ระหว่างเดินทางเข้ากรุงเทพฯไพลินขับรถอย่างระมัดระวัง ยายจันหลับไปแล้วหญิงสาวรู้สึกอบอุ่น เธอคิดไว้แล้วว่าสิ้นปีนี้จะกลับไปอยู่กับยาย แต่แค่ยังไม่ได้บอกยาย ไว้กลับไปทำงานครั้งนี้เธอจะแจ้งกับหัวหน้างานให้หาคนมาแทนเธอ และเมื่อได้คนมาแทนแล้ว เธอจะลาออกทันทีระหว่างทางที่ขับรถเข้ากรุงเทพฯไพลินคิดตลอดเวลาว่า ทำไมเธอต้องให้ยายลำบากมา อยู่คอนโดกับเธอด้วย ความสุขของยายคืออยู่บ้านสวน เปลี่ยนใจแล้วพรุ่งนี้ไปทำงานเธอจะเขียนใบลาออกทันที
“ยายจ๋ายาย พายแวะปั้มเข้าห้องน้ำ ลงไปด้วยกันไหมจ๊ะ”
“ถึงไหนแล้วลูก ยายอยากเข้าห้องน้ำเหมือนกัน หลับสนิทเลยหนูพาย ขับรถนิ่งมากเลยนะลูก” ยายจันชมหลานสาวหญิงชราหลับสนิทจริงๆถ้าไพลินไม่ปลุกคงยังไม่ตื่นน่าจะเป็นเพราะกินยาด้วย
ไพลินประคองยายลงจากรถพาไปเข้าห้องน้ำ ภาพที่หญิงสาวสวยหุ่นดีที่อยู่ในชุดเดรสผ้าลินนินแขนสั้นคอเชิ้ตยาวเลยเข่าสี่เหลืองไพร ไพลินเป็นคนผิวขาว ใส่เสื้อผ้าสีสดยิ่งขับให้ผิวขาวนวลยิ่งขึ้น ผู้คนที่แวะพักรถระหว่างการเดินที่เดินไปเดินมา อดไม่ได้ที่จะหันหลังกลับไปมอง
“ยายจ๋าเราพักกันก่อนนะ พายว่าจะซื้อกาแฟสักแก้ว เราเข้าไปนั่งพักที่ร้านกาแฟดีกว่าค่ะ”
“ดีเหมือนกันลูกยายอยากกินชาเขียวเหมือนกัน”
“ยายทันสมัยจังเลยน่ารักที่สุด"
หญิงสาวประคองยายจากห้องน้ำเดินไปที่ร้านกาแฟชื่อดัง เธอยิ้มยายทันสมัยจริงๆช่วงสายๆของวันอาทิตย์แบบนี้ ผู้คนบางตาอาจกำลังเดินทางกลับจากท่องเที่ยว คนและรถยังไม่มากนักสักบ่ายๆรถคงเยอะกว่านี้
“ยายจ๋านั่งข้างนอกหรือข้างในดี”
“ข้างนอกนี่ดีกว่าลูกอยู่กับแอร์มาตั้งนานข้างนอกนี่โล่งโปร่งดี”
“งั้นยายนั่งรอตรงนี้นะคะ เดี๋ยวพายเข้าไปซื้อน้ำข้างในแป๊ปเดียวค่ะ”
ในร้านกาแฟลูกค้านั่งเรียงรายอยู่ที่บริเวณเก้าอี้และโซฟามากมาย ไพลินได้คิวแล้วระหว่างนั้นหญิงสาวยืนรอเครื่องดื่ม มองออกไปด้านนอกยายจันนั่งหลังพิงเก้าอี้ท่าทางสบาย ด้านหลังของระเบียงที่ยายนั่ง มีต้นไม้ปลูกเต็มพื้นที่อากาศไม่ร้อนมาก เห็นยายแล้วสงสาร คงเพราะห่วงหลานกลัวว่าเธอจะเกิดอุบัติเหตุเหมือนตากับแม่
ตอนนี้เท่ากับว่าเธอเหลือยายที่เป็นญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียว ส่วนพ่อเธอไม่เคยคิดที่จะเข้าไปยุ่งกับครอบครัวใหม่ของพ่อ ยายคงรู้ว่ากำลังมีคนแอบมอง ไพลินยิ้มให้ยายเต็มหน้าทำไมรู้สึกอยากกอดยาย เหมือนยายก็คงจะรู้ความรู้สึกของเธอเวลานี้ ยายจันยิ้มตอบกลับมาอย่างอบอุ่นและอ่อนโยน ไพลินกระพริบตาถี่ๆไล่น้ำตาก่อนที่มันจะไหลออกมา หลังจากที่แม่เสียไปอ้อมกอดที่อบอุ่นที่สุดก็คือกอดของยาย
เก้าอี้ในร้านไม่ว่างไพลินต้องยืนรอเครื่องดื่มร่างสูงของเธอรวมถึงชุดที่สวมใส่ ทำให้ดูโดดเด่นมาก ลักษณะของไพลินเป็นลักษณะที่ผู้ชายไม่ค่อยกล้าเข้าใกล้ ไม่มีจริตกับผู้ชาย ผู้หญิงแบบไพลินผู้ชายที่คิดจะมาจีบแบบเล่นๆมักเข้าไม่ถึง และเธอเองก็ไม่เคยเปิดโอกาสให้ใคร รู้สึกว่ายังไม่ถึงเวลา มีผู้ชายหลายวัยที่รอเครื่องดื่มและนั่งอยู่บริเวณนั้นแอบมองหญิงสาวไม่วางตา
แปลกผู้หญิงแบบไพลินแต่งตัวมิดชิดท่าทางนิ่งๆกลับเป็นที่สนใจของเหล่าผู้ชาย แต่จะมีผู้หญิงอีกแบบที่พยายามแต่งตัวเปิดเผยเนื้อตัวเพื่อเรียกร้องความสนใจ บางคนอาจคิดว่าเป็นสิทธิ์ของตัวเอง และเป็นความสุขของตัวเองที่จะแต่งตัวแบบไหนก็ได้ แต่บางคนก็ลืมว่าไม่เหมาะสมในบางเวลาและบางสถานที่
“ยายจ๋ามาแล้วค่ะ คนข้างในเยอะจังเลยค่ะยาย ช้านิดนึงยายรอนานไหม”
“ไม่นานหรอกลูกนั่งตรงนี้ลมเย็นมากสบายดี ไม่รู้ดอกอะไรนะหอมมากเลยปลูกอยู่ใกล้ๆแถวนี้”
“เดี๋ยวพายถ่ายรูปไว้ค่ะ วันเสาร์เดี๋ยวพายพายายไปหาตามร้านต้นไม้ลองไปดูกันว่ามีแบบนี้ไหม”
“หนูพายล่ะลูกเหนื่อยไหมเนี้ย คอยดูแลยายทุกอย่างเลย”
“ไม่ต้องห่วงพายเลยค่ะยาย สบายมากพายไหวอีกชั่วโมงหน่อยๆก็ถึงแล้วเราไปกันเลยดีไหมคะ”
ไพลินประคองยายกลับไปที่รถสองยายหลานออกเดินทางอีกครั้งเธอไม่อยากไปถึงที่พักค่ำเพราะรถจะเยอะมาก หญิงสาวขับรถสบายๆไม่นานก็ถึงคอนโดไพลินจอดรถหน้าคอนโด และพายายจันเข้าไปนั่งรอที่เก้าอี้หน้าประตูลิฟต์ แล้วรีบขนกระเป๋าลงมาวางไว้ที่พื้นด้านล่าง จากนั้นขับรถวนไปเพื่อหาที่จอดไกลสุดเกือบถึงรั้วคอนโดอีกฝั่ง หญิงสาวมารู้สึกตัวอีกทีรถของตัวเองก็เข้ามาอยู่ท่ามกลางรถหรูคันใหญ่ที่จอดอยู่แล้วโชคดีที่มีที่ว่างให้เธอได้จอดไพลินถอนหายใจอย่างโล่งอก หลังจากวนอยู่สามรอบในที่สุดเธอก็ได้ที่จอดรถ หลังล็อครถเรียบร้อยเธอรีบเดินไปหายายทันทีไม่ได้สังเกตุหรือพิจารณาอะไรรอบๆตัวหรือบริเวณนั้นเลย ตอนนี้เธออยากพายายและขนสัมภาระขึ้นห้องให้เร็วที่สุด เป็นห่วงยายกลัวว่าจะรอนาน
ปกติรถเธอจอดตลอดไม่อยู่แค่เสาร์อาทิตย์ วันนี้แปลกรถเยอะมีแต่ราคาแพงๆทั้งนั้น หรือว่าที่คอนโดจะมีงาน นอกจากรถเยอะแล้ว ยังมีชายชุดดำแต่งตัวคล้ายตำรวจ หรือบอดี้การ์ดอะไรประมาณน้ัน เดินไปมาแถวที่ลานจอดรถเต็มไปหมด
หญิงสาวมองหายายและสัมภาระ ยายจันหายไปไหนกระเป๋าก็ด้วย อย่าบอกนะว่าขึ้นไปข้างบนห้องแล้ว ไม่น่าใช่ยายจำห้องเธอไม่ได้หรอก และจะขนของไปได้ยังไงคนเดียว ตัดสินใจเข้าไปถามพนักงาน
“คุณคะขอโทษนะคะเห็นคุณยายที่นั่งอยู่ตรงนี้ไหมคะ แล้วพวกกระเป๋าที่วางอยู่ตรงบันได หายไปไหนหมดพอจะทราบไหมคะ”
“อ๋อ....คุณยายที่คุณพายพามานั่งเมื่อสักครู่ใช่ไหมคะ เราพาคุณยายไปที่ห้องแล้วค่ะ แล้วก็ขนกระเป๋าขึ้นไปไว้ให้ที่ห้องข้างบนแล้ว ไม่ต้องห่วงนะคะ”
“เหรอคะ ใจดีจังยังไงก็ขอบคุณมากนะคะ ที่นี่มีงานอะไรเหรอคะเห็นรถและคนเต็มไปหมดเลย”
“อ้อ..พอดีเจ้าของคอนโดมาตรวจค่ะ พนักงานเลยเยอะหน่อย มาตั้งแต่เมื่อวานแล้วเดี๋ยวก็เสร็จแล้วต้องขอโทษด้วยนะคะที่ต้องหาที่จอดรถไกลเลย”
“ไม่เป็นไรค่ะ งั้นฉันขอตัวนะคะขอบคุณอีกครั้งที่พายายและกระเป๋าไปส่งที่ห้อง”
“ยินดีค่ะคุณพาย”พนักงานหญิงประจำคอนโดยิ้มให้ไพลิน ก่อนที่จะหันไปทำงานต่อ เธออยู่ที่นี่จนรู้สึกคุ้นเคยกับพนักงานแต่ก็ไม่ไ้ด้สนิทอะไรมาก
เจ้าของคอนโดเหรอ เธอไม่เคยได้ยินว่าเวลามาตรวจคอนโด ทำไมต้องมีบอดี้การ์ดตามมาอารักขาเต็มไปหมดในห้องรับรองลูกค้านี่ก็เหมือนกัน ผู้ชายชุดดำนั่งกันเต็มพื้นที่ ดูเหมือนเป็นบอดี้การ์ดหรือตำรวจนอกเครื่องแบบมากกว่าเป็นพนักงานบริษัทฯ แม้แต่ในลิฟก็ยังมีผู้ชายใส่ชุดดำ ไพลินระวังตัวตลอดเวลาถึงแม้จะเป็นเวลาเลิกงานก็ตาม บางห้องเจ้าของกลับจากทำงานบ้างแล้ว
ห้องของไพลินอยู่ชั้นสิบ พวกผู้ชายชุดดำนี่ดูน่ากลัวมา กเธอไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้ารู้ว่ามีคนจ้องมองเธออยู่ตลอดเวลา มองผ่านแว่นดำด้วย ไม่มีมารยาทหญิงสาวขยับตัวหนีเมื่อมีคนเข้ามาในลิฟต์เพิ่ม เธอถอยหลังไปจนเกือบชิดผนัง ผู้ชายชุดดำตัวสูงใหญ่ยืนอยู่ด้านหลังของเธอ หูไม่ฝาดแน่เธอได้ยินเสียงเขาหัวเราะในลำคอเบาๆยืนใกล้กันขนาดนั้นทำไมถึงจะไม่ได้ยิน นึกใจว่าทำไมลิฟต์หยุดบ่อยจังเธออยากถึงห้องเต็มทีแล้ว เหมือนมีคนกดลิฟต์เล่นวิ่งขึ้นวิ่งลงอยู่นั่น ทำไมต้องเป็นวันนี้ด้วยนะ
คอนโดคึกคักไปด้วยคนมากมาย และดูเหมือนว่าจะมีคนย้ายเข้ามาพักใหม่ด้วย อย่าบอกนะว่าเป็นลูกหลานของเจ้าของคอนโด ไพลินถอนหายใจในที่สุดก็ถึงชั้นที่เธอพักอาศัยสักที เธอต้องแปลกใจอีกครั้งคนชุดดำสี่ห้าคนที่ยืนอยู่ในลิฟต์ก้าวขาออกไปจากลิฟต์ทุกคนเหมือนว่าพวกเขาตั้งใจขึ้นมาชั้นสิบเหมือนเธอ หรือว่าสิ่งที่เธอคิดจะเป็นจริง หญิงาวยืนนิ่งและดูเหมือนว่าคนชุดดำทั้งหมดก็หยุดพร้อมเธอ
ไพลินหันไปมองหน้าคนเหล่านั้น เธออยากรู้ว่ามันเกี่ยวกับเธอไหม รู้สึกไม่ปกติเลยจริงๆคนเหล่านั้นหันไปพูดคุยกัน หญิงสาวอาศัยช่วงเวลานั้นรีบเดินไปที่ห้องของเธอและเปิดประตูห้องพาตัวเองเข้าห้องไปอย่างรวดเร็ว เสียงยายเปิดทีวีดูทำไมยายรู้ว่ารีโมทตัวไหนเปิดทีวี วางอยู่ด้วยกันตั้งสองสามอัน แปลกอีกแล้ว
“มาแล้วเหรอลูกหนูพาย”
“กว่าจะมาได้ค่ะยาย คนเยอะจังเลยกว่าจะหาที่จอดรถได้ ปกติไม่เป็นแบบนี้นะคะเลยทำให้ยายลำบากเลย”
“ไม่ลำบากหรอกลูก พนักงานของที่นี่เขาน่ารักมากเลยนะ พายายมาที่ห้องช่วยยกกระเป๋ามาเหมือนเขารู้ว่าหนูพายคงนานกว่าจะหาที่จอดรถได้พวกเขาเลยพายายขึ้นมาส่ง เปิดแอร์เปิดทีวีให้ยายด้วย”
“พายก็ว่าอยู่ ว่าทำไมยายเปิดทีวีได้ พนักงานเขามาเปิดให้นี่เอง”
“พนักงานที่นี่น่ารักกันทุกคนเลยนะ พูดจาดีพอเขารู้ว่ายายมากับหนูพาย เขากุลีกุจอช่วยกันเต็มที่เลย”
ไพลินงงกับคำบอกเล่าของยาย ปกติเธอก็ไม่ได้สนิทสนมอะไรกับพนักงานที่นี่ถึงขนาดเข้ามาในห้องได้ เอาจริงๆเธอไม่รู้จักใครเลยแค่เห็นหน้า แทบจะไม่เห็นด้วยซ้ำเช้าเธอออกไปทำงานแต่เช้า เย็นกลับค่ำทุกวันช่างเถอะเขาดีด้วยก็ดีแล้ว ไว้วันหลังถ้าได้เจอหน้ากันอีกครั้ง เธออาจจะซื้อขนมมาฝากขอบคุณที่เขาช่วยพายายมาที่ห้องและช่วยขนกระเป๋าขึ้นมาถือว่ามีน้ำใจ จากที่รู้สึกตื่นๆที่เห็นแต่ชายชุดดำค่อยรู้สึกปลอดภัยหน่อยแต่เธอก็กังวลใจนิดๆบอกไม่ถูกว่ากังวลใจเรื่องอะไร
หญิงสาวสลัดความรู้สึกนั้นออกจากหัว แล้วเริ่มจัดการกับกระเป๋าเสื้อผ้าของยาย และสัมภาระที่ขนมาจากบ้านสวนพรุ่งนี้เธอจะไปเขียนใบลาออกไพลินไม่รู้อนาคตเลยว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปชีวิตของเธอจะเปลี่ยนแปลงไปจนแทบไม่เหมือนเดิมเลยอีกเลย