คันธมาสขึ้นเสียงทันทีความอดทนของหล่อนก็หมดเหมือนกันแม้จะมีลูกค้าหรือผู้เอาประกันกับหล่อนที่ขึ้นลิฟต์มาด้วยจุดประสงค์เดียวกัน แต่การดำเนินงาน ค้นหาเอกสาร แล้วบอกกล่าวกับคันธมาสเป็นลำดับสุดท้าย ว่าเรื่องของหล่อนต้องโยกโยนให้เป็นอีกอาทิตย์
“เราก็ไม่สามารถทำให้คุณได้เร็วกว่านั้น เพราะมันจะต้องมีการตรวจสอบเอกสาร”
พนักงานชายคนนั้น เอ่ยด้วยสีหน้าที่เย็นชาเช่นกัน ไม่มีอะไรดีกว่าการรีบไปจากที่นี่เพราะมันเปล่าประโยชน์ที่หล่อนจะไปทุ่มเถียงปกติคันธมาสไม่ใช่คนอารมณ์ร้อนและหล่อนมีขีดกลั้นของความอดทน
แล้วนี่มันคงจะสิ้นสุดแล้วจริงๆ
หล่อนอุตส่าห์นั่งแท็กซี่มาติดต่องานตั้งแต่แปดโมงเช้าแต่เรื่องก็ยืดเยื้อไปจนถึงเกือบเที่ยง และกระทั่งถึงเที่ยงแต่มันก็ไม่เสร็จจนต้องเลื่อนหรือโยนให้หล่อนมาอีกครั้งในสัปดาห์หน้าของจันทร์ หล่อนคงไม่มาเองหรอก คันธมาสคิดในใจ แค่นี้ยังรู้สึกชังในน้ำหน้าของเจ้าหน้าที่การทำงานที่หล่อนบอกกับตัวเองว่าห่วยแตก กว่าจะผ่านแต่ล่ะอย่าง ซ้ำพนักงานประกันหน้าตาก็ไม่ได้รับแขกสักนิด
หล่อนมาบ่นกับมารดา
“ไม่เสร็จเลยแม่มันโยนให้เป็นวันจันทร์หน้าอีก”
พลางก้มถอดรองเท้าแบบสานไขว้ทรงเตี้ย พร้อมกับสะพายกระเป๋า วางไว้ข้างกาย หย่อนก้นลงนั่งกับโซฟาหล่อนหยิบแผ่นกระดาษที่นำมาจากโรงพักชื่อคู่กรณี ที่ทำให้บิดาของหล่อนถึงแก่สิ้นชีวิต
“นายยอดยิ่ง” หล่อนพึมพำอยู่ในใจเกี่ยวข้องกับการตายของบิดาหล่อน ทำให้หล่อนต้องเป็นกำพร้า แต่ก็ไม่มีรายละเอียดอะไรมากกว่านั้นที่หล่อนจะติดตามจ้างให้นักสืบติดตามหล่อนไม่หวังพึ่งพากระบวนการยุติธรรมหรอก เพราะพ่อของหล่อนเสียชีวิตไปทั้งคน
ตำรวจเพิ่งติดตามคดี และทราบตัวคู่กรณี เมื่อสามวันผ่านไปแล้ว หล่อนและครอบครัวยังคงไว้ทุกข์ ชุดเสื้อแขนยาวติดลูกไม้แขนยาวกับกระโปรงสีขาว วันนี้ไปรมาไม่ได้ไปเรียน น้องสาวอยู่ชั้นมัธยมปลายปีสุดท้าย แต่ก็เห็นมาทำหน้าตาเหงาหงอยซึมเศร้าใกล้มารดา จนคันธมาสต้องถาม
“ไม่สบายหรือเปล่า ไปรมา”
ไปรมาได้ยินคำของพี่สาว แต่ไม่นึกอยากจะตอบ จึงแกล้งทำไม่สนใจ เหมือนหูทวนลม จนคันธมาส ต้องเสียงดังขึ้น
“นี่ไปรมา พี่ถามว่าไม่สบายหรือเปล่า มีปากก็หัดพูดบ้างไม่ใช่มัวมาอมพะนำเป็นใบ้”
ไม่บ่อยครั้งที่คันธมาสจะอารมณ์เสีย ลงด้วยคำพูดแรงๆเช่นนี้ ในเมื่อน้องสาว ไม่สนใจสิ่งที่เธอพูดแข็ง กระด้างกระเดื่องและหล่อนไม่ต้องการให้น้องสาวมีนิสัยแบบนี้
ยิ่งฟังยิ่งพูดปฏิกิริยาในการต่อต้านจากน้องสาวมีมากขึ้นไปรมายิ่งกว่าทำท่าไม่สนใจหล่อนยังมีสีหน้าที่ดูชิงชังรังเกียจและยี้ใส่
คันธมาสเพิ่งกลับมาจากข้างนอกด้วย และบรรยากาศข้างนอกก็ทำให้เครียดมากมาย รถราที่ติดขัด น่าเบื่อหน่ายที่สุด
ไปรมาเมินมองไปทางอื่น และหันเข้าทางคุณถนอมนวล เพื่อให้มารดาช่วยเหลือ
คันธมาสนิ่งนี่ก็เป็นสิ่งที่เธอไม่ชอบในเรื่องที่มารดาคิดจะอุ้มและโอ๋น้องสาวของหล่อนจนเคยตัว แต่คราวนี้แววตาของคุณถนอมนวลกลับว่างเปล่า แต่ก็พูดบ่น เข้าข้างและปกป้องลูกสาวคนเล็กสุดตามเคย
“น้องมันยังเด็ก อย่ามาซักไซ้มันเลย”
เจอคำพูดแบบนี้เข้าคันธมาสเลยหยุดไปโดยปริยาย หล่อนก้าวเดินผ่านไปทันทีขึ้นไปที่ห้องของตัวเองโดยไม่สนใจถามน้องสาวอีกหน และไม่จำเป็นด้วย หล่อนไม่นึกว่า ไปรมาจะเป็นคนแบบนี้ หล่อนเป็นน้องสาว จึงเป็นห่วงเป็นใยถ้าเป็นคนอื่น คันธมาสไม่คิดเหลือบแลมากมายหรอก
ขออาบน้ำแล้ว เข้านอน หล่อนไม่สนใจอย่างอื่นแล้ว อาหารหรือ ก็ไม่นึกหิวเลย แต่หล่อนบอกตัวเอง ว่า จะนอนอย่างเดียว
สองทุ่มบนที่นอน เตียงหนานุ่ม ผ้าปูนั้นเป็นลวดลายดอกไม้สีน้ำเงินกับสีชมพูสะอาดและหอม เพราะผ่านการซักอบรีดอย่างดี พร้อมด้วยเสื้อผ้าของหล่อนที่แขวนอยู่บนตู้ คันธมาสยังเปิดไฟ และกายของหล่อนทิ้งเกลือกกลั้วอยู่กับหมอนข้าง และตุ๊กตาหมีพูห์ตัวยักษ์กอดมันอย่างทะนุถนอมรักใคร่ และหลับสนิทพร้อมกับเพื่อนที่แสนรักทุกคืน
ธันวายุไม่ได้เตรียมตัวออกไปข้างนอก หลังจากที่วันนี้กลับค่อนข้างเย็น และเหน็ดเหนื่อยไปด้วยงานที่ต้องรับผิดชอบ คุณปรางนภามารดานั่งอยู่ในห้องรับแขก ช่วงนี้เข้าหน้าฝน แม้ท้องฟ้าจะครื้มตลอดทั้งวันแต่ฝนก็ไม่ได้ตกอย่างที่คิด
“สำอาง รีบเข้าไปช่วยถือของคุณธันสิ ยืนซื่อบื้ออยู่ได้” คุณปรางนภาเรียกสาวใช้ที่อยู่ใกล้ที่สุด ที่มัวแต่ยืนตะลึงมองความหล่อของเขา แต่ธันวายุมีสีหน้าเรียบ ออกจะปนเครียด สำอางจึงรีบเข้ามาหิ้วกระเป๋าใส่เอกสารของเขา ตามที่นายหญิงใหญ่ของบ้านสั่ง พลางก้มหน้างุด ด้วยใบหน้าเจื่อน กลัวทำอะไรไม่ถูกใจ คุณผู้หญิงของบ้าน
“ขอบใจแกมากสำอางวางเอาไว้ข้างโซฟานั่นล่ะ เดี๋ยวฉันถือขึ้นไปเอง”
ธันวายุรีบบอก นางสาวสำอาง ยังคงลังเลอย่างทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน จนคุณปรางนภาหมั่นไส้
“เอาล่ะ แกเอากระเป๋าของลูกชายฉัน วางไว้บนเบาะนั่นล่ะ แล้วจะรีบไปไหนก็ไปไม่ต้องมาเสนอหน้าแถวนี้” คุณปรางนภาบ่นแกมไล่สาวใช้ คนละระดับชั้น สำอางรีบเดินออกไปทันที เพราะขืนอยู่เสนอหน้า เดี๋ยวมีเรื่องถูกคุณนายค่อนประชด หรือหาเรื่องตัดเงินเดือน
“เป็นยังไงล่ะตาธันเหนื่อยมากใช่ไหมลูก”
คุณปรางนภาถามลูกชายด้วยน้ำเสียงห่วงใย
“ก็มีบ้างครับ” เสียงนุ่มเอ่ยตอบ
แล้วเอ่ยขอตัวเพื่อจะกลับเข้าห้อง คุณปรางนภาเห็นลูกชายมาเหนื่อยๆเช่นนี้ ก็ไม่อยากจะซักถามบางอย่าง เกี่ยวกับเรื่องคู่รักของบุตรชาย คู่หมายคู่หมั้น ที่หล่อนอยากจะได้เป็นสะใภ้นักหนาคือ ลูกสาวของรัฐมนตรีสุริยง
ถอดชุดออกจากตัวหมดแล้วธันวายุก้าวเดินด้วยการเปลือยท่อนบน นุ่งผ้าขนหนูอาบน้ำให้เย็นชุ่มฉ่ำและเขาอยากจะนอนแต่หัววัน
ถึงที่บริษัทในวันที่ทำงานเช้าวันแรกหลังจากงานศพพ่อเสร็จมีแต่คนจ้องมองหล่อนแต่คันธมาสทำสีหน้าเรียบๆไม่สนใจใคร และไม่ได้ก้มหัว “ค่ะพี่ แต๋ม” หล่อนตอบคุณชนา ฝ่ายบุคคล
ขยับตัวจะเข้าไปที่ทำงานเดิมธันวายุเจ้านายเดินมาพอดี เขาทักหล่อน
“งานคงเสร็จเรียบร้อยแล้วเสียใจด้วยนะที่คุณพ่อคุณต้องจากไป
คันธมาสเงยหน้ามองหน้าเขา
“ขอบคุณค่ะบอส” เธอพยายามตอบประหยัดน้ำเสียงจากนั้นสวมชุดกระโปรงสีดำตัดกับเสื้อเชิ้ตสีขาวติดลูกไม้พร้อมสะพายกระเป๋าไปนั่งที่เดิม
วันทิพย์รู้สึกไม่พอใจที่บอสธันวายุที่แอบชอบไปทักกับคันธมาสที่เธอไม่ชอบหน้า จึงมองด้วยแววตาริษยา และเกลียดชังคันธมาส ไม่รู้ว่าคันธมาสมีอะไรดีกว่าเธอ อดเยาะเย้ยไม่ได้
กลัวใคร ไปเจอะเจอฝ่ายบุคคลทัก
“ดีใจที่คิ้มมาทำงาน งานทุกอย่างคงเสร็จ”
“ขาดงานตั้งเกือบอาทิตย์งานก็หนักไม่คิดจะมอง สนใจคนอื่นให้เขามาเก็บสะสางแทนหรือไงที่ต้องมานั่งรื้อสะสางงาน แต่ตัวเองลาหยุดสบาย”
เสียงกระแนะกระแหนด้วยความไม่พอใจ แม้ลอยๆขึ้นมาก็จริงแต่คันธมาสรู้ว่าเป็นการเจาะจงมาที่เธอ แต่วันนี้ฤกษ์ดี เธอไม่อยากทำร้ายใครจึงอดทน
แต่ยิ่งคันธมาสไม่ตอบ วันทิพย์ยิ่งปรี๊ดแตกหนัก สั่นเทิ้มไปหมดทั้งตัว ที่การพยายามหาเรื่องคิ้ม แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง