พรุ่งนี้ที่บ้านของผม”