ภัทร์แชทไปหานารินอีกทีในช่วงสายของวันอาทิตย์ นารินอาบน้ำแต่งตัวแล้ว เตรียมจะออกไปส่งของ เสียงแชทดังขึ้นมาทำเอาเธอใจสั่นอีกครั้ง
'ตกลงว่าวันนี้สะดวกไหมครับ'
นารินยิ้มบางๆแล้วตอบกลับไป
'ได้ค่ะ ช่วงเที่ยงได้ไหมคะ'
เธอถามเวลาออกไปแล้ว
'ได้ครับ เจอกันเที่ยงนะ ที่.... ได้ไหม'
นารินคิดถึงสถานที่นัด อดแปลกใจไม่ได้ ห้างที่เค้านัดอยู่ห่างจากอพาร์ตเม้นท์เธอไม่เท่าไหร่
'คุณภัทร์อยู่แถวนี้หรอคะ'
เธอถามออกไป 'ผมอยู่ที่...'
นารินยิ้มกับตัวเอง ที่พักของเธอและเค้าห่างกันแค่สองซอยเท่านั้นเอง เธอไม่เคยรู้เลย
นารินรอส่งของด้วยความกระวนกระวายใจ จะ11โมงแล้ว ยังไม่ถึงคิวเธอเลย ห่อพัสดุมากกว่า80ห่อกองอยู่ในถุงใบใหญ่ ในใจนึกภาวนาแค่นัดแรกอย่าให้สายเลย สาธุ นารินคิดในใจ ระหว่างทางจากไปรษณีย์ไปห้างอย่างต่ำต้อง20นาที เธอกระวนกระวายใจมากเหลือเกิน
ภัทร์สวมเสื้อยืด กางเกงยีนส์ดูสดใส เค้าตั้งใจจะลองคุยกับเธอดู หากว่ามันดี ก็จะคบกันไปเรื่อยๆหากว่ามันไม่เวิร์ค ก็เป็นเพื่อนร่วมงานกันได้ ไม่น่าจะเสียหายอะไร นารินเดินเร็วๆมาที่ร้านกาแฟที่เค้านัดเธอไว้ คุณภัทร์ยังดูเนี้ยบในท่าทางสบายๆอย่างวันนี้ เธอเดินเข้าไปหาเค้าอย่างรู้สึกผิดที่ปล่อยให้เค้ารอ
"คุณภัทร์"
เสียงเรียกเบาๆดังข้างตัว ภัทร์เงยหน้าจากโทรศัพท์ที่กำลังเล่นเกมส์อย่างเมามัน รอยยิ้มสดใสที่ส่งมา ทำให้ใจของเธอสั่นระรัว
"นาขอโทษที่ช้านะคะ" ภัทร์มองดูนาฬิกา แล้วยิ้มออกมา
"กินข้าวเถอะครับ ผมหิวแล้ว" นาราเดินนำออกมาจากร้านกาแฟ แล้วเดินเคียงข้างเค้าไป วันนี้เธอกับเค้าแต่งตัวคล้ายกันจนน่าตกใจ แต่มาคิดอีกที เสื้อยืดกางเกงยีนส์ใครๆเค้าก็ใส่กันนี่นะ นารินเอ้ย บ้าไปแล้ว
"คุณนาจะกินอะไรครับ"
เสียงเค้าถาม ด้านข้างเป็นร้านอาหารชื้อดังไล่เรียงมาสองฟากข้าง ร้านแบบนี้นานๆกินทีก็พอได้ นารินคิดในใจ
"นากินอะไรก็ได้ค่ะ คุณภัทร์อยากทานอะไรคะ" เธอตอบเค้า ภัทร์เดินนำเธอไปที่ฟู้ดคอร์ท ร้านอาหารจานด่วนละลานตาเต็มพื้นที่ นารินยิ้มกว้างออกมา แลกคูปองสองร้อยก็ได้อาหารหลายอย่างเต็มโต้ะ มือขาวสะอาดยื่นคูปองส่งให้ นารินส่ายหน้าปฎิเสธ
"เดี๋ยวนาไปแลกเองค่ะ" เธอบอกเค้าไป แค่มาด้วยกันไม่ต้องเลี้ยงหรอกนะ นารินคิดในใจ
"คราวนี้ผมเลี้ยงคุณ คราวหน้าคุณเลี้ยงผม โอเคไหม"
เค้าบอกออกมา นารินจึงยื่นมือไปรับคูปองมาด้วยรอยยิ้ม ยังจะมีคราวหน้าอีกหรอ นารินคิดในใจขณะรอสั่งราดหน้าหมี่กรอบ ตรงหน้าเธอมี ข้าวมันไก่ ต้มเลือดหมู และข้าวเกรียบปากหม้อ ต่างจากเธอที่มีราดหน้าหมี่กรอบจานเดียว นารินอ้าปากค้าง
"ทานหมดหรอคะ" เธอถามออกไป เค้าพยักหน้า แล้วส่งขวดน้ำเปล่าที่เปิดฝาให้แล้วอย่างเรียบร้อย
นารินแอบยิ้มกับท่าทางการกินอาหารของเค้าคุณภัทร์คงจะหิวมากจริงๆ ภัทร์เงยหน้าขึ้นมามองคนตรงหน้าที่กำลังมองเค้าด้วยสายตาอ่อนหวาน สองสายตาสบตากัน เป็นนารินที่กลบเกลื่อนหยิบขวดน้ำขึ้นมาดื่มอย่างท่าทางเงอะงะเต็มที่ ภัทร์ยิ้มอย่างถูกใจ นารินเขินเค้า หลังทานอาหารเสร็จ ภัทร์ก็บอกคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า
"คุณติดหนี้ข้าวผมมื้อนึงนะครับนา อย่าลืมนะ"
นารินยิ้มแล้วตอบออกไป
"นาไม่ลืมค่ะ คุณภัทร์สะดวกวันไหน นัดมาได้เลย"
คนพูดไม่ทันได้คิดอะไร แต่พูดออกไปก็กลับเขินอายเสียเอง เท่ากับว่าเธอเป็นคนรอเค้าสินะ นารินเอ๋ย ทำไมเปิ่นขนาดนี้
ภัทร์เขินรถเข็นมาบริการคนข้างตัว เค้าเพิ่มตระกร้ามาอีกไปด้วยเพื่อสะดวกต่อการวางของ นารินเลือกของใช้ตามลิสต์รายการที่จดมา ภัทร์แอบมองอย่างอึ้งๆ
"โห มาซื้อของต้องจดด้วยหรอครับ"
เธอพยักหน้า แล้วกางรายการให้เค้าดู ของใช้ส่วนตัวหลายรายการยาวเหยียด แถมยังมีสก้อตเทป แม้ก และกาว อีกด้วย
"อุปกรณ์สำนักงานที่ออฟฟิศไม่มีหรอครับ ทำไมต้องซื้อ"
นารินส่ายหน้า "นาเอามาใช้ส่วนตัวค่ะ นาเอามาแพ็คของขาย"
แล้วเธอก็ร่ายยาวถึงอาชีพเธอให้เค้าสั่งยาวเหยียด ภัทร์ฟังไปยิ้มไป นี่คงเป็นอีกพาร์ทนึงในชีวิตคุณใช่ไหมนาริน ภัทร์คิดในใจ