กึงๆๆๆๆๆ เอี๊ยดๆๆๆ
“ใกล้แล้ว ซี๊ดดด อ่าส์!!” เขาขยับตัวเข้ามาครั้งสุดท้ายก่อนจะผละออกไปทิ้งให้เธอนอนหมดแรงไม่สามารถขยับตัวได้ บทรักของเขามันทั้งยาวนานและรุนแรงจนร่างกายเธอรับไม่ไหว เธอตื่นมาและร้องไห้ที่เห็นเขาย่ำยีเธออยู่อย่างนั้นตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเย็นวันนี้
...ทรมานจนเหมือนจะตาย
“อึก ...ฮึก” ยิ่งเธอขยับร่างกายทุกส่วนมันก็ปวดอย่างกับโดนรุมซ้อมจากคนเป็นสิบคน แค่แรงจะหายใจยังไม่มีเลยแล้วเธอจะทำอะไรได้
“ยิ่งต่อต้านเธอก็จะยิ่งเจ็บ ...นอนเฉยๆไปน่ะดีแล้ว” สิงห์มองดอกรักด้วยสายตาที่เย็นชาและสับสน เขาเลือกที่จะเดินเข้าห้องน้ำไปโดยที่ไม่หันมามองหน้าเธออีก
ถ้ามองหน้าเธอแล้วเขากลัวใจตัวเอง
“ฉันจะไม่ทรยศเธอ ...ไม่มีวันมาแตร์”
ตุบ
เสียงอะไรบางอย่างหล่นลงที่พื้นอย่างแรงจนสิงห์ต้องรีบออกมาดูก็เห็นดอกรักในสภาพเปลือยทั้งตัวนอนหมอบอยู่ที่พื้น เธอขดตัวอย่างทรมานผิวเนียนใสมีรอยแดงจากการสัมผัสของเขาไปทั่วทุกที่
“จะหนีไปไหน? ...สภาพแบบนี้ยังคิดว่าตัวเองจะหนีฉันไปได้อีกงั้นเหรอ?” ดอกรักเลือกที่จะไม่ตอบเขาเธอพยายามคลานไปที่ประตูทั้งที่ความเจ็บมันกำลังเล่นงานเธออยู่อย่างหนัก
...ที่ไหนก็ดีกว่าที่นี่ทั้งนั้น
หมับ!
“ปะ ปล่อย ฮึก ...อย่ามาจับ” แขนเรียวถูกกระชากแล้วโยนกลับขึ้นไปบนเตียง น้ำตาเม็ดใสไหลออกจากตาของเธอไม่รู้ครั้งที่เท่าไหร่
“ร้องไห้ทำไมอีกวะ” สิงห์มองเธออย่างหงุดหงิดเขาไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนน่าหงุดหงิดเท่าดอกรักเลย ยิ่งกับมาแตร์ด้วยแล้วยัยนั่นน่ารักกว่าเยอะ ...น่ารักกว่าผู้หญิงทุกคนบนโลก
“ถ้านายโดนข่มขืนนายก็คงจะร้องไห้เหมือนฉันนั่นแหละ ฮึก ...ยังจะต้องการอะไรอีก ฮือออ”
“ผัว เมีย ...เอากันมันเรื่องแปลกเหรอ? หึ เมื่อคืนเธอก็ครางดังเหมือนกันอย่ามาบอกว่าฉันข่มขืนเธอสิคุณภรรยา”
“หยุดพูดเรื่องทุเรศแบบนั้นออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
“ทำไม? รับความจริงไม่ได้เหรอว่าเมื่อคืนเธอก็สมยอมฉันเหมือนกัน ...ร่างกายเธอมันจดจำสัมผัสของฉันไว้หมดแล้วต่อให้ไอ้ตัวผู้หน้าไหนจะมาซ้ำรอยก็คงจะยากหน่อย ถ้าไม่ใหญ่ ไม่อึดเท่าฉัน” เขาบีบคางของเธอแน่นก่อนจะพูดคำทุเรศๆแบบนั้นออกมา
“หยุดซะที ฮือออ หยุด!!!!” แล้วดอกรักก็เป็นลมไปทันที สิงห์คว้าแขนของเธอไว้ได้ทันก่อนที่ร่างของเธอจะตกลงไปกระแทกกับพื้นห้อง
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยหยดน้ำตาทำให้เขาใจสั่นอย่างไม่มีสาเหตุ เขาวางเธออย่างแผ่วเบาก่อนจะโทรเรียกเสือให้มาหาที่บ้าน มือหนาลูบไล้ไปตามใบหน้าสวยของเธอ ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อมีรอยแตกเพราะต้องรับจูบที่ดุดันของเขา
“ฉันอ่อนโยนไม่เป็น ...เพราะความอ่อนโยนของฉันมันได้ตายไปแล้ว” สิงห์จัดการกับเนื้อตัวเธอเรียบร้อยก่อนที่เสือจะเข้ามาเพียงแค่ห้านาที
แต่พอพี่ชายเขาเห็นสภาพของดอกรักเท่านั้น สิงห์ก็โดนเรียกไปด่าข้างนอกห้องอยู่นานหลายนาทีกว่าที่เสือจะยอมหยุดด่า ม่านแก้วช่วยตรวจร่างกายของเด็กสาวตรงหน้า เธออดสงสารไม่ได้แต่ก็ไม่สามารถเข้าไปช่วยอะไรได้เลย
“เลิกบ่นซะทีเหอะ ...เฮียเป็นพี่นะไม่ใช่พ่อ” สิงห์เองก็หัวเสียอยู่นิดหน่อยที่เสือยังบ่นไม่หยุดทั้งที่บอกไปแล้วว่าผัวเมียมีอะไรกันมันเรื่องธรรมดา!!
“เออ! เพราะฉันเป็นพี่แกนั่นแหละเลยต้องมาด่าแกแบบนี้ ถ้าแม่รู้ว่าแกทำแบบนี้แม่จะด่าแกว่ายังไงแกรู้บ้างหรือเปล่า!”
“ด่ายังไง? ทำไมต้องอยากรู้ถ้าเขาเลือกที่จะทิ้งไปแล้วก็ไม่ควรต้องกลับมาสิ” เสือรู้ดีว่าสิงห์คงยังไม่ให้อภัยแม่ง่ายๆแน่นอนแต่คงมีสักวันที่มันจะให้อภัยท่านได้เหมือนที่เขากับกระทิงทำ
“เป็นไงบ้างพี่สะไภ้ ...ตายหรือยัง?” เสืออยากจะต่อยปากไอ้น้องชายตัวแสบเขาจริงๆ ยิ่งรู้ว่าเมียเขาไม่ชอบคำพูดแบบนี้มันก็ยิ่งจะไปพูดใส่แล้วดูสิแค่นี้ก็กลัวจนหน้าซีดแล้ว
“เลิกแกล้งเมียฉันซะที ...เป็นไงบ้างแก้ว”
“บอบช้ำอยู่หลายจุดโดยพาะบริเวณช่องคลอด ...ฉีกขาดและและอักเสบอย่างรุนแรงคงจะมีไข้ไปอีกสองถึงสามวัน ต้องงดเรื่องแบบนี้ไปสักเดือนนะคะ” ม่านแก้วหันไปบอกกับสิงห์แล้วเธอก็เดินหนีออกไปข้างนอก
“เมียเฮียคงยังเกลียดผมอยู่สินะ ...ทำเหมือนไม่อยากคุยกับผมเลย” เสือพูดกับสิงห์อีกสักพักจึงขอตัวกลับไปก่อนเพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงเขาต้องขึ้นเครื่องไปฮันนีมูนแล้ว ถ้าเลทกว่านี้คงโดนเมียงอนหนักแน่
“คุณสิงห์มีอะไรให้รับใช้คะ” แม่บ้านใหญ่ถูกเรียกขึ้นมาบนตึกส่วนตัวของเจ้านาย เธอมองตามสายตาเข้าไปในห้องนอนก็เห็นว่ามีเด็กสาวนอนนิ่งอยู่ก็พอจะเข้าใจถึงความต้องการของเขา
“ดูแลให้ด้วยแล้วกัน ...ถ้าอาการทรุดก็โทรตามผม” แม่บ้านพยักหน้าก่อนจะเริ่มดูแลร่างบางที่นอนอยู่บนเตียง เธอไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใครแต่ก็น่าจะสำคัญอยู่พอตัวเพราะคุณสิงห์ไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนมาอยู่ที่บ้านนี้เลยแม้แต่คนเดียว
...แม้แต่ผู้หญิงที่ทำให้คุณสิงห์คลั่งหนักอย่างคุณมาแตร์ยังไม่เคยมาอยู่ที่นี่เลย
“โถ น่าสงสารจริงๆคุณหนู”
ปังๆๆๆ
“ดูเกรี้ยวกราดกว่าปกตินะครับวันนี้” เหยี่ยวอยู่ในห้องซ้อมยิงปืนกับสิงห์มาเกือบห้าชั่วโมงแล้วสิงห์ก็ยังไม่ยอมหยุดยิงปืนเลย ไม่รู้ว่าไปโกรธใครมาจากไหน
“ไปต่อยมวยกัน” เหยี่ยวส่ายหน้าแล้วเดินหนีออกไปข้างนอกจนสิงห์ขมวดคิ้วด้วยความขัดใจ นี่เขาเป็นเจ้านายมันนะทำไมมันถึงกล้าขัดคำสั่งเขา?
“ไม่เอาอ่ะ ไปต่อยคนเดียวเถอะง่วงแล้ว”
“นี่กูเป็นเจ้านายมึงนะ”
“ครับ แต่นี่เลยเวลาเลิกงานมานานแล้วครับ ตอนนี้เป็นเพื่อนแทน ...กลุ้มใจอะไรทำไมไม่ไปบอกดีๆถ้ารู้สึกผิดก็แค่ขอโทษจะมาเก๊กอะไรขนาดนี้” เหยี่ยวโยนเบียร์ให้สิงห์แล้วทั้งคู่ก็เดินไปนั่งกินด้วยกันข้างนอก
“อย่ามาทำเป็นรู้ดี กูไม่ได้รู้สึกอะไรสักอย่าง”
“ครับๆ ไม่รู้สึกอะไรเลยก็ดีแต่ถ้ารู้สึกแล้วโกหกตัวเองก็ระวังจะเสียเขาไปนะครับ”
“เลิกพูดแบบนั้นเถอะแค่ต้องมาแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้กูก็รู้สึกผิดกับมาแตร์มากพอแล้ว”
“ขอให้เป็นอย่างที่คิดจริงๆนะครับ ...งั้นผมไปก่อนละกันคืนนี้มีนัด” แล้วเหยี่ยวก็ขับรถออกไปทิ้งเขาให้นั่งอยู่กับความคิดของตัวเองคนเดียว
...รู้สึกอะไร? เขาต้องรู้สึกอะไรงั้นเหรอ
“ไร้สาระว่ะ ...หยุดคิดเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เถอะไอ้สิงห์”
“อึก อ๊ะ ...เจ็บ” ดอกรักขยับตัวลุกขึ้นอย่างเชื่องช้า ลำคอแห้งผากเหมือนกับกลืนทรายเข้าไป แถมตัวยังร้อนเหมือนกับมีไฟมาสุมอีก
“เป็นยังไงบ้างคะคุณหนู เมื่อคืนไข้ขึ้นทั้งคืนเลย” น้ำตาใสเอ่อคลอที่ตาช้ำๆของเธออีกครั้ง ทำไมเธอถึงยังไม่ตายๆไปซะทีทำไมถึงต้องมาทนทำเรื่องเจ็บช้ำแบบนี้อีก
“ทำไมหนูถึงไม่ตายคะ ทำไมป้าไม่ปล่อยให้หนูตาย ฮืออออ” เสียงร้องไห้ของดอกรักทำให้คนฟังอย่างป้าแม่บ้านถึงกับปวดใจไปด้วย ไม่เคยเห็นใครร้องไห้เพราะคุณสิงห์หนักขนาดนี้มาก่อนเลย
“ไม่ตายหรอก ...ชีวิตเรามีอะไรอีกเยอะนะคะ ป้าทำข้าวต้มร้อนๆมาให้ทานลองทานซะหน่อยจะได้มีแรงไง” ดอกรักยอมทานอาหารทั้งหมดและกินยาแต่โดยดี เธอไม่ดิ้นไม่กรีดร้องโวยวายเหมือนที่สิงห์คิดไว้
ร่างสูงมองร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงผ่านกล้องวงจรปิดที่ติดไว้ให้ห้องนอน สีหน้าเธอดีขึ้นหลังจากที่ได้กินข้าว กินยา และนอนพักผ่อน มีบ้างที่เธอยิ้มออกมาบางๆตอนที่คุยกับแม่บ้านของเขา
...ยิ้มสวย
“อะไรของกูอีกวะเนี่ย! เฮ้อ” เขาสลัดหัวไล่ความคิดพวกนั้นออกไปก่อนที่จะจุดบุหรี่สูบแล้วมองไปที่หน้าต่างอย่างเหม่อลอย
“หนูนอนไปกี่วันคะ”
“ประมานสามวันค่ะ ส่วนเรื่องเรียนไม่ต้องห่วงนะคะคุณสิงห์ให้ป้าบอกคุณว่าลาเรียนกับอาจารย์ให้แล้วค่ะ” ดอกรักเงียบไปตอนที่คุณป้าพูดถึงเขา เธอไม่ได้อยากรับรู้เรื่องของผู้ชายคนนั้นแม้แต่นิดเดียว และไม่อยากรู้ด้วยว่าเขาทำอะไรให้เธอบ้าง
“เหมือนจะหายดีแล้วสินะถึงได้ทำหน้าอวดดีขนาดนี้” เสียงเย็นชาและเย้ยหยันของเขาทำเอาใจเธอสั่นไม่เป็นจังหวะ เขาไล่คุณป้าคนนั้นให้ออกไปข้างนอก ร่างสูงเดินเปลือยอกเข้ามาหาเธอช้าๆก่อนจะคร่อมร่างกายเธอไว้ด้วยลำตัวหนาของเขา
“ยะ อย่าทำมันอีกเลยนะได้โปรด ...ฉันจะยอมเชื่อฟังคุณ ฮึก แต่ขอร้องอย่าทำมันอีกเลย”
“แค่โดนเอาร้องไห้อย่างกับจะเป็นจะตาย ...จำไว้ถ้าเธอคิดจะทรยศฉันเมื่อไหร่เธอจะโดนแบบนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเธอทรมานจนอยากจะตายไปเลย!” ในตอนแรกเขาคิดจะเข้ามาคุยกับเธอดีๆแต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแค่คิดถึงเรื่องเมื่อคืนสิงห์ก็โมโหจนเผลอพูดทำร้ายจิตใจเธออีกจนได้
“ฮึก ฉันรู้แล้ว ฉันรู้แล้ว” เธอยกมือไหว้อ้อนวอนเขา ดอกรักกลัวที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้คืนนั้นที่เขาเป็นคนแรกของเธอยังไม่ทรมานเท่ากับเมื่อวานที่เขาทำมันเลย
“จับทำไม มีอะไร” สิงห์พูดเสียงห้วนและหันไปมองเธอตาขวาง
“ยะ ยาคุม ...ฉันขอยาคุม ฉันไม่อยากท้อง”
“อยู่ที่หัวเตียง ...กินซะ อย่าปล่อยให้ตัวเองท้องโตเด็ดขาดเพราะไม่งั้นมันจะไม่มีพ่อ” คำพูดของสิงห์เฉือนเข้าไปในใจของดอกรักอย่างแรงจนเธอต้องกลั้นน้ำตาเอาไว้บังคับไม่ให้มันไหลออกมา
“อืม ...ฉันรู้แล้ว ต่อให้เขาต้องเกิดมาจริงๆ เขาก็จะไม่ได้รับรู้ว่าพ่อของเขาคือใคร จำคำพูดของฉันไว้แล้วกัน”
“ก็ดี! จำคำพูดตัวเองให้ได้แล้วกัน”