"อลิสไปเรียนก่อนนะคะพี่กาย จุ๊บ บายค่ะ"
เมื่อทานมื้อเที่ยงเสร็จเรียบร้อยอลิสก็ได้เวลากลับไปเรียน แต่ก่อนที่จะแยกกันกับกายอลิสก็บอกลาพร้อมกับเขย่งเท้าขึ้นจุ๊บแก้มกายทีเผลอก่อนที่จะรีบจูงมือจีนวิ่งหนีกลับคณะทันทีทิ้งกายยืนทำหน้าเหวอด้วยความตกใจที่อยู่ ๆ ก็โดนสาวแอบหอมแก้ม
"อ้าว อ้าว เพื่อนกายโดนโขมยจุ๊บแก้มถึงกับอึ้งเลยเหรอครับ” จิณที่ยืนอยู่ข้างหลังตะโกนแซวเพื่อนเสียงดังลั่นก่อนที่กายจะได้สติแล้วเดินไปรวมกลุ่มกับเพื่อนที่นั่งเล่นรอเรียนอยู่หน้าคณะ
"เคยโดนแต่สาว ๆ รุกแบบถึงเนื้อถึงเตียงคนนี้มาแบบใส ๆ กายเลยงงใช่ไหมล่ะ"
ยูริอดไม่ได้ที่จะแซวเพื่อนรักอีกคนก่อนที่เพื่อนในกลุ่มจะพากันขำ จนถึงตอนนี้กายก็ยังคงทำหน้าอึ้ง ๆ อยู่ มือใหญ่ยกขึ้นลูบแก้มข้างที่โดนจุ๊บเบา ๆ ก่อนจะเผยยิ้มออกมาน้อย ๆ ใจสั่นฉิบหายทำตัวไม่ถูกเลยที่โดนรุกแบบน่ารัก
"อะแน่ะ อะแน่ะ ไหนว่าไม่สนใจแล้วยิ้มทำไมครับเพื่อนกาย” แบล็คแซวกายเมื่อเห็นเพื่อนแอบยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนที่กายจะตีหน้านิ่งเหมือนว่าที่ผ่านมาเขาไม่ได้ยิ้มอะไรเลยสักนิด
"รำคาญพวกมึงจริง ๆ ไปขึ้นเรียนได้แล้ว” ทำสีหน้ารำคาญเพื่อนเต็มประดาก่อนที่จะลุกขึ้นเดินยิ้มคนเดียวไปขึ้นอาคารเรียนเพื่อเข้าเรียนคลาสบ่าย
คณะนิเทศศาสตร์
ห้องเรียน
"อีหวานมึงได้ข่าวปะว่าอีลิสมันไปอ่อยพี่กายวิศวะถึงที่เลย” กิ๊กเพื่อนร่วมคลาสของอลิสเอ่ยถามหวานเพื่อนอีกกลุ่มอย่างต้องการนินทาดาวคณะของปี เธอได้ข่าวมาจากเพื่อนที่เรียนอยู่วิศวะว่าอลิสไปตามจีบพี่กายปีสี่ราชาแห่งคณะวิศวกรรมศาสตร์วันนี้ถึงที่คณะเลย
"ว้าย จริงดิอีกิ๊ก กูเคยได้ยินคนพูดถึงอยู่ว่าหลายวันก่อนมันก็ไปอ่อยพี่เขาถึงที่คณะนี่ อย่างว่าแหละนะมึง ทั้งแรด ทั้งร่าน ทั้งมั่ว เห็นคนหล่อหน่อยไม่ได้วิ่งเข้าใส่เหมือนกะหรี่ปลายแถวอะ"
หวานนินทาอลิสในระยะเผาขนเป็นจังหวะเดียวกับที่อลิสเดินเข้าคลาสมาได้ยินที่หวานนินทาตัวเองพอดี ขาเรียวสวยสาวเท้าก้าวยาว ๆ มาที่เก้าอี้ที่พวกหวานนั่งอยู่ ก่อนจะโยนหนังสือเรียนลงบนโต๊ะเต็มแรงด้วยความไม่พอใจที่เพื่อนร่วมคลาสนินทาเธอเสีย ๆ หาย ๆ แบบนี้
ปึก!!!
"มึงเป็นกูเหรออีหวานมึงถึงรู้ว่ากูทั้งแรด ทั้งแรด ทั้งมั่ว แถมเป็นกะหรี่ปลายแถวฮะ” ตะคอกถามพวกขี้นินทาด้วยความโมโหก่อนที่หวานจะหน้าซีดเผือดเมื่ออลิสเดินเข้ามาใกล้ราวกับพร้อมที่จะฟาดกับเธอ ก่อนที่จะเชิดหน้าเบะปากใส่อย่างไม่กลัว แล้วไงเพื่อนเธอก็มีกลัวเสียที่ไหน
"ก็หรือไม่จริง มึงทำอะไรมาบ้างน่าจะรู้ตัวเองนะอีลิส เน่าเฟะเสียขนาดนั้น” ลุกขึ้นยืนกอดอกว่าให้อลิสก่อนที่จะเบะปากอย่างดูถูกเย้ยหยัน อลิสมองภาพนั้นอย่างอดกลั้นไม่รอช้ากระโดดเข้าไปกลางวงจิกหัวหวานเต็มแรงจนผมเผ้าหลุดขาดติดมือเธอมา แต่เธอก็ไม่สนใจก่อนที่มือบางทว่ากับน้ำหนักมือนั้นคนละเรื่องจะฟาดไปที่หน้าของหวานฉาดใหญ่อย่างเต็มแรง
เพียะ
"ว้าย อีลิส” จีนอุทานอย่างตกใจเมื่อเพื่อนกระโจนเข้าใส่หวานเพื่อนร่วมคลาสพร้อมกับจิกหัวเต็มแรง อย่านะอีหวานมึงเล่นผิดคนแล้วนะเว้ย
"ที่ผ่านมากูไม่เคยหาเรื่องมึง ต่างคนต่างอยู่ต่างคนต่างเรียน นินทาเพื่อนสักคนในห้องเคยไหมก็ไม่ เพราะกูไม่จำเป็นต้องใส่ใจกับเรื่องไร้สาระของพวกมึงที่ขิงอวดรวยใส่กันไปวัน ๆ กูอยู่เฉย ๆ มาตลอดแล้ววันนี้มึงเป็นส้นตีนอะไรมาด่ากูแบบนี้"
ตะโกนด่าหวานด้วยความโมโหในขณะที่เพื่อนในห้องไม่มีใครกล้าเข้ามาห้ามอลิสเลยสักคน
"อีลิส ปล่อยกูนะ อีบ้า” หวานตะโกนด่าทออลิสด้วยความโมโหที่อยู่ ๆ ก็มาตบหน้าเธอเต็มแรง แต่อลิสก็ไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยผมเธอเลยสักนิด
"มึงขอโทษกูเดี๋ยวนี้กูถึงจะยอมปล่อย ปากพล่อย ๆ แบบนี้ต้องโดนกูฟาดเสียบ้างจะได้หายคัน นินทาเขาไปทั่วมีแต่เรื่องไม่จริง สรุปมึงชื่ออีหวาน หรืออีเสือกฮะ กูถามจริง"
กระชากผมเพื่อนร่วมคลาสขี้นินทาอีกครั้งอย่างแรงจนหวานที่ทนเจ็บไม่ไหวถึงกับยอมพูดคำว่าขอโทษออกมา
"เออ เออ กูขอโทษปล่อยกูได้ยัง"
ขอโทษอลิสด้วยน้ำเสียงกระชากดูก็รู้ว่าไม่เต็มใจก่อนที่อลิสจะออกแรงกระชากผมหวานแรงขึ้นไปอีกจนฝ่ายโดนกระทำน้ำตาซึมออกมาเล็กน้อยด้วยความเจ็บที่หนังหัว
"น้ำเสียงตอแหลไม่ได้จริงใจเลยสักนิด ไหนมึงพูดใหม่สิ หึ" ยื่นหน้าเข้าไปกระซิบชิดใบหูของหวานเบา ๆ ก่อนที่หวานจะยอมขอโทษอลิสใหม่ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง
"กูขอโทษ ปล่อยกูเถอะอีลิส กูเจ็บ” เอ่ยปากขอโทษอลิสด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่อลิสจะคลายมือที่กำเส้นผมหวานออกทีละนิดแล้วปล่อยออกในที่สุด
"ให้มันเป็นครั้งสุดท้ายนะที่กูจะได้ยินมึงนินทากูเสีย ๆ หาย ๆ แบบนี้ ถ้ากูได้ยินคือตบ แต่ถ้ากูไม่ได้ยินคือจบโอเคไหมอีหวาน"
อลิสจ้องหน้าหวานเขม็งพร้อมที่จะฟาดโดยไม่ลืมกำชับถึงครั้งต่อไปว่าห้ามนินทาเธอให้ได้ยินอีก ก่อนที่จะเดินไปนั่งลงที่ไกล ๆ จากพวกหวานกับกิ๊กเธออยากตั้งใจเรียนมากกว่ามือลั่นให้ต้องตบใครกลางห้องเรียน
"อีลิสมึงจะโหดไปไหนวะ” เมื่อนั่งลงเรียบร้อยแล้วจีนก็ถามเพื่อนเสียงเบาก่อนที่อลิสจะตวัดตากลมดุ มามองเพื่อนสนิท
"มึงลองมาโดนด่าแบบกูไหมอีจีน ทั้งแรด ทั้งร่าน ทั้งกะหรี่ปลายแถว กูว่าถ้าเป็นมึงคงกระโดดถีบอะ"
อลิสย้อนถามเพื่อนคืนก่อนที่จีนจะหน้าจ๋อยสนิทก็จริงแบบที่เพื่อนเธอพูด ถ้าเป็นเธอโดนด่าแบบนั้นคงทำมากกว่าอลิสแน่นอน เมื่อเหตุการณ์สงบเพื่อนร่วมคลาสคนอื่นกระจายตัวกลับเข้านั่งที่เดิมแล้วไม่ต่างจากทั้งสองสาวที่ตั้งใจเรียนเมื่ออาจารย์เริ่มคลาสพอดี
"อย่าลืมรายงานที่อาจารย์สั่งนะครับกำหนดส่งอาทิตย์หน้าหวังว่านักศึกษาทุกคนจะทำออกมาได้ดี"
เมื่อสอนเสร็จอาจารย์ธันวาก็ไม่ลืมที่จะสั่งงานในช่วงท้ายคาบ
"เฮ้อ!! อาจารย์ธันวาเปิดเทอมมาก็เล่นสั่งรายงานเลย แบบนี้ก็อดตี้ดิมึง งานช้างชะมัด” จีนบ่นอุบมื่อรายงานที่อาจารย์สั่งยากพอสมควร พวกเธอต้องพากันไปหาข้อมูลจนหัวหมุนแน่นอน
"มึงอย่าบ่นอีจีน เรื่องเรียนต้องเต็มร้อยเว้ย เราจะท้อไม่ได้ใบปริญญาพร้อมเกียรตินิยมรออยู่"อลิสบอกเพื่อนก่อนที่จะจูงมือกันลงจากอาคารเรียนเพราะวันนี้การเรียนของพวกเธอจบลงเรียบร้อยแล้ว
ครืด ครืด
เสียงโทรศัพท์ของจีนดังขึ้นก่อนที่จีนจะกดรับสายคุยได้สักพักก็วางสาย
"อีลิส กูไปรับน้องสาวก่อนนะเว้ย แม่กูโทรมาว่าติดงานไม่มีใครไปรับไอ้แจนมันที่โรงเรียน พรุ่งนี้เจอกันนะมึง"
จีนบอกอลิสด้วยความเร่งรีบก่อนที่จะรีบวิ่งออกไปทันทีทิ้งให้อลิสยืนเหงาหงอยอยู่คนเดียว อีกทั้งวันนี้เธอไม่ได้ขับรถมา เพราะเมื่อเช้ารีบมากเลยได้ใช้บริการแว้นพี่วินมา
ติ๊ด ติ๊ด
เสียงข้อความที่ดังขึ้นเรียกความสนใจให้อลิสรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเปิดดูก่อนที่จะพบข้อความจากพี่เก่ง
"วันนี้เฮียมีเตะบอลที่สนาม XXX กับเพื่อนในคณะ"
เมื่อเห็นข้อความที่พี่เก่งส่งมาให้หน้าสวย Sexy ก็ยิ้มออกมาน้อย ๆ แต่เพียงชั่วครู่ก็ทำหน้าเซ็ง เพราะลืมไปว่าวันนี้เธอไม่มีรถ เฮ้อ คงต้องใช้บริการพี่แท็กซีสินะ คิดได้ดังนั้นมือบางก็กดเขาแอปฯ สีเขียวเพื่อเรียกแท็กซีไปยังสนามฟุตบอลที่พี่เก่งส่งโลเคชันมาให้
รอไม่นานรถที่เธอเรียกก็มารับก่อนที่อลิสจะมุ่งหน้าไปที่สนามด้วยความสุขที่จะได้ไปแอบดูพี่กายเตะฟุตบอล วันนี้ไม่มีเพื่อนอลิสขอฉายเดี่ยวแล้วกันค่ะ
"รำคาญสาว ๆ ล่ะสิท่า ถึงหนีมาเตะบอลที่สนามของอากฤษฎิ์"
จิณถามกายที่อยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงกีฬายิ้ม ๆ ทว่าเขากลับทำเพียงไหวไหล่น้อย ๆ อย่างไม่สนใจคำแซวของเพื่อน เพราะมันคือเรื่องจริง สาว ๆ มาดูแต่ละทีก็มีแอบรำคาญหน่อย ๆ เพราะพากันแย่งเอาน้ำเอาผ้าเย็นมาให้เขานี่แหละเขาซื้อเองได้ไม่จำเป็นต้องพากันเอามาให้ก็ได้
"ทุกคนพร้อมแล้วเว้ยเพื่อน ไปลงสนามกัน” แบล็คที่วอร์มร่างกายเพื่อรอเวลาที่ทุกคนพร้อมเอ่ยบอกพร้อมพากันเดินลงสนาม จัดการแบ่งฝ่ายกับเพื่อน ๆ น้อง ๆ ในคณะให้เรียบร้อยพร้อมลุยกับนัดเตะบอลกระชับความสัมพันธ์
"งื้อ พี่กายโคตรเท่อะ"
พอมาถึงสนามส่วนตัวของอาพี่กาย อลิสก็แอบย่องเบาเข้าไปนั่งที่เก้าอี้มีพนักพิงก่อนจะนั่งมองกายที่โดดเด่นอยู่กลางสนามท่ามกลางกลุ่มเพื่อน ๆ ด้วยความชื่นชม
เรียนดี กีฬาเด่น สมกับฉายาราชาคณะวิศวะเลย นั่งไปนั่งมาดวงตาคู่สวยก็ค่อย ๆ ปิดลงด้วยความง่วงงุน เพราะเมื่อคืนเธอเมาหนักแถมยังนอนไม่พออีกพอมาอยู่ในสนามฟุตบอลที่มีลมเย็นพัดผ่านไปมาเบา ๆ ทำเอาอลิสเคลิ้มหลับอย่างง่ายดาย
เมื่อแข่งบอลกับเพื่อน ๆ เสร็จกายก็เดินกลับมาที่โต๊ะที่พวกเขาวางของเอาไว้ ก่อนที่จะเจอกับอลิสที่นอนหลับพิงพนักเก้าอี้อยู่ ร่างสูงนิ่งอึ้งไปเมื่อเห็นภาพอลิสที่ตามมาดูเขาเตะบอลใกล้ชิดถึงสนามแบบที่ไม่เคยมีสาว ๆ คนไหนรู้มาก่อนว่าเขาอยู่ที่ไหนนอกจากลูกน้องในคณะของเขา
ตาคมดุหันขวับไปมองกลุ่มเพื่อน ๆ น้อง ๆ ที่เดินคุยกันเสียงดังเพื่อให้เงียบเสียงลงก่อนที่เสียงพูดคุยกันจะเงียบลงเมื่อเจอสายตาที่คมดุของกายที่มองมา
"ไปเถอะ ไอ้แบล็ค ไอ้จิณ ให้มันอยู่เฝ้าเมียมันนอนนี่แหละ” ฟินิกซ์ที่พูดน้อยที่สุดในแก๊งบอกเพื่อน ๆ ทั้งสองคนก่อนที่จะเดินจากไปปล่อยให้กายอยู่กับอลิสสองคนเพียงลำพัง
"มานอนหลับในดงผู้ชายไม่กลัวพวกมันล่อเอาหรืออย่างไรนะอลิส” บ่นพึมพำให้อลิสเสียงเบา เพราะกลัวจะไปรบกวนการนอนหลับของอลิสก่อนที่จะนั่งลงข้างกัน มือใหญ่ค่อย ๆ จับศีรษะเล็กของอลิสให้พิงมาซบที่ไหล่แทนที่จะนั่งหลับ เมื่อยคอแย่เลยแบบนั้น
"หึ แอบจ้างใครรายงานหรือไงถึงรู้ว่าพี่อยู่ที่ไหน แสบนักนะเรา” มองหน้าเนียนใสที่หลับตาหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอก่อนที่หน้าหล่อจะแอบก้มลงไปจุ๊บที่หน้าผากมนเบา ๆ
"ถือว่าเอาคืนแล้วกันที่แอบจุ๊บแก้มพี่เมื่อตอนบ่าย” พูดแล้วยิ้มน้อย ๆ กับตัวเองก่อนที่จะนั่งเป็นหมอนอิงให้อลิสพิงไหล่นอนจนเวลาล่วงเลยมาถึงสองทุ่มบริเวณรอบข้างมืดสนิทมีเพียงกายกับอลิสเท่านั้นที่ยังนั่งอยู่ตรงนี้
"อื้อ หาว” อลิสลืมตาตื่นขึ้นออกมาด้วยความเมื่อยล้าก่อนที่จะตาโตด้วยความตกใจเมื่อบริเวณรอบข้างมืดสนิท มีเพียงความสว่างจากหลอดไฟดวงโตในสนามที่ทำให้ยังมองเห็นบริเวณรอบข้าง
เธอจำได้ว่าเธอกำลังดูพี่กายเตะบอลอยู่นี่นา อย่าบอกนะว่า...ร่างบางหันไปมองด้านซ้ายก่อนจะหันกลับมามองด้านขวาเป็นจังหวะที่แก้มเนียนของเธอปะทะเข้ากับริมฝีปากของพี่กายที่กำลังยื่นหน้ามาพอดีทำเอาทั้งกายกับอลิสนิ่งชะงักไปก่อนที่จะผละออกจากกันด้วยความเขิน
"เอ่อ คือพี่กายยังไม่กลับเหรอคะ” ยกมือบางเกาแก้มตรงที่โดนปากพี่กายจูบอย่างเก้อ ๆ แต่ในใจนั้นกรีดร้องกับโมเมนต์ดี ๆ ที่เกิดขึ้นถึงจะไม่ได้ตั้งใจก็เถอะ
"ใครจะกล้าทิ้งเราไว้คนเดียวล่ะ นอนหลับน้ำลายยืดเสียขนาดนั้น"
กระตุกยิ้มมุมปากมองมาที่อลิสยิ้ม ๆ ก่อนที่อลิสจะตาโตอีกรอบเมื่อกายบอกว่าเธอนอนหลับน้ำลายยืด มือบางรีบจับไปที่มุมปากก็ไม่เจอกับคราบน้ำลายตามที่กายว่าเลยสักนิด ก่อนจะบึนปากใส่กายอย่างแง่งอนที่เขามาว่าเธอนอนน้ำลายไหลใส่ร้ายกันนี่นา
"ไม่เห็นจะมีคราบน้ำลายเลย พี่กายโกหกอะ” มองกายอย่างงอน ๆ ก่อนที่กายจะหัวเราะออกมาขำ ๆ ที่แกล้งหยอกอลิสจนหน้างอ ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนบิดตัวด้วยความเมื่อยล้าที่ให้อลิสนั่งพิงไหล่นอนหลับมานานนับสองชั่วโมง
"กลับกันเถอะ” กายหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายก่อนที่จะชวนอลิสกลับ เพราะนี่มันก็ดึกมากแล้ว
"เอ่อ พี่กายคะอลิสไม่มีรถกลับค่ะ เมื่อเช้ารีบมากเลยเรียกพี่วินให้แว้นมาส่ง แล้วก็ตอนที่มาที่นี่อลิสก็เรียกแท็กซีมาค่ะ"
อลิสบอกกายเสียงอ่อย ๆ ก่อนที่เขาจะชะงักเท้าที่กำลังเดินอยู่แล้วหันมาบอกเธอที่เดินตามมา
"หึ วันนี้พี่ใจดี เดี๋ยวพี่ไปส่งเราที่คอนโดก็แล้วกัน” ยิ้มน้อย ๆ ให้อลิสก่อนที่จะยื่นมือข้างที่ว่างไปตรงหน้าของเธอ
"กลับบ้านกัน"
มองคนน้องด้วยสายตาที่ฉายแววอบอุ่นอ่อนโยนก่อนที่อลิสจะวางมือเล็กลงบนมือใหญ่ ทั้งสองจับจูงมือกันเดินไปที่รถซึ่งจอดไว้ไม่ไกลจากตรงนี้เท่าไร อลิสมองตามแผ่นหลังกว้างไปด้วยสายตาของคนที่ตกหลุมรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
อยากเป็นคนที่ได้กอดซบแผ่นหลังกว้างนั้นจัง มันคงจะมีความสุขและอบอุ่นน่าดู คิดในใจอย่างมีความสุขอยู่คนเดียวก่อนที่จะเดินจูงมือกันไปขึ้นรถเดินทางกลับคอนโดด้วยใจที่พองโตทั้งคนกุมมือและคนถูกกุมมือ
วันนี้ช่างเป็นวันที่มีความสุขที่สุดเลย