ตอนที่ 5

826 Words
นาฬิกาบนฝาผนังห้องบอกเวลาเที่ยงคืน ไฟตามบริเวณทางเดินแม้ไม่สว่างมากแต่ก็พอมองเห็นเส้นทางที่จะเดินไปทางตึกใหญ่ ข้าวต้มของหล่อนเย็นชืดและในตู้เย็นก็ไม่มีอะไรพอจะประทังความหิว หล่อนจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะเดินไปยังตึกใหญ่ แต่ใกล้กันแค่นี้ก็ไม่เป็นอุปสรรค           มิลินพาร่างอ่อนแรงเดินไปตามเส้นทางคดเคี้ยวผ่านสวนสวยที่มีศาลาทรงจีนสถานที่ซึ่งแม่ของกวินชอบมานั่งจิบน้ำชายามบ่าย เพราะมีร่มไม้ให้อากาศเย็นสบายแม้จะเป็นในยามหน้าร้อน เป้าหมายของหล่อนคือห้องครัวของบ้านใหญ่ แต่ทุกอย่างต้องทำอย่างเบาเพราะในยามนี้ทุกคนคงหลับหมดแล้ว           มิลินพาตัวเองเดินไปที่ครัว เปิดตู้เย็นหาของที่หล่อนพอจะทำกินได้ยังง่ายๆ โชคดีที่มีขนมปังแซนวิชสเปรดสำเร็จรูปและนมจืดแช่อยู่หลายกล่อง หล่อนหยิบข้าวของออกมากองบนโต๊ะ ไม่นานหล่อนก็ได้แซนวิช 2 ชิ้นพร้อมกิน แค่นี้หล่อนก็พอจะบรรเทาความหิวในค่ำคืนนี้ไปได้           แต่ขณะที่ก้มเก็บของใส่ตู้เย็น สิ่งที่เห็นก็ทำให้มิลินคิดทั้งที่ไม่ควรคิดแต่มิลินก็คิดไปแล้ว ลำคอแห้งผากจนหล่อนเผลอกลืนน้ำลายลงคอขณะมือเอื้อมหยิบเจ้าผักสีส้มมาถือเอาไว้           แครอทหัวอวบยาวมีปุ่มปมเล็กน้อยสร้างจินตนาการของหล่อนให้โลดแล่นทั้งที่หล่อนไม่ควรคิดเลย แต่หล่อนก็ห้ามตัวเองไม่ได้ รู้ตัวอีกทีหล่อนก็ถือมันไว้ในมือพร้อมกับอาการคันยิบยับบริเวณนั้นเกิดขึ้น โดยที่หล่อนบอกตัวเองไม่ได้ว่าหล่อนอยากให้เป็นแบบนี้หรือไม่อยากกันแน่ กลืนน้ำลายลงคออีกครั้งก่อนจะรีบคว้าทุกสิ่งมาถือไว้ รีบปิดไฟแล้วออกจากห้องครัวโดยเร็ว           มิลินเดินกลับมาทางเก่าแต่ก่อนจะถึงศาลากลางสวนเสียงหนึ่งก็ทำให้หล่อนต้องชะงักเท้า เสียงครวญครางของผู้หญิงไม่ใช่เพราะเจ็บปวดแต่เสียงนั้นเป็นเสียงของความสุขสมหล่อนเพ่งมองฝ่าความมืด จนเมื่อดวงตาเห็นแสงหล่อนก็เห็นเงาตะคุ่มที่กลางศาลา           “อุไร” คนงานใหม่ที่แม่ของกวินเพิ่งรับเข้ามาทำงานไล่เลี่ยกับตอนที่หล่อนแต่งเข้ามาเป็นสะใภ้ และอุไรก็ยอมเป็นเมียของคุณเตี่ยอย่างเต็มใจ แต่ตอนนี้อุไรมาทำอะไรที่ศาลากลางสวนทั้งยังส่งเสียงครวญครางฟังไม่ได้ศัพท์ และจากเสียงครวญหล่อนก็พอเดาได้ แต่ใครกันล่ะที่ทำให้อุไรครวญครางอย่างนี้ คุณเตี่ยเหรอ           คิดพลางมิลินขยับเข้าไปใกล้ หล่อนอยากเห็นชัดๆ อยากรู้ว่าอุไรโดนอะไรถึงได้ร้องซะมากขนาดนั้น           “โอ้ว… ซี้ด… โอว… ซี้ด… อื้อ… พี่… ซี้ด… โอว… ฉันเสียว… ซี้ด… โอว… เสียวจะตายอยู่แล้ว ซี้ดดดดด… พี่จ๋า… โอว… เอาฉันเถอะ ฉันไม่ไหวแล้ว ซี้ด…”           ระยะที่ใกล้แต่มีพุ่มไม้บดบัง มิลินเห็นอุไรนั่งอยู่ที่ม้านั่งยาวบุนวมรับสัมผัสจากแรงกดทับเพื่อคนนั่งจะได้ไม่เมื่อยก้น ทว่าอุไรไม่ได้นั่งแบบปกติแต่กลับนั่งเอนหลังและยกฝ่าเท้าขึ้นมาวางไว้บนเบาะ ต้นขาอ้ากว้าง และมีใครบางคนอยู่ตรงหว่างขา           ความมืดที่โอบล้อมทำให้เห็นคนที่นั่งคุกเข่าก้มๆ เงยๆ ไม่ชัด แต่มิลินก็รู้ได้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่กลางหว่างขาของอุไร           ความเสียวพวยพุ่งสู่จุดนั้นจนมิลินก้าวขาไม่ออก หล่อนยืนนิ่งคันยิบยับจนต้องบดเบียดต้นขาเข้าหากัน แต่ยิ่งเบียดหล่อนก็ยิ่งคัน ยิ่งคันก็ยิ่งเสียวจนรับรู้ได้ถึงหยาดน้ำฉ่ำเยิ้มที่ค่อยๆ ไหลซึมออกมา           อาการหิวจนท้องร้องโครกหายวับ กลายเป็นความกระสันอยากได้สิ่งนั้นมาเติมเต็มความอ้างว้าง เพราะแค่เห็นคลิปเลียเต่าที่เพื่อนส่งมาให้ หล่อนยังกระสันจนขยี้เต่าตัวเองจนเพลีย แต่นี่ได้มาเห็นของจริงเสียงจริง คนจริงๆ กำลังเลียกันอยู่ตรงหน้า หล่อนจะทนได้อย่างไร           มิลินกระชับกล่องนมและ กล่องแซนวิชแนบอก มือกำผักสีส้มในมือแน่น เสียงครวญครางของอุไรทำให้หล่อนต้องเพ่ง ด้วยอยากรู้ว่าคนที่กำลังเลียเต่าให้อุไรนั้นคือใคร ใช่คุณเตี่ยไหม           “โอว… พี่จ๋า… ฉันไม่ไหวแล้ว ซี้ด… ซี้ด… ไม่ไหว… โอว… ซี้ด… โอว…”           อุไรส่ายใบหน้าครวญคราง ตาลอยคว้างก่อนจะเม้มริมฝีปากเก็บกั้นเสียงกรีดร้อง ร่างกระตุกเฮือก แต่คนด้านล่างก็ยังไม่หยุด หัวยังคงผลุบโผล่ตรงส่วนนั้นจนอุไรกระตุกอีกหลายครั้ง 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD