“จะบ้าเหรอ แล้วถ้าเขาไม่รับผิดชอบล่ะ” ปุญญิศาค่อนข้างเห็นด้วย แต่เธอไม่รู้ว่าเจตน์จะรับผิดชอบเธอมั้ยถ้าเธอตั้งครรภ์ขึ้นมา
“ก็ใครให้โง่ท้องจริงล่ะ ก็แค่ลองบอกเขาว่าท้อง แล้วดูซิว่าเขาจะว่ายังไงถ้าเธอท้อง แล้วจะได้รู้ว่าจะต้องเอายังไงต่อ” เพื่อนจอมวางแผนรีบบอกแผนการต่อ
“ฉันไม่อยากทำให้เขาเกลียดฉัน” ปุญญิศาเอ่ยอย่างลำบากใจ
“ถ้าไม่อยากให้เขาเกลียดก็เลือกเอาแล้วกันนะ จะอยู่เพื่อรอวันเลิก หรือจะโกหกว่าท้องแล้วค่อยปล่อยท้องจริง” มีนาไม่รู้จะช่วยเพื่อนยังไงแล้ว เธอได้แต่ให้ทางเลือกกับเพื่อน ซึ่งทางเลือกนั้นไม่ได้ดีเลยสักนิด แต่มันเป็นทางเลือกเดียวที่จะใช้จับเจตน์ได้ หากว่าเสี่ยงท้องจริง ถ้าเจตน์ไม่รับผิดชอบขึ้นมา คนที่น่าสงสารที่สุดก็คงไม่พ้นเพื่อนเธอ
“ไม่อยากจะเลือกสักทางเลยจริงๆ” ปุญญิศาเอ่ยออกมาอย่างลำบากใจ เธอไม่อยากเสียเขาไป แต่การจะอยู่แบบนี้ไปชั่วชีวิต คนที่เจ็บปวดก็ไม่ใช่ใคร มีแค่เธอเพียงคนเดียว
“ก็ลองไปคิดดูแล้วกัน ฉันก็ให้คำปรึกษาได้เท่านี้จริงๆ ไม่รู้ว่าคำปรึกษานี้จะพาเพื่อนลงนรกหรือเปล่า” มีนาสงสารเพื่อน แต่ก็คิดวิธีที่ดีกว่านี้ไม่ออก เธอทำได้เพียงให้ทางเลือก และให้กำลังใจเพื่อน
“ขอบคุณมากนะที่คอยอยู่ข้างๆ ฉันตลอด” ปุญญิศาเอ่ยกับเพื่อนสนิทด้วยแววตาเศร้า ทางเลือกอันน้อยนิด มันทำให้เธอต้องตัดสินใจ ก่อนที่เขาจะเบื่อเธอและทิ้งเธอไปในสักวัน
“ไม่งั้นจะมีเพื่อนไว้ทำไมล่ะ ถ้าตอนที่เพื่อนทุกข์ใจไม่อยู่ข้างๆ กัน” มีนารั้งร่างของเพื่อนสนิทมากอดไว้ สีหน้าอมทุกข์ของเพื่อนสนิทเป็นสิ่งที่เธอเห็นมาเป็นประจำ แต่ครั้งนี้ มันดูเศร้าและทุกข์ใจมากกว่าทุกครั้ง เธอได้แต่หวังว่าทางเลือกที่เธอมอบให้เพื่อนมันจะหลุดพ้นในสักวัน
หลังจากที่ปรับทุกข์กับเพื่อนสนิทแล้ว ปุญญิศาก็ต้องมาเข้างานในกะบ่าย หญิงสาวทำงานไปเรื่อยๆ ด้วยความหนักใจเพราะปัญหาส่วนตัว แต่แล้วเธอก็เห็นเจ้าปัญหาที่ทำให้เธอหนักใจ เดินมากับนักธุรกิจสาวสวยที่เธอเพิ่งได้ข่าวว่ามาเกี่ยวพันกับเขา ท่าทางและรอยยิ้มที่เขามอบให้ผู้หญิงคนนั้น มันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้ปุญญิศารู้สึกอิจฉาเป็นอย่างมาก
เธอไม่เคยได้ยืนเคียงข้างเขาแบบนั้น เธอเป็นได้เพียงแค่คนที่อยู่ในเงามืด อยู่บนเตียง อยู่บนความสัมพันธ์ที่เธอไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไร และถ้าเจตน์และนักธุรกิจสาวคนนั้นตกลงปลงใจที่จะคบกัน เธอก็ต้องยอมจบและถอยออกไป