เธอห้ามเขาด้วยความเหนื่อยอ่อน แต่ ชายหนุ่มหาได้สนใจไม่ ยิ่งเธอตอดรัดบีบเร้าเขาดีแบบนี้ มันต้องต่ออีกยกสอง แต่เขาเหนื่อยจะเดินเกมแล้ว อยากให้เธอเป็นฝ่ายเดินมากกว่า
“ไม่ดีมั้งทูนหัว”
ว่าแล้วก็ถอดถอนความเป็นชายตัวเองออกมา ก่อนจะดึงรั้งให้หญิงสาวลงมายืนตรงหน้าตัวเอง ก่อนจะเอื้อมมือไปกดไหล่ทั้งสองข้างของเธอให้ทรุดกายนั่งลงหน้าขาของตัวเอง
“แสดงฝีมือให้ฉันดูสิสาวน้อยของฉัน จับมัน ลูบไล้มัน ดูดกลืนกินมันให้ฉันดูที อ๊า! ”
เอ่ยเสียงพร่า พร้อมกับมือใหญ่ของตัวเองกอบกุมความใหญ่โตของตัวเองไว้ แล้วลูบไล้โชว์คนที่นั่งคุกเข่าอยู่หน้าตน
“คะ...คือว่า....”
“ไม่ต้องอ้ำอึ้งเลย เธอทำแบบนี้บ่อยจะตายยังไม่ชินอีกเหรอ หรืออยากทำให้ไอ้แฟนกระจอกเธอฮ้า! ”
ยังฟังอีกฝ่ายพูดไม่จบ อารมณ์ฉุนก็ปะทุขึ้นมาเสียก่อน จนทำให้พูดจาตะคอกเจ้าหล่อนออกมา
“ใช่! ฉันจะทำให้แฟนฉันคนเดียวเท่านั้น”
อรอุมาเชิดคอตอบเสียงแข็ง พยายามดันตัวลุกขึ้นยืนประจันหน้า แต่ก็ทำไม่ได้ เมื่อมือใหญ่อีกข้างของซาตานร้ายตรงหน้ากดไว้แน่น
“หึหึ ไอ้หมอนั่นมันก็เป็นได้แค่แฟนที่เจาะกินเธอนับครั้งได้ แต่ฉันสิ ฉันเป็นผัว นอนเจาะเธอแทบจะทุกคืน หัดสำนึกจดจำใส่สมองไว้บ้างสิ”
พื้นเมืองตอบโต้เสียงแข็ง พร้อมกับเอามือชี้หน้าผากเธออย่างกรุ่นโกรธ ก่อนจะผลักหน้าผากเธอไปด้านหลัง แต่ด้วยความอวดดี อวดเก่งของอรอุมา ก็กลับมาทรงตัวแหงนมองซาตานร้ายอีกครั้ง
“ถึงเขาจะเจาะฉันนับครั้งได้ แต่ฉันก็รักเขา เพราะเขาเป็นคนดี ไม่เหมือนคนที่ขุดนรกมาเกิด”
“ปากน้อยๆ ช่างพูดดีนักนะ ชอบใช่ไหม ชอบใช้ปากพูดจาเชือดเฉือนกันนักใช่ไหม”
ว่าแล้วก็โค้งตัวลงมาอยู่ในระดับที่พอดี ก่อนจะเอื้อมมือไปทางท้ายทอยของอรอุมา แล้วผลักดันให้เธอซุกไซ้ตรงกลางหว่างขาของตนอย่างคนเหนือกว่า
“อะ! อือ! ปะ...ปล่อยฉันนะ”
มือเล็กผลักดันหน้าขาของชายหนุ่มออก ส่วนใบหน้างามนั้นซุกไซ้ตรงกึ่งกลางความใหญ่โตของเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้
“โอ๊ะ! โอ๊ะ! โอ๋! ช่างน่ากลัวเสียงจริง ชูว์! หึหึ”
พื้นเมืองเอ่ยล้ออย่างขบขัน แถมยังปล่อยเสียงหัวเราะออกมาเย้ยหยันเธออีก
“อือ! ”
อรอุมาพยายามดิ้นหนี แต่ก็ไม่เป็นผล จึงจิกเล็บยาวๆ ของตนตรงหนาขาของอีกฝ่าย เพื่อให้ตัวเองได้เป็นอิสระ
“โอ๊ย! เธอทำบ้าอะไร”
ผลักสาวเจ้าออกห่าง พร้อมกับก้มลงดูหน้าขาของตัวเอง
“ก็ทำให้คุณเจ็บไง ถึงเจ็บไม่มาก เห็นคุณเจ็บแค่นี้ฉันก็ดีใจมากแล้ว”
จ้องหนาอีกฝ่ายด้วยความแค้นเคือง ถ้าเธอมีปืนในมือคงยิงเขาทิ้งไปแล้ว ไม่ปล่อยให้มาข่มเหงซ้ำแล้วซ้ำเล่าหรอก
แต่อะไรก็ไม่น่าเจ็บใจไปกว่านั้น คือตัวของหล่อนเองที่สมยอมโอนอ่อนทุกครั้งทุกคราที่เขาแตะต้องสัมผัส
“เธอจะได้รู้ว่านรกมันมีจริงก็ครานี้แหละ ตัวเล็ก ฉันพยายามดีกับเธอ สอนรสรักให้เธอ เอาอกเอาใจ อ่อนโยนเวลาเราเชื่อมประสานกัน แต่พอเสร็จเธอกลับทำกับฉันแบบนี้เหรอ ยัยผู้หญิงไม่รักดี”
ว่าแล้วก็ก้าวเท้าเข้ามาชิดคนที่ยังนั่งคุกเข่า ก่อนจะจับรั้งให้เธอลุกขึ้นยืน
“โอ๊ย! เบาๆ สิ คนนะไม่ใช่วัวใช่ควาย จะได้ใช้ความรุนแรงด้วยแบบนี้”
“หึหึ ยังคิดว่าตัวเองเป็นคนอยู่อีกเหรอ สำหรับฉันเธอมันก็แค่ผู้หญิงไร้ราคาเท่านั้นแหละตัวเล็ก”
ตอนนี้ผีห่าซาตานเจาะปากพื้นเมืองมาทุกคำพูด
อรอุมารู้สึกเจ็บลึกๆ ในหัวใจ เมื่อได้ยินน้ำคำของชายหนุ่มตรงหน้า
“จะทำอะไรก็ทำเลย ทำให้ฉันตายไปเลย แต่จำไว้หากวันไหนฉันหลุดพ้นนรกขุมนี้เมื่อไหร่ วันนั้นแหละคุณจะตายทั้งเป็น”
เมื่อรู้ตัวว่าตัวเองสู้ยังไงก็แพ้ จึงได้แต่ก้มหน้ารับชะตากรรมของตัวเองอย่างจำทน
“หึหึ ดี! รู้ตัวก็ดีแล้ว แต่รู้อะไรไหมตัวเล็ก ผู้หญิงอย่างเธอไม่มีทางทำอะไรฉันได้หรอกจำไว้! ”
พื้นเมืองเอ่ยเสียงเข้มจ้องมองหน้างาม พร้อมกับจับแขนทั้งสองข้างของเธอด้วยความโกรธ
อรอุมาพยายามเก็บกลั้นความเจ็บไว้ในลำคอ ไม่ให้ส่งเสียงร้องออกมา เพราะตอนนี้เขาบีบแขนเธอแน่นเหลือเกิน จนมันจะแหลกคามือของเขาแล้ว
“พูดสิ! ทำไมไม่พูดฮ้า! ”
ยิ่งเห็นเจ้าหล่อนเงียบ พื้นเมืองก็ยิ่งโกรธเป็นเท่าทวีคูณ
“พูดสิ! ทำไมไม่พูดฮ้า! ”
ยิ่งเห็นเจ้าหล่อนเงียบ พื้นเมืองก็ยิ่งโกรธเป็นเท่าทวีคูณ
“พูดไปก็เปลืองน้ำลาย เพราะพูดกับเดนนรกอย่างคุณไปมากเท่าไหร่ มันก็ไร้ประโยชน์”
“งั้นอย่าพูดมันเลย เก็บเสียงและน้ำลายของเธอไว้ทำอะไรสนุกๆ ดีกว่า ฉันรู้ว่าเธอก็ชอบมัน”
แสยะยิ้มอย่างน่าเกลียด ก่อนจะปล่อยแขนเนียนทั้งสองข้างให้เป็นอิสระ
เมื่อเป็นอิสระแขนเล็กก็ยกขึ้นเพื่อจะตบคนตัวโต แต่ยังไม่ทันได้ฟาดก็มีเสียงขัดขึ้น
“เอาสิ! ฉันจะตบเธอคืนเป็นสองเท่า อย่าคิดว่าฉันจะจูบเธอนะ ฝันไปเถอะ นี่มันชีวิตจิรง ไม่ใช่นิยายและละครน้ำเน่าที่ใครๆ เขาดูกัน”
อรอุมายกมือค้างกลางอากาศแทบจะทันที เพราะเธอรู้ดีว่าคนอย่างพื้นเมืองนั้นทำแน่นอน ถึงแม้ว่าจะเป็นครั้งแรกที่เขาบอกว่าจะตบเธอกลับก็ตาม เพราะทุกครั้งที่หล่อนตบเขา เขาก็ไม่พูดแบบนี้เลย จึงดึงมือกลับมาไว้ข้างลำตัวเช่นเคย
“สารเลว! ”
เธอสบถด้วยความหัวเสีย ส่วนมือเล็กทั้งสองข้างก็กำกำปั้นไว้ด้วยเช่นกัน ตอนนี้เธออยากร้องไห้ซบอกแดนเถื่อนเหลือเกิน แต่ก็ทำไม่ได้อย่างที่คิด
“ขอบคุณที่ชม ฉันรู้ว่าฉันเลวยังไง เธอไม่ต้องมาย้ำหรอก หมดเวลาเล่นลิ้นเล่นคำกันแล้วมั้ง ไปที่เปลไม้ที่มุมอ่านหนังสือเดี๋ยวนี้”
พื้นเมืองไม่รอให้อีกฝ่ายทำตาม เขากระชากเธอดึงลากไปยังจุดหมายที่พูดทันที เมื่อมาถึง ชายหนุ่มก็ผลักอีกฝ่ายไปยังเปลนอน
“โอ๊ย! ”
เธอโพ่งออกมาด้วยความเจ็บ เมื่อกระแทกเข้ากับเสาเปลอย่างจัง
“นอนไปที่เปล แล้วก็แยกขากว้างๆ ด้วยนะ อย่าให้ฉันต้องบังคับเอา เธอก็รู้ว่าฉันน่ากลัวแค่ไหน”
พื้นเมืองเอ่ยเสียงเหี้ยม ก่อนจะเดินหายไปยังห้องน้ำแล้วเดินกลับพร้อมแปรงสีฟัน
“ทำไมไม่นอนบนเปล หรืออยากให้ฉันจับมัดขึงไว้กับเสาเปล ฮ้า! ”
เอ่ยพร้อมกับสาวเท้าเข้าไปหาอรอุมา ฝ่าย อรอุมาเห็นดังนั้นก็รีบก้าวขึ้นไปนอนบนเปลทันที
“ว่าง่ายๆ แบบนี้แต่แรกจะได้ไม่เจ็บตัว ตัวเล็กเธอเปลี่ยนมาเป็นท่านั่งเหมือนนั่งชิงช้าดีกว่า เพราะฉันจะดูดกลืนชิมช่อดอกและเกสรเธอ”
กระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก ก่อนจะยก แปรงสีฟันอันเล็กขึ้นมาถูไถริมฝีปากตนอย่าหื่นกระหาย ก่อนจะคุกเข่าตรงหว่างขาของสาวเจ้า