วันเวลาผ่านไป
ช่วงสายของวันหนึ่งหลังจากเหมราชออกมาดูที่ดินแปลงใหม่ที่เขาเพิ่งซื้อเข้ามาและกำลังอยู่ในช่วงปรับแต่งหน้าดิน ขณะเดินทางกลับเขาให้สุทัศน์แวะร้านขนมเจ้าดังและสั่งซื้อขนมมาหลายชนิด
“ ขนมที่คุณเหมสั่งเรียบร้อยแล้วครับ ”
“ ขอบใจมากสุทัศน์ ”
“ คุณเหมไปที่ไหนต่อหรือเปล่าครับ ”
“ ไม่ กลับบ้านกันเลย ”
“ ครับคุณเหม ” สุทัศน์ขับรถออกจากร้านขนมมุ่งตรงกลับบ้านตามคำสั่ง ผ่านไปไม่นานรถก็เลี้ยวเข้าประตูบ้านตรงไปจอดหน้าเรือนหลังใหญ่ก่อนวิ่งลงมาเปิดประตูรถให้เหมราช
“ เดี๋ยวช่วยเอาขนมที่ซื้อมาไปให้เด็กน้ำหวานหน่อยนะ ”
“ ครับคุณเหม ” สุทัศน์รับคำสั่งก่อนขับรถไปเก็บที่จอดรถ
ส่วนน้ำหวานนั้นหลังจากช่วยป้าทำงานเสร็จ เธอมานั่งพักตรงสวนหน้าห้องนอนของป้า ปิดเทอมมาได้อาทิตย์กว่าแล้ว กิจวัตรประจำวันของเธอคือตื่นเช้ามาช่วยป้าแววทำงาน พอตกบ่ายก็เป็นเวลาพักผ่อนของเธอ อาจจะอ่านหนังสือหรือดูหนังดูละคร ส่วนช่วงเย็นก็ช่วยป้าแววกับแม่บ้านคนอื่น ๆ เตรียมอาหารเย็น เธอเป็นเด็กขยัน พูดเพราะและนิสัยดีจึงเป็นที่เอ็นดูของทุกคน
ป้าแววที่เพิ่งเก็บครัวเสร็จเดินมาหาหลานสาว
“ เหนื่อยกว่าไปโรงเรียนหรือเปล่า ”
“ ไม่เหนื่อยเลยจ้ะป้า อยู่โรงเรียนหนูต้องตื่นเช้ากว่านี้อีก ” เธอยิ้มหวาน ป้าแววยิ้มกว้าง ชื่นใจที่หลานสาวเป็นเด็กดีว่าง่าย ไม่เคยดื้อให้เหนื่อยใจเลยสักครั้ง
“ กลางวันนี้อยากกินอะไร ป้าจะทำให้ ”
“ หวานอยากกินไข่เจียวแหนมหอม ๆ กรอบ ๆ จ้ะป้า ”
“ ขอกินด้วยคนได้ไหม ” ป้าแววกับน้ำหวานหันไปมองตามเสียง เห็นสุทัศน์เดินยิ้มกว้างเข้ามา
“ อ้าว คุณเหมกลับมาแล้วเหรอ ” ป้าแววถาม
“ ครับป้า คุณเหมออกไปดูที่เสร็จก็ให้ผมพากลับเลย ”
“ แปลก หลายวันมานี้คุณเหมแกไม่ค่อยออกไปไหน อยู่แต่บ้าน ”
“ แกคงเบื่อน่ะป้า ให้เที่ยวทุกวันเป็นฉันก็คงเบื่อเหมือนกัน ”
“ แบบนี้พี่ทัศน์ไม่ชอบเหรอคะ ” น้ำหวานแกล้งแซว
“ ชอบสิอยู่บ้านได้กันกับข้าวฝีมือป้าแวว อร่อยกว่าร้านอาหารข้างนอกเป็นไหน ๆ ”
“ จ้า แหมมาปากหวานชมคนแก่ ” ป้าแววหัวเราะ
“ เออนี่ คุณเหมท่านซื้อมาฝากน้ำหวาน ” สุทัศน์ยื่นกล่องเค้กให้ น้ำหวานยื่นมือรับมา
“ ขอบคุณค่ะพี่ทัศน์ ”
“ ขนมเจ้าดังเลยนะ คุณเหมท่านเอ็นดูน้ำหวานมากเลย ไปไหนก็นึกถึงตลอด ”
“ แต่หนูเกรงใจคุณเหมมากเลย ท่านซื้อโน่นซื้อนี่ให้บ่อย ๆ ”
“ ไม่ต้องเกรงใจหรอก หนูเป็นเด็กดีแถมยังขยัน คุณเหมท่านคงเอ็นดูแหละ ” สุทัศน์กล่าว ส่วนป้าแววนั้นมีสีหน้าเคร่งขรึมทันทีด้วยความไม่สบายใจ ก็ได้แต่ภาวนาให้คุณเหมเอ็นดูน้ำหวานเหมือนน้องเหมือนหลานคนหนึ่ง อย่าคิดอะไรไปมากกว่านั้นเลย
เวลาสี่ทุ่มครึ่ง
แปลกที่คืนนี้ข่มตานอนอย่างไรน้ำหวานก็นอนไม่หลับเสียที อาจจะเป็นเพราะชาไทยโบราณที่น้านกชงแจกทุกคนตอนช่วงบ่ายก็เป็นได้ แม้จะมีคาเฟอีนน้อยกว่ากาแฟแต่สำหรับเธอที่ไม่เคยดื่มคาเฟอีนมันก็มีผลอยู่พอควร ส่วนป้าแววนั้นไม่ต้องพูดถึง เฝ้าพระอินทร์กรนดังไปตั้งแต่หัวถึงหมอน คาเฟอีนใด ๆ ก็ไม่มีผลต่อการนอนหลับของป้า
น้ำหวานหยิบโทรศัพท์มือถือมาดูเวลาพบว่าสี่ทุ่มครึ่ง อยากดูหนังสักเรื่องก็กลัวรบกวนป้า นอนพลิกไปมาชั่วครู่จึงตัดสินใจลุกขึ้นจากที่นอนคว้าเสื้อคลุมมาใส่ คิดเอาเองว่าการออกไปเดินเล่นข้างนอกอาจจะทำให้รู้สึกปลอดโปร่ง ได้รับลมและอากาศบริสุทธิ์แล้วอาจจะช่วยให้หลับได้ง่ายขึ้น
“ ลมเย็นสบายดีจัง ” เธอพึมพำพลางเดินทอดน่องรับลมเรื่อยมา รู้ตัวอีกทีก็อยู่ริมสระว่ายน้ำข้างเรือนใหญ่แล้ว
“ น้ำหวาน ” เสียงทุ้มต่ำเรียกชื่อของเธอในขณะที่เธอสะดุ้งเฮือกราวกับเด็กที่แอบทำผิดแล้วโดนจับได้ เธอรีบเอี้ยวคอหันกลับไปมองตามต้นเสียงทันที และแน่นอนว่าเจ้าของเสียงเป็นเจ้าของบ้านตัวดุร่างใหญ่อย่างคุณเหม
“ คุณเหม ! ”
“ ยังไม่นอนเหรอ ”
“ คือ... หนูนอนไม่หลับน่ะค่ะคุณเหมก็เลยลองออกมาเดินเล่นดู เดินไปคิดไปเพลิน ๆ จนมาถึงตรงนี้ไม่รู้ตัว ขอโทษด้วยค่ะ หนูไม่ได้ตั้งใจมารบกวนแถวเรือนใหญ่จริง ๆ ค่ะ ”
“ ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรเธอสักคำเลยนะ จะมาขอโทษทำไม แล้วขนมที่ซื้อมาฝากอร่อยไหม ”
“ อร่อยมากค่ะ ขอบพระคุณคุณเหมมากเลยนะคะที่ซื้อมาฝาก แต่ไม่ต้องซื้อมาบ่อย ๆ ก็ได้ หนูเกรงใจ ” เธอพูดออกไปตรง ๆ ซื่อ ๆ เขายิ้มออกมาอย่างเอ็นดู
“ ไม่ต้องเกรงใจหรอก ฉันเต็มใจให้ ”
“ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ ว่าแต่คุณเหมเองก็นอนไม่หลับแล้วออกมาเดินเล่นเหมือนกันเหรอคะ ”
“ อืม ฉันเพิ่งดูเอกสารโครงการคอนโดที่กำลังดำเนินงานอยู่เพิ่งเสร็จ พอไปนอนก็ไม่หลับ เลยลองมาเดินเล่นให้หัวมันโล่ง ๆ สักหน่อย อาจจะเครียดตกค้างน่ะ ”
“ ถ้าคุณเหมมีอะไรที่พอจะให้หนูช่วยได้ หนูก็ยินดีนะคะ ไม่รู้เหมือนกันว่าจะช่วยได้ไหม ” ท้ายประโยคเธอยิ้มแหย ๆ เขาเองก็ยิ้มอย่างเอ็นดู
“ ช่วยได้สิ เธอฉลาดจะตายไป เอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันส่งไฟล์เกี่ยวกับงานของฉันและธุรกิจที่ฉันทำอยู่ทั้งหมดให้เธอศึกษา ไว้เธอเรียนจบมหาลัยจะได้มาช่วยดูแลบ้าง ”
“ หนูยินดีเป็นอย่างยิ่งค่ะ คุณเหมให้ชีวิตใหม่กับหนู หนูจะตอบแทนคุณเหมอย่างสุดความสามารถทุกอย่างเลย ”
“ ทุกอย่างเลยเหรอ ”
เขาทวนคำพลางยิ้มน้อย ๆ ดวงตาของเขามีแววพราวระยับแบบนั้นอีกแล้ว แบบที่มันทำให้เธอหายใจหายคอไม่ทั่วท้องจนเธอต้องหลบสายตาแต่ก็ตอบกลับไปด้วยความใสซื่อ
“ ทุกอย่างเลยค่ะ ”
“ เอามือถือมาหรือเปล่า ” เธอพยักหน้าพลางหยิบโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋าแล้วส่งให้ ชายหนุ่มรับมากดโน่นนี่ครู่หนึ่งก่อนจะยื่นกลับไปให้ผู้เป็นเจ้าของ
“ นี่เบอร์ฉัน บันทึกไว้ด้วย แล้วฉันก็แอดไลน์ไว้ให้แล้ว เดี๋ยวเธอส่งอีเมลมาทิ้งไว้ให้ด้วยนะฉันจะได้ส่งเอกสารไปให้อ่าน ถ้าอ่านอะไรแล้วไม่เข้าใจสงสัยตรงไหนก็ถามได้ตลอด ”
“ รับทราบค่ะคุณเหม ”
“ แล้วถ้าขาดเหลืออะไรบอกได้ตลอด อยากได้อะไรจะเอาเงินเท่าไหร่ ไม่ต้องไปกระเบียดกระเสียร ชีวิตเธอไม่ได้ลำบากอย่างเมื่อก่อนเมื่ออยู่ในความดูแลของฉัน ”
“ ขอบพระคุณคุณเหมมากเลยนะคะ แต่ว่า... ” เธออึกอักพลางยิ้มเจื่อน
“ ทำไม มีอะไรไม่สบายใจงั้นเหรอ ”
“ คือ... ถ้าป้าแววรู้ว่าหนูมาพูดกับคุณเหมโดยตรง มีหวังจะถูกดุแน่ ๆ ที่ไม่รู้จักประสา ไม่รู้จักเกรงใจ ”
เขายิ้มแล้วสาวเท้าเข้าไปใกล้จนห่างเพียงฟุตเดียว เธอรู้สึกถึงไออุ่นและกลิ่นหอมจากกายชายที่ซ่อนอยู่ในเสื้อยืดสีขาว กางเกงขายาวสีครีมนั่น รู้สึกว่าตัวเองตัวกระจิ๋วเดียวเมื่อได้อยู่ใกล้เรือนร่างสูงใหญ่สมชายชาตรีแบบนี้
ทำอย่างไรดีนะ ขยับหนีดีไหม รู้สึกอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออกแต่ในขณะเดียวกันมันก็ไม่อยากถอยออกมา
หากยังไม่ทันได้ทำอะไรทั้งนั้น มือข้างหนึ่งของเขาก็ยกมาลูบศีรษะเธอเบา ๆ อย่างเอ็นดูพร้อมกับก้มลงไปกระซิบข้างใบหูเล็ก ๆ ของเธอ
“ ก็ไม่เห็นต้องบอกป้าเธอทุกเรื่องนี่ เป็นความลับระหว่างเราสองคน โอเคไหม ”
เสียงทุ้มนุ่มมาพร้อมกับลมหายใจอุ่นผะผ่าวที่ลอยลงมาปะทะผิวเนื้ออ่อนที่ใบหูและต้นคอระหง มันรู้สึกวาบหวามจนเธอขนลุกเกรียวไปหมด เธอรีบถอยหลังหนีพลางตะกุกตะกักตอบ
“ เอ่อ ได้ค่ะ หนูไปนอนก่อนนะคะ ง่วงแล้ว ”
“ เด็กดี ”
เขาเอ่ยชมพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ตามหลังร่างบอบบางที่รีบหมุนตัวหันหลังวิ่งหนีไปแล้ว
ช่วงเย็นของวันอาทิตย์
ภายในโรงภาพยนตร์วีไอพีที่มีไม่กี่ที่นั่งและบรรยากาศค่อนข้างส่วนตัว แต่ละที่นั่งห่างกันพอสมควร เหมราชมาดูภาพยนตร์กับไอรีนตามที่เธอคะยั้นคะยอนัดเขาไว้ หนังรักโรแมนติกสัญชาติยุโรปบวกเก้าอี้หนานุ่มแบบลักชัวรีเอนนอนได้ร้อยแปดสิบองศาบวกกับแอร์คอนดิชันเนอร์เย็นฉ่ำ มีผ้าห่มเนื้อนุ่มปกคลุม พาให้คู่รักหลายคู่อิงแอบแนบชิดเคลิบเคลิ้มไปกับทั้งบรรยากาศและเนื้อหาโรแมนติก
ทั้งหมดนั่นเกิดขึ้นกับคู่อื่นแต่ยกเว้นคู่ของเหมราชกับไอรีนที่ดูเหมือนจะมีแต่ฝ่ายหญิงที่พยายามซุกซบเกาะกอดและเลื่อนมือลงไปหมายจะเคล้นคลึงที่ตรงเป้าเพื่อปลุกเร้าแต่เขาตะครุบมือไว้ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ ผมตั้งใจดูหนังอยู่ ” นั่นทำให้ไอรีนทั้งเสียอารมณ์และหงุดหงิดเป็นอย่างมากแต่ก็ไม่กล้าแสดงอาการออกมามากนัก
ไม่นานหลังจากนั้นเหมราชก็รู้สึกถึงการสั่นของโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋าด้านในสูทไพรเวทที่ตนสวมมา เขาหยิบออกมาดูเมื่อเห็นชื่อของคนโทรมาก็หันมาบอกคนนั่งข้างเบา ๆ
“ ผมต้องรับสายนี้ ขอตัวสักครู่นะครับ ” จากนั้นเขาก็หายออกไปราวห้านาทีก่อนจะกลับเข้ามา ไอรีนเอนกายไปซบและกอดแขนเขาไว้พลางถาม
“ ใครโทรมาคะ ที่ทำงานเหรอ ไม่รู้เหรอว่าวันนี้วันหยุด ไม่ควรรบกวนบอสน่ะ ”
“ เปล่า เด็กน้ำหวานน่ะ ” เมื่อได้ยินชื่อนี้อารมณ์ที่อุตส่าห์เริ่มหย่อนลงแล้วของไอรีนเริ่มตึงขึ้นมาอีกครั้ง
“ โทรมาทำไมคะ ไม่รู้หรือไงว่าเหมพักผ่อนอยู่กับไอ ”
“ เด็กมันจะรู้ได้ไงว่าผมไปไหน ทำอะไร พอดีผมให้เธอศึกษาเอกสารเกี่ยวกับธุรกิจที่บ้านจะได้รู้แนวทาง เรียนจบจะได้มาช่วยแบ่งเบา ”
“ เด็กนั่นยังไม่จบมอปลายด้วยซ้ำ จะมารู้เรื่องอะไรกับธุรกิจของเหมคะ ”
“ น้ำหวานเป็นคนฉลาดและมุมานะ ผลการเรียนอยู่ในระดับท็อปไฟว์ของชั้นตลอดและการศึกษางานศึกษาธุรกิจไม่จำเป็นต้องรอให้เรียนจบทีเดียวหรอกนะ ยิ่งศึกษาเร็วก็จะเรียนรู้ได้มากขึ้น ” ไอรีนปล่อยมือที่เกาะแขนกำยำเอาไว้แล้วเอามากอดอก ดวงตาจ้องไปที่จอภาพยนตร์แต่ในหัวใจเดือดปุด ๆ
ในใจรู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากลระหว่างเหมราชกับเด็กนั่น ทำไมเขาต้องให้ความสำคัญกับนังเด็กเมื่อวานซืนหลานคนใช้นั่นนักหนานะ
จนกระทั่งภาพยนตร์จบเรื่องทั้งสองนั่งรถกลับ จู่ ๆ เหมราชก็แวะที่ร้านเบเกอรี่เจ้าดัง
“ เหมอยากทานขนมเหรอคะ ”
“ ผมซื้อไปฝากเด็กน้ำหวาน สมัยเด็ก ๆ เธอลำบากมาก ปกติอยู่โรงเรียนประจำคงไม่ค่อยได้กินอะไรพวกนี้เท่าไหร่ คุณอยากทานอะไรไหม ”
เอาอีกแล้ว อีเด็กหลานคนใช้นั่นอีกแล้ว !
“ ไม่ค่ะ ไอไม่ชอบทานของหวาน เหมไม่รู้เลยเหรอคะ ” เธอเริ่มกระแทกเสียงใส่ด้วยความหงุดหงิด เหมราชไม่ตอบแต่ผลุนผลันออกจากรถไปเลย
ไอรีนพยายามสงบสติอารมณ์ รอจนกระทั่งเขากลับมาที่รถและเธอตั้งสติใหม่ กับเหมราชใช้ไม้แข็งไม่ได้ ต้องใช้ไม้อ่อนเข้าว่า เธอเอื้อมมือไปลูบที่หน้าขากำยำเบา ๆ พร้อมส่งเสียงออดอ้อน
“ เหมขา คืนนี้ไอค้างกับเหมได้ไหมคะ ”
“ ขอโทษนะไอรีนคืนนี้ผมไม่สะดวกเลย ต้องดูเอกสารเรื่องงานแล้วก็ต้องอธิบายจุดที่น้ำหวานไม่เข้าใจให้เธอฟัง ไว้คราวหน้านะครับ ” เขาปฏิเสธด้วยน้ำเสียงราบเรียบสุภาพ แต่สำหรับเธอนั่นราวกับราดน้ำมันลงมาบนไฟให้ยิ่งเพิ่มความคุกรุ่นในใจ
เธอนับหนึ่งถึงร้อยอยู่หลายรอบเพื่อให้อารมณ์สงบลง บอกตัวเองว่าอย่างไรเสียก็มีดีกว่านังเด็กนั่นหลายขุม ไว้มีโอกาสลับหลังเหมราชเธอจะกำราบมันให้รู้ที่ต่ำที่สูงเสียบ้าง