ตอนที่ 3

1345 Words
ฉันนั่งอมยิ้มตอบไลน์บาสอยู่ที่ทำงาน เราแชตคุยกันอยู่ตลอดแม้ไม่ค่อยได้เจอหน้ากัน ฉันไม่ใช่คนติดแฟนขนาดที่จะต้องเจอหน้าหรือตัวติดกันตลอด คบกันแบบนี้ฉันก็มีความสุขดี ทุกคนคงสงสัยว่าฉันไม่ระแวงหึงหวงหรือกลัวว่าบาสจะมีคนอื่นบ้างเหรอ อืม...ยังไงดีล่ะ เป็นเพราะฉันไว้ใจเขากระมัง ตลอดเวลาที่เราคบกันมาเขาก็ไม่เคยมีปัญหาเรื่องผู้หญิงหรือเรื่องนอกใจให้ฉันต้องกังวลเลยสักครั้ง "โรส เอาเอกสารนี้ไปให้คุณวุฒิหน่อย" พี่อ้อม หัวหน้าแผนกเดินเข้ามาพร้อมยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลให้ ฉันรีบเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่พ้นสายตาพี่อ้อม พี่แกเห็นก็ได้แต่เบ้ปาก พูดจีบปากจีบคอล้อเลียนฉันด้วยความหมั่นไส้ "คิดถึงนะคะ ตั้งใจทำงานน้าที่รัก แหวะ หวานกันจริ๊งแม่คุณ" ฉันหัวเราะร่วนแล้วรับซองเอกสารมา ก่อนจะลุกขึ้นแล้วรีบเดินออกจากแผนก ไม่อย่างนั้นคงโดนแซวหนักแน่ พี่อ้อมเป็นหัวหน้าแผนกฉันเอง อายุสามสิบปลายๆ แต่งงานมีลูกแล้ว พี่อ้อมหน้าดุนะเวลาทำหน้านิ่งๆ แต่ถ้าได้รู้จักจะรู้ว่าแกเป็นคนใจดีมาก ไม่เคยถือตัวกับลูกน้องเลย และฉันก็โชคดีมากที่เจอหัวหน้าใจดีแบบพี่อ้อม ฉันขึ้นลิฟต์มายังชั้นบนสุด ซึ่งเป็นชั้นของพวกหัวหน้าระดับสูงและพวกผู้บริหาร คุณวุฒิก็คือหนึ่งในผู้บริหารนั่นแหละ ฉันเดินตรงไปที่ห้องทำงานคุณวุฒิ ส่งยิ้มทักทายเลขาคนสวยหน้าห้อง "ฉันเอาเอกสารมาให้คุณวุฒิค่ะ จากฝ่ายการเงิน" ฉันยืนซองเอกสารไปตรงหน้า เลขาคนสวยรับมาก่อนจะบอกให้ฉันรอตรงนี้สักครู่ "รอตรงนี้สักครู่นะคะ พอดีคุณวุฒิมีเอกสารฝากถึงคุณอมรรัตน์เหมือนกันค่ะ" เธอยิ้มพูดกับฉัน จากนั้นก็เดินหายเข้าไปในห้องทำงานคุณวุฒิ ฉันนั่งรอพลางยกนิ้วเคาะโต๊ะ สายตาก็มองสำรวจนั่นนี่ไปเรื่อย นอกจากงานในแผนก ฉันก็มีอีกหนึ่งหน้าที่คือเด็กเดินเอกสาร อืม...แต่จะว่าไปชั้นผู้บริหารก็เงียบดีแฮะ ซึ่งต่างกับชั้นที่ฉันทำงานอยู่ลิบลับ "คุณ ไปชงกาแฟมาให้ผมหน่อย" ฉันสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงแหบห้าวดังขึ้นจากด้านหลัง ฉันเงยสบตาผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งด้วยความงุนงง เขามีรูปร่างสูงใหญ่ ดูจากสายตาน่าสูงร้อยแปดสิบขึ้นกระมัง เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนกระดุมยังติดไม่เรียบร้อย ชายเสื้อเหมือนจะรีบยัดเข้าในกางเกงแบบลวกๆ เขาสวมกางเกงสแลกสีเทากับรองเท้าหนังที่ขัดจนมันวาว ผมเขาไม่ได้เซตเลยดูยุ่งๆ เหมือนคนพึ่งตื่นนอน ผู้ชายคนนั้นมองมาที่ฉันแล้วเลิกคิ้วขึ้น เหมือนจะถามว่าฉันมีปัญหาอะไรหรือเปล่า แต่ที่น่าตกใจกว่านั้นคือฉันรีบพยักหน้าตกลง เฮ้ย! แล้วฉันจะตอบตกลงเขาทำไม ฉันจะไปชงกาแฟให้เขาทำไมกัน! เขาขมวดคิ้วมองฉันก่อนจะหมุนตัวแล้วเดินหายเข้าไปในห้องทำงานที่อยู่ตรงข้ามกับห้องคุณวุฒิ ฉันลุกขึ้นยืนแล้วเกาหัวแกรกๆ ยังไม่ทันได้คิดอะไรผู้ชายแปลกหน้าคนนั้นก็เปิดประตูพรวดออกมา "คุณ ผมไม่เอาแล้วนะกาแฟชง คุณช่วยลงไปซื้อกาแฟที่สตาร์บัคส์ข้างล่างให้หน่อย เอาอเมริกาโน่นะ" เขายื่นแบงก์ห้าร้อยออกมาตรงหน้า เมื่อเห็นว่าฉันยังยืนบื้อไม่ขยับเขยือนอยู่อย่างนั้น เขาก็เลยเดินเข้ามาประชิดตัวฉันพร้อมยัดแบงก์ห้าร้อยใส่มือ "เร็วๆล่ะ" นี่เขาคงเข้าใจอะไรผิดแน่ๆ สุดท้ายฉันก็มายืนอยู่ในร้านสตาร์บัคส์ที่ตั้งอยู่ข้างๆ บริษัทแบบงงๆ ฉันหลุดขำออกมาจนพนักงานมองหน้า ก็ฉันรู้สึกตลกตัวเองนี่นา หน้าที่เสริมนอกจากเป็นเด็กเดินเอกสาร ฉันยังเป็นเด็กเดินกาแฟด้วยนะ แต่ว่า...เขาอยากดื่มอเมริกาโน่ร้อนหรือเย็นล่ะ? จะให้ฉันเดินกลับไปถามก็กระไรอยู่ แดดก็เปรี้ยงจนแสบผิว ร่มก็ไม่ได้พกมาด้วย ฉันเลยตัดสินใจสั่งอเมริกาโน่เย็นแก้วใหญ่ให้เขาแล้วกัน อากาศเมืองไทยร้อนๆ แบบนี้ก็ต้องดื่มอะไรเย็นๆ สิถึงจะชื่นใจ ฉันยืนอยู่หน้าห้องของเขา ยกมือเคาะประตูอยู่สองสามครั้ง ก่อนจะได้ยินเสียงตอบกลับจากคนด้านในบอกให้เข้ามาได้ ฉันสาวเท้าเดินเข้าไปหาเขาที่โต๊ะทำงาน เขาเหลือบขึ้นมามองฉันแวบหนึ่งแล้วก็ก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารในมือต่อ "กาแฟค่ะ" ฉันยกแก้วกาแฟออกจากถุงพร้อมวางเงินถอนไว้บนโต๊ะ เขาเอ่ยขอบคุณฉันเบาๆ โดยไม่เงยหน้าขึ้นมามอง ฉันเห็นว่าไม่มีอะไรแล้วจึงหมุนตัวเดินไปที่ประตู กำลังจะผลักประตูเปิด เสียงห้าวก็ดังไล่หลังมาเสียก่อน "ผมไม่ได้บอกคุณเหรอว่าเอาอเมริกาโน่ร้อน" ฉันหมุนตัวกลับไปมองเขาทันที นี่เขากำลังกวนประสาทฉันอยู่หรือเปล่า "ไม่ได้บอกนี่คะ" "แล้วทำไมคุณไม่ถามล่ะ" "อ้าว" ฉันงงเป็นไก่ตาแตกแล้วเนี่ย "ฉัน...ผิดเหรอคะ" คิ้วฉันเริ่มขมวดเล็กน้อย "ผมผิดเองแหละ งั้นคุณช่วยไปชงกาแฟร้อนให้ผมทีนะ ผมไม่ชอบเครื่องดื่มเย็น" เขาถอนหายใจ เหมือนหงุดหงิดที่ไม่ได้ดั่งใจ คนบ้าอะไรเรื่องมากชะมัด! ฉันอยากตะโกนประโยคนี้ใส่หน้าเขาจริงๆ แต่ฉันทำได้แค่เม้มปากก่อนจะบอกกับเขาอย่างใจเย็น "ขอโทษนะคะ ฉันยังมีงานที่ต้องทำอีกเยอะ ถ้าคุณอยากได้กาแฟแบบชง เดี๋ยวฉันจะบอกแม่บ้านให้เอามาให้แล้วกัน เดินออกไปซื้อให้คุณก็เสียเวลางานฉันไปเยอะแล้วเนี่ย ร้อนด้วย" น้ำเสียงฉันดูหงุดหงิดขึ้นมานิดหน่อย เขาวางเอกสารในมือลงทันที สีหน้าเขาดูงงงวย แต่ยังไม่ทันได้อ้าปากถามอะไรก็มีเสียงเคาะประตูดังขัดขึ้นมาเสียก่อน แล้วคุณเลขาคนสวยที่อยู่หน้าห้องคุณวุฒิก็เดินเข้ามา พอเธอเห็นฉันก็ทำหน้าแปลกใจ "อ้าวคุณอยู่นี้เอง ฉันก็ตามหาตั้งนาน คุณวุฒิฝากแฟ้มนี้ให้คุณอมรรัตน์ค่ะ" เธอยื่นแฟ้มเอกสารมาให้ฉัน ฉันรับมาพร้อมส่งยิ้มให้เธอก่อนจะขอตัว ฉันมองหน้าผู้ชายคนนั้นนิดหน่อย เขาเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างกับฉัน แต่ฉันหันหลังเดินออกมาเสียก่อน ซึ่งก็เป็นจังหวะที่เลขาสาวสวยคนนั้นเอาเอกสารหลายชุดไปวางตรงหน้าเขา ฉันกลับมาที่แผนก พี่อ้อมก็ถามว่าทำไมไปนานจัง ฉันเลยเล่าให้พี่อ้อมฟังตั้งแต่ต้นจนจบ พอฟังจบแกก็หัวเราะแล้วบอกกับว่าผู้ชายคนนั้นคือคุณสอง เป็นเจ้าของบริษัท... ฉันช็อก หน้าซีดเป็นไก่ต้ม ถ้าเขาทำงานอยู่ชั้นบนยังไงเขาก็ต้องมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าฉันเป็นไหนๆ ทำไมฉันไม่ฉุกคิดบ้างนะ แต่ประโยคที่พูดกับเขามันก็ดู...แย่อยู่นะ การกระทำที่แสดงออกไปก็ดูไม่น่ารักเลย ตอนนั้นฉันอาจจะหงุดหงิดเพราะอากาศร้อนหรืออะไรก็ตาม ฉันถอนหายใจอย่างห่อเหี่ยว พลางคิดว่า...ไว้ฉันจะหาโอกาสขอโทษเขาแล้วกัน พี่อ้อมเห็นสีหน้าฉันก็หัวเราะดังกว่าเดิม "คิดมาก คุณสองใจดีจะตาย เขาไม่ไล่แกออกเพราะเรื่องไร้สาระแค่นี้หรอกน่า"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD