พอเทวาเลี้ยวรถเข้าห้างสรรพสินค้าสุดหรูชื่อดังย่านใจกลางเมือง
จิรัชยาได้แต่คิดในใจว่าเขาพาเธอมาซื้อชุดนักศึกษาที่นี่มันคงจะหาได้หรอกนะ จะให้เธอซื้อชุดนักศึกษาแบรนด์กุชชี่หรือไง และแน่นอนว่าเธอทำได้เพียงแค่คิด เธอไม่กล้าพูดออกไปหรอก
เมื่อลงจากรถเขาก็เดินนำลิ่วไปส่วนเธอก็ได้แต่เดินตามเท่านั้น จะคอยดูซิว่าเขาหาซื้อได้หรือเปล่า พอเดินไปเรื่อย ๆ เขากลับเดินออกมาด้านนอก ข้ามมาฝั่งตรงข้ามที่เป็นเสมือนคอมเพล็กซ์ศูนย์รวมร้านค้าต่าง ๆ แทน และในที่สุดเขาก็หยุดอยู่ที่ร้านหนึ่ง
“คุณรู้ได้ยังไงคะว่าต้องซื้อที่ไหน” จิรัชยานึกแปลกใจที่เขาพาเธอมาที่ร้านขายลชุดนักศึกษาชื่อดังเสียด้วย
“เธอคิดว่าฉันไม่เคยเป็นนักศึกษาหรือไง” เขาย้อน
“แต่มันนานมากแล้วนะคะ ตั้งแต่ฉันยังไม่เกิดโน่น”
“จิรัชยา!!!” เสียงเข้มกดต่ำอย่างไม่พอใจ เจ้าหล่อนพูดอย่างนี้หมายความว่าเขาแก่ใช่มั้ย กลับไปจะต้องสั่งสอนให้เข็ด
จิรัชยาหัวเราะที่ทำให้เขาหัวเสียได้ คนแก่แต่ไม่ยอมรับว่าตัวเองแก่ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังคงหล่อเหลาดูดีกว่าพวกหนุ่ม ๆ เสียอีก เธอยอมรับว่าเขามีเสน่ห์ในแบบหนุ่มใหญ่ สุขุม อบอุ่น ใจดี ครบทุกอย่างที่เอาไว้ใช้ล่อลวงบรรดาสาว ๆ แต่ใครจะรู้ว่าภายใต้ท่าทางเหล่านั้นกลับถูกเขาหลอกเสียสนิท ตัวตนจริง ๆ ของเขานั้นทั้งโหดร้ายและดิบเถื่อนราวกับสัตว์ร้าย
เทวาเดินนำเข้าไปในร้านบอกความต้องการกับพนักงานขาย เพียงชั่วครู่ก็ได้ชุดในแบบที่ต้องการ
“ไปลองดูสิจี๊ด”
หญิงสาวมองชุดที่อยู่ในมือ ถอนหายใจ แต่พอเห็นสายตาดุ ๆ ก็จำต้องทำตามคำสั่งเขา
“ลองแล้วออกมาให้ฉันดูด้วย” เขาสั่งทิ้งท้าย
จิรัชยาออกมาพร้อมกับชุดนักศึกษาที่ผู้ปกครองจอมเข้มงวดเลือกให้ ใบหน้าหญิงสาวบูดบึ้งอย่างเห็นได้ว่าไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ ผิดกับคนเลือกที่หยักยิ้มอย่างพึงพอใจ
ชุดนักศึกษาตัวหลวมโพรกกับกระโปรงพลีทคลุมเข่า! เห็นอยู่ว่ามันไม่เข้ากับเธอเลยสักนิด เขาไม่น่ามีรสนิยมแย่ขนาดนี้ ขืนถ้าให้เธอใส่ชุดนี้ไปมหาวิทยาลัยพวกเพื่อน ๆ ได้ล้อเธอตาย เธอไม่เอาหรอก เป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่ยอม
“คุณเทวาขา” จิรัชยาเรียกเสียงหวานส่งยิ้มประจบออดอ้อนแบบที่เจ้าหล่อนชอบทำเป็นประจำสมัยเด็ก ๆ
ผู้ปกครองหนุ่มเพียงแต่เลิกคิ้วมอง
“จี๊ดว่าแบบนี้มันไม่เหมาะกับจี๊ดหรอก ดูสิคะจี๊ดใส่แล้วตลกจะตาย” เรียกแทนด้วยชื่อตัวอีกต่างหาก เขาจะรอดูว่าเธอจะมาไม้ไหน
“ขอจี๊ดเลือกเองนะคะ” ดวงตากลมใสมองหน้าชายหนุ่มอย่างรอคอยความหวัง
“ได้” ในที่สุดก็ยอมตกลง ความจริงแล้วเขาจงใจแกล้งยายตัวจี๊ดนี่แต่แรกถึงเลือกชุดแบบนี้ให้
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวยิ้มร่าแทบจะถอดชุดแสนเฉิ่มเชยออกเสียเดี๋ยวนี้
เธอไปเลือกชุดแบบใหม่ด้วยตนเองโดยมีเทวายืนคุมอยู่ไม่ห่าง ตัวไหนสั้นไปรัดไปเขาจะดึงออกทันที ภาพของทั้งสองจึงดูเหมือนกับพ่อพาลูกสาวมาเลือกซื้อชุดนักศึกษาอย่างไรอย่างนั้น น่าแปลกที่ไม่มีใครคิดว่าอาจจะเป็นเสี่ยที่พาอีหนูมาซื้อ นั่นเป็นเพราะเทวาดูดีเกินไป เพียงแค่รูปหล่อดูดีก็เปลี่ยนทัศนคติของคนรอบข้างได้ สัจธรรมของโลก คนส่วนใหญ่ก็ยังคงมองคนที่ภายนอกอยู่อย่างนั้น มิเช่นนั้นเทวาจะตบตาใครต่อใครในคราบสุภาพบุรุษแสนดีได้หรือ
หลังจากเสร็จจากการเลือกซื้อชุดนักศึกษาแล้วทั้งคู่ก็ข้ามฝั่งมาที่ห้างสรรพสินค้าสุดหรูตามเดิม การเดินมาก ๆ อีกทั้งยังต้องซอยเท้าให้ทันคนตัวใหญ่ทำให้จิรัชยารู้สึกเจ็บที่ตรงส่วนนั้น เธอพอเดินไหวแต่ไม่ใช่กึ่งเดินกึงวิ่งอย่างนี้ ขาเขายาวจะตาย เขาก้าวทีเท่ากับว่าเธอต้องก้าวสองก้าว ในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหวจึงต้องดึงแขนร่างสูงไว้
“คุณเทวาคะ”
ชายหนุ่มหันมามอง
“คือว่า... คุณเดินช้าลงหน่อยได้มั้ยคะ” เธอบอกแต่กลับหลบหน้าซ่อนสายตา
“มีอะไร”ถามเพราะนึกว่าเธออยากได้อะไรหรือเปล่า
“เปล่าค่ะ เขายังมีหน้ามาถามอีก แล้วเธอจะพูดออกไปตรง ๆ ได้ยังไงว่าเดินมากแล้วมันระบม นี่แค่เดินอยู่ได้ก็ดีแค่ไหนแล้ว ถ้าไม่เห็นว่าต้องออกมาซื้อชุดนักศึกษาเธอไม่กัดฟันลุกออกมาหรอก คนบ้า เพราะเขาคนเดียวเลย
เทวาไม่ว่าอะไรต่อแต่เขาก็ยอมเดินช้าลง จากเดิมที่เดินนำตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นเดินคู่ไปด้วยกันกับเด็กสาว เขาสังเกตว่าคนตัวเล็กข้างกายหยุดชะงักในบางครั้งและนิ่วหน้าน้อย ๆ และคิดว่าเขาพอจะรู้สาเหตุแล้วว่ายายตัวจี๊ดเป็นอะไร คงจะระบมตรงจุดที่ถูกเขากระแทก
อยู่ ๆ เขาก็หยุดเดิน “หิวหรือยัง”
“คะ” จิรัชยาทำหน้าเหลอหลาตั้งตัวไม่ทัน แล้วยกข้อมือขึ้นมาดูเวลา ทุ่มกว่าแล้วนี่
“เธออยากกินอะไร”
“อะไรก็ได้ค่ะ” เธอไม่ใช่คนเรื่องมากเรื่องกิน แต่ถ้าจะให้ตอบจริง ๆ ละก็เธออยากกินพวกชาบูไม่ก็ปิ้งย่างซึ่งเป็นของโปรดเธอ แต่พอมองคนที่มาด้วยแล้วอย่าดีกว่า มันไม่เข้ากับเขาเอาเสียเลย แม้ว่าเขาจะถอดสูดถอดเน็กไทจนเหลือแค่เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มกลับกางเกงสแล็กส์แล้วก็ตาม แต่รัศมีของความเป็นนักธุรกิจหมื่นล้านกลับไม่จางหายไปเลย เขาดูแพงเกินกว่าจะมานั่งรับประทานอาหารในร้านพวกนี้
เทวาพาเด็กสาวมายังร้านสเต๊กร้านหนึ่ง แน่นอนว่าย่อมต้องหรู เพราะแต่ละร้านที่เปิดกิจการอยู่ในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้นั้นจับกลุ่มลูกค้ากระเป๋าหนักทั้งสิ้น
“ฉันคงไม่มีเวลาไปนั่งปิ้งนั่งย่างกับเธอ แต่ถ้าเป็นเสียบสอดกระแทกฉันมีเวลาทั้งวันทั้งคืน” เขาพูดออกมาได้หน้าตาเฉย คนฟังก็หน้าแดงก่ำกับคำพูดหยาบโลนของเขา แล้วทำไมเธอจะต้องนึกภาพตามด้วย นั่นมันเป็นการขืนใจเธอนะ
อาหารร้านนี้ใช้เวลาตระเตรียมนานพอสมควร การนั่งรอสองต่อสองกับเขาทำให้จิรัชยารู้สึกเกร็งอย่างบอกไม่ถูก เมื่อก่อนก็เคยออกมาทานข้าวนอกบ้านกับเขาสองคนบ่อยไป แต่วันนี้ทำไมกลับรู้สึกไม่เหมือนเดิม เขาเองก็เอาแต่เงียบไม่พูดไม่จาแต่ตาคมกริบที่มองมากลับทำให้ใจสั่นหวิว เธอจึงเสหยิบมือถือขึ้นมาเล่น เทวาก็ไม่ว่าอะไรยังคงนั่งสังเกตยายตัวจี๊ดต่อไป เขารู้สึกว่าการได้นั่งมองยายเด็กนี่ทำให้เพลินใจนัก
สักพักอาหารก็มาเสิร์ฟ จานของเขาเป็นฟิเลมิยองดิชหรือสเต็กเนื้อสันในฉ่ำน้ำที่ถูกตกแต่งพร้อมเครื่องเคียงครบครันอย่างสวยงามในจานกระเบื้องหรู ส่วนของเธอเป็นแซลมอนรมควันที่เป็นอีกหนึ่งเมนูโปรดของเธอ
“เดี๋ยวก่อนจี๊ด”
“คะ”
“กินยาก่อนอาหารก่อนจี๊ด” เขาหยิบยาที่เขาเตรียมใส่ซองเล็ก ๆ ยื่นส่งให้
จิรัชยารับมาด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก แต่ความอบอุ่นกลับอาบหัวใจเมื่อเห็นเขาแสดงความใส่ใจ เทวามักจะเป็นอย่างนี้เสมอ แม้เขาจะเงียบขรึมเคร่งครัด แต่เขามักใส่ใจกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่พูดมากแต่ใช้การกระทำแสดงออก เธอถึงได้แอบหลงรักเขา แต่ไม่คิดว่าวันหนึ่งเธอจะได้พบกับด้านมืดของเขา เธอรู้อยู่แล้ว แค่ไม่คิดว่าจะมาเจอกับตัวเอง
“เป็นอะไรไป” เขาเห็นเธอเงียบไปและสีหน้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเดี๋ยวยิ้มแล้วสักพักแววตาก็ฉายแววเศร้า
“เปล่าค่ะ” เธอตอบแล้วกินยาที่เขาให้มาเสีย ชายหนุ่มก็ไม่คาดคั้น จากนั้นทั้งคู่จึงลงมือรับประทาน
ในจานของเขามีไส้กรอกลูกวัวเคียงมาด้วย เขาตักใส่จานให้เด็กสาว ส่วนจิรัชยาเกลียดแตงกวาเป็นที่สุดก็ตักไปไว้ในจานของชายหนุ่ม กิริยาของทั้งคู่เป็นไปโดยธรรมชาติ เพราะเวลาที่ทั้งคู่รับประทานอาหารร่วมกันก็มักจะเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว ถ้าจะถามว่าใครรู้ใจเทวาเรื่องอาหารการกินที่สุดก็เห็นจะไม่พ้นจิรัชยา กับเธอเองก็เช่นกัน ไม่มีใครรู้ว่าเธอชอบไม่ชอบอะไรเท่าผู้ปกครองใจร้ายของเธออีกแล้ว
“ฉันตักของโปรดให้เธอ แต่เธอกลับเอาของที่ไม่ชอบมาให้เนี่ยนะ” ผู้ปกครองหนุ่มแกล้งโวย
“ก็คุณชอบไม่ใช่หรือคะ” เธอก็ตักแตงกวาให้เขาอย่างนี้ทุกครั้ง
“นั่นมันเพราะเธอไม่กินต่างหากล่ะ”
“คุณไม่เห็นเคยพูด งั้นคุณตักออกก็ได้ค่ะ”
“ฉันกินได้”
“ก็แค่นั้น”
เธอว่าแล้วก็จิ้มไส้กรอกเคี้ยวตุ้ย ๆ อย่างเอร็ดอร่อยโดยไม่ได้สังเกตแววตาของคนตรงหน้าเลย
ท่าทางจิ้มไส้กรอกจนถึงส่งเข้าปากแล้วกินมันด้วยหน้าตามีความสุขเช่นนั้นกลับทำให้เทวาจินตนาการไปไกล เขาอยากให้ที่อยู่ในปากเธอนั่นเป็น
ไส้กรอกของเขาเสียจริง แค่คิดไอ้นั่นของเขาก็แข็งขึงขึ้นมาทันที แต่ยายตัวจี๊ดนี่ก็ชอบกินไส้กรอกมาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่
“อร่อยมั้ยจี๊ด”
“อร่อยมากค่ะ ฉันว่านี่ต้องเป็นโฮมเมดแน่ ๆ รสชาติไม่เหมือนพวกไส้กรอกแพ็กทั่วไป”
“เธอชอบมันมากหรือ”
“ค่ะ คุณก็รู้ว่าฉันชอบกินไส้กรอก ซื้อกลับไปกินที่บ้านด้วยดีกว่า”
“ได้งั้นกลับบ้านฉันจะให้เธอกิน”
“ค่ะ”
จิรัชยาไม่ได้สังเกตประโยคแปร่ง ๆ ของชายหนุ่มเลยเพราะมัวแต่มีความสุขกับการกิน ส่วนเทวาตอนนี้แทบทนรอให้กลับบ้านไม่ไหว แต่ก็ต้องข่มความต้องการร้าย ๆ เอาไว้ เธอได้กินไส้กรอกสมใจแน่ แต่เป็นไส้กรอกเอ็น
ร้อน ๆ ของเขานี่