"ใจเย็นก่อนนะคะค่อย ๆ พูดข้าฟังท่านไม่รู้เรื่องแล้ว" ฉันบอกกับป้าที่ดูดวงเมื่อวานนี้เพราะเธอเอาแต่ร้องไห้ไม่หยุดแถมยังพูดอะไรไม่รู้เรื่องอีก ที่พอจะจับใจความได้นั่นก็คือสามีของป้านั้นมีเมียน้อยแล้วจริง ๆ และการที่ป้ามาพูดตรงนี้ก็เป็นผลดีมาก ๆ ด้วยเพราะว่าผู้คนจะได้รับรู้ว่าฉันสามารถทำนายดวงชะตาได้ และตอนนี้ทุกคนก็กำลังหันมามองที่ฉันและป้า
"ฮึก! เมื่อเช้านี้ข้าคิดไม่ตกนอนไม่หลับเพราะเรื่องที่แม่หมอบอกข้าเมื่อวานนี้ ข้าลุกจากที่นอนตั้งแต่เช้าเพื่อมาทำอาหารแต่ว่าข้าไม่เจอสามีอยู่ข้าง ๆ ข้าเอ๊ะใจก็เลยลองเดินตามหาดู ก็เจอเขากำลังเดินไปไหนสักแห่งด้วยความที่ว่าข้ายังจำเรื่องที่ท่านบอกได้ข้าก็เลยเดินตามไป...จนรู้ว่าสามีข้าแอบมีเมียอีกบ้านนึง ฮืออออ~~ ข้าต้องทำยังไงแม่หมอข้าไม่มีที่พึ่งพิงเลย ฮือ ๆ" ป้าที่ตอนนี้ฉันยังไม่ทราบชื่ออธิบายเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดให้ฉันฟัง
"เฮ้อ! ข้าก็ไม่คิดว่าเรื่องมันจะแดงขนาดนี้" ฉันพูดและมองไปรอบ ๆ ตลาดก็พบว่าผู้คนกำลังให้ความสนใจเป็นอย่างมากซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่ฉันต้องการพอดีเลย
"ฮึก ๆ แม่หมอโซอี้ช่วยข้าด้วยเถอะเจ้าค่ะ"
"งั้นไปที่บ้านข้าก่อนแล้วกันและข้าก็ดูดวงให้ว่าต่อจากนี้ชีวิตของป้าจะเป็นยังไงบางทีนี่อาจจะเป็นหนทางแห่งแสงสว่างก็ได้นะ" ฉันบอก
"ฮึก! จริงเหรอแม่หมอ"
"ยังไม่ต้องเชื่อข้าก็ได้แล้วเจอกันที่บ้านข้านะ" ฉันบอกแค่นั้นก่อนจะเดินออกมาเสียงซุบซิบก็ดังขึ้นทันที
"นั่นใครน่ะ?"
"แต่เมื่อคุณเมจิกเรียกว่าแม่หมอโซอี้นะ?"
"แม่หมอที่ดูดวงน่ะนะ??"
"นั่นสิสมัยนี้หายากด้วยนะ"
"และเหมือนว่าจะแม่นเห็นเธอทำนายว่าสามีคุณเมจิกจะมีชู้และมีจริง ๆ"
"ตายแล้ววววว!!"
"ชื่อป้าเมจิกสิะชื่อไฮโซดีจัง"
"โซอี้!!" ชิกิต้าเรียกฉันพร้อมกับโบกมือไปมายกใหญ่
"กลับกันเถอะ" ฉันพูดและเดินผ่านชิกิต้ามาสมองก็คิดว่าต่อไปนี้ต้องทำยังไงดีนะ? ให้ร่ำรวยไม่แพ้พวกตระกูลดยุก เฮ้ออ!! นี่ฉันฝันเพ้อเจ้อไปหรือไงนะ?
