“ก็คิดได้ว่าความรักที่หนูพลอยเคยบอกพี่เหนือไปเมื่อตอนนั้นมันไม่ใช่ความรักไงค่ะ”พลอยมุกรู้ตัวดี…ว่าเธอรักลมเหนือรักมากรักมากแค่ไหน ลมเหนือคือรักแรกพบแต่ในขณะเดียวกันเธอกลับเริ่มรู้สึกว่าเธอรักตัวเองน้อยลงเช่นกัน
การจะรักใครสักคนใช้แค่หัวใจมันไม่พอใจไหม ทำไมรักข้างเดียวของเธอมันช่างยากเย็นขนาดนี้ มีแค่หยดน้ำตาเป็นการตอบแทนมันยุติธรรมสำหรับเธอแล้วใช่ไหม พลอยมุกได้แต่คิดอยู่แบบนั้นด้วยใจที่เหี่ยวเฉา
“งั้นหรอ คำพูดกับการกระทำของเธอมันย้อนแย้งกันนะฉันว่า"ลมเหนือเอ่ยอย่างผู้ชนะ
“ถึงต่อให้หนูพลอยจะรักพี่เหนือจริงๆ ในวันข้างหน้าหนูพลอยก็เลิกรักพี่เหนือได้เหมือนกัน”
“คิดว่าการจะเลิกรักฉันมันทำได้ง่ายขนาดนั้นเลยหรอ หื้ม?! เอาแค่ว่าตอนนี้เธอสามารถเลิกรักฉันได้รึเปล่าแค่นั้นก็พอ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอนาคต”
ครืด~ครืด~ครืด
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นอย่างได้จังหวะทำให้ทั้งสองหยุดฟาดฟันกันชั่วขณะ มือหนาอีกข้างที่ว่างรีบล้วงดึงโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อกดปุ่มรับสาย “มีไรไอ้พยัคฆ์”เสียงลมเหนือเอ่ยถามอย่างรำคาญ ที่เห็นพยัคฆ์โทรมา (กูจะถามว่านี้จะเข้ามาที่ CLUB ไหม) พยัคฆ์เอ่ย “ยังไม่รู้ถ้าไปก็เจอ ไม่ไปก็ไม่เจอ แค่นี้นะ”เสียงกดตัดสายทิ้งอย่างไม่ให้ความสำคัญ แล้วหันหน้ากลับมาสนใจกับคนข้างๆ แทน
“จะปล่อยได้รึยังค่ะ หนูพลอยจะกลับ”ตาที่ยังบวมแดงจากการร้องไห้และต้นแขนที่กำลังจะชาเพราะโดนบีบรัดจนแน่นจนกระดูกแทบแหลก ลมเหนือรีบลดแรงบีบปล่อยมือจากต้นแขนอย่างรวดเร็วเพราะดูจากท่าทางของพลอยมุกน่าจะเจ็บแขนเอาสะมากๆ จนหน้าเบ้ขนาดนั้น มือเล็กรีบยกลูบแขนเบาๆ ด้วยความชาและเจ็บ ร่างเล็กรีบหันหลังก้าวเท้าออกจากประตูรั้วได้เพียงสองก้าว เสียงข้างหลังของคนใจร้ายก็ดังขึ้น
“ต่อให้เธอรู้สึกกับฉันมากแค่ไหน สิ่งที่เธอจะได้รับกลับไปก็แค่ความผิดหวังและน้ำตามากขึ้นเท่านั้น”
จากที่เดินได้สองก้าวพลอยมุกรีบเพิ่มแรงเดินลงไปยังปลายเท้าจนกลายเป็นวิ่ง พร้อมกับใช้หลังมือนุ่มปาดน้ำตาไปด้วยความเสียใจ
“พี่เหนือ ทำอะไรหนูพลอยอีกค่ะ”ลมหนาวที่เดินออกมาเห็นพี่ชายสุดที่รักคุยกับเด็กสาวข้างบ้านอย่างจับใจความไม่ได้ เห็นแค่พลอยมุกวิ่งร้องไห้ออกไป จึงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“เปล่า”
“ระวังนะคะ ถ้าเมื่อไรที่รู้ใจตัวเองต่อให้ออกแรงยื้อออกแรงไขว่คว้ามากเท่าไร สุดท้ายสิ่งที่ได้มาก็คือความว่างเปล่า”ลมหนาวได้แต่เอ่ยเตือนสติพี่ชายสุดที่รักด้วยความหวังดี ท้าวเล็กๆ เดินเข้าไปข้างในบ้านของเด็กน้อยที่วิ่งร้องไห้เมื่อครู่
“หนูพลอย ทำไมอยู่ในสภาพนี้ละคะ”ลมหนาวที่เปิดประตูเข้าไปเห็นพลอยมุกนอนคว่ำหน้าร้องไห้กับหมอนใบใหญ่หลังบางที่สั่นเทาด้วยแรงสะอื้นทำให้ลมหนาวอดที่จะสงสารพลอยดาวไม่ได้
“พี่หนาว ฮื่อ น้องเจ็บ หนูพลอยเจ็บตรงนี้”พลอยมุกที่ได้ยินเสียงลมหนาวเอ่ยเรียกรีบพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นพลางเอ่ยความเจ็บปวดให้เธอรับรู้ กำปั้นเล็กๆ ทุบไปที่อกด้านซ้ายอย่างหัวใจที่สาหัส
“พอแล้ว พอแล้วค่ะหนูพลอยคนสวยของเจ้หนาว วันนี้ไปเที่ยวกันไหมไปปลดปล่อยอารมณ์แห่งความเศร้า ใช่เสียงเพลงใช้จังหวะมันส์มันส์บำบัดหัวใจกัน”ลมหนาวได้แต่ปลอบขวัญพูดปลอบโยนจนทำให้คนที่เศร้ารู้สึกดีขึ้นมาได้บ้าง
CLUB
ทุกคนโดนการ์ดร่างยักษ์ที่หน้าประตูCLUBตรวจสอบก่อนจะได้เข้ามา ผิวขาวๆ ราวหิมะของพลอยมุกเปล่งประกายเหมือนหลอดนีออนในยามค่ำคืนแม้จะอยู่ในที่มืด เธอเปรียบเสมือนดอกไม้ที่ดึงดูดเหล่าหมู่ภมรทั้งหลายให้เข้ามาดอมดม จอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ปรากฎภาพฉายของเด็กสาวในชุดเดรสสีดำ ใบหน้าที่ถูกพระเจ้าสรรสร้างปั้นแต่ง ทำให้เธอเป็นจุดสนใจในค่ำคืนนี้
“สงสัยคืนนี้โต๊ะเราจะมีแต่หนุ่มๆ มาขอชนแก้วสินะ “ลมหนาวเอ่ยพลางใช้สายตามองไปรอบๆ ในตัวCLUB ขณะที่ทั้งสามก้าวเดินไปยังโต๊ะที่จอง หนุ่มๆ ทั้งซ้ายขวาใช้สายตาแทะโลมยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ยมายังเธอกับพลอยมุก คอปเตอร์ที่เห็นแบบนั้นจึงใช้แขนแกร่งรวบเอวคนตัวเล็กอย่างไม่ชอบใจ
“อะไรคะพี่เตอร์ “พลอยมุกที่ถูกรวบเอวสะดุ้งจนสุดตัวเธอทั้งตกใจทั้งกลัวที่คอปเตอร์มีอาการแบบนี้
“จะสะดุ้งจนตัวแข็งอีกนานไหม ดูไอ้พวกหน้าหม้อมันมองเธอสิยัยเปี๊ยกมันแทบจะเขมือบเธอกับเจ้หนาวแล้วเห็นไหม? อยู่นิ่งๆ”คอปเตอร์ดุคนข้างๆ อย่างโกรธ
“ก็แล้วทำไมพี่เตอร์เธอไม่ไปปกป้องเจ้หนาวละคะ มากอดเอวหนูพลอยทำไม? กอดจนหนูพลอยจะหายใจไม่ออกแล้วนะคะ”ชายหนุ่มไม่สนใจที่พลอยมุกแหวใส่แต่กลับกันเค้ากลับกระชับตัวเธอแน่นขึ้นอย่างถือวิสาสะ
“เบาหน่อยก็ดีนะเตอร์”ลมหนาวเอ่ยอย่างสงสารน้องสาวที่ไม่รู้เอาสะเลยว่ากำลังทำให้ใครบางคนหัวร้อน
เมื่อมาถึงโต๊ะVIP ที่ลมหนาวจองเอาไว้ในชั้นสองค่อนข้างที่จะเป็นส่วนตัว ทำให้มองเห็นบรรยากาศด้านล่างได้อย่างถนัด เสียงดนตรีที่คลอเบาๆ ทำให้พลอยมุกรู้สึกดีจนลืมความเครียดในช่วงหัวค่ำ
“พี่หนาวมาที่นี้บ่อยหรอคะ”เด็กสาวเอ่ยถามอย่างสงสัยพลางนั่งอย่างเรียบร้อย
“ไม่บ่อยค่ะนานๆ มาที”พลอยมุกพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ พร้อมกับสั่งน้ำส้มคั้นอย่างที่ใจนึกอยากดื่ม
“มาCLUBใครเค้าดื่มน้ำส้มกันยันเปี๊ยก”
“ก็หนูพลอยไม่ชอบดื่มเหล้ามันเหม็นแถมขมด้วยไม่เอาอะ”
“นั้นมันเหล้านะไม่ใช่น้ำส้วมทำหน้าแบบนั้นฉันคงจะดื่มลงคอหรอก “คอปเตอร์หยีหัวทุยอย่างหมั่นเขียว
“พี่เตอร์อย่างแกล้งหนูพลอย ผมเสียทรงหมดเลยเดี๋ยวไม่มีหนุ่มๆ มาขอเบอร์ “คอปเตอร์ที่ได้ยินอย่างนั้นก็ยิ่งลงมือแกล้งอย่างไม่ออมแรง ทั้งแขนทั้งขาล็อคคนตัวเล็กเข้าหาตัวเพื่อไม่ให้ดิ้นหนี มือก็แกล้งยีหัวจนพลอยมุกหน้างอ