EP.05
ดูเหมือนความโชคร้ายของหญิงสาวจะไม่โหดร้ายจนเกินไป เพราะขณะที่นักพัฒนาสาวกำลังปลงใจกับของที่เสียไป พร้อมกับหันมาปลอบกันแทนการตีโพยตีพายให้คนอื่นช่วยเหลือ ทุกอย่างกลับตาลปัตรเมื่อกระเป๋าคล้องไหล่ของธารารินซึ่งทำจากผลิตภัณฑ์ผักตบชวาที่เธอเพิ่งซื้อมาจากกลุ่มอาชีพหัตถกรรมในตัวจังหวัดเมื่อเดือนก่อนได้เดินทางมาอยู่ตรงหน้าของเธออีกครั้งหนึ่ง
ด้วยมือของชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งจัดว่าสูงสมสัดส่วน ใบหน้านั้นคมคายเป็นจุดเด่นให้บรรดาสาวแก่แม่หม้ายมองตามจนตาเป็นมัน หญิงสาวยอมรับว่าเห็นครั้งแรกก็นึกชื่นชมเขาอย่างคนทั่วไปเหมือนกัน จะติดอยู่ว่าเวลานี้เธอกำลังตกใจปนกับอาการดีใจที่ของของเธอได้กลับมาอีกครั้ง
ชายคนนั้นผู้อยู่ในชุดอย่างสุภาพชนทั่วไปจุดยิ้มอบอุ่นเมื่อหญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองของในมือเขาอย่างดีใจ
“ของคุณใช่ไหมครับ”
“เอ่อ...ค่ะ”
ธารารินจุดยิ้มขึ้นมาได้เมื่อเห็นกระเป๋าของตัวเอง
เมื่อนาทีก่อน ชายหนุ่มยืนซื้อของอยู่ห่างจากจุดที่หญิงสาวทั้งสองถูกกระชากกระเป๋าไม่ไกลนัก ครั้งเห็นเหตุการณ์เขาไม่ได้นิ่งนอนใจ วิ่งตามชายวัยรุ่นคนนั้นจนสามารถจับตัวได้และนำกระเป๋ากลับมาคืนเจ้าของได้ในที่สุด
ก่อนปล่อยตัวไป ชายวัยรุ่นคนนั้นถูกเขาอัดไปเสียน่วมเพราะมันไม่ยอมคืนให้ง่ายๆ
ธารารินเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มคนนั้นด้วยประกายตาขอบคุณ ก่อนจะเอื้อมมือรับกระเป๋ามาตรวจเช็ค เมื่อเห็นว่าของทุกอย่างยังอยู่ครบเธอจึงเอ่ยขอบคุณเขา
ฝ่ายเจ้าหนุ่มยิ้มกริ่ม มองสาวผิวขาวงามละเอียดอย่างตะลึงในความงดงามของเธอ หญิงสาวตรงหน้าไม่ใช่คนในพื้นถิ่นนี้แน่นอน เพราะมีหลายส่วนที่แตกต่างกันจนประกอบเป็นความงามที่แม้แต่ชายหนุ่มอย่างเขาต้องหยุดมอง
นั่นยิ่งทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงอย่างไม่เป็นจังหวะเมื่อสองหูสดับเสียงหวานหยดจากหญิงสาวยามกล่าวขอบคุณ
จนกระทั่งเสียงกระแอมของอริมาที่ดังแทรกขึ้นถึงได้ทำให้หลุดออกจากภวังค์
“ขอบคุณนะคะ คุณ”
“ศิลาครับ เรียกชื่อเล่นว่าหินก็ได้ฮะ” เขาชิงแนะนำตัวเมื่อหันไปทางสาวสวยอีกคนที่ยืนอยู่ด้วยสีหน้าไม่ไว้วางใจในตัวเขามากนัก
แต่ก็ต้องหน้าเจื่อนเมื่ออริมาขู่ฟ่อเสียงดัง
“ฉันไม่ได้อยากจะรู้ชื่อของนายและน้องสาวของฉันก็ไม่ได้อยากจะรู้ด้วย ใช่ไหมธาร”
หันไปทางหญิงสาวเป็นเชิงให้สาวรุ่นน้องเห็นควรด้วย
ฝ่ายศิลากลับจุดยิ้มเมื่อได้ยินอริมาเรียกสาวสวยอีกคนว่าธาร
“คุณชื่อธารหรือครับ แหม...ชื่อเพราะน่าฟังจัง”
“ค่ะ...” ธารารินยิ้มให้กับผู้มีพระคุณของเธอ “ขอบคุณอีกครั้งนะคะ”
“ยินดีอย่างมากมายครับพ้ม”
เจ้าหนุ่มยืดตัวตรง แล้วไล่สายตาไปมองหญิงสาวอีกคนที่ทำท่าไม่พอใจคว้าแขนสาวรุ่นน้องแล้วพาไปยังจักรยานคะยั้นคะยอให้ขับออกไปจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด
เจ้าหนุ่มนามศิลามองตามแล้วยิ้มอบอุ่น รอยยิ้มของหญิงสาวชื่อธารตราตรึงหัวใจนับตั้งแต่แรกเห็น
ชายหนุ่มพึมชื่อนั้นซ้ำไปซ้ำมาอย่างพกเพ้อ หัวใจนั้นยืนยัน เขากำลังหลงเสน่ห์หญิงสาวชื่อธารเข้าเสียแล้ว
เดินทางมาถึงบ้านพักข้าราชการแล้วอริมามิวายบ่นถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะสายตาของชายหนุ่มคนนั้นที่ดูกรุ่มกริ่มเจ้าชู้ อย่างที่เธอสัมผัสได้ว่าคนประเภทนี้ไม่น่าไว้วางใจเอาเสียเลย
“แต่เขาช่วยนำของมาคืนธารนี่คะ” ธารารินเถียง ถึงจะมีความโชคร้ายแต่ก็ยังดีที่มีชายหนุ่มคนนั้นช่วยนำกระเป๋ากลับมาคืนให้เธอได้
เธอเห็นความมีน้ำใจในตัวของเขา พอๆ กับกำลังชั่งน้ำหนักระหว่างความมีน้ำใจกับความไม่น่าไว้ใจจากปากของอริมาว่าสิ่งไหนหนักเบากว่ากัน
“ผู้ชายบนโลกใบนี้ไว้ใจไม่ได้สักคนค่ะ รู้จักกันแค่ผิวเผินเราดูไม่ออกหรอกนะคะว่าคนไหนจริงใจกับเราด้วยใจจริงๆ ยิ่งสมัยนี้ด้วยแล้วดูข้างนอกแมนทั้งแท่ง แต่บางทีอาจจะเป็นพวกกินกันเองก็ได้นะคะ”
“พี่อบหมายถึงพวกชอบเพศเดียวกันหรือเกย์นั่นหรือคะ”
“ใช่ค่ะ บางทีนะคะ อีตานั่นอาจจะเป็นเกย์ก็ได้”
“เดี๋ยวนี้วัฒนธรรมแบบนั้นเข้ามาถึงที่นี่แล้วหรือคะ” ดวงตาคู่สวยเบิกมองอีกฝ่ายแล้วยิ้มขำ
เธอกำลังขำกับความคิดแบบตีตนไปก่อนไข้ของอริมา
“โอ้ย ของพรรค์นี้มันมีมานานแล้วค่ะ ยิ่งสมัยนี้เทคโน้เทคโนมันก้าวล้ำไปไกลมาก ยิ่งทำให้พวกนี้เปิดเผยตัวตนกันมากขึ้น พี่ขอเตือนนะคะน้องธาร อย่าไปไว้ใจใครมากนัก เพราะบางคนอาจจะไม่จริงใจกับเราเท่ากับตัวเราก็ได้”
“แล้วพี่อบล่ะคะเป็นอย่างไร”
เธอหัวเราะเมื่อเห็นอีกฝ่ายอ้าปากค้างยามเห็นเธอถามอย่างยากที่จะหาคำไหนมาแก้ต่างได้ทัน
จวบจนสาวรุ่นพี่หุบปากลงแล้วกลืนน้ำลายนั่นแหละ ธารารินถึงได้ยิ้มอีกครั้ง
“พี่ขอย้ำเตือนน้องธารอีกครั้งนะคะว่าพี่จริงใจกับน้องม๊ากมากค่ะ พี่เห็นน้องครั้งแรกก็รู้สึกชอบ ยิ่งเป็นคนที่พี่สีฟ้าฝากฝังด้วยแล้วพี่อบคนนี้ยิ่งยินดีให้ความดูแลน้องสาวอย่างน้องธารอย่างดีที่สุดค่ะ”
“แน่ใจนะคะว่าไม่ได้เป็นคำสั่งของใครอีก”
“ด้วยหัวใจค่ะที่พี่ทำ รับรองว่าไม่ได้เป็นเพราะคำสั่งจากใคร”
“สัญญานะคะว่าพี่อบจะไม่โกหกธาร เพราะสิ่งที่ธารเกลียดที่สุดคือการโกหกหลอกลวง”
“เชื่อพี่เถอะค่ะว่าพี่จริงใจต่อน้องสาวคนนี้อย่างมากมาย”
รอยยิ้มจริงใจจุดขึ้นบนริมฝีปากสวยได้รูปของอริมา สาวสวยผู้กำลังย่างขาอายุเข้าเลขสามในอีกไม่ถึงปีพร้อมกับชูนิ้วประหนึ่งกล่าวคำปฏิญาณและให้สัญญากับสาวรุ่นน้องจากเมืองกรุง
ฝ่ายธารารินรับรู้ซึ่งความจริงใจที่แผ่มาจากอริมา แม้ว่าส่วนหนึ่งเธอจะนึกหวั่นกลัวว่าอีกฝ่ายจะโกหก หากเมื่อมองเข้าไปในแววตานั้นแล้วเธอกลับเชื่อในสิ่งที่ฉายออกมา
เพราะแววตาเป็นหน้าต่างสู่หัวใจ
อริมาไม่ได้โกหกเธออย่างที่ปากพูดและหัวใจได้กระทำ