ตอนที่ 6

1390 Words
ทรงจำของหล่อน ถึงเจ้านายหนุ่มเจ้าเสน่ห์ ที่มีสาวสวยมาหาถึงที่ทำงาน และคันธมาสนั้นใจอยากจะกลับบ้านที่สุด แม้จะต้องอยู่ช่วยเคลื่อนย้ายข้าวของในห้องและของส่วนตัวของเขาที่เรียกว่าไม่ใช่นิดหน่อย จะว่าไปเขาน่าจะเรียกให้แม่บ้านตอนกลางวันมาช่วยจะดีกว่าคันธมาสก็บ่นไม่ออกเพราะหล่อนต้องออกแรงช่วย ถึงกับได้เหงื่อทีเดียว ไหนว่าแค่สิบห้านาที แต่นี่ปาเข้าไปเกือบถึงยี่สิบห้านาทีได้แล้วมั้ง พักเหนื่อย พร้อมกับยืนหอบหายใจอยู่ข้างโต๊ะ ใบหน้าของคันธมาสขับด้วยมันจนแทบดูไม่ได้ หล่อนกำลังจะล้วงหยิบผ้าเช็ดหน้า แต่ทว่ามือขาวแข็งแรง กลับยื่นผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งส่งให้เธอ “เอาไปเช็ดเสียสิ หน้ามันย่องแล้ว” คันธมาสว่าจะโวยวายขึ้น เพราะหล่อนต้องเสียเวลามาช่วยรื้อขนข้าวของของเขา แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้ม และกระจ่างไม่ได้เป็นแววตาที่ดูล้อเลียนของเขาเหมือนหลายครั้ง แต่กลับอ่อนโยนลงอย่างประหลาด เมื่อสบแววตานั้นแล้วรู้สึกเขินสะเทิ้นอีกครั้งจนต้องเสสายตาหลบ แต่ก็ยื่นรับผ้าเช็ดหน้า มาซับมันบนใบหน้า ซึ่งเปื้อนเลอะด้วยคราบหม่น ของเหงื่อที่แตกซิก “ผมจะไปส่งคุณที่บ้านและจะขอเลี้ยงข้าวมื้อนี้ แทนการใช้งานคุณนอกเวลา” นึกว่าอะไรที่แท้ พยายามจะหาเวลาคุยกับหล่อน แถมพูดอ้างว่าอยากเลี้ยงข้าว ทำให้ คันธมาสอดคิดเข้าข้างตัวไม่ได้ หล่อนอ้าปากค้าง จบคำพูดของเขา แต่เป็นเพียงแวบเดียวก็รีบหุบเพื่อรักษาหน้าตาไม่ให้ตื่นเต้นหรือรื่นเริงมากเกินไป กลัวอีกฝ่ายจับสังเกตได้ว่าหล่อนกระดี๊กระด๊ากับคำขอของเขาเช่นกัน ซึ่งจะบอกว่า หล่อนไม่ได้ใจง่ายนะ แต่ถ้าเขาชวนก็พร้อมที่จะไป คันธมาสคิดว่าหล่อนต้องรีบปรับสีหน้าท่าทางให้เร็วที่สุด ทั้งๆที่ในใจยิ้มออกมาพร้อมกับตื่นเต้น ซึ่งพยายามควบคุมให้มันอยู่ในใจ ไม่ให้ไถลแสดงออกนอกสีหน้า “ตกลงนะครับเอาเป็นว่า ผมจะถือว่า คุณคิ้ม ยอมรับแล้ว” เอ เขาก็แน่เหมือนกัน ที่กล้าพูดเองเออเองแบบนี้ แล้วใครล่ะจะกล้าปฏิเสธเขาลง ก็หล่อเหลาแบบนี้ เขาจะรู้บ้างไหมว่า เขาเป็นชายหนุ่มที่หล่อนแอบปลื้มมานานแล้ว คันธมาสพยักหน้า “ค่ะ” เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าที่ยิ่งกระจ่างแจ้งมากกว่าเดิม จนดูใสยิ่งมองนานไปพบว่ารอยยิ้มนั้น เต็มไปด้วยความสุภาพและอ่อนโยนในคราวเดียวกัน ท่วงท่าอ่อนนุ่มอ่อนโยนนี้ เหมือนบุคลิกคุณชายไม่มีผิด คันธมาสเขินเมื่อถูกจ้องสายตาแบบนั้นอีกครั้ง และที่ทำได้ก็คือการเสเบือนหลบสายตาเพื่อแก้เก้อไปทางอื่น ธันวายุมองเห็นภาพนั้นแล้วเขาอมยิ้มที่กิริยาเช่นนั้นของหล่อน เต็มไปด้วยความน่ารัก ไร้เดียงสา และดูเป็นธรรมชาติ ปราศจากการปรุงแต่ง “งั้นเสร็จแล้วรีบไปล้างมือแล้วออกไปพร้อมกับผม” เขาใช้คำสั่งอีกเหมือนเป็นสิ่งที่คันธมาสจะต้องยินยอม แต่คันธมาสก็ยอมทำตามเขาอย่างว่าง่ายเช่นกัน พอล้างหน้าล้างตาปุ๊บ มองดูความสวยของตัวเองที่หน้ากระจกเสียก่อนหนหนึ่ง จัดทรงผมให้ดูเข้ารูป ที่กระเซิง หน้ายุ่งมัน ไหนๆก็ต้องนั่งรถคู่กับเขาแล้ว ต้องออกมาให้ดีหน่อย ให้มันเริดหรูไปเลย หล่อนหย่อนก้นนั่งบนเบาะนุ่มเมื่อเขาทำหน้าที่สารถี ที่แต่งกายเนี้ยบใบหน้าหล่อเหลาเส้นผมเรียบตรง แต่หล่อนก็คิดในใจว่ามื้อนี้ ไม่เสียหลาย ถูกใช้งานออกเรี่ยวออกแรง จนมือชาหงิกล้าและเปรอะเปื้อนบ้างแต่เมื่อถูกตอบแทนด้วยการเลี้ยงข้าวก็ถือว่าคุ้ม “ทำไมไม่คุยบ้าง” ถูกเขาบ่น เมื่อคนนั่งข้างเบาะ ทำท่าเงียบเหมือนไม่ได้เอาจิตวิญญาณมาด้วยเขาตีคิ้วเลิกขึ้นสูงอย่างเคร่งหรือว่าอึดอัด เสียงทักของเขานั้นทำให้หล่อนทำปากจิ๊จ๊ะที่เขาช่างสำรวจและดูจะเฟ้นละเอียดอย่างนี้เหลือเกิน ยิ่งเมื่อรู้ว่าตัวเองถูกมองสำรวจด้วย คันธมาสยิ่งรู้สึกเกร็งและคอแข็ง และต่อมาก็ถึงที่หมาย ซึ่งหล่อนนั่งอยู่กับเขาในโต๊ะอาหาร เป็นสวนอาหารที่อยู่ในเส้นทางผ่าน บรรยากาศเต็มไปด้วยต้นไม้ ทำให้ดูเริงรื่น และมีลมพัดมาเป็นระยะ ไม่อ้าว แบบนี้คันธมาสคิดว่าดี และชอบ อาหารถูกสั่งไปแล้วจากเมนูที่เปิดกางออก หญิงสาวเลือกสองเมนู ส่วนเขาเลือกอีกสามเมนูรวมเป็นห้าอย่าง จนหล่อนตกใจ จะทานกันหมดหรือไง แต่ก็ช่างเถอะ มีคนเลี้ยงฟรีขออิ่มท้องไว้ก่อน ระหว่างที่นั่งรออาหารถูกเสิร์ฟมาที่โต๊ะอีกครั้ง ธันวายุก็ชวนคุยฆ่าเวลาเพื่อไม่ให้เสียเปล่า “เป็นไงคิ้มสบายใจไหมที่มากับผม” “เอ้อ” เสียงนุ่มของเขาทุ้มอ่อนโยน จนคันธมาสนึกคำตอบไม่ได้ ว่าจะตอบกระไรดี และบรรยากาศที่หล่อนอยู่กับเขาน่าคุยกันแบบกะหนุงกะหนิง จุ๋งจิ๋งเหลือเกิน คันธมาสอดคิดเกินเลยไปไม่ได้ ถ้าหล่อนมีคนรักอยู่ตรงหน้าก็ดีและเป็นเขาแต่นี่มันไม่ใช่ คันธมาสอดที่จะคิดเลยเถิดไปกว่านั้นไม่ได้ แต่ใครล่ะจะมาเบรกหล่อนในตอนนี้ เจ้านายสุดหล่อที่เนี้ยบตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า คันธมาสกำลังจะอยู่กับเขาตามลำพังแล้ว โอกาสแบบนี้หาไม่ได้ง่ายหรอก เพราะผู้ชายคนนี้ มีแต่ผู้หญิงรุมตอม เรียกว่าเข้าขั้นเจ้าเสน่ห์ หากแต่คันธมาสนั้นกลับตรงกันข้าม ดวงตาที่ดูหวาน แต่เรียบจืดเพราะเธอไม่ได้แต่งหน้า เป็นการพกพาตัวเองมาแบบธรรมชาติจริงๆ สักพักอาหารมาถึงแล้ว เมื่อบริการเสิร์ฟเสร็จสรรพ เขาตักชิ้นเนื้อส่งให้หญิงสาวอย่างเอาใจ ส่งผลให้คันธมาสที่กำลังจะใช้ช้อนตักเข้าปากชะงักค้างแถมเขินอิกครั้ง กับกริยาที่ทำแบบไม่ให้รู้ล่วงหน้าของคุณธันวายุ แล้วคันธมาสก็ก้มหน้าก้มตาหรุบเปลือกตาลง มองดูแต่จานกับข้าว จนชายหนุ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ “กับข้าวของที่นี่รสชาติไม่ได้หรือไงครับเห็นคิ้ม กินข้าวเหมือนกับแมวดม” ไม่เพียงเท่านั้น เขายังใส่ใจต่อหล่อนอีก นี่หล่อนฝันไปหรือเปล่านี้ คันธมาสอดพึมพำในใจด้วยใจแสนปลื้มไม่ได้ เห็นทีต้องแอบเก็บความดีใจนี้ไว้คนเดียวแบบไม่ให้ใครรู้ แล้วคันธมาสค่อยยิ้มขึ้นมาหน่อย ก่อนตอบเขา “อาหารอร่อยดีค่ะ แต่เป็นเพราะคิ้มตื่นเต้นกับร้านนี้มากกว่าเพิ่งมาครั้งแรกกับคุณนี่แหละค่ะ” คันธมาสคิดว่าหล่อนหาทางออกได้สวยทีเดียวกับคำตอบ ธันวายุเงยหน้าขึ้นมองหล่อนเห็นถึงคำตอบที่คล่องแคล่วชัดเจนแบบไม่แปร่งปร่า เหมือนหล่อนพกความมั่นใจมาเต็มที่ก็อดยิ้มให้ไม่ได้ “รีบทานเถอะครับ เสร็จแล้วผมจะไปส่งบ้าน” คันธมาสได้ยินไม่ผิดเป็นหนที่สอง ที่เจ้านายหนุ่มรูปหล่อ อาสาจะไปส่งหล่อนถึงบ้าน หล่อนควรเล่นตัวให้นิดหน่อยนะเพื่อเสริมค่าให้แก่ตัวเอง คันธมาสคิดอะไรเล่น แบบขำๆ และเมื่อธันวายุรีบไปส่งหล่อนที่บ้านพักตามที่ปากเอ่ย คันธมาสกลับมานั่งที่รถคันหรูอีกครั้ง หล่อนตบท้องตัวเองเบาๆอย่างอิ่มแปล้ เมื่อนั่งคู่เป็นตุ๊กตาน่ารถของเขาตามเดิม อีกอย่างเวลาที่ก้าวผ่านสองทุ่มครึ่งแล้ว เวลานี่มันหมุนเปลี่ยนเร็วจริง ถ้าให้คันธมาสกลับไปเอง คงยังไม่ถึงบ้านอย่างแน่นอน เพราะช่วงแถวบ้านในเวลาตอนเย็นไปจนถึงค่ำรถติดขัดแบบล้อไม่ยอมเคลื่อนเลย เนื่องจากเป็นเพราะเส้นถนนมีทางแยกตัดมากมาย อีกทั้งยังเป็น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD