ฉันตั้งคำถามแล้วเผลอยกมือแตะหน้าผากที่ยังคงทิ้งไอร้อนเอาไว้จางๆ “ช่างเถอะ” นั่งวิเคราะห์อยู่ราวๆ ห้านาที ฉันก็ตัดสินใจสลัดเรื่องไร้สาระออกจากหัว ส่วนหนึ่งคงเพราะรู้สึกหน่วงๆ บริเวณท้องน้อยด้วย เลยคิดว่าควรเข้าห้องน้ำมากกว่าจะมาเสียเวลาไปกับเรื่องที่ไม่จำเป็น ใช้เวลาอยู่นานทีเดียวกว่าจะพยุงตัวเองขึ้นจากเตียงได้ อันที่จริงความเจ็บในตอนนี้ไม่ได้มากจนถึงขั้นทนไม่ไหว ดังนั้นการขยับเขยื้อนและก้าวเท้าเดินไปพร้อมสายน้ำเกลือจึงไม่ได้ทุลักทุเลเท่าที่จินตนาการไว้นัก หลังทำธุระส่วนตัวเสร็จ ฉันจัดการปลดชุดผู้ป่วยของโรงพยาบาลออก เพราะอยากรู้ว่ามีบาดแผลอยู่ตรงจุดไหนของร่างกายบ้าง ซึ่งทันทีที่เนื้อตัวเปล่าเปลือย ฉันก็ใช้กระจกในการสำรวจสารรูปตัวเอง... มีผ้าสีขาวพันรอบศีรษะฉัน ส่วนใบหน้า...มีรอยถลอกยิบย่อยเต็มไปหมดจนดูแทบไม่ได้ แต่นั่นยังถือว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรอยช้ำและบาดแผลอีกมากมายตามจุดต่างๆ ข