หนึ่งฤทัยยังคงนั่งรอเขาอยู่แบบนั้นไม่ไปไหนจนเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงก็แล้วหมอพงษ์รพีก็ไม่มาสักที เธอจึงลุกขึ้นยืนแล้วเปิดประตูออกไปนอกห้อง
"ห้องทำงานของหมอพงษ์รพีอยู่ที่ไหน..?"
"ต้องขอประทานโทษด้วยนะคะ คุณหมอออกเวรไปแล้วค่ะ"
"อะไรนะ..นี่ปล่อยให้ฉันนั่งรอตั้งนานโดยที่ไม่บอกฉันเลยสักคำว่าหมอออกเวรไปแล้ว นี่เขารู้หรือเปล่าว่าฉันรอเขาอยู่..?"
"เอ่อ.."
"หมอพงษ์รพีแต่ก็ไม่มา เล่นกับฉันแบบนี้ใช่ไหม..ได้.."
เธอเดินไปที่โถงตรงกลางของโรงพยาบาลด้วยความโกรธจัด
"ฉันมีเรื่องจะบอกให้ทุกคนรู้ค่ะ ฟังฉันนะคะ..."
"แย่แล้ว..เอาไงดีอะพี่..?"
พยาบาลที่เคยดูแลเธอเริ่มทำตัวไม่ถูกจึงหันไปถามพี่พยาบาลด้วยกันอีกคน
"ฉันถูกหมอพงษ์รพีที่เป็นเจ้าของโรงพยาบาลนี้ขับรถชนจนได้รับบาดเจ็บ...แต่เขาไม่รับผิดชอบและไม่คิดจะมาดูดำดูดีฉันสักนิด"
"คุณหนึ่งคะ พอเถอะค่ะ"
"เขาโยนความรับผิดชอบให้พยาบาลมาดูแลฉันเองทั้งที่เขาเป็นคนผิด แล้วก็เอาเงินมาฟาดหัวฉันเพื่อให้ฉันพอใจ..พวกคุณคิดว่าสิ่งที่คุณหมอทำถูกต้องไหมคะ..?"
"ไม่ถูก..คุณหมอทำแบบนี้ได้ยังไง..?"
"ใช่ค่ะ..คุณหมอทำแบบนี้กับคนที่คุณหมอขับรถชนด้วยตัวเองได้ยังไง..?"
"คุณหนึ่งฤทัย.."
เธอและทุกคนที่อยู่ตรงนั้นหันไปมองที่หมอพงษ์รพีทันที เห็นเขายืนนิ่งอยู่ตรงนั้นดูไม่พอใจสุดๆ แล้วเขาก็เข้ามากระชากแขนเธอออกไปจากตรงนั้นอย่างเร็ว โดยมีสายตาของคนไข้รายอื่นๆมองตามไปอย่างซุบซิบนินทา
....
ห้องทำงานหมอพงษ์รพี
"ผมไม่ได้ทำอย่างที่คุณพูดที่คุณพูดออกไปมันทำให้ผมแล้วก็โรงพยาบาลของผมเสียหายมากนะคุณรู้ตัวหรือเปล่า ผมมีสิทธิ์ฟ้องคุณได้นะคุณหนึ่งฤทัย..'
เขาลากตัวเธอมาที่ห้องทำงานตัวเองแล้วใส่เธอไม่ยั้งด้วยความโกรธจัด
"ก็คุณหมอหนีหน้าหนึ่งเองทำไมละ ไหนละที่พยาบาลว่าคุณออกเวรไปแล้ว...คุณยังมายืนหัวโด่อยู่นี่เลย..?"
"ผมไม่ได้หนีแต่แผลของคุณมันก็แค่เล็กน้อย ไม่จำเป็นที่ต้องเป็นผมมาคอยดูแลคุณก็ได้หมอหรือพยาบาลคนอื่นก็ทำกันได้หมด"
"แต่หนึ่งต้องการแค่หมอคนเดียวเท่านั้น..'
"...."
"แผลของหนึ่งหมอเป็นคนทำนะ หมอก็ต้องดูแลจนกว่าแผลเป็นนี้มันจะหายไป"
"เคสของคนไข้รายอื่นสำคัญกว่า ผมไม่มีเวลามาคอยดูแลแผลเป็นให้คุณหรอกนะ.."
เขาเดินหนีเธอไปที่โต๊ะทำงานตัวเองแล้วนั่งลงอย่างแรงด้วยความหงุดหงิด ที่ไม่รู้จะพูดยังไงให้เธอเข้าใจ
"แต่หมอเป็นคนขับรถชนหนึ่งนะ"
"ผมไม่ได้ขับรถชนคุณ แต่คุณนั่นแหละที่ขับรถเร็วเกินไปจนเบรกไม่ทันแล้วรถของเราก็ชนกัน ถ้าคุณไม่ขับเร็วแบบนั้นแล้วก็คลาดเข็มขัดนิรภัยคุณก็ไม่ต้องมากังวลเรื่องแผลเป็นแบบนี้หรอก.."
"แต่ยังไงหมอก็ต้องรับผิดชอบแผลของหนึ่งจนกว่าจะหายดี.."
"...."
เขามองหน้าเธอด้วยความโกรธจัดจนพูดอะไรไม่ออก เพราะเบื่อกับความดื้อรั้นของเธอ
"หนึ่งจะมาที่นี่ทุกวันเพื่อมาให้หมอดูแผลให้ ห้ามหนีหน้าหนึ่งเด็ดขาด"
"ทำไมคุณถึงได้ดึงดันแบบนี้นะ.."
"ก็ถ้าแผลหนึ่งหายเป็นปกติเมื่อไหร่ หมอก็จะไม่ได้เห็นหน้าหนึ่งอีกแล้วละ ทนเอาหน่อยแล้วกัน"
เธอพูดจบก็หันไปเปิดประตูห้องทำงานเขากำลังจะเดินออกไปก็หันมาหาเขาอีกครั้ง
"พรุ่งนี้หลังเลิกงานหนึ่งจะมาอีกนะคะ..'
....
วันรุ่งขึ้น
บริษัท นำเข้ารถยนต์ จากต่างประเทศ
หลังจากเลิกงานแล้วหนึ่งฤทัยก็รีบเดินออกมาจากบริษัทเพราะกลัวว่าคุณวิศิษฐ์เจ้าของบริษัทจะเรียกเธอให้เข้าไปหาอีก เธอเดินผ่านโต๊ะทำงานของกรพิณเห็นเธอยังนั่งทำงานอยู่ก็เดินเข้าไปทัก
"ยังไม่กลับหรอกร..?"
"ยังจ่ะ ช่วงนี้พี่เพ็ญเขาต้องเตรียมลาคลอดนะ กรก็เลยยุ่งมากๆเลยละ"
"งั้นช่วงนี้เธอก็ไม่ได้เจอคุณหมอแฟนเธอเลยนะซิ..?"
"อื้ม..แฟนกรเข้าเวรดึกด้วยนะช่วงนี้ตั้ง 3 เดือนแหนะ ได้เจอกันก็แค่วันหยุดกรเท่านั้นแหละ"
"แล้วปกติไปเที่ยวที่ไหนกันหรอ..?"
"กรไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหนหรอก ส่วนใหญ่ก็จะซื้ออะไรมาทำกินกันที่บ้านกับพ่อแม่กรนะ.."
"หรอ..ก็ดีนะไม่เปลืองดี"
หนึ่งฤทัยหลอกถามเรื่องราวของทั้ง 2 คนเพราะอยากรู้ว่าเวลาพวกเขา 2 คนอยู่ด้วยกันทำอะไรกันบ้าง
"แล้วหนึ่งเป็นไงบ้าง แผลโอเคไหมยังเจ็บอยู่หรือเปล่า..?"
"ก็นิดนึงนะ แต่ก็กังวลเหมือนกันกลัวจะเป็นแผลเป็น"
"แฟนกรก็เป็นห่วงหนึ่งมากนะ เพราะเขาเป็นคนขับรถชนหนึ่งถ้าหนึ่งมีอะไรจะให้แฟนกรช่วยเหลือบอกได้เลยเต็มที่นะ ไม่ต้องเกรงใจ..'
"อื้ม..ขอบใจมากนะ"
"หนึ่งฤทัย.."
หนึ่งฤทัยสะดุ้งตกใจมากที่ได้ยินเสียงของคุณวิศิษฐ์ออกมาเรียกเธอที่หน้าห้อง
"ฉันต้องรีบไปแล้ว ถ้าคุณวิศิษฐ์ถามถึงฉันบอกเขาทีนะว่าฉันมีธุระด่วนต้องรีบกลับ"
เธอพูดจบก็รีบวิ่งออกจากห้องไปทันที โดยไม่ให้คุณวิศิษฐ์เห็นเธอได้
โรงพยาบาลพงษ์รพี
ห้องทำงานหมอพงษ์รพี
เธอเข้ามาที่ห้องทำงานโดยถือวิสาสะเข้ามาเอง เขาเงยหน้ามองเธอก็ทำหน้าเซ็งขึ้นมาทันที
"เจอหน้าหนึ่งต้องทำหน้าเซ็งขนาดนี้เลยหรอคะ..?"
"นี่ห้องทำงานผม คุณไม่ควรเข้ามาโดยพลการ"
"แล้วจะให้หนึ่งไปนั่งรอตรงไหนละ ข้างนอกก็คนเยอะแยะไม่เอาหรอกนะ."
"..."
"รีบๆดูแผลให้หนึ่งเถอะนะ หนึ่งจะได้รีบกลับไม่ต้องมาอยู่ให้หมอรำคาญลูกตาแบบนี้"
เขามองหน้าเธออย่างเซ็งๆแต่ก็เรียกให้พยาบาลเอาเครื่องมือทำแผลแล้วก็ล้างแผลเข้ามาให้ในห้อง
"นั่งอยู่เฉยๆนะ.."
"รู้แล้วค่ะ.."
เขาขยับเก้าอี้เข้าไปใกล้เธอแล้วก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ แกพแผลแปะแผลที่ศีรษะของเธอออกเบาๆ
ใบหน้าของเขาที่ยื่นเข้ามาใกล้เธอมาก ใกล้มากจนเธอได้กลิ่นตัวของเขาแล้วมันก็ทำให้ใจเธอเต้นแรง
"กลิ่นตัวของหมอหอมจัง.."
เขาชะงักมือทันทีแล้วก้มหน้าลงมามองใบหน้าของเธอ
"ไม่ใช่กลินน้ำหอม แต่เป็นกลิ่นตัวของผู้ชายที่มีเสน่ห์มากเลยรู้ไหมคะ..?"
"...."
เขาไม่พูดอะไรเงยหน้าขึ้นมาทำแผลให้เธอต่ออย่างเบามือที่สุด แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกมือไม้สั่นแบบนี้นะเขาจึงรีบเร่งมือจนเสร็จเรียบร้อย
"เสร็จแล้ว.."
กริ๊งงง กริ๊งงง >> สายของกรพิณ
พวกเขาหันไปมองที่โทรศัพท์ของหมอพงษ์รพีพร้อมกัน ก็เห็นเป็นชื่อของกรพิณโชว์ขึ้นมาที่หน้าจอ
เขาขยับเก้าอี้ไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสายกรพิณ
"สวัสดีจ่ะกร.."
(พีทเข้าเวรแล้วหรอ..?)
"ครับ..กรละถึงบ้านหรือยัง..?"
(กรว่าจะแวะไปหาพีทที่โรงพยาบาลก่อนนะ ซื้อซูชิมาให้จะได้เอาไว้ทานตอนเวลาหิว)
หนึ่งฤทัยมองดูเขาคุยโทรศัพท์ก็นึกอยากแกล้งเขาจึงเดินไปที่ประตูกดล็อกห้องทำงานของเขาทันที
เขาได้ยินเสียงกดล็อกก็หันไปมองที่เธอเพราะรู้สึกแปลกใจว่าเธอจะล็อกห้องทำไม
( พีทจะเอาอะไรอีกไหม..?)
หนึ่งฤทัยยิ้มอย่างนึกสนุกจึงเดินเข้ามาใกล้ๆตัวเขาช้าๆ จนเขาเริ่มรู้สึกกลัว
( พีท..)
เขาลุกขึ้นยืนแล้วเดินหนีเธอไปจนชนกับกำแพงห้อง เธอจึงเดินเข้ามาประชิดตัวเขาไว้ มือของเขาที่ยังถือโทรศัพท์อยู่ก็ได้ยินเสียงของกรพิณพูดเข้ามาในสาย ส่วนมืออีกข้างก็ถูกเธอจับตรึงเอาไว้ที่กำแพงห้อง
"อื้มม.."
( พีท..เป็นอะไรหรือเปล่า..? )