เดือนกว่าๆ ผ่านไป “เดี๋ยวนี้แกชักจะเอาใหญ่แล้วนะเกล!!” เสียงโหวกเหวกโวยวายในเช้าวันจันทร์ทำให้ผมที่เพิ่งอาบน้ำแต่งตัวเสร็จต้องเดินออกจากห้องเพื่อจะลงไปชั้นล่างของบ้าน กระทั่งได้รู้ว่าต้นตอของเสียงมาจากโต๊ะอาหาร ผมจึงหยุดเท้าไว้และยืนมองภาพนั้นจากบันไดขั้นบนสุด “เกลเป็นแบบนี้อยู่แล้ว” เกลที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพ่อเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “พ่อจะเอาอะไรมากกับเกล” “แต่แกเอาเงินหลายแสนไปใช้จนหมดในหนึ่งเดือน!” พ่อใช้มือทุบโต๊ะอย่างแรงคล้ายโมโหกับพฤติกรรมของเกลและใกล้หมดความอดทนเต็มที หากแต่เกลกลับตักข้าวต้มเข้าปากเงียบๆ ไม่สะทกสะท้านต่ออาการเกรี้ยวกราดของพ่อเลยสักนิดเดียว “เด็กอย่างแกจะเอาเงินเยอะแยะขนาดนั้นไปใช้อะไร” “เกลมีเรื่องต้องจ่าย” “อะไรล่ะ!” พ่อขึ้นเสียง หน้าแดงก่ำ “เห็นแกกลับบ้านดึกทุกวันไม่ใช่ว่าเอาเงินไปละลายกับเหล้าหมดแล้วเหรอ” “...” “หรือเอาไปให้แฟนจนๆ ของแกผลาญเล่นหมดแล้ว เ