“ผมรู้น่าว่ายังไม่ใช่ตอนนี้ น้าก็รู้นี่ว่าผมรอเก่งแค่ไหน เพราะฉะนั้นน้าสบายใจได้” นทีว่าพลางยิ้มให้ แต่คนเป็นน้าก็รู้ดีว่านั่นไม่ใช่รอยยิ้มที่แท้จริง “กลับไปซะนที ถือว่าฉันขอ” เพลิงพยายามเกลี้ยกล่อม “เฮ้ย! อะไรกันน้า ผมก็แค่อยากมาช่วยงาน อย่าลืมสิว่าอีกไม่นานผมก็จะเข้ามาช่วยงานน้าเต็มตัวแล้ว ถือซะว่าให้ผมได้เรียนรู้งานจากน้าไปพลางๆ ไง” “ไม่ได้! แกไม่จำเป็นต้องเรียนรู้งานพวกนี้ เพราะฉันเตรียมงานที่เหมาะกับแกไว้ให้แล้ว” ในขณะที่สองหนุ่มยังคุยกันไม่ลงตัว พริบพราวก็หันมองคนนั้นทีคนนี้ทีด้วยความอยากรู้ “อย่าบอกนะว่าน้าจะให้ผมไปทำงานในบริษัทเครื่องสำอางอะไรนั่น ไม่ๆๆ ไม่มีทาง ให้ตายเถอะ! ผมไม่เข้าใจจริงๆ ว่าน้าคิดอะไรอยู่ถึงไปซื้อไอ้บริษัทนั่นมา หน้าอย่างเราๆ เนี่ยนะจะขายเครื่องสำอาง ถ้าเป็นอาวุธสงครามก็ว่าไปอย่าง” คำพูดของนทีทำให้พริบพราวเผลอจ้องหน้าดุๆ ของพวกเขา ก่อนจะหลุดขำออกมา และไอ้