ตอนที่ 6

1322 Words
ห้องนอนของบรรดาหนุ่มๆ การ์รัสโซ่จะอยู่ชั้นสามทุกคน โดยห้องนอนของเดนิเรลจะอยู่ด้านทิศเหนือ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากห้องนอนของราฟาลมากนัก มือบางสีขาวของรดารักษ์สะอาดเคาะเบาๆ ลงบนบานประตูไม้สักทองแกะสลักลายลวดลายงดงามแผ่วเบาพอที่จะให้เจ้าของห้องได้ยิน “คุณแดนคะ รดานำสูทขึ้นมาให้ค่ะ” “เข้ามาเถอะ...” เสียงห้าวเอ่ยอนุญาตผ่านบานประตูออกมาดังพอสมควร และนั่นก็ทำให้รดารักษ์รีบเปิดประตูแล้วก้าวเข้าไปภายในห้องนอนกว้างโอ่อ่าของหนุ่มหล่อลำดับที่สี่แห่งตระกูลการ์รัสโซ่ทันที เดนิเรลกำลังคุยโทรศัพท์เป็นภาษาอังกฤษอยู่ที่ริมหน้าต่างห้อง ร่างกายของชายหนุ่มใหญ่โตพอๆ กับบรรดาพี่น้องของตัวเองนั่นแหละ และไม่ว่าจะเป็นใบหน้า คิ้ว คาง ดวงตาหรือแม้ว่าริมฝีปากก็ไม่มีผิดเพี้ยนไปจากหนุ่มๆ การ์รัสโซ่ที่เหลือเลยแม้แต่นิดเดียว จะมีก็เส้นผมนั่นแหละที่เดนิเรลเลือกที่จะตัดสั้นแทบชิดกับหนังศีรษะ มันทำให้ชายหนุ่มดูดิบเถื่อน น่ากลัวมากขึ้นอีกหลายเท่าตัวนัก หญิงสาวละสายตาจากร่างกำยำทรงพลังของหนุ่มการ์รัสโซ่ลำดับที่สี่มาก้มหน้ามองสูทในมือของตัวเองแทน ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพ “เอ่อ... รดาจะเอาเข้าไปแขวนไว้ในห้องแต่งตัวนะคะ” หนุ่มหล่อลากไส้ที่ยังมีโทรศัพท์ติดหูอยู่หมุนตัวกลับมาเผชิญหน้า หล่อนได้ยินเขากล่าวลาคนปลายสายพร้อมกับหย่อนโทรศัพท์ลงในกระเป๋ากางเกงขายาวสีดำเนื้อดี ดวงตาหวานฉ่ำคมกริบไม่ต่างจากราฟาลจ้องมองมายังสูทสีน้ำเงินอมดำในมือของหล่อนนิ่ง คิ้วเข้มหนาดกดำที่ยาวขนานกับดวงตาคมกริบเลิกขึ้นสูง ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงขบขันเล็กน้อย “แน่ใจหรือว่าสูทเป็นของฉันน่ะ...” “เอ่อ แต่ว่าป้ามูนาบอกว่าเป็นของคุณแดนนี่คะ...” รอยยิ้มบางๆ ที่แต้มบนใบหน้าขาวสะอาดสะอ้านนั้น ยิ่งทำให้เดนิเรลหล่อยิ่งกว่าเทพบุตรเสียอีก และถ้าจะให้พูดตามความเป็นจริงล่ะก็ หนุ่มๆ การ์รัสโซ่หล่อลากไส้กันทุกคนนั่นแหละ แต่มีเพียงคนๆ เดียวเท่านั้นที่ทำให้จังหวะการเต้นของหัวใจหล่อนเปลี่ยนแปลงไป นั่นก็คือราฟาล การ์รัสโซ่ พี่ใหญ่ของตระกูลนั่นเอง หล่อนแอบรัก แอบหลงเขามาตั้งแต่แรกสบตา หนุ่มหล่อหัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันไปชี้ชุดสูทสีเดียวกันกับชุดในมือของหล่อนที่พาดอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง หญิงสาวมองตามไปแล้วก็ได้แต่เบิกตากว้าง “นั่นไงสูทที่ฉันจะต้องใส่ไปงานบอลล์ในคืนพรุ่งนี้...” “แต่ว่า...” สาวน้อยก้มมองสูทในมือของตัวเองแล้วก็ได้แต่ทำหน้าสับสน พูดไม่ออกเอาดื้อๆ เพราะไม่รู้ว่าไอ้สูทราคาแพงระยับที่ตัวเองถืออยู่ในมือน่ะเป็นของหนุ่มการ์รัสโซ่คนไหน แต่จะเป็นของใครก็ช่าง อย่าเป็นราฟาลเลย เพราะเขาจะต้องฆ่าหล่อนแน่หากหล่อนบังอาจก้าวเข้าไปในสถานที่ส่วนตัวของเขาอย่างเช่นห้องนอน “มันเป็นของพี่ราฟ...” นั่นไงพระเจ้ากลั่นแกล้งให้หล่อนต้องทุกข์ทรมานอีกแล้ว หญิงสาวอ้าปากค้าง เบิกตากว้างมองผู้ชายที่กำลังยืนขำอยู่กลางห้องด้วยความตกใจ “พี่ราฟไม่ใช่มัจจุราชสักหน่อย อย่ากลัวไปเลย...” “งั้นรดาจะเอาไปเก็บที่ห้องรีดผ้า...” หญิงสาวพูดออกไปด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ใบหน้างามซีดเผือดจนคนมองอย่างเดนิเรลอดเวทนาไม่ได้ ความจริงเขาไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของพี่ชายเท่าไหร่นัก แต่ราฟาลก็ทำเกินไป ใจร้าย ใจดำกับรดารักษ์อย่างไม่มีเหตุผลอย่างนี้คงต้องแกล้งให้เข็ด “เอาไปให้พี่ราฟที่ห้องนั่นแหละ... จะหิ้วไปหิ้วมาให้เหนื่อยทำไม อย่าลืมสิว่าเธอน่ะเดินขึ้นบันไดไม่ได้ขึ้นลิฟต์เหมือนพวกฉัน...” จริงสินะ ลิฟต์แก้วภายในการ์รัสโซ่ พาราไดส์แห่งนี้มีไว้เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับบรรดาหนุ่มหล่อเจ้าของบ้านเท่านั้น คนใช้อย่างพวกหล่อนไม่มีสิทธิ์ได้ใช้ “แต่รดาไม่เหนื่อยหรอกค่ะ... รดา...” “ถึงฉันจะไม่ร้ายกาจกับเธอเหมือนพี่ราฟ แต่เธอก็ไม่มีสิทธิ์ขัดคำสั่งของฉันหรอกนะรดา...” น้ำเสียงของเดนิเรลเข้มขึ้นกระด้างขึ้น จนคนฟังอย่างรดารักษ์ต้องก้มหน้านิ่งด้วยความเกรงกลัว ชายหนุ่มถอนใจออกมาเบาๆ เมื่อเห็นร่างอรชรสั่นเทาเพราะความหวาดหวั่น “แต่ฉันไม่มีทางทำร้ายเธอหรอกน่า... เอาไปให้พี่ราฟในห้องนอนเถอะ” “แต่คุณราฟสั่งไม่ให้รดา...” ราฟาลสั่งเอาไว้ว่าห้ามหล่อนเข้าใกล้เขาเด็ดขาด และหากเป็นไปได้เขาไม่ต้องการที่จะเห็นหล่อนอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ ดังนั้นเวลาที่ราฟาลกลับมาจากที่ทำงานหล่อนจึงต้องหมกตัวอยู่แต่ให้ห้องครัว หรือไม่ก็ในสวนเท่านั้น แต่นี่... เดนิเรลกำลังสั่งให้หล่อนขัดคำสั่งของราฟาล “พี่ราฟยังไม่ได้ขึ้นมาบนห้องนอนเลย เห็นป้าเมร่าบอกว่าอยู่ในห้องทำงานชั้นสองนู้น...” เดนิเรลเอ่ยถึงสาวใช้วัยเกือบห้าสิบปีที่เป็นคนเอาสูทขึ้นมาให้ตัวเอง ก่อนจะพูดให้กำลังใจขึ้นอีกเมื่อเห็นคู่สนทนาแสนสวยยังคงหน้าซีดเผือดไม่ผิดจากไก่ต้มไม่เปลี่ยนแปลง “เธอมีเวลาเหลือเฟือเลยที่จะเอาสูทของพี่ราฟไปเก็บไว้ในห้องแต่งตัวของเขา แถมหากเธอจะเดินชมห้องนอนที่เจ้าของหวงยิ่งกว่าจงอางหวงไข่ เธอก็ยังทำได้เลย... เอาน่าไม่ต้องทำหน้าซีดแบบนั้น ไปทำตามคำสั่งฉันได้แล้ว ไปสิ...” ไม่มีทางเลือก นี่แหละคือสถานการณ์ของรดารักษ์ในตอนนี้ หญิงสาวเดินคอตกออกจากห้องนอนของเดนิเรล จากนั้นก็ค่อยๆ เยื้องย่างไปหยุดที่หน้าห้องนอนของราฟาลจอมมารที่เกลียดหล่อนยิ่งกว่าไส้เดือนด้วยความหวาดหวั่น บานประตูไม้สักทองแกะสลักลายเดียวกันกับห้องของเดนิเรลเด่นตระหง่านอยู่เบื้องหน้า มือบางยกขึ้นค้างอยู่ในอากาศหลายครั้งเพราะไม่กล้าเคาะลงไป “ขอให้คุณราฟไม่อยู่ในห้องจริงๆ เถอะ...” ในที่สุดก็ไม่คิดจะเคาะประตูอีกแล้วเพราะมั่นใจว่าเจ้าของห้องไม่ได้อยู่ หญิงสาวตัดสินใจเปิดประตูไม้สักทองคู่และก้าวเข้าไปหยุดอยู่กลางห้องนอนที่มีขนาดใหญ่มากๆ ของราฟาล ร่างอรชรยืนนิ่งไม่สามารถขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวอวัยวะส่วนใดภายในร่างกายได้นอกจากดวงตาที่กำลังมองสำรวจไปรอบๆ ห้องนอนสุดหวงของราฟาลที่หล่อนพึ่งมีโอกาสเหยียบย่างเข้ามาเป็นครั้งแรกตั้งแต่ก้าวเข้ามาทำงานในการ์รัสโซ่ พาราไดส์หลังนี้ด้วยความตื่นