บทที่ 9

1482 Words
"คุณหมอพูดจริงใช่ไหมคะ" "หน้าผมเหมือนพูดเล่นเหรอ" "ฉันสัญญาค่ะว่าจะทำตัวให้ดี ให้น่ารัก..โอ๊ย" อยู่ดีๆ คุณหมอก็ลงแรงที่แผลของเธอจนวาดฝันเจ็บ "กลับไปอาบน้ำก่อน อีกสักชั่วโมงเดี๋ยวจะเรียกทนายมาให้คุย" ได้ยินคุณหมอบอกให้กลับไปอาบน้ำหญิงสาวก็ขยับเสื้อตัวนอกขึ้นมาดมดู แบบไม่มั่นใจในกลิ่นเพราะชุดนี้เธอใส่ตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว "หึ.." คีตะอดขำไม่ได้เธอคงคิดว่าเขาได้กลิ่นจากเสื้อผ้าของเธอ "แล้วฉันจะรีบมานะคะ" วาดฝันรีบออกจากห้องของคุณหมอ ทีแรกว่าจะใช้ลิฟต์แต่กลัวว่าคนอื่นจะได้กลิ่น เธอก็เลยเลือกลงบันไดมาชั้นที่ 6 "หายไปไหนมาทั้งคืน" "ฝันมีทางให้พ่อสู้คดีได้แล้วค่ะ" "ไปทำอะไรมา" คนเป็นพ่อดูจะไม่ดีใจเหมือนลูกเลย เพราะถ้าจะสู้คดีมันต้องใช้เงินเยอะ ตอนนี้เงินติดตัวมีสักกี่บาทเชียว "ฝันจะช่วยพ่อทุกทาง พ่อแค่นอนรักษาตัวแล้วก็รอขึ้นศาลพอค่ะ" "พ่อบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ต้องเอาตัวเข้าแลก" "ฝันขอไปอาบน้ำก่อนนะคะ" หญิงสาวเลี่ยงที่จะพูดอีกครั้ง พอได้เสื้อผ้ากับของใช้ก็ออกมาจากห้อง แล้วตรงไปที่ห้องน้ำ ของชั้น 6 ในห้องเก็บของไม่มีห้องน้ำ เวลาอาบน้ำหรือเข้าห้องน้ำเธอต้องออกมาห้องน้ำรวม ตุ๊บ! "โอ๊ย" มือของคนเป็นพ่อทุบลงกับที่นอนแบบโกรธตัวเองว่าทำอะไรไม่ได้เลย แม้แต่ขยับตัวยังขยับไม่ได้ วาดฝันยืนหอบเสื้อผ้ารอห้องน้ำให้ว่าง เพราะห้องที่ใช้อาบน้ำมีอยู่แค่ห้องเดียว นอกนั้นจะเป็นห้องสำหรับปลดทุกข์ ใครเข้าออกห้องน้ำก็ปรายหางตามามองดูเธอ เพราะทุกห้องเขามีห้องน้ำส่วนตัว แต่สำหรับคนที่มาใช้ห้องน้ำที่นี่ส่วนมากจะเป็นคนที่เดินผ่าน หรือไม่ก็พยาบาลที่ประจำอยู่ชั้นนี้ แต่มันไม่ได้ทำให้วาดฝันสะทกสะท้านอะไรเลย..หนักกว่านี้เธอก็เจอมาแล้ว อาบน้ำเสร็จหญิงสาวก็กลับมาที่ห้อง "พ่อพักผ่อนเยอะๆ นะคะ คืนนี้ฝันอาจจะไม่ได้กลับมาห้อง ถ้าคุณพยาบาลเอาข้าวมาให้ทานพ่อก็ทานให้หมดนะ และอย่าลืมทานยา" "ไม่กลับมาแล้วจะไปค้างที่ไหน" "ฝันจะไปพบคุณทนายค่ะ" "พ่อไม่ต้องการทนาย" "แต่ฝันต้องการ" พูดจบเธอก็ออกจากห้องนั้นไป เป็นห่วงพ่อก็เป็นห่วง หน้าห้องคุณหมอคีตะ.. "ฉันมาขอพบคุณหมอค่ะ" "เชิญเข้าไปได้" ครั้งแรกมั้งที่พยาบาลกะกลางวัน บอกให้เธอเข้าไปในห้องนั้น ..ที่จริงกุ๊บกิ๊บถูกสั่งไว้แล้วว่าถ้าเธอกลับมาให้เข้ามาได้เลย พอเปิดประตูเข้ามาวาดฝันก็เห็นว่าตอนนี้มีผู้ชายอีกคนหนึ่งอยู่ในห้อง และคิดว่าคงเป็นทนายความที่เขานัดมาคุยกับเธอ "สวัสดีค่ะ" "สวัสดีครับ ผมเป็นทนาย ได้ยินคุณหมอพูดมาคร่าวๆ แล้ว" "คุณทนายคะ พ่อฉันยิงคนแต่เขาไม่ตาย เราพอจะช่วยอะไรพ่อได้บ้างคะ" หญิงสาวก็เริ่มพูดกับทนายความโดยมีคีตะนั่งอยู่โต๊ะทำงาน เหมือนว่าเขาทำงานของตัวเองแต่ก็ยังฟังว่าเธอพูดอะไรบ้าง "ก่อนอื่นคุณหมอต้องคุยกับตำรวจเรื่องให้ที่พักพิงกับผู้ต้องหาตามหมายจับ" "ครับ" "แล้วคุณ.." ทนายความหันมาพูดกับวาดฝัน "ก็ต้องเตรียมยื่นเรื่องขอรักษาตัวพ่อก่อน.. ระหว่างนี้ตำรวจอาจจะให้คนเข้ามาเฝ้าผู้ต้องสงสัยที่โรงพยาบาล คุณหมอจะว่ายังไงครับ" เพราะเรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับโรงพยาบาลแล้ว ใครไปใครมาเห็นว่ามีตำรวจก็คงต้องมีคำพูดอธิบายไว้ด้วย "ได้ครับ" เอาไปเอามาคนที่หนักใจสุดตอนนี้ก็คือคีตะสะเอง เรื่องมันเริ่มตั้งแต่เพื่อนพาพี่ชายมาผ่าตัดกระสุนออกแล้ว ต่อมาเพื่อนยังแบกเอาคนที่ยิงพี่ชายเข้ามารักษาตัวที่เดียวกันอีก หนักสุดก็เห็นจะเป็นลูกสาวคนที่ยิงนี่แหละ ดวงตาคมปรายมองไปดูหน้าเธอและจังหวะเดียวกันนั้นเธอก็มองมาเช่นกัน เขาไม่ได้หลบเพราะมองไปเห็นรอยยิ้มที่เธอส่งยิ้มหวานมาให้ "คุณหมอตอบตกลงใช่ไหมครับ" "เมื่อกี้คุณทนายว่าอะไรนะครับ" เขามัวมองรอยยิ้มนั้นจนลืมฟังสิ่งที่ทนายความพูด "เรื่องค่าใช้จ่ายอาจจะสูง เพราะผมจะไปคุยอีกหลายฝ่าย" เรื่องเส้นสายมีในทุกวงการอยู่ที่ว่าค่าตอบแทนจะคุ้มกับความเสี่ยงไหม "ได้ครับ" พอคุยกันได้เรื่องแล้วทนายความก็ออกไป แล้วจะติดต่อกลับมาอีกที เพราะต้องไปคุยกับตำรวจเรื่องที่ผู้ต้องสงสัยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนี้ "ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ" หญิงสาวไหว้ขอบคุณจากใจจริง ชายหนุ่มทำแค่นั่งมองหน้าเธอ โดยที่ไม่ได้รับไหว้ "เรื่องที่ฉันสัญญากับคุณหมอ..เอ่อ.." ทำไมเขามองขนาดนี้ล่ะพูดอะไรบ้างสิ แล้วเธอจะพูดต่อได้ยังไง "กุ๊บกิ๊บเข้ามาหาผมหน่อย" เขายังไม่ให้คำตอบเธอ แต่เรียกพยาบาลหน้าห้องเข้ามาก่อน "คะคุณหมอ" พยาบาลกุ๊บกิ๊บรีบเข้ามาเมื่อได้ยินเสียงคุณหมอเรียก "ให้ใครไปย้ายคนป่วยที่อยู่ในห้องเก็บของชั้น 6 ขึ้นมาไว้ข้างห้องทำงานผม" "อะไรนะคะ" ข้างห้องทำงานของคีตะมีห้อง VIP สำหรับคนป่วยพักฟื้น แต่ห้องนี้ VIP จริงๆ เพราะไว้ใช้สำหรับญาติเขาเอง หรือวันไหนที่มีเคสผ่าตัดติดๆ กัน เขาก็จะใช้ห้องนั้นเป็นที่นอน เพราะกว่าจะกลับบ้านกลับมาอีกก็ต้องใช้เวลา "ให้ฉันไปกับคุณพยาบาลไหมคะ" กลัวว่าพ่อจะไม่เข้าใจ เธอก็เลยจะไปคุยกับท่านด้วย "ไม่ต้องหรอกไปก็เกะกะเขาเปล่าๆ" ผ่านไปสักพักพยาบาลหน้าห้องก็เข้ามาแจ้งว่าตอนนี้ย้ายคนไข้มาไว้ห้องข้างๆ แล้ว ที่เขาสั่งให้ย้ายมาไว้ตรงนี้ไม่ใช่เพราะเป็นคนพิเศษอะไรเลย ที่คีตะสั่งให้ย้ายขึ้นมา เพราะถ้าตำรวจมาทำคดีกลัวว่าคนที่มาใช้บริการโรงพยาบาลจะสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น "วาดฝันลูกของฉันอยู่ไหน" วันชัยไม่ใช่คนโง่ ย้ายมาไว้ห้องพิเศษขนาดนี้ได้ ลูกสาวต้องเจรจากับคนที่มีเงินระดับหนึ่งแน่ คนที่วันชัยสงสัยมากที่สุดก็คือคุณหมอนั่นแหละ เพราะได้ยินว่าเขาเป็นเจ้าของโรงพยาบาลที่นี่ด้วย "ลูกสาวคุณยังอยู่ห้องคุณหมอค่ะ" พยาบาลคนนี้กำลังดูแลเรื่องอุปกรณ์ทางการรักษาเพราะเพิ่งย้ายผู้ป่วยมา "ไปตามลูกสาวผมมา" "ฉันไม่ได้มีหน้าที่ตามใครค่ะ" "ถ้าคุณพยาบาลไม่ไปผมไปเอง" ชายวัยกลางคนดันตัวลุกขึ้น "คุณหมอบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้ขยับตัว เดี๋ยวกระดูกก็หักหรอก" เพล้ง! "มีอะไร" คีตะที่อยู่ห้องข้างๆ รีบเข้ามาดูว่าเสียงอะไร และวาดฝันก็รีบตามมา "พ่อทำอะไร" แค่นี้ก็รู้แล้วว่าคงเป็นฝีมือของพ่อ "เก็บของแล้วออกไปก่อน" คีตะสั่งพยาบาลที่อยู่ในห้องนี้ ของที่วันชัยทำตกเป็นแค่ถาดรองแก้วยา เพราะเขาไม่กล้าทำอุปกรณ์ทางการแพทย์อยู่แล้ว "บอกพ่อมาว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร ใช่หมอคนนี้ไหม" "ฉันบอกแล้วไงว่าพ่อไม่ต้องถาม รอคุยกับทนายอย่างเดียว" "เรื่องนี้มันสำคัญมาก ลูกต้องบอกพ่อมา" แค่ลูกไม่กล้าสบตาวันชัยก็รู้แล้วว่าสิ่งที่คิดไว้มันเป็นจริง "หมอเป็นลูกชายไอ้พ่อเลี้ยงนั่นอีกคนไหม" วันชัยหันมาถามคุณหมอบ้าง "อะไรนะครับ" "พ่อถามอะไร" วาดฝันตกใจในคำถามของพ่อ "ผมถามว่าหมอเป็นลูกชายไอ้พ่อเลี้ยงอิทธิพลนั่นอีกคนไหม" เพราะวันชัยรู้ดีว่าพ่อเลี้ยงอิทธิพลไข่ทิ้งไว้หลายที่ แถมหมอคีตะก็สนิทสนมกับครอบครัวนั้นด้วย "พ่ออย่าทำแบบนี้เลย คุณหมอออกไปก่อนได้ไหมคะ" วาดฝันอยากจะคุยกับพ่อก่อน แต่เธอก็ถูกพ่อดันตัวให้หลบไป เพราะวันชัยอยากจะได้คำตอบนี้จากหมอคีตะมาก "ตอบความจริงมาก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายไป ตอบมาสิ!!"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD