ร่างเล็กที่ถูกจับมัดไว้ในกระสอบถูกโยนเข้ามาภายในกระโจมของผู้เป็นนาย ซู่อ๋องลู่หนิงหวังดำรงตำแหน่งแม่ทัพใหญ่มองที่กระสอบใบนั้นพร้อมกับยกสุราขึ้นดื่ม
ในขณะที่อวิ๋นอ๋องหานเซียวรองแม่ทัพที่มีศักดิ์เป็นน้องชายบุญธรรมของซู่อ๋องดูจะสนใจกว่า เขายกสุราจรดริมฝีปากดื่มอย่างละเมียดละไมพร้อมกับลุกขึ้นในมือยังคลึงแก้วสุราช้า ๆ
เขาเตะกระสอบใบนั้นไปครั้งหนึ่ง แรงจากฝ่าเท้าไม่นับว่ามากแต่เหตุไฉนมีเสียงหนึ่งดังออกมา
"อ๊า ซี๊ด"
อวิ๋นอ๋องหานเซียวมองทหารที่นำกระสอบนี้เข้ามา ทหารผู้นั้นคุกเข่าลงทันใด
"ทูลท่านรองแม่ทัพนี่คือนางคณิการ่านรักผู้หนึ่งที่พวกข้าจับได้ขณะสู้กับโจรพวกนั้นขอรับ เห็นว่านางงดงามนักจึงนำมาถวายนายท่านทั้งสอง มิใช่หัวหน้าโจรขอรับ"
แน่นอนว่าทหารใต้การนำทัพของพวกเขาล้วนซื่อสัตย์ แม้จะอดอยากปากแห้งเรื่องสตรีมานานหลายปีเพียงใด แต่หากเป็นของดีที่พวกเขาคิดว่าคู่ควรกับผู้เป็นนายจึงไม่รีรอที่จะนำของดีมาประเคนให้ถึงมือ
อวิ๋นอ๋องผู้มีใบหน้าหล่อเหลาแต่ดูเย็นชาเป็นอย่างยิ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบหาได้ตื่นเต้นประการใด
"ข้าเข้าใจผิดหรือเช่นนั้นเปิดดูเสียหน่อยพวกเจ้าจะได้ไม่เสียน้ำใจ ว่างเว้นสตรีมานานได้นางคณิกามาบำบัดก็คงจะสำราญอยู่บ้าง"
ทหารผู้นั้นรีบทำตามคำสั่ง เขาแกะกระสอบใบใหญ่ออก ที่ต้องจับนางไว้ในกระสอบเช่นนี้มีสาเหตุเพียงประการเดียวก็คือ ไม่ให้ผู้ใดเห็นร่างงดงามของนางแล้วเกิดราคะจนกระทั่งอดใจไม่ไหวนำของมาไม่ถึงมือนายท่านทั้งสอง
เมื่อหนานอิงถูกปล่อยเป็นอิสระร่างกายร้อนของนางได้รับไอเย็นแล้วจึงรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย แต่ความร้อนรุ่มนี้ทำเช่นไรก็ไม่หาย นางรู้เพียงแต่ว่าต้องการผู้ใดและสิ่งใดสักอย่างมาสัมผัสเพื่อบรรเทาความกระหาย
อวิ๋นอ๋องหานเซียวนั่งลงจับคางของนางให้เงยขึ้นเขาไม่พูดสิ่งใดมีรอยยิ้มเล็กน้อยปรากฏที่ใบหน้า
ทหารผู้นั้นย่อมรู้ว่าเขาพึงใจเพียงใด
ซู่อ๋องลู่หนิงหวังวางจอกสุราเห็นร่างขาวผ่องราวหยกขาวเนื้อดีคลานออกมาจากถุงใบนั้นในใจพลันคิดว่าคงเป็นยอดคณิกา เขาจึงเริ่มรู้สึกอยากเห็นหน้าเสียแล้ว
และเมื่อได้เห็นใบหน้างดงามของนางอีกทั้งท่าทางร่านราคะที่นางมองพวกเขาด้วยดวงตาหยาดเยิ้มจึงยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย
ลู่หนิงหวังเดินไปเปิดหีบที่อยู่ข้างเตียงโยนถุงเงินถุงใหญ่ที่ยึดมาได้จากพวกกบฏให้ทหารผู้นั้นแล้วเอ่ยเสียงเย็น
"เอาไปแบ่งกันข้าพอใจมากคิดว่าท่านรองแม่ทัพก็เช่นกัน"
ทหารผู้นั้นได้รับความดีความชอบด้วยเงินก้อนใหญ่ เบื้องหน้าคือเขตเมืองหลวงถึงคราที่พวกเขาจะได้พักผ่อนและใช้เงินซื้อความสุขให้ตนเองเสียที
ทหารผู้นั้นเอ่ยด้วยความกล้าหาญ
"ท่านแม่ทัพขอรับนางโลมที่โจรจับมายังมีอีกหลายคน หากท่านอนุญาตพวกข้าจะขอให้พวกนางปรนนิบัติได้หรือไม่"
ลู่หนิงหวังยกมือขึ้น
"เอาเถิดพวกเจ้าเองก็ลำบากมามิใช่น้อย แต่เวรยามที่อยู่เฝ้าค่ายต้องกำชับอย่าให้หละหลวม สตรีพวกนี้ด้านหนึ่งก็ประดุจงูพิษพึงระวังตนให้มากอย่าได้ไว้ใจเป็นอันขาด"
"ข้าน้อยรับทราบ ขอบคุณท่านแม่ทัพ ขอบคุณท่านรองแม่ทัพ ข้าน้อยทูลลา"
ถึงแม้ว่าซู่อ๋องลู่หนิงหวังและอวิ๋นอ๋องหานเซียวคนน้องในยามออกรบจะกลายเป็นปีศาจร้าย แต่หลังจากงานใหญ่เสร็จลุล่วงทหารในการดูแลของเขาที่รอดตายมักจะได้ปูนบำเหน็จและร่ำรวยยกฐานะขึ้นมาได้ ทุกคนที่อยู่ในกองทัพจึงเคารพและเชื่อฟังเป็นอย่างมาก
เมื่อคนออกไปแล้วคงเหลือแต่เพียงแม่ทัพใหญ่ทั้งสองกับหญิงคณิกาผู้นี้ที่อยู่ด้านในกำหนัดที่อัดอั้นมาเนิ่นนานเมื่อออกรบทัพจับศึกในคืนนี้พวกเขาจะได้ปลดเปลื้องเสียที
อวิ๋นอ๋องหานเซียวสำรวจร่างกายของนางโลมด้วยสายตา ทั้งยังเอ่ยถามเสียงหนัก เขาเองก็ยังระวังตัวอยู่ไม่น้อย ไม่ต้องการให้ตนเองมาเสียท่าให้สตรี
"เจ้าถูกโจรจับตัวมาหรือ"
คำถามที่ถามออกไปกลับได้รับคำตอบที่ไม่ตรงคำถามเท่าใดนัก
"นายท่านข้าร้อนเหลือเกินช่วยข้าด้วยเจ้าค่ะ ช่วยข้าด้วย ข้าไม่รู้ว่าตนเองต้องการสิ่งใด อ๊า ร้อนไปหมดแล้ว อ๊า"
อวิ๋นอ๋องหานเซียวหัวเราะเย็นเมื่อเห็นนางกำลังเล่นรักถูไถส่วนนั้นของนางกับปลายเท้าของเขา
เขารู้อยู่แล้วว่าพวกโจรป่ามักจะให้นางโลมที่ติดตามพวกเขาดื่มยากำหนัดเพื่อร่วมรักกับคนทั้งกองโจร
นางผู้นี้ก็เช่นกันแต่ในเมื่ออยู่ในสถานะนางโลมแล้วก็ย่อมเป็นหน้าที่ของนางที่จะสนองตัณหาบุรุษพวกนั้น
เขาเองย่อมเชื่อคำของคนของตน ท่าทางร้อนรักและงดงามจนผู้คนตื่นตะลึงเช่นนี้คงมีตำแหน่งสูงในหอนางโลมเป็นแน่ ผิวพรรณเนียนละเอียดยังดูบอบบางราวกลีบดอกไม้
ร่างอรชรนี้ยั่วยวนจนกระทั่งทำให้แท่งหยกของเขาบวมเป่งแม้ยังมิได้แตะต้องนาง
หานเซียวจ้องมองนางอย่างพึงใจ ดวงตาเป็นประกายร้อนแรงยิ่ง
"เจ้าชอบนางหรือ"
ซู่อ๋องลู่หนิงหวังเดินกลับมานั่งยังเก้าอี้ที่เดิมพร้อมกับถามน้องชายด้วยใบหน้าราบเรียบ นางผู้นั้นงามนักแม้เขาเองยังตกตะลึง ในขณะที่หานเซียวผู้น้องก็ยังจับจ้องนางมิวางตา
"นางถูกใจข้าเป็นอย่างยิ่ง มิได้พบหญิงงามหมดจรดเช่นนี้มานานเพียงใดแล้ว"
ซู่อ๋องลู่หนิงหวังกลับใจกว้างยิ่งนัก
"เช่นนั้นก็ให้ปรนนิบัติเจ้าแล้วกัน"
หานเซียวส่ายหน้า
"ท่านเองก็พึงใจในตัวนางมิใช่หรือ ข้ามิเคยเห็นท่านมองสตรีใดเนิ่นนางเพียงนี้มานานมากแล้ว ท่านพี่เช่นนั้นก็ให้นางปรนนิบัติเราทั้งคู่เถิด"
ลู่หนิงหวังยกยิ้มบาง ๆ เขามิได้ปฏิเสธน้องชาย ความชอบของเขาและหานเซียวที่ผ่านมามักจะคล้ายกันเสมอ และเมื่อชอบแล้วต่างก็ยินดีแบ่งปันให้กันและกันด้วยความเต็มใจ
ในชีวิตของเขามีเพียงน้องชายผู้นี้เท่านั้นที่เขารักและยินดีจะมอบทุกสิ่งทุกอย่างแม้แต่ชีวิต หานเซียวมีค่าต่อลู่หนิงหวังยิ่งนัก
"ในเมื่อเจ้าไม่หวงนางข้าย่อมยินดี มาเถิดบทรักบนเตียงของนางจะทำให้เราพึงใจได้หรือไม่ข้าเองก็อยากรู้เช่นกัน"
ลู่หนิงหวังยกจอกสุราขึ้นแล้วสาดน้ำเมาลงคอ รสชาติของสุราย่อมดีไม่น้อยแต่เขากลับคิดว่าอาจจะมิสามารถเทียบเคียงรสชาติของสตรีนางนี้ได้
"นายท่านจะช่วยข้าแล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ"
"แน่นอนแต่เจ้าต้องช่วยตนเองด้วย"
หนานอิงย่อมฟังที่พวกเขาพูดไม่เข้าใจ ดวงตาของนางพร่ามัวแยกทิศทางไม่ออก รู้เพียงแต่ว่านางร้อนรุ่มและต้องได้รับการปลดปล่อยในตอนนี้
หลังจากถูกกลุ่มโจรจับมาเรียกค่าไถ่จากท่านพ่อแล้ว นางก็อยู่อย่างหวาดกลัวในกระท่อมเล็ก ๆ มีโจรคอยเฝ้านับสิบคนและหลังจากนั้นหนึ่งในกลุ่มโจรเกิดติดใจเรือนร่างและความงามของนาง
แม้หัวหน้าโจรจะห้ามปรามเพราะกลัวเสียราคาด้วยตั้งใจว่าหลังจากได้เงินค่าไถ่แล้วจะไม่ส่งมอบนางคืนแก่บิดาแต่จะผิดคำพูดแล้วขายนางต่อไปที่หอนางโลม
สตรีผู้งดงามเช่นนี้เขาจะพลาดเงินก้อนโตได้อย่างไร
แต่โจรผู้ทรยศนั่นกลับใจกล้าวางยากำหนัดอย่างรุนแรงเพื่อจะเชยชมความงามของนางโดยที่หนานอิงไม่โวยวายจนทำให้เขาถูกจับได้
เพราะถูกยาปลุกกำหนัดทำให้หนานอิงในยามนี้ไม่รู้เหนือใต้แล้ว นางรู้เพียงแต่ว่าก่อนที่นางจะตายด้วยความทรมานนางต้องได้รับการปลดปล่อย แต่ปลดปล่อยอย่างไรนางเองก็ไม่รู้เช่นกัน
อวิ๋นอ๋องหานเซียวเหมือนจะเป็นบุรุษที่อ่อนโยนกว่าซู่อ๋องลู่หนิงหวังเล็กน้อย
เขาก้มลงแล้วช้อนร่างบอบบางของนางเอาไว้ในวงแขน หนานอิงเหมือนได้รับยาวิเศษจากเรือนกายบุรุษหญิงสาวกอดคอของเขาแล้วตวัดลิ้นเลียตามสัญชาตญาณดิบในร่างกายทันใด
"นางผู้นี้ร่านรักเหลือเกิน ใจเย็น ๆ เถิด เจ้าได้ปรนนิบัติข้าและพี่ชายเป็นแน่"
เขาหัวเราะด้วยความพอใจก่อนจะวางนางลงที่เตียง กระทั่งได้ยินเสียงเย็นชาของซู่อ๋องดังขึ้น
"ถอดอาภรณ์ของเจ้าออกให้หมดแล้วทำหน้าที่ของเจ้าได้แล้ว"