บทที่2.2

1308 Words
เหงื่อไหล่พลั่กๆ เลยทีนี้ ยิ่งถูกนัยน์ตาคมกริบของพี่จุนจับจ้องราวกับจะกลืนกิน ร่างกายก็พลอยสั่นระริกด้วยความกลัว คือว่านะ แม่บอกว่าจะฝากฉันไว้กับลูกชายเพื่อนเพราะท่านต้องไปทำธุรกิจที่ต่างประเทศพักใหญ่ ฉันเป็นลูกผู้หญิงเพียงคนเดียวและครอบครัวเราเหลือกันเพียงสองคน ท่านกลัวฉันเหงาและอยู่คนเดียวไม่ได้ กอปรกับที่ลูกชายเพื่อนแม่เนี่ย... ค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่ น่าไว้วางใจ ก็เลยตัดสินใจวานให้ดูแลฉันในฐานะน้องสาว แต่เดี๋ยวจ้า! ตัวเล็กงงมาก พี่จุนคนนั้นน่ะ... คนที่รอยสักเต็มตัวและดูอันตรายอย่างกับยากูซ่าคนนั้นคือคนเดียวกันกับที่แม่บอกจริงๆ เหรอ? พี่ชายคนนั้นไม่ใช่คนใจร้ายใช่ไหมอ่ะ เขาน่ะ ยังไงก็ต้องเป็นคนดีอย่างที่แม่บอกแน่ๆ ใช่หรือเปล่า แล้วถ้าฉันดื้อขึ้นมาล่ะ เขาจะหาไม้เรียวมาตีกันไหม แค่คิดก็กลัวจนจะฉี่แตกแล้วอ่า ทำไงดี “ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะไอ้ตัวเล็ก พี่เขาไม่ใช่ผีนะ” แม่ถามเมื่อเห็นฉันทำหน้าเจื่อนๆ และพี่จุนเองก็ยังไม่เลิกจ้องฉันสักที หน้าเขานิ่งมาก ดูมีอำนาจอย่างกับปีศาจแน่ะ “หล่ออย่างนั้นจะเป็นผีได้ไงอ่ะแม่” ฉันยู่ปากนิดหน่อย ทำให้ท่านมั่นใจว่าฉันโอเคกับพี่จุนมากๆ จะได้เลิกเป็นกังวลสักที แต่ว่านะ ในวินาทีที่ฉันลองเลื่อนสายตาไปหาร่างสูงอีกครั้งก็เห็นว่าผิวแก้มขาวๆ ของเขาขึ้นสีระเรื่อราวกับถูกแดดบ่ม ทว่าสีหน้าและแววตายังคงเฉยชายากจะคาดเดา พี่จุนเขาดูเป็นคนขี้ร้อนเนอะ และวันนี้แดดก็คงจะแรงเกินไปด้วยนั่นแหละ ขนาดตัวเล็กคนนี้เป็นคนขี้หนาวยังรู้สึกร้อนหน่อยๆ เลย... วันถัดมา ฉันเพิ่งไปส่งแม่ที่สนามบิน และตอนนี้พี่จุนพาฉันมาถึงคอนโดของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฉันสะพายเป้แค่ใบเดียว เพราะที่เหลือพี่เขาแบกขึ้นข้างบนให้หมดเลย กล้ามแขนพี่จุนงี้เป็นมัดๆ เลยนะ ไม่แสดงออกสักนิดว่าหนักทั้งที่ของในนั้นก็ไม่ใช่น้อยๆ น้ำหนักก็ไม่ใช่เบาๆ ด้วย แข็งแรงจนน่าเหลือเชื่อ! ฉันทำได้แค่มองแผ่นหลังกว้างและก้าวเท้าเดินตามไปเงียบๆ อยากพูดอะไรเหมือนกันนะ ไหนๆ เราก็จะเป็นพี่น้องกันแล้วนี่นา... แม่ไว้ใจเขาขนาดนี้แสดงว่าเขาก็คงไม่ใช่คนเลวร้ายหรอกเนอะ “พี่จุนขา หนักไหม เอามาให้ตัวเล็กถือก็ได้นะคะ” เพราะแบบนั้น ฉันจึงก้าวฉับเข้าไปใกล้และสะกิดเอวเขาเบาๆ เป็นผลให้ร่างสูงชะงักเท้าก่อนใช้นัยน์ตาสีสวยเหลือกลับมา ทำเอาฉันสะดุ้ง ทะ ทำไมเหรอ ตัวเล็กทำอะไรผิด... “ไม่ต้อง แค่นี้พี่ถือเองได้ เราเปิดประตูให้พี่ก็พอ” ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อได้ยินเสียงตอบโต้ของพี่จุน สงสัยเขาเป็นคนหน้านิ่งๆ หยิ่งๆ แบบนั้นอยู่แล้วมั้ง แต่เสียงของเขากลับทุ้มน่าฟัง “โอเคค่า” ฉันพยักหน้ารับพร้อมยิ้มแป้น “คีย์การ์ดอยู่ในกระเป๋ากางเกงพี่ ล้วงเอา” เพราะกระเป๋าและข้าวของมากมายเต็มไม้เต็มมือพี่จุนไปหมด ฉันจึงไม่อิดออดสักนิดที่จะทำตาม อันที่จริงนะ ฉันยังกลัวๆ เขาอยู่ด้วย... ต้องเป็นเด็กดีเข้าไว้! “ตัวเล็กขออนุญาตนะคร้าบ!” พูดจบฉันก็ค่อยๆ ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของเขาอย่างระแวดระวัง ลมหายใจร้อนๆ ที่เป่ารดเหนือศีรษะทำให้ฉันขนลุกขนพองอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็พยายามไม่คิดอะไร เพราะตอนนี้ฉันควรจดจ่อคีย์การ์ดในกระเป๋ากางเกงเขามากกว่า แล้วทันทีที่ล้วงมือเข้าไป ปลายนิ้วก็แตะโดนหลายสิ่งหลายอย่างภายในนั้น รูปร่างแบบนี้ ไฟแช็คแน่นอน ส่วนนี่ซองบุหรี่... แล้วก็ เอ๋!? “เฮ้” เสียงคำรามเย็นๆ ของพี่จุนทำให้ฉันต้องแหงนหน้าขึ้นมองคนตัวสูง จึงเห็นว่าเรียวคิ้วเข้มกำลังขมวดยุ่ง ฉันเอียงคอเล็กน้อยอย่างสงสัย จนกระทั่งเขากระซิบถาม “...เมื่อกี้เราแตะโดนอะไรของพี่” “ง่า ตัวเล็กไม่ได้ตั้งใจนะ” ฉันแก้ตัวเสียงหงอย มือสั่นไปหมดเลย กระเป๋ากางเกงของเขาลึกมาก แตะโดนอะไรไปบ้างก็ไม่รู้ “คือว่า...” เพราะพี่จุนเงียบใส่อีกแล้ว ฉันจึงหาเรื่องพูดแต่ก็ทำได้แค่ค้างเติ่งไว้เพียงเท่านั้น “ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย” ฉันสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อปลายคางสากระคายเกยเหนือศีรษะแล้วกดลงมาเบาๆ จนฉันต้องย่นคอตามน้ำหนักที่ทิ้งลงมา หนวดเนี่ยพี่เขาเคยโกนทิ้งบ้างไหม จั๊กจี้เป็นบ้าเลย! แล้วก็นะ เราสนิทกันมากพอที่เขาจะทำแบบนี้แล้วเหรอ แอบสงสัยอยู่ในใจแต่ไม่กล้าทักท้วง ตัวเล็กกลัวโดนฆ่า “พี่จุนขา...” หลังจากเอาสัมภาระเข้าไปเก็บไว้ในห้องที่พี่จุนเตรียมให้เสร็จสรรพ ฉันก็รีบวิ่งแจ้นเข้าไปหาเขาถึงในห้องเพราะเพิ่งนึกอะไรออก แม้ว่าเขากำลังนั่งสูบบุหรี่ตรงปลายเตียง ก้มหน้าก้มตาไถโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่ายราวกับแบกโลกไว้ทั้งใบก็เถอะ ยังไงฉันก็ต้องรบกวนเขา! เพิ่งเห็นว่าพี่จุนเปลี่ยนมาสวมเสื้อกล้ามแล้วด้วย หุ่นดีเป็นบ้าเลย “ว่าไง” พี่จุนเลิกสนใจโทรศัพท์ ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางคีบบุหรี่ออกจากปากโดยกลุ่มควันสีขุ่นยังคงลอยคว้างอยู่ภายในนี้ แถมยังส่งกลิ่นมาถึงฉันอีกด้วย เป็นผลให้ต้องยู่หน้าอย่าเลี่ยงไม่ได้ บุหรี่สูบแล้วตายเร็วนะ! กลิ่นก็เหม็น ดูท่าแล้วไม่เห็นจะน่าอร่อยเลย เอาเข้าปอดได้ยังไงก็ไม่รู้ แต่ทำไมกัน เวลามีควันลอยอยู่รอบตัวเขา นั่นยิ่งขับให้พี่จุนดูเท่และแบดไปพร้อมกันได้ “คือตัวเล็กขอเบอร์พี่จุนได้ไหมอ่ะ แบบว่า...” ฉันยื่นโทรศัพท์มือถือไปตรงหน้า มือแอบสั่นนิดๆ แต่ยังรักษาระยะห่างเอาไว้อย่างดี “ไงนะ เบอร์พี่?” พี่จุนเลิกคิ้วข้างหนึ่ง ฉันเลยพยักหน้าหงึกหงัก ก็นะ...รอบก่อนพี่จุนขอเบอร์ฉันนี่ แต่ฉันคิดว่าเขาต้องเป็นพวกโจรเถื่อนหรือคนนิสัยไม่ดีก็เลยให้เบอร์ลุงยามแถวบ้านไป และป่านนี้เขาคงรู้แล้วว่าถูกฉันต้มจนเปื่อย! คือฉันสนิทกับลุงแกมากๆ น่ะ คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าต้องมาอยู่ด้วยกันแบบนี้ “อือๆ เบอร์พี่จุนไง” ฉันย้ำและยังยื่นมือถือไปตรงหน้าเขา “เป็นผู้หญิงมาขอเบอร์ผู้ชายได้ไง” พี่จุนทำให้ฉันขมวดคิ้วหนัก รอยยิ้มจางๆ บริเวณมุมปากของเขายิ่งทำให้ฉันสงสัยว่าการเป็นผู้หญิงแล้วขอเบอร์ผู้ชายมันผิดตรงไหน อีกอย่างนะ เรากลายเป็นพี่น้องกันแล้วนี่ มีเบอร์กันไม่เห็นจะแปลกเลย! “ก็เราเป็นพี่น้องกันนี่นา ตัวเล็กต้องมีเบอร์พี่ชายสิคะ!” ฉันหน้าบึ้ง ขยับเข้าไปใกล้อีกหน่อยจนโทรศัพท์มือถือชนริมฝีปากของเขา เพราะแบบนั้นพี่จุนจึงหลุบตามองมันและช้อนขึ้นมองฉันอีกหน อยู่ดีๆ ตัวก็เย็นวาบ... ถึงจะน่ากลัวแต่ก็ยังหล่อ! คนอะไรทำไมหล่อพร่ำเพรื่อแบบนี้ หล่อทุกท่วงท่า หล่อทุกๆ สีหน้าและการแสดงออก หล่อหมักหมม!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD