ตอนที่ 10

1591 Words
จามาลมองมือตัวเองที่แตกยับเพราะเขากระหน่ำมันกับต้นไม้เบื้องหน้าด้วยความหงุดหงิด กรามแกร่งขบเข้าหากันแน่นเมื่อสมองผุดคำพูดของอลิซไม่หยุด ‘นี่เค้าทนไม่ไหวแล้วนะ พวกพี่เป็นบ้ากันไปหมดแล้ว คนอย่างเค้านี่นะจะไปต้องการให้นายจามาลมาหึงหวง ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก ให้พระอาทิตย์ขึ้นตอนกลางคืนยังง่ายกว่าเลย...’ หล่อนเกลียดเขา ขยะแขยงเขา และมุ่งมั่นจะใช้เขาเป็นเครื่องมือกำจัดพรหมจารีเท่านั้นเอง เขารู้เรื่องนี้มานานแล้ว รู้มาตลอดว่าผู้หญิงน่าปรารถนาคนนี้เกลียดชังตัวเขามากแค่ไหน ทั้งๆ ที่ทำใจยอมรับมาตั้งนานแล้ว แต่... แต่ทำไมวันนี้ เวลานี้ถึงได้รู้สึกแย่แบบนี้นะ รู้สึกเจ็บลึกในอกมากมายเหลือเกิน มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่... จามาลร้องถามตัวเอง หรือว่าเขาปล่อยให้หัวใจถลำลึกลงไปในเหวแห่งความรักมากขึ้นกว่าเดิม ใช่... เขาปล่อยให้มันดำดิ่งลงไปถึงก้นเหวแล้วล่ะ ความน่ารักน่าใคร่ ความน่าปรารถนาของอลิซเป็นสิ่งเดียวในโลกที่เขาไม่สามารถต้านทานได้ หล่อนมีเสน่ห์ แม้ว่าจะทำตัวแก่นแก้วแก่แดดแค่ไหนก็ตาม ทั้งๆ ที่พยายามบอกตัวเองซ้ำๆ กันหลายร้อยหลายล้านครั้งว่าอลิซไม่มีทางรักเขา หล่อนรักแมทธิว แถมหล่อนยังเกลียดเขายังกับไส้เดือน แต่เขาก็ไม่สามารถหยุดหัวใจตัวเองได้ เขารักอลิซ... และนี่แหละคือความจริงที่แสนเจ็บปวด และกำปั้นทรงพละกำลังก็ซัดเข้าใส่ต้นไม้ตรงหน้าอีกครั้ง มันน่าจะเจ็บปวด มันน่าจะทรมาน แต่เขากลับไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย หัวใจต่างหากที่กำลังเจ็บปวดอย่างสาหัส อลิซทำให้เขาเป็นบ้า หล่อนทำให้เขากลายเป็นผู้ชายอ่อนแอน่ารังเกียจ และที่สำคัญ... หล่อนทำให้เขากลายเป็นผู้ชายไม่มีหัวใจ... ชายหนุ่มสบถในลำคอด้วยความเดือดดาลซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อสมองไม่รักดีไม่หยุดผลิตภาพของอลิซสักที ตั้งแต่แรกสบตาเมื่อห้าปีก่อน ตั้งแต่หล่อนยังเป็นเด็กหญิง ตั้งแต่วันนั้นเขาก็รู้ชะตาของตัวเองดีเลยว่าหัวใจแข็งกระด้างของเขาไม่มีทางหนีผู้หญิงคนนี้ได้พ้น แม้ว่าหล่อนจะบอกว่ารักชายอื่นใส่หน้าเขาปาวๆ ก็ตาม “อ่ะนี่ซับเลือดซะ” เสียงหวานใสของผู้หญิงที่เขาอยากจะลืมให้หมดใจดังขึ้นด้านหลัง จามาลยืนตัวแข็งเกร็ง เขายืนนิ่งอยู่ชั่วอึดใจก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับหล่อน ความเย็นชาไร้ความรู้สึกถูกเรียกขึ้นมาใช้จนหมดสิ้น “ขอบใจ... แต่ผมไม่ต้องการ” จามาลก้าวยาวๆ หนีหญิงสาว  อลิซกัดปากแน่นด้วยความขุ่นเคืองและเดินตามอย่างไม่ลดละ “อย่าทำเป็นหยิ่งหน่อยเลย เลือดไหลแบบนี้เดี๋ยวก็ตายหรอก”  หล่อนเดินเข้าไปกระชากแขนของจามาลเอาไว้ เขาหยุดเดินอย่างที่หล่อนต้องการจริงๆ แต่เขาไม่ยักกะหันกลับมาหา ทำให้หล่อนต้องเป็นฝ่ายอ้อมไปหยุดตรงหน้าเขาเสียเอง ความหล่อเหลาของจามาลยังคงระเบิดใส่หน้าของหล่อนไม่หยุดยั้ง ถึงแม้จะมีความเดือดดาลเกรี้ยวกราดแทรกซึมอยู่ในทุกอณูเนื้อของเขาก็ตาม “แค่นี้มันไกลหัวใจ...” เขาเค้นเสียงตอบ และจ้องหน้าหล่อนด้วยความเป็นอริชัดเจนอลิซข่มความเจ็บปวดเอาไว้ในอกอย่างสุดความสามารถ หล่อนอุตส่าห์เป็นห่วงแต่เขากลับทำเย็นชาใส่ คนผีทะเล ผู้ชายเลือดเย็น “ฉันก็แค่... ไม่อยากให้นายตายในบ้านเท่านั้น...” “ก็บอกว่ามันไกลหัวใจยังไงล่ะ และที่สำคัญ... คนที่คุณควรจะห่วงใยให้มากๆ ก็คือแมทธิว ไม่ใช่คนที่คุณประกาศป่าวๆ ว่าเกลียดขี้หน้าแบบผม” อลิซรั้งเขาไว้อีกครั้งเมื่อเห็นพ่อตัวโตจะเดินหนี “มันก็ใช่... ฉันรักพี่แมทธิว และเกลียดขี้หน้านาย” หญิงสาวไม่รู้หรอกว่าคำพูดของตัวเองนั้นเป็นยิ่งกว่าคมมีดเสียอีก มันทั้งบาด ทั้งแทง ทั้งเฉือนหัวใจของคู่สนทนาจนยับเยิน แต่จามาลก็แกร่งเกินกว่าจะแสดงความรู้สึกอ่อนแอนั้นออกไป “งั้นก็หลีกไป...” ทำไมหล่อนถึงรู้สึกว่าน้ำเสียงของจามาลกระด้างขึ้นกว่าเดิมเป็นล้านๆ เท่าเลยนะ อลิซคิดอย่างสับสน ขณะหรี่ตามองเลือดซึมที่ไหลอยู่บนหลังมือของคนตัวโตด้วยความห่วงใยที่ปิดไม่มิด จามาลเห็นมันเช่นกัน แต่เขาคิดไปว่าหล่อนเสแสร้ง “ฉันไปแน่ แต่นายจะต้องยอมให้ฉันพันแผลให้เสียก่อน เลือดออกเยอะแบบนี้ ไม่ดีนะ” มือบางยืนไปข้างหน้าหมายจะคว้ามือใหญ่ขึ้นมาซับเลือด แต่เจ้าของหนุ่มเบี่ยงตัวหนีแสดงท่าทางรังเกียจออกมามากมาย “บอกแล้วไงว่าอย่ามาวุ่นวายกับผม ยายเด็กบ้า!” อลิซอับอายจนหน้าร้อนผ่าว อดถามตัวเองไม่ได้ว่าทำไมจะต้องมาเซ้าซี้ตาบ้านี่แบบนี้ด้วย เขาจะเป็นจะตายก็ช่างเขาสิ ทำไมจะต้องรู้สึกห่วงใยแน่นอกด้วย ก็แค่มือเขาเลือดออกเท่านั้น หญิงสาวร้องถามตัวเองและก็ได้คำตอบที่น่าภาคภูมิใจเสียเหลือเกิน ‘เพื่อมนุษยธรรมยังไงล่ะ’ โอ้... มันช่างเป็นเหตุผลที่วิลิศมาหราเหลือเกิน “อย่ามาตวาดใส่ฉันนะ นายไม่มีสิทธิ์... เอามือมานี่เลย ฉันจะทำแผลให้...” หญิงสาวตวาดกลับ ก่อนจะใช้ทุกวิถีทางคว้ามือใหญ่มาไว้ในมือของตัวเอง และในที่สุดหล่อนก็ทำสำเร็จ แม้ว่าเจ้าของจะไม่เต็มใจเลยก็ตาม “นี่นายต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่ต่อยต้นไม้ราวกับมันคือศัตรูอย่างนั้นน่ะ” อลิซซับเลือดไปก็พึมพำไป ในขณะที่จามาลเฝ้ามองใบหน้างดงามของเจ้าหล่อนเงียบๆ หัวใจหนุ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง นี่ถ้าอลิซไม่ประกาศปาวๆ ว่าเกลียดเขาล่ะก็ บางที... แค่บางทีนะ เขาอาจจะคิดว่าหล่อนมีใจให้กับเขาบ้างก็ได้ ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก... จามาลร้องเตือนตัวเอง ก่อนจะตัวเกร็งขึ้นมากะทันหันเมื่อแม่สาวน้อยที่เขาเฝ้ามองอยู่เงยหน้าขึ้นมาสบตา เหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุน อลิซมีผลต่อความรู้สึกนึกคิดของเขาเสียเหลือเกิน “พอได้หรือยัง... ผมต้องการกลับห้อง” “ฉันรู้แล้วน่ะว่านายจะรีบไป เพราะเหม็นขี้หน้าฉัน แต่... รอนิดหนึ่งไม่ได้หรือไง เห็นไหมว่าฉันกำลังพยายามอยู่ มันผูกยากมาก และฉันก็ไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน...” จริงสินะ หล่อนพึ่งเคยทำแบบนี้เป็นครั้งแรก ไม่ใช่ว่าหล่อนไม่เคยเห็นใครเลือดออกหรอกนะ แต่สมองในยามนั้นไม่ได้มีความคิดห่วงใยแน่นอกแบบนั้นขึ้นมาเลยแม้แต่นิดเดียว ทำไมต้องห่วงจามาลมากมายแบบนี้ด้วยนะ “แต่มันก็จะเสร็จแล้วล่ะน่า...” จามาลไม่พูดอะไรอีก เขาเมินหน้าไปอีกทางเพื่อที่ตัวเองจะได้ไม่ต้องเห็นความงดงามน่าปรารถนาของแม่สาวน้อยตรงหน้ามากเกินกว่าที่เป็นอยู่ แต่กระนั้นกลิ่นกายหอมๆ ของเจ้าหล่อนก็โชยเข้ามาในจมูกจนได้ มันปลุกปั่น ก่อกวนบางส่วนของร่างกายให้ผงาดขึ้นมาอย่างรุนแรง “พอได้แล้ว...” “นี่นาย...” อลิซพูดขึ้นอย่างโมโห เมื่อพ่อตัวโตสะบัดมืออกจากหล่อนกะทันหันทำให้ผ้าเช็ดหน้าของหล่อนที่กำลังผูกกันอยู่หลุดออกจากกัน ผ้าเช็ดหน้าสีหวานหล่นไปกองกับพื้นทันที “นายทำบ้าอะไรเนี่ย... ดูสิหลุดหมดเลย...” หญิงสาวก้มลงไปเก็บผ้าเช็ดหน้าของตัวเองขึ้นมากำเอาไว้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นจ้องมองคนใจดำอย่างขุ่นเคือง แทนที่จามาลจะรู้สึกสำนึกผิดหรือละอายใจบ้าง ไม่มีเลย พ่อคุณกลับไหวไหล่ทรงพลังน้อยๆ อย่างไม่แยแสอีกต่างหาก จากนั้นก็ทำท่าจะเดินหนี อลิซน้ำตาซึมออกมาทันที แต่ก็พยายามที่จะกล้ำกลืนให้มันกลับเข้าไปข้างในให้มากที่สุด “นายทำเกินไปแล้วนะ!” กำปั้นน้อยๆ ระดมทุบลงบนแผงอก ต้นแขน และทุกส่วนที่สามารถทำได้ ความน้อยใจทำให้หล่อนไม่สามารถหยุดตัวเองได้อีกต่อไป “ฉันอุตส่าห์เป็นห่วง แต่นาย... นายทำกับฉันแบบนี้ คนบ้า คนบ้า!” จามาลปล่อยให้อลิซทุบจนพอใจแล้วนั่นแหละ ถึงได้พูดออกมาซึ่งมันเป็นคำพูดที่เหี้ยมโหดเหลือเกินในความรู้สึกของคนฟัง “เก็บความห่วงใยของคุณ... ไว้ให้กับผู้ชายที่คุณรักเถอะ” แล้วเขาก็ก้าวเท้าออกห่าง กระแสความชิงชังจำนวนมหาศาลพุ่งใส่หน้าหล่อนอย่างอำมหิต “ผมไม่ต้องการ...” เขาเค้นคำพูดเลือดเย็นพวกนั้นออกมาจากปากช้าๆ เน้นชัดๆ จนคนฟังอย่างหล่อนถึงกับตัวแข็งทื่อราวกับถูกสาป ทำอะไรไม่ได้ พูดโต้ตอบก็ไม่ได้ ทำได้แค่เพียงยืนมอง มองร่างสูงใหญ่แสนสง่างามของจามาลไปจนลับตา และต่อจากนั้นนั่นแหละหยาดน้ำตาถึงได้ไหลรินออกมา หลั่งไหลออกมาอาบแก้ม อลิซไม่รู้ต้นเหตุของน้ำตาพวกนี้เลย รู้เพียงแต่ว่าตอนนี้อยากร้องไห้ให้สาแก่ใจเท่านั้นแหละ ร้อง... ร้องไห้ให้สมกับความเลือดเย็นของจามาล...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD