ทันทีที่มือเล็กเปิดประตูเข้ามาในส่วนของร้านเบเกอรีชั้นล่างสุดของบ้าน ซัมเมอร์ถือเค้กก้อนสีขาวประดับสีเขียวสีแดงออกมาจากด้านหลังเคาน์เตอร์ แซมจุดพลุุกระดาษเล็กๆ ยืนอยู่ข้างลูกสาว สองคนพ่อลูกส่งยิ้มกว้างให้หญิงสาวจนตาหยี
“แฮปปี้เบิร์ทเดย์นะคะพี่ลินด์”
“แฮปปี้เบิร์ทเดย์นะหนูลินด์”
“ขอบคุณมากๆ นะคะ ลุงแซม ซัมเมอร์” ลินด์เอ่ยอย่างซาบซึ้งกับการกระทำของสองพ่อลูกที่ดีกับเธอมาตลอด
หญิงสาวยิ้มหวานก่อนจะกุมมืออธิษฐานแล้วเป่าเทียนวันเกิดที่ปักอยู่บนเค้ก
“เย้ มีความสุขมากๆ นะคะพี่ลินด์”
“ขอให้สิ่งที่หนูอธิษฐานเป็นจริงนะลินด์ ป้ะ กินเค้กกัน” แซมเดินนำหญิงสาวทั้งสองคนไปนั่งโต๊ะที่จัดเตรียมไว้
“โอ้โห้ อร่อยมากเลยซัม” ลินด์ทำตาลุกวาวเมื่อตักเค้กคำใหญ่ฝีมือซัมเมอร์เข้าปาก
“จริงเหรอคะ” ซัมเมอร์ก็ตาโตมองทั้งลินด์มองทั้งพ่อ
“ที่สุดเลยลูก เก่งขึ้นนะเราเนี่ย” แซมเอ่ยชมลูกสาว สามคนทานเค้กด้วยกันอย่างมีความสุข พูดคุยสัพเพเหระกันไปเรื่อยด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
โชคดีของเธอที่มาเจอพ่อลูกคู่นี้…
หลังจากจบมัธยมปลายในลอนดอน เธอก็มาเข้ามหาวิทยาลัยในเมืองอีสต์เบิร์น ซึ่งเป็นเมืองติดทะเลเมืองหนึ่งของอังกฤษ ห่างจากตัวลอนดอนพอสมควร
“พรุ่งนี้ปิดร้านดีกว่า เราไปเที่ยวกันไหม ฉลองที่ลินด์เรียบจบแล้วด้วย ดีมั้ยๆ” แซมถามหญิงสาวทั้งสองคน
ตั้งแต่ลินด์มาอาศัยอยู่ที่นี่ ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่ลินด์จะออกไปเที่ยวไหนไกลๆ กับเขาและซัมเมอร์ เหมือนเธอพยายามหลบซ่อนอะไรสักอย่าง ไม่กล้าเอาตัวเองออกจากสถานที่ที่คุ้นเคย
“ดีค่ะ ดีมากเลย ไปด้วยกันนะพี่ลินด์ นะ นะคะ” ซัมเมอร์เขย่าแขนลินด์จนตัวโยก
“ขอบคุณนะซัมเมอร์ ลุงแซม แต่เดี๋ยว…”
“เดี๋ยวลินด์เฝ้าบ้านให้ดีกว่า” สองคนพ่อลูกพูดพร้อมกันราวกับนัดหมาย
ลินด์อมยิ้มน้อยๆ ที่โดนรู้ทัน เพราะสองคนพ่อลูกพูดประโยคเดียวกับที่เธอกำลังจะพูดเป๊ะเลย
สามคนพูดคุยกันอีกไม่นานก็แยกย้ายไปพักผ่อน หญิงสาวเอ่ยขอบคุณทั้งซัมเมอร์และลุงแซมที่ฉลองวันเกิดให้ เธอเก็บกวาด เช็ดโต๊ะให้เรียบร้อยก่อนจะกลับเข้าห้องตัวเองเช่นกัน
ร่างอรชรทิ้งตัวลงบนเตียงขนาดสามฟุตครึ่ง ดวงตาสวยหลับตากำหนดลมหายใจคงที่
คุณหญิงไม่ได้ติดต่อเธอมาหลายเดือนแล้ว ทุกปีจะมีการ์ดวันเกิดจากคุณหญิงแต่ปีนี้กลับไม่มี
“ทำไมรู้สึกแปลกๆ นะ มีอะไรหรือเปล่า” เสียงเล็กเอ่ยพูดคนเดียวขณะยังหลับตาอยู่ ก่อนจะลืมตาแล้วลุกขึ้นไปนั่งโต๊ะเขียนหนังสือข้างๆ เตียง
มือเล็กหยิบกระดาษและปากกาเตรียมเขียนจดหมาย
“ออกไปใช้ชีวิตให้มีความสุข ไม่ต้องห่วงเรื่องทางนี้และไม่ต้องติดต่อกลับมา ฉันสัญญาว่าจะรับผิดชอบชีวิตของเธอจนกว่าจะหมดลมหายใจ เพราะฉะนั้นไปมีชีวิตใหม่ สร้างครอบครัวที่อบอุ่นที่นั่นซะ”
ครอบครัวที่อบอุ่น... เธออยู่ตัวคนเดียวมาตลอดจะมีครอบครัวที่อบอุ่นได้ยังไงกัน
ปากกาเขียนได้แค่ชื่อของคุณหญิงอรรัมภา ก่อนที่เธอจะเก็บกระดาษแผ่นนั้นใส่ลิ้นชักไว้เหมือนเดิม
“ขอให้คุณหญิงมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงนะคะ” ลินด์มองออกไปนอกหน้าต่างแล้วหลับตาอธิษฐานขอพรอีกหนึ่งข้อ ไม่ใช่แค่ห่วงความปลอดภัยของตัวเอง แต่ห่วงคนที่เธอเคารพรักและนับถือด้วย
“หนีให้พ้นแล้วกัน กูเจอมึงเมื่อไหร่ได้ตายคาอกกูแน่คนสวย” อยู่ๆ ความคิดชั่ววูบที่เธอไม่อยากนึกถึงก็วนกลับเข้ามาในสมอง
“ฮึก!” ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกก่อนจะรีบปิดม่านแล้วนอนลงบนเตียง นึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องมาอยู่ที่นี่ทีไรก็เหมือนว่าจะหมดลมหายใจเหมือนตอนนั้นทุกที
...
วันเกิดของหญิงสาวหมดไปกับการพักผ่อน นอนอ่านหนังสือเล่นอยู่บนเตียงเป็นส่วนใหญ่ มือเล็กหยิบมือถือที่เอาไว้แค่โทรและส่งข้อความขึ้นมาดูเมื่อมีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้น
“เสียดายมาก! พี่ลินด์ไม่มา” ซัมเมอร์ส่งรูปเซลฟี่หน้ามุ่ยกับแซมส่งให้เธอทางข้อความ สองคนนั้นไปเล่นสกีท่ามกลางหิมะสีขาวโพลนทั่วเมือง
ใบหน้าสวยยิ้มมุมปากก่อนจะส่งข้อความตอบกลับ
“เที่ยวให้สนุกนะซัม อย่าเจ็บตัวล่ะ ฝากบอกลุงแซมด้วย” กดส่งปุ๊บ เธอก็วางมือถือไว้ที่เดิม
ถึงคุณหญิงจะบอกให้เธอสนุกกับชีวิตได้เต็มที่ แต่เธอกลับรู้สึกหวาดระแวงและกลัวอยู่เสมอ เธอยังไม่มีความกล้าที่จะออกไปข้างนอกหรือทำอะไรที่เปิดเผยแม้กระทั่งเล่นโซเชี่ยลเหมือนคนอื่นๆ
ภาพจำและความรู้สึกหวาดกลัวในวันนั้นมันยังติดอยู่ในสมอง
“นานๆ ไปก็จะกลัวน้อยลงและมันจะหายไปเอง…” เสียงหวานเอ่ยพูดกับตัวเองแล้วเปิดหนังสือนิยายที่ยืมจากซัมเมอร์มาอ่านฆ่าเวลา แต่เผลอแค่แป๊บเดียวก็ถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว
ลินด์ลงไปทำอาหารง่ายๆ ทานคนเดียวในครัวก่อนจะขึ้นมาอาบน้ำเตรียมเข้านอน เพราะพรุ่งนี้เธอต้องไปทำงานที่รีสอร์ตแต่เช้า