@ บนท้องถนน
เสียงเพลงดังคลอเบาๆ กลบความเงียบที่กำลังกัดกินในก้อนดวงใจ ภาพชายคนสนิทเคยอาสาขับรถให้ บางทีเช้าเย็นแทบจ้างเป็นพนักงานส่วนตัว รอยยิ้มเสียงหัวเราะยังแล่นผ่านเสี้ยวความคิด มือบางกำจิกพวงมาลัยระบาย ก่นน้ำตาเกือบรินไหลทว่า.......
เอี๊ยด!!!!!!
"ลูคัส!!!!" ขณะนึกย้อนวันวาน สายตาดันไปสะดุดกับ บุรุษร่างคุ้นเคยวิ่งหนีอะไรสักอย่างริมถนนตึกร้าง มีชายชุดดำวิ่งติดตาม พวงมาลัยในมือรีบเลี้ยวจอดกระทันหัน หยิบโทรศัพท์มือถือและอาวุธมีดขนาดเล็กไว้ป้องกันตัว เหน็บใส่กระโปรงนักศึกษาด้านหลัง
กึก!กึก!
รองเท้าส้นสูงเกือบห้าเซนติเมตร วิ่งไม่สนใจพื้นผิวคอนกรีตหยาบกระด้าง หวังแค่ว่าได้ช่วยชายหนุ่มคนสนิทปลอดภัย จนตามติดเป้าหมายถึงใต้ตึกร้างวังเวง ท้องฟ้าเปลี่ยนสีเริ่มค่ำแอบสั่นกลัว
"รีน..มาอยู่ที่นี่ได้ไง" ลูคัสสภาพสะบักสะบอมรีบออกจากมุมอับ ตอนได้ยินเสียงฝีเท้าย่องเบา เขาย่อมคุ้นเคยบุคลิกเพศหญิงได้ดี จนพบใบหน้าสวยเลยเกิดความโล่งใจ
"เราตามลูคัสมา แล้วนี่ไปมีเรื่องกับใคร"
"จะใครได้ล่ะ นอกจากเฮียซายน์" น้ำเสียงของฮาเกนดังเรียกทุกคนหันมอง พบลูกน้องจำนวนมากคุ้มกันเบื้องหลัง
"เรื่องอะไรกัน ต้องรุนแรงขนาดนี้มันเกินไปหน่อยไหม"
"พี่อย่ายุ่งกับมันดีกว่า เลิกเกาะกระโปรงผู้หญิงแล้วมากินยำตีนกูเดี๋ยวนี้!" ฮาเกนประกาศกร้าวดัง โยนแท่งเหล็กลงพื้นดังสนั่น
กิ่ก!
"เฮ้ย!/ลูคัส!" หลายคนหลุดเสียงร้องตกใจ ไม่นึกว่าอดีตแฟนเก่าจะสามารถถืออาวุธจ่อลำคอระหง แม้แต่มารีนยังมีสีหน้าผิดหวัง กำท่อนแขนนั้นหมายดิ้นให้หลุดพันธนาการ
"เราไม่มีทางเลือกรีน เราขอโทษจริงๆ" คนกระทำก้มลงกระซิบใกล้กกหูบาง เรี่ยวแรงมหาศาลไม่ได้กระทบเรืองร่างบางสักนิดเดียว ไร้การเจ็บยิ่งการเหนี่ยวรั้งให้ก้าวขาหนีพร้อมกัน
"มึงปล่อยพี่กู!!!!"
"ถ้าคิดว่าหนีรอดก็ตามสบาย" ซายน์ปรากฏตัวขึ้น ทันทีที่สองชายหญิงกำลังพ้นเขตตึกร้าง เขาแหสะยิ้มเลือดเย็น ดูภาพเหตุการณ์ตรงหน้าไม่ได้ต่างไปจากที่คาดไว้เลย เพราะเขาเห็นตั้งแต่เธอจอดรถ หวังช่วยอดีตแฟนเก่า
"พูดงี้คืออยากให้ฉันตาย?" เล็บยาวไม่ได้จิกท่อนแขนหวังให้เกิดรอย แต่ทุกอย่างตอนนี้ทำเหมือนกับตัวเองคือเหยื่อ ไม่มีส่วนรู้เห็นเพื่อรอดสถานการณ์เท่านั้น
"ต่อให้ตายมันก็ไม่จบ ถ้าไอสารเลวนี่ไม่ลงนรกไปซะ"
"นายไม่คิดว่าพวกลุงคิวจะผิดหวังหรอ ถ้าลูกเค้าเป็นตัวต้นเหตุให้ลูกสาวเพื่อนรักต้องตาย ไว้วันหน้าค่อยไปตามฆ่าก็ได้นี่"
"มึงอยากให้ผู้หญิงตาย เพื่อเอาชนะโครตภูมิใจเลยว่ะ" แล้วเสียงของลูคัสพูดเยาะเย้ย ปฎิเสธการกระทำผิดตัวเอง แค่เขาตวัดปลายมีดนิดเดียว เกือบเฉื่อนเส้นเลือดใหญ่ ทำเอาร่างบางสะดุ้งสั่นตอบสนอง
"คิดว่ากูหน้าตัวเมียเหมือนมึงหรอ อยากหนีก็ไปซะไป"
"ได้ไงล่ะเฮียซายน์ กว่าจะตามตัวมันโครตยากเลย"
"ต่อไปมันจะง่ายขึ้น" ใบหน้าคมเอียงเล็กน้อย ส่งสัญญาณให้ลูกน้องเปิดทางหลบหนี เมื่อเหยื่อน่าสมเพชกล้าต่อลอง มีหรือราชสีห์จะไม่กล้าให้ พอสองชายหญิงจากไปล่ะสายตา ปากหยักพ่นน้ำลายสบถลงพื้น สบัดหมุนกลับเปลี่ยนอารมณ์ ควักมือเรียกรุ่นน้องเร่งฝีเท้าตาม
.
.
.
คอนโดลูคัส
"ขอบใจนะที่ช่วยเราไว้" เพราะการเอาชีวิตรอดครั้งนี้ มาจากแฟนเก่าที่ยังรู้สึกผูกพันธ์ จับสองมือบางแสดงถ้อยคำในใจ ณ พื้นที่รับรองแขกโซนชั้นล่าง
ครั้นตอนคบกันทั้งคู่ไม่ก้าวก่ายชีวิตส่วนตัว ให้พื้นที่ระยะห่างเพื่อความสบายใจ จึงไม่เคยเหยียบถึงชั้นพักผ่อนเลยสักครั้งเดียว
"ไม่เป็นไรเลย แล้วนี่พอจะบอกได้ไหมว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร" ไม่ใช่จะช่วยเหลือต่อหรอกนะ ทว่าเรื่องนี้ดันเกี่ยวข้องถึงน้องชายตัวดีด้วย หากไปถามตรงหน้ายังไงก็คงไม่ได้ความ
"ลูคัส!!อ้าวรีน...ทำไมถึงมาอยู่นี่ได้" ข้าวฟ่างวิ่งตรงมาสวมกอดแขนแสดงความเป็นเจ้าของ เมื่อรู้ว่าชายหนุ่มกลับถึงที่พักแล้ว ชุดเดรสตัวจิ๋วอวดเนื้อเกือบล้นทะลัก หลังพึ่งเสร็จงานรับจ็อบเดินแบบมา
"มีเรื่องนิดหน่อย รีนมาช่วยเราไว้" นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนมองอดีตสั่นไหว ท่าทีแอบเกรงใจแต่ก็ดูเลือกปัจจุบันมากกว่า
"ขอบใจแทนแฟนเราด้วยนะรีน แต่เดี๋ยวเราดูแลต่อเอง รีบกลับนะดึกแล้ว"
"ฉันคงไม่อยู่ดูความฉิบหายหรอก อ้อ...เป็นคนไม่ใช่ผีไม่ต้องอัญเชิญจ้า" สิ้นประโยคเราะร้าย เธอเหยียดยิ้มรังเกียจส่งให้ ร่างบางสะบัดผมสลวย หมุนตัวเดินสับรองเท้าส้นสูงรับจังหวะ มาดมั่นมีราศีประหนึ่งเส้นทางนี้ดีกว่ารันเวย์ชัดๆ
.............................................
ใดใดคือใครจะสู้ปากมารีนไหว 555