เด็กหญิงแววตาซุกซนมาปรากฏตัวให้เขาเห็นอีกครั้งในวันถัดมา ทางนั้นกำลังแอบอยู่ข้างโอ่งปูนซีเมนต์ใส่น้ำขนาดใหญ่ สะดุดตาเขาตั้งแต่เดินชมบรรยากาศของบ้านได้ครู่หนึ่งแล้ว นายแพทย์ภวินท์ละสายตามองไปรอบบ้านแล้วหันกลับมาจ้องที่ร่างเล็กอีกครั้ง คราวนี้มาคนเดียวแถมยังไม่หิ้วตุ๊กตาผมสีแปร๋นมาอีก และแฝดอีกคนหายไปไหน คิดแล้วเดินเข้าไปจนใกล้ ยื่นมือไปสะกิดไหล่เบาๆ พออีกฝ่ายหันกลับมา ค่อยถาม “ทำอะไรอยู่ครับ” ทางนั้นมองเขาตาโต แกล้งทำเสียงขู่ใส่ “ผี” “ว่าไงนะ” “มีผีอยู่ที่บ้านเรา” คราวก่อนมียักษ์ คราวนี้มีผีเพิ่มมาด้วยแล้ว ภวินท์ถามต่อยิ้มๆ “ผี? มีอยู่ที่ไหนหรือครับ” แม่หนูมองเขาราวกับเขาเป็นเด็กเล็กๆ บอกราวกับตัวเองเป็นคนโต “ลุงมองไม่เห็นหรอก” คำว่า ‘ลุง’ กระแทกใจนายแพทย์ภวินท์เข้าอย่างจัง มุมปากกระตุกเป็นจังหวะถี่ยิบในทันที ไหนจะวาจาท้าทายแต่เล็กแต่น้อยนั่นอีก ชายหนุ่มผุดรอยยิ้มมุมปากหัวเราะเบา