ความดื้อดึง

1432 Words
หนึ่งฤทัยยังคงนั่งรอเขาอยู่แบบนั้นไม่ไปไหนจนเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงก็แล้วหมอพงษ์รพีก็ไม่มาสักที เธอจึงลุกขึ้นยืนแล้วเปิดประตูออกไปนอกห้อง "ห้องทำงานของหมอพงษ์รพีอยู่ที่ไหน..?" "ต้องขอประทานโทษด้วยนะคะ คุณหมอออกเวรไปแล้วค่ะ" "อะไรนะ..นี่ปล่อยให้ฉันนั่งรอตั้งนานโดยที่ไม่บอกฉันเลยสักคำว่าหมอออกเวรไปแล้ว นี่เขารู้หรือเปล่าว่าฉันรอเขาอยู่..?" "เอ่อ.." "หมอพงษ์รพีแต่ก็ไม่มา เล่นกับฉันแบบนี้ใช่ไหม..ได้.." เธอเดินไปที่โถงตรงกลางของโรงพยาบาลด้วยความโกรธจัด "ฉันมีเรื่องจะบอกให้ทุกคนรู้ค่ะ ฟังฉันนะคะ..." "แย่แล้ว..เอาไงดีอะพี่..?" พยาบาลที่เคยดูแลเธอเริ่มทำตัวไม่ถูกจึงหันไปถามพี่พยาบาลด้วยกันอีกคน "ฉันถูกหมอพงษ์รพีที่เป็นเจ้าของโรงพยาบาลนี้ขับรถชนจนได้รับบาดเจ็บ...แต่เขาไม่รับผิดชอบและไม่คิดจะมาดูดำดูดีฉันสักนิด" "คุณหนึ่งคะ พอเถอะค่ะ" "เขาโยนความรับผิดชอบให้พยาบาลมาดูแลฉันเองทั้งที่เขาเป็นคนผิด แล้วก็เอาเงินมาฟาดหัวฉันเพื่อให้ฉันพอใจ..พวกคุณคิดว่าสิ่งที่คุณหมอทำถูกต้องไหมคะ..?" "ไม่ถูก..คุณหมอทำแบบนี้ได้ยังไง..?" "ใช่ค่ะ..คุณหมอทำแบบนี้กับคนที่คุณหมอขับรถชนด้วยตัวเองได้ยังไง..?" "คุณหนึ่งฤทัย.." เธอและทุกคนที่อยู่ตรงนั้นหันไปมองที่หมอพงษ์รพีทันที เห็นเขายืนนิ่งอยู่ตรงนั้นดูไม่พอใจสุดๆ แล้วเขาก็เข้ามากระชากแขนเธอออกไปจากตรงนั้นอย่างเร็ว โดยมีสายตาของคนไข้รายอื่นๆมองตามไปอย่างซุบซิบนินทา .... ห้องทำงานหมอพงษ์รพี "ผมไม่ได้ทำอย่างที่คุณพูดที่คุณพูดออกไปมันทำให้ผมแล้วก็โรงพยาบาลของผมเสียหายมากนะคุณรู้ตัวหรือเปล่า ผมมีสิทธิ์ฟ้องคุณได้นะคุณหนึ่งฤทัย..' เขาลากตัวเธอมาที่ห้องทำงานตัวเองแล้วใส่เธอไม่ยั้งด้วยความโกรธจัด "ก็คุณหมอหนีหน้าหนึ่งเองทำไมละ ไหนละที่พยาบาลว่าคุณออกเวรไปแล้ว...คุณยังมายืนหัวโด่อยู่นี่เลย..?" "ผมไม่ได้หนีแต่แผลของคุณมันก็แค่เล็กน้อย ไม่จำเป็นที่ต้องเป็นผมมาคอยดูแลคุณก็ได้หมอหรือพยาบาลคนอื่นก็ทำกันได้หมด" "แต่หนึ่งต้องการแค่หมอคนเดียวเท่านั้น..' "...." "แผลของหนึ่งหมอเป็นคนทำนะ หมอก็ต้องดูแลจนกว่าแผลเป็นนี้มันจะหายไป" "เคสของคนไข้รายอื่นสำคัญกว่า ผมไม่มีเวลามาคอยดูแลแผลเป็นให้คุณหรอกนะ.." เขาเดินหนีเธอไปที่โต๊ะทำงานตัวเองแล้วนั่งลงอย่างแรงด้วยความหงุดหงิด ที่ไม่รู้จะพูดยังไงให้เธอเข้าใจ "แต่หมอเป็นคนขับรถชนหนึ่งนะ" "ผมไม่ได้ขับรถชนคุณ แต่คุณนั่นแหละที่ขับรถเร็วเกินไปจนเบรกไม่ทันแล้วรถของเราก็ชนกัน ถ้าคุณไม่ขับเร็วแบบนั้นแล้วก็คลาดเข็มขัดนิรภัยคุณก็ไม่ต้องมากังวลเรื่องแผลเป็นแบบนี้หรอก.." "แต่ยังไงหมอก็ต้องรับผิดชอบแผลของหนึ่งจนกว่าจะหายดี.." "...." เขามองหน้าเธอด้วยความโกรธจัดจนพูดอะไรไม่ออก เพราะเบื่อกับความดื้อรั้นของเธอ "หนึ่งจะมาที่นี่ทุกวันเพื่อมาให้หมอดูแผลให้ ห้ามหนีหน้าหนึ่งเด็ดขาด" "ทำไมคุณถึงได้ดึงดันแบบนี้นะ.." "ก็ถ้าแผลหนึ่งหายเป็นปกติเมื่อไหร่ หมอก็จะไม่ได้เห็นหน้าหนึ่งอีกแล้วละ ทนเอาหน่อยแล้วกัน" เธอพูดจบก็หันไปเปิดประตูห้องทำงานเขากำลังจะเดินออกไปก็หันมาหาเขาอีกครั้ง "พรุ่งนี้หลังเลิกงานหนึ่งจะมาอีกนะคะ..' .... วันรุ่งขึ้น บริษัท นำเข้ารถยนต์ จากต่างประเทศ หลังจากเลิกงานแล้วหนึ่งฤทัยก็รีบเดินออกมาจากบริษัทเพราะกลัวว่าคุณวิศิษฐ์เจ้าของบริษัทจะเรียกเธอให้เข้าไปหาอีก เธอเดินผ่านโต๊ะทำงานของกรพิณเห็นเธอยังนั่งทำงานอยู่ก็เดินเข้าไปทัก "ยังไม่กลับหรอกร..?" "ยังจ่ะ ช่วงนี้พี่เพ็ญเขาต้องเตรียมลาคลอดนะ กรก็เลยยุ่งมากๆเลยละ" "งั้นช่วงนี้เธอก็ไม่ได้เจอคุณหมอแฟนเธอเลยนะซิ..?" "อื้ม..แฟนกรเข้าเวรดึกด้วยนะช่วงนี้ตั้ง 3 เดือนแหนะ ได้เจอกันก็แค่วันหยุดกรเท่านั้นแหละ" "แล้วปกติไปเที่ยวที่ไหนกันหรอ..?" "กรไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหนหรอก ส่วนใหญ่ก็จะซื้ออะไรมาทำกินกันที่บ้านกับพ่อแม่กรนะ.." "หรอ..ก็ดีนะไม่เปลืองดี" หนึ่งฤทัยหลอกถามเรื่องราวของทั้ง 2 คนเพราะอยากรู้ว่าเวลาพวกเขา 2 คนอยู่ด้วยกันทำอะไรกันบ้าง "แล้วหนึ่งเป็นไงบ้าง แผลโอเคไหมยังเจ็บอยู่หรือเปล่า..?" "ก็นิดนึงนะ แต่ก็กังวลเหมือนกันกลัวจะเป็นแผลเป็น" "แฟนกรก็เป็นห่วงหนึ่งมากนะ เพราะเขาเป็นคนขับรถชนหนึ่งถ้าหนึ่งมีอะไรจะให้แฟนกรช่วยเหลือบอกได้เลยเต็มที่นะ ไม่ต้องเกรงใจ..' "อื้ม..ขอบใจมากนะ" "หนึ่งฤทัย.." หนึ่งฤทัยสะดุ้งตกใจมากที่ได้ยินเสียงของคุณวิศิษฐ์ออกมาเรียกเธอที่หน้าห้อง "ฉันต้องรีบไปแล้ว ถ้าคุณวิศิษฐ์ถามถึงฉันบอกเขาทีนะว่าฉันมีธุระด่วนต้องรีบกลับ" เธอพูดจบก็รีบวิ่งออกจากห้องไปทันที โดยไม่ให้คุณวิศิษฐ์เห็นเธอได้ โรงพยาบาลพงษ์รพี ห้องทำงานหมอพงษ์รพี เธอเข้ามาที่ห้องทำงานโดยถือวิสาสะเข้ามาเอง เขาเงยหน้ามองเธอก็ทำหน้าเซ็งขึ้นมาทันที "เจอหน้าหนึ่งต้องทำหน้าเซ็งขนาดนี้เลยหรอคะ..?" "นี่ห้องทำงานผม คุณไม่ควรเข้ามาโดยพลการ" "แล้วจะให้หนึ่งไปนั่งรอตรงไหนละ ข้างนอกก็คนเยอะแยะไม่เอาหรอกนะ." "..." "รีบๆดูแผลให้หนึ่งเถอะนะ หนึ่งจะได้รีบกลับไม่ต้องมาอยู่ให้หมอรำคาญลูกตาแบบนี้" เขามองหน้าเธออย่างเซ็งๆแต่ก็เรียกให้พยาบาลเอาเครื่องมือทำแผลแล้วก็ล้างแผลเข้ามาให้ในห้อง "นั่งอยู่เฉยๆนะ.." "รู้แล้วค่ะ.." เขาขยับเก้าอี้เข้าไปใกล้เธอแล้วก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ แกพแผลแปะแผลที่ศีรษะของเธอออกเบาๆ ใบหน้าของเขาที่ยื่นเข้ามาใกล้เธอมาก ใกล้มากจนเธอได้กลิ่นตัวของเขาแล้วมันก็ทำให้ใจเธอเต้นแรง "กลิ่นตัวของหมอหอมจัง.." เขาชะงักมือทันทีแล้วก้มหน้าลงมามองใบหน้าของเธอ "ไม่ใช่กลินน้ำหอม แต่เป็นกลิ่นตัวของผู้ชายที่มีเสน่ห์มากเลยรู้ไหมคะ..?" "...." เขาไม่พูดอะไรเงยหน้าขึ้นมาทำแผลให้เธอต่ออย่างเบามือที่สุด แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกมือไม้สั่นแบบนี้นะเขาจึงรีบเร่งมือจนเสร็จเรียบร้อย "เสร็จแล้ว.." กริ๊งงง กริ๊งงง >> สายของกรพิณ พวกเขาหันไปมองที่โทรศัพท์ของหมอพงษ์รพีพร้อมกัน ก็เห็นเป็นชื่อของกรพิณโชว์ขึ้นมาที่หน้าจอ เขาขยับเก้าอี้ไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสายกรพิณ "สวัสดีจ่ะกร.." (พีทเข้าเวรแล้วหรอ..?) "ครับ..กรละถึงบ้านหรือยัง..?" (กรว่าจะแวะไปหาพีทที่โรงพยาบาลก่อนนะ ซื้อซูชิมาให้จะได้เอาไว้ทานตอนเวลาหิว) หนึ่งฤทัยมองดูเขาคุยโทรศัพท์ก็นึกอยากแกล้งเขาจึงเดินไปที่ประตูกดล็อกห้องทำงานของเขาทันที เขาได้ยินเสียงกดล็อกก็หันไปมองที่เธอเพราะรู้สึกแปลกใจว่าเธอจะล็อกห้องทำไม ( พีทจะเอาอะไรอีกไหม..?) หนึ่งฤทัยยิ้มอย่างนึกสนุกจึงเดินเข้ามาใกล้ๆตัวเขาช้าๆ จนเขาเริ่มรู้สึกกลัว ( พีท..) เขาลุกขึ้นยืนแล้วเดินหนีเธอไปจนชนกับกำแพงห้อง เธอจึงเดินเข้ามาประชิดตัวเขาไว้ มือของเขาที่ยังถือโทรศัพท์อยู่ก็ได้ยินเสียงของกรพิณพูดเข้ามาในสาย ส่วนมืออีกข้างก็ถูกเธอจับตรึงเอาไว้ที่กำแพงห้อง "อื้มม.." ( พีท..เป็นอะไรหรือเปล่า..? )
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD