ฉันเอาเอกสารเบิกจ่ายขึ้นไปส่งที่ชั้นบนตามปกติ แล้วบังเอิญเดินสวนกับเจนตรงทางเดินพอดี ฉันรู้สึกว่าเจนมีท่าทางลุกลี้ลุกลนแปลกๆ พอเจนเห็นฉันเข้าเธอก็ทำหน้าดีใจ รีบถลาเข้ามาหาฉันพร้อมยัดแก้วกาแฟร้อนที่ยังมีควันกรุ่นใส่มือ
"คุณโรสมาพอดี เจนฝากเอากาแฟไปให้คุณสองทีนะคะ ส่วนเอกสารก็ยื่นให้คุณสองได้เลย รบกวนคุณโรสหน่อยนะคะ พอดีว่าเจนท้องเสีย" เจนเอามือกุมท้อง ยืนบิดตัวไปบิดตัวมา สีหน้าดูซีดเซียวน่าเห็นใจ
"ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา" ฉันรับปากด้วยความเต็มใจเมื่อเห็นอาการคนตรงหน้าดูไม่ไหวแล้วจริงๆ เจนรีบเอ่ยขอบคุณฉันเสียงเบา ก่อนจะรีบก้าวเท้ายาวๆ เดินฉับๆ หายไปอีกทาง
ฉันยกมือเคาะประตูตามมารยาท แล้วเปิดประตูเข้าไปทันทีเมื่อได้ยินเสียงอนุญาตจากคนด้านใน คุณสองเงยหน้าขึ้นมามองฉัน คิ้วหนาเลิกขึ้นอย่างแปลกใจ ฉันยิ้มให้กับเขา วางแฟ้มเอกสารและกาแฟชงร้อนๆ ลงบนโต๊ะ
"พอดีฉันเอาเอกสารขึ้นมาส่งน่ะค่ะ แล้วบังเอิญเจอคุณเจนระหว่างทาง เธอบอกให้ฉันส่งที่คุณสองได้เลย แล้วก็วานให้ฉันช่วยเอากาแฟชงมาให้คุณด้วยค่ะ"
ฉันอธิบายยาวเหยียดแทบลืมหายใจ คุณสองพยักหน้าขึ้นลงช้าๆ แล้วก็ถามขึ้นมาว่า "แล้วคุณเจนไปไหนล่ะ?"
"ข้าศึกบุกค่ะ อะ...เอ่อ ฉันหมายถึง คุณเจนปวดท้องน่ะค่ะ" ฉันรีบเปลี่ยนประโยคให้ดูดีขึ้นมาหน่อย หวังว่าเจนคงไม่โกรธฉันนะ
"ขมไป คุณช่วยเพิ่มน้ำตาลสักช้อนได้ไหม" หลังจากยกจิบชิมรสชาติ คุณสองก็วางแก้วกาแฟลงแล้วดันมาทางฉัน
"คะ? อ๋อ ได้ค่ะ" ฉันไม่อาจปฏิเสธเจ้านายอยู่แล้ว จึงต้องรับหน้าที่เป็นเด็กเดินกาแฟชั่วคราว ฉันเดินกำลังจะถึงประตู แล้วก็เหมือนนึกอะไรออก "แล้วช้อนชาหรือช้อนโต๊ะดีค่ะ" ฉันไม่ได้กวนเท้านะ เดี๋ยวก็เหมือนอเมริกาโนร้อนนั่นอีก
คุณสองสบตาฉันแล้วหัวเราะ "คุณอยากให้ผมเป็นเบาหวานตายหรือไง ช้อนชาสิ แต่ถ้าเป็นน้ำตาลก้อนก็ใส่มาสักสองนะ"
ส่วนฉันก็ขานรับและพยักหน้ารับทราบโดยง่าย
ตกบ่ายฉันก็ได้ทราบข่าวจากพี่อ้อมว่าเลขาคนสวยที่ชื่อเจนลื่นล้มหัวฟาดพื้นในห้องน้ำ คุณสองโทรเรียกรถพยาบาลให้มารับตัวไปรักษาแล้ว ฉันไม่รู้ว่าเจนจะอาการหนักหรือเปล่านะ
"โรส เมื่อกี้คุณสองโทรลงมา เขาขอตัวแกช่วงบ่าย" พี่อ้อมเดินมาบอกฉันที่โต๊ะทำงาน ฉันที่กำลังคีย์ตัวเลขถึงกับหยุดนิ้วชะงักกึก แล้วเงยหน้ามองพี่อ้อมอย่างงงงวย
"คุณสองจะให้โรสไปทำอะไรเหรอพี่อ้อม"
"ได้ยินมาว่าบ่ายสามคุณสองมีประชุมกับลูกค้า น่าจะให้แกไปช่วยเตรียมห้องประชุมแทนเจนมั้ง" พี่อ้อมตบหลังฉันเบาๆ แล้วพูดขึ้นต่อ "เดี๋ยวงานที่เหลือให้น้องนักศึกษาฝึกงานมาทำแทนก็ได้ แกรีบไปเถอะ"
"แล้วทำไมต้องเป็นโรสเล่า คนอื่นก็มีเยอะแยะ" ฉันบ่นอุบ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ทำไมต้องเป็นฉันด้วยล่ะ ฉันกำลังจะอ้าปากถามต่อ แต่พี่อ้อมกลับโบกมือไล่ฉัน ก่อนจะเดินไปหาน้องแนน น้องนักศึกษาฝึกงานคนใหม่ที่มาฝึกงานที่บริษัทเราได้สามวันแล้ว
"เอ้า ยังไม่รีบไปอีก" พี่อ้อมให้น้องแนนนั่งแทนที่ฉัน สอนงานนั่นนี่นู่นทันที ฉันแอบกลอกตามองบนก่อนจะเดินออกมา
ฉันมาเตรียมห้องประชุมตามหน้าที่ที่ได้รับเพิ่มอย่างงงๆ จัดการวางขวดน้ำและเอกสารการประชุมทั้งหมดหกชุด เมื่อเห็นว่าเสร็จเรียบร้อยและก็ใกล้เวลาประชุมแล้ว ฉันเลยจะปลีกตัวกลับไปที่แผนกตัวเองเพราะเห็นว่าคงจะหมดหน้าที่แล้ว คุณสองที่เพิ่งเดินเข้าห้องประชุมมาพร้อมกลุ่มลูกค้าด้านหลังก็พูดกับฉันขึ้นมาว่า
"คุณ..." เขามองป้ายพนักงานฉัน "คุณโรสศิรินทิพย์ ช่วยอยู่จดรายละเอียดการประชุมให้ผมด้วยนะ"
ฉันงงอยู่บ้างเพราะไม่เคยทำหน้าที่นี้มาก่อน แต่ก็ตอบรับอย่างไม่อิดออด "คะ? ได้ค่ะ"
ฉันเดินไปนั่งข้างคุณสอง เขาส่งสมุดกับปากกาให้ฉัน แล้วการประชุมก็เริ่มขึ้น บริษัทคุณสองทำเกี่ยวกับผลไม้แปรรูป ส่วนใหญ่จะส่งออกต่างประเทศมากกว่า จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปนานเท่าไหร่แล้วฉันก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าพนักงานในบริษัทกลับบ้านกันหมดแล้ว ฉันยกนาฬิกาข้อมือดูเวลา ตอนนี้หกโมงเย็นนิดๆ เลยเวลาเลิกงานไปชั่วโมงหนึ่ง ฉันจะได้ค่าโอทีไหมเนี่ย
"คุณโรสศิรินทิพย์... ชื่อยาวจัง คุณมีชื่อเล่นไหม" คุณสองหันมาถามฉันระหว่างที่เรารอลิฟต์ เตรียมตัวจะกลับบ้านเหมือนกัน
"เรียกโรสก็ได้ค่ะ"
"คุณโรส กลับไปแล้วช่วยสรุปการประชุมวันนี้ให้ผมทีนะ แล้วส่งเมลให้ผมคืนนี้ก่อนเที่ยงคืน"
ฟังจบฉันก็ลอบถอนหายใจอย่างเซ็งๆ แล้วก็เช่นเดิม ตอบรับโดยไม่อิดออดเลยสักนิด
"ค่ะ" ถ้าฟังดีๆ จะรู้ว่าฉันแอบกัดฟัน
เมื่อเราลงมาถึงชั้นล่าง ฉันกำลังจะยกมือไหว้ลาเขา แต่คุณสองกลับพูดขัดขึ้นมาก่อน "คุณโรสกลับยังไง"
"นั่งบีทีเอสค่ะ" ฉันไม่มีรถน่ะ ไปไหนมาไหนก็ใช้บริการขนส่งสาธารณะ
"แล้วบ้านคุณอยู่แถวไหน"
ฉันบอกที่อยู่เขาไป คุณสองพยักงึกงัก "ทางเดียวกันพอดี เดี๋ยวผมแวะส่งคุณแล้วกัน" พูดจบเขาก็เดินนำฉันไปทางลานจอดรถ ไม่รอให้ฉันตอบรับหรือปฏิเสธแต่อย่างใด ฉันได้แต่ถอนหายใจออกมาดังๆ เริ่มจะหงุดหงิดกับเขาแล้วนะ แต่ทำไงได้ล่ะ นั้นเจ้าของบริษัทเชียว เฮ้อ
ฉันนั่งนิ่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถอยู่ในรถของคุณสอง แอบรู้สึกเกร็งอยู่เหมือนกัน อีกทั้งแอร์ที่เปิดจนเย็นจัดในรถก็ทำให้ตัวฉันสั่นเล็กน้อย คุณสองเห็นดังนั้นจึงเอี้ยวตัวไปหยิบเสื้อสูทจากหลังรถแล้วยื่นมาให้ฉัน
"คุณหนาวเหรอ งั้นเอาเสื้อผมไปคลุมก่อน ผมชอบเปิดแอร์เย็นๆ น่ะ พอดีเป็นคนขี้ร้อน" ประโยคหลังเขาพูดติดหัวเราะ ฉันเผลอมองตาม พลางคิดว่ารอยยิ้มของเขาช่างดูสดใสและอบอุ่นเหมือนแสงแดดยามเช้า แล้วจู่ๆ ฉันก็รู้สึกแปลกๆ อยู่ในใจ
"ขอบคุณค่ะ" ฉันรับเสื้อเขามาคลุมตัว กลิ่นน้ำหอมสะอาดแบบผู้ชายลอยแตะจมูกทันที แล้วฉันก็เผลอสูดดมกลิ่นนั้นเข้าปอดเฮือกใหญ่ รู้สึกสดชื่นดีจริง
เอ๊ะ! นี่ฉันโรคจิตหรือเปล่าเนี่ย
"ผมขอจอดแป๊บนะ" คุณสองบอกพลางเลี้ยวรถเข้าจอดที่หน้าร้านอาหารอีสานร้านหนึ่ง ซึ่งฉันก็เคยมากินร้านนี้กับบาสบ่อยๆ บาสเขาชอบอาหารอีสานน่ะ ส่วนฉันก็พอกินได้
คุณสองเปิดประตูลงจากรถแล้วเดินล้วงกระเป๋าหายเข้าไปในร้าน ไม่ถึงห้านาทีเขาก็เดินออกมาพร้อมของพะรุงพะรังเต็มมือ ฉันมองเขา...มองเลยไปด้านหลัง แล้วจู่ๆ ตัวฉันก็แข็งทื่อ...
ฉันเห็นบาสและผู้หญิงผมสั้นสวมชุดนักศึกษาคนหนึ่งเดินจูงมือกันออกมาจากร้าน พูดคุยหยอกล้อกระหนุงกระหนิง บาสยิ้มให้ผู้หญิงคนนั้นแล้วยกมือลูบหัว ฉันถึงกับตัวชาปากสั่น ก่อนจะค่อยๆ หยิบมือถือขึ้นมา