"โซอี้!!รถม้าาาาา!!!" เสียงของชิกิต้าทำให้ฉันที่กำลังเหม่อลอยได้สติแต่ก็พบว่ารถม้ากำลังจะมาชนฉันแล้ว
"กรี๊ดดดดดดดด!!!>_<" เอี๊ยดดดดดดดด!!! ฉันหลับตาปี้อย่างกลัว ๆ และขาก็แข็งอย่างก้าวไม่ออกแต่ว่าฉันก็ไม่รู้สึกว่าเจ็บแต่อย่างใด
"ซะโซอี้เป็นอะไรไหม?" ฉันลืมตาขึ้นก็พบว่ารถม้ายังไม่ได้ชนฉันแถมยังไม่ใช่รถม้าทั่วไปอีกด้วย
"ไม่เป็นไร"
"เลดี้เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?" คนขับรถม้าลงมาถามฉัน
"ไม่ค่ะ ฉันผิดเองที่เดินไม่ดูทางต้องขออภัยด้วยนะคะ" หมับ!!! ฉันพูดแบบสบาย ๆ แต่ชิกิต้ากลับกดหัวของฉันให้ก้มต่ำ
"ก้มหัวด้วยโซอี้!นั่นมันรถม้าของตระกูลดยุกแบลร์เลยนะ!!!ต้องขออภัยแทนเพื่อนของข้าด้วยนะครับ" ชิกิต้าบอกแต่จริงด้วยเมื่อกี้ฉันมัวแต่ตกใจเลยไม่ได้มองว่ารถม้ามีตราสัญลักษณ์อยู่
"ถ้าไม่เป็นไรก็ดีแล้วทีหลังระวังหน่อยนะครับ เมื่อนี้รถม้าใช้แรงของม้าและพลังเวทย์ด้วยมันเลยเร็วและแรงถ้าโดนจนขึ้นมาจะบาดเจ็บหรือว่าจะเสียชีวิตได้นะครับ"
"ค่ะ ข้าจะระวังให้มากกว่านี้" ฉันก้มหัวนิดหน่อยก่อนจะหลบรถม้าเพื่อให้รถผ่านไปและขณะนั้นเองที่รถม้ากำลังเคลื่อนที่สายตาของฉันก็เผลอไปสบตากับใครบางคน...
"นั่น...ท่านดยุกริโอ...แบลร์"
ขวับ! ฉันหันไปมองหน้าของชิกิต้าทันทีก็ว่าทำไมคนนั้นถึงได้หล่อจังเลย
"หล่อกว่าในการ์ตูนซะอีก เหอะ!"
"ว่าไงนะ?"
"ไม่มีอะไรหรอกกลับบ้านกันเถอะเรายังมีอะไรอีกมากมายที่ต้องทำ"
(ไรท์เตอร์)
ตระกูลแบลร์
"ท่านดยุกครับเลดี้ไวโอเล็ทมาหาครับ" เมื่อดยุกริโอก้าวลงจากรถม้าเปร่ามือขวาของเขาก็รายงานทันทีว่ามีใครบางคนมาหา ซึ่งดยุกริโอได้ยินชื่อเขาก็ถอนหายใจทันที
"เฮ้อออ~ มาทำไมอีกแล้ว?"
"ทำไมพูดเช่นนั้นละครับท่านดยุกเลดี้ไวโอเล็ทคือผู้หญิงที่ถูกวางตัวว่าจะเป็นดัชเชสของท่านดยุกนะขอรับ"
"ข้าไม่ได้อยากแต่งนิถ้าเจ้าอยากแต่งก็แต่งได้เลย"
"ทะท่านดยุกริโอทำถึงได้พูดเช่นนั้นละคะ?" เสียงของไวโอเล็ทดังขึ้นเขารู้ว่าเธอมาตรงนี้แต่เขาก็ยังเลือกที่จะพูดมันออกไปอยู่ดี
"ข้าพูดความจริงข้าไม่ได้อยากแต่งงานกับเลดี้เลยเพราะฉะนั้นกลับไปเถอะ"
"ฮึก! ข้าก็ไม่ได้อยากแต่งกับท่านแต่ว่ามันเป็นสัญญาระหว่าง..."
"จะสัญญาอะไรก็ช่างเถอะข้าพร้อมฉีกเสมอ" ดยุกริโอพูดอย่างไม่ไว้หน้า
"ท่ายดยุกการยกเลิกมันไม่ได้ง่ายเลยนะครับ ท่านต้องได้รับอนุญาตจากราชวังก่อนถึงจะสามารถยกเลิกได้และยิ่งถ้าไม่มีเหตุผลดี ๆ รองรับก็ยิ่งยาก..."
"เหตุผลดี ๆ คือข้าไม่ต้องการแต่งงานกับเลดี้ที่อ่อนแอเอาแต่ร้องไห้และเดินลอยหน้าลอยตาไปวัน ๆ" ดยุกริโดพูดจบก็เดินเข้าคฤหาสน์ไม่ได้สนใจไวโอเล็ทที่ยืนทำหน้าจะร้องไห้อยู่เลย
ท่านดยุกริโอ แบลร์ หรือดยุกปีศาจที่ชาวเมืองชอบเรียกกันเขาโหด ดุดัน และป่าเถื่อน ฝีมือการต่อสู้ในเมืองราชันนั้นไม่มีใครสามารถเทียบได้เลยสักคน เขาสามารถจัดการปีศาจหลายร้อยตัวภายในเวลาไม่กี่นาที เขานำทัพออกไปรบก็ชนะทุกครั้งเป็นระยะเวลา 10 ปี เพราะฉะนั้นการที่เขาได้อยู่แต่ในสนามรบและทหารมันเลยทำให้เขาพูดจาขวากผ่าซากและไม่รักษาน้ำใจคนสักเท่าไหร่ และความตรง ๆ ของเขาก็ทำให้เลดี้มากมายต้องเสียน้ำตามาแล้ว เพราะงั้นถ้าไม่อยากร้องไห้ก็อย่าไปยุ่งกับเขาจะดีกว่า...
แต่ว่า...ไวโอเล็ทนั้นไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เพราะว่าเธอโดนครอบครัวบังคับในมาหาเขาเสมอและเป็นเธอที่โดนต่อว่าบ่อย ๆ ด้วยเนื่องจากไวโอเล็ทเป็นผู้หญิงที่สามารถเข้าออกที่นี่ได้เพียงคนเดียวเท่านั้น
ถ้าตามเนื้อเรื่องในการ์ตูนที่โซอี้หรือว่าอำไพอ่านมาแม้ว่าจะไม่จบก็ตามแต่... สุดท้ายทั้งคู่ก็ต้องแต่งงานกัน ดยุกริโอก็ใจอ่อนต่อความอ่อนโยนของไวโอเล็ทสุดท้ายก็รักกัน จบบริบูรณ์
(โซอี้)
บ้านโซอี้
"เพราะฉะนั้นตัวประกอบอย่างฉันก็นอนอยู่บ้านทำงานเป็นหมอดูต่อไปแล้วกัน" ฉันกลับมาบ้านก็นึกถึงเรื่องที่อ่านเมื่อได้เจอดยุกริโอ ฉันอ่านการ์ตูนมาแค่สิบกว่าตอนแต่เพราะว่าอ่านมาเยอะก็พอเดาได้แหละว่ามันจะลงเอยแบบไหน ฉะนั้นฉันก็อยู่ของฉันแบบนี้ต่อไปก็พอ..
ก๊อก ๆ
"โซอี้ทานข้าวลูก" เสียงเคาะประตูดังขึ้น
"เฮ้ออ~การอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่หรอกเนอะรำไพ" ฉันลุกขึ้นและเดินออกจากห้องเพื่อไปทานข้าวกับพ่อแม่
โต๊ะอาหาร
"พ่อได้ยินจากชิกิต้าว่าลูกจะเปิดสำนักหมอดู"
"ค่ะ" ฉันตอบกลับไปเพราะไม่มีอะไรต้องปกปิดอยู่แล้ว
"แม่ไม่เห็นเคยรู้มาก่อนเลยว่าลูกดูดวงทำนายชะตาเป็น??"
"มันเป็นพรสวรรค์ละมั้งค่ะ อีกอย่างหนูไม่อยากนอนอยู่บ้านเฉย ๆ ให้พ่อแม่เลี้ยงค่ะ เพราะงั้นต่อจากนี้หนูจะดูแลพ่อแม่เอง" เพราะพ่อแม่ของโซอี้ก็เหนื่อยมามากแล้วเพื่อดูแลลูกสาว เพราะงั้นนะโซอี้ฉันจะดูแลพ่อแม่ของเธอเองแทนเธอ
"หึ! ให้มีลูกค้ามาสักคนก่อนเถอะ"
"คอยดูแล้วกันค่ะ^^"
"กินข้าวเถอะจะได้มีแรงไปทำนายดวงชะตา"