บทที่ 1 เป็นสาวเต็มมือแล้ว 3

1164 Words
เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้วกว่าที่ชายหนุ่มจะเคลียร์งานที่คลินิกเสร็จ พอมาถึงบ้านชายหนุ่มก็รีบเข้าไปในบ้านเพื่อขึ้นห้องของตนเพื่อจะได้อาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด วันนี้เขาเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว อยากนอนพักผ่อนให้สบาย พออาบน้ำใส่ชุดนอนเสร็จก็เดินออกมารับลมเย็นๆ ที่หน้าต่างของห้อง ซึ่งจากหน้าต่างนั้นทำให้มองเห็นบ้านข้างๆ ที่ตอนนี้งานเลี้ยงได้จบลงแล้ว แต่แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นร่างๆ หนึ่งในมุมมืดที่รั้วบ้านของตน เลยต้องเดินลงมาดูว่าใครกล้าบุกรุกบ้านตนในยามวิกาลเช่นนี้ “นั้นใครน่ะ?” เอ่ยถามด้วยเสียงแข็งพร้อมกับมองรอบข้างอย่างระวังตัว เมื่อได้ยินเสียงทรงอำนาจ หญิงสาวก็รีบเดินออกมาจากมุมมืดทันที เพื่อให้โคมไฟในสวนส่องร่างของตน “แฮะๆ น้องเองค่ะพี่หมอใหญ่” วารีดาเอ่ยพลางเอามือเกาหัวอย่างเขินอาย ก็เธอนอนไม่หลับ เพราะว่าวันนี้ยังไม่ได้เจอชายหนุ่มเลย จึงมาแอบมองชายหนุ่มตรงนี้ แต่ไม่คิดว่าจะโดนจับได้ “แล้วมาทำอะไรดึกๆ แบบนี้ รู้ไหมมันอันตราย ควรกลับบ้านไปนอนได้แล้ว” ใหญ่เอ่ยอย่างเป็นห่วง ก็ถ้าหญิงสาวเป็นอะไรไปเขาจะอยู่ยังไง เขาจะทำยังไงถ้าไม่มีใบหน้าสวยๆ น่ารักๆ ของวารีดาให้มองทุกวัน ไม่อยากคิดเลยว่าเขาจะทรมานใจแค่ไหน “วิดวิ้วนอนไม่หลับค่ะ อีกอย่างตอนนี้พี่หมอใหญ่ไม่ควรจะมาว่าเค้านะ เพราะพี่ลืมนัด ไหนบอกจะมางานเลี้ยงฉลองวันนี้ไงคะ แต่ที่ไหนได้กลับผิดนัด” หญิงสาวเอ่ยอย่างมีน้ำโห เมื่อคิดว่าชายหนุ่มผิดนัด ถึงแม้จะรู้สาเหตุที่อีกฝ่ายมาไม่ได้ แต่ก็น่าจะโทรแจ้งเธอก่อน ไม่ใช่ฝากคุณป้ามาบอกเธอแบบนี้ “อย่ามาขึ้นเสียงใส่พี่นะ โตแล้วแทนที่จะรู้ว่าอะไรควรไม่ควร ก็พี่มีงานเยอะ นี่ก็เพิ่งกลับจะมาว่าพี่ผิดนัดไม่ได้นะ อีกอย่างพี่ก็ฝากคุณแม่มาบอกแล้ว” “ใช่สิ วิดวิ้วไม่มีความสำคัญกับพี่หมอใหญ่ถึงต้องถูกลืมทุกครั้ง ไม่ใช่แค่งานนี้งานเดียว แม้แต่งานวันเกิดทุกๆ ปีของน้อง พี่ก็ไม่เคยมาสักครั้ง แล้วแบบนี้เหรอคะที่เขาเรียกว่าพี่” ใหญ่ไม่ชอบใจเลยกับคำว่า “พี่” ที่วารีดาเอ่ยเรียกตน แต่ไม่ชอบไม่ได้ก็เขาเป็นคนสั่งให้หญิงสาวเรียกเอง แต่พอมาตอนนี้กลับไม่ชอบใจนัก อยากดึงแม่คนตัวเล็กเข้ามาบดจูบเสียให้เข็ด จะได้เลิกขึ้นเสียงใส่แบบนี้ “ก็พี่ขอโทษไปแล้วไงที่ผ่านมา อยากได้ของขวัญอะไรพี่ก็หาให้แล้ว แล้วมาครั้งนี้อยากได้อะไรเป็นของขวัญที่เรียนจบล่ะ” ใหญ่เอ่ยอย่างใจเย็น เมื่อคิดว่าถ้าตัวเองยังใช้เสียงแข็งเหมือนก่อนหน้านี้ ไม่มีทางที่น้องน้อยจะยอมลงให้ กระแสเสียงอ่อนโยนลงของชายหนุ่มทำให้วารีดายิ้มออกมาได้ ก่อนจะเดินเข้ามากอดแขนชายหนุ่มอย่างเอาใจ “พูดจริงนะ อยากได้อะไรก็หาให้ ครั้งนี้วิดวิ้วไม่ขออะไรมากค่ะ วิดวิ้วขอสามีได้ไหมพี่หมอใหญ่ น้องอยากมีสามี อยากมีลูกน่ารักๆ สักคนสองคนมาวิ่งเล่นในบ้านค่ะ” ใหญ่ถึงกับเป็นใบ้ไปชั่วขณะ เมื่อได้ยินหญิงสาวเอ่ยขอของขวัญ ใครกันจะมาเป็นสามีของวารีดา แล้วทำไมต้องมาขอตนด้วย อย่าบอกนะว่าจะให้เขาไปสั่งให้ผู้ชายคนนั้นมาขอเธอแต่งงาน ไม่มีทาง ไม่มีทางแน่ ใครก็ห้ามแตะต้องวารีดา ผู้ชายคนนั้นต้องเป็นเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น “มันเป็นใคร คนที่อยากได้มาเป็นสามี บอกพี่มาเดี๋ยวนี้” ถามเสียงแข็ง พร้อมกับแกะมือคนตัวเล็กที่กอดแขนตนออกให้หันมาเผชิญหน้ากับตัวเองอย่างต้องการความจริง “เอ้า! ถามได้ ผู้ชายคนนั้นก็ต้องเป็นแฟนของวิดวิ้วสิคะ ไม่ใช่แฟนจะแต่งงานกันได้ไง” หญิงสาวตอบหน้าซื่อ ก็มันจริง เพียงแค่ไม่บอกเฉยๆ ว่าแฟนของตนนั้นคือผู้ชายตรงหน้า ก็สาวเจ้าคิดแบบนี้มาตลอดเวลาว่าใหญ่นั้นเป็นแฟน และจะเป็นพ่อของลูกในอนาคต “แล้วมาขอพี่ทำไม ทำไมไม่ไปบอกให้มันมาขอแต่งงาน” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยความเกรี้ยวโกรธ จนหลงลืมบีบแขนทั้งสองข้างของหญิงสาวจนต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บ “โอ๊ย!...พี่หมอใหญ่ปล่อยวิดวิ้วก่อนค่ะ น้องเจ็บ” หญิงสาวเอ่ยบอกชายหนุ่มว่าตนเองนั้นเจ็บแขนทั้งสองข้าง ด้วยความหึงหวงจนขาดสติ ชายหนุ่มจึงฉกริมฝีปากหนาเข้าหากลีบปากอิ่มของหญิงสาวอย่างโหยหาระคนต้องการ ปากหนาบดเคล้าคลึงเคล้นปากอิ่มอย่างเอาแต่ใจ เมื่อคิดว่าปากน้อยๆ ของเธอนั้นจะตกเป็นของคนอื่น จนหลงลืมไปเลยว่าตนนั้นทำสิ่งที่ไม่ควรออกมา “อื้อ!...” วารีดาพยายามดิ้นตัวให้เป็นอิสระ แต่ก็ยากเหลือเกินเมื่อกำลังแรงของตนนั้นน้อยกว่าชายหนุ่ม ตอนนี้วารีดารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกรังแก เอาเปรียบ และดูถูกยังไงก็ไม่รู้ น้ำตาสาวเจ้าก็ไหลอาบแก้มนวลออกมาอย่างช้าๆ จนทำให้คนที่บดขยี้ปากอิ่มของตนนั้นได้ลิ้มรสเค็มของน้ำตาจึงผละออก เมื่อสติกลับมา ใหญ่จึงละอายใจเหลือเกินกับการกระทำของตนก่อนหน้านี้ “พะ...พี่ขอโทษวิดวิ้ว” เขาเอ่ยด้วยเสียงเบาหวิวอย่างสำนึกผิด เพียะ! มีเพียงฝ่ามือเล็กเท่านั้นที่เป็นคำตอบให้ชายหนุ่ม ถึงแม้จะรักผู้ชายตรงหน้านี้ แต่ก็ไม่คิดว่าจะถูกกระทำด้วยความต่ำช้าแบบนี้ เธอเสียใจและเสียความรู้สึกจริงๆ เวลานี้ “ขอโทษ...ขอโทษ พูดง่ายมากไปแล้วนะคะ ใช่สิ พี่มันก็เป็นผู้ชายมักง่ายเหมือนคนอื่น วิดวิ้วอุตส่าห์คิดว่าพี่เป็นสุภาพบุรุษไม่เหมือนผู้ชายคนอื่นที่ชอบเอาเปรียบผู้หญิง แต่ที่ไหนได้ สุภาพบุรุษขาดดีๆ นี่เอง” หญิงสาวเอ่ยเหน็บอย่างเจ็บปวด ตอนนี้ยอมรับว่าเสียใจที่ชายหนุ่มกระทำกับตนเช่นนี้ วารีดาเคยคิด เคยฝันว่าจูบแรกของตนกับชายหนุ่มต้องจูบในบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติก ไม่ใช่จูบที่คุกเค้าด้วยความโกรธแบบนี้ แบบนี้เธอไม่ต้องการ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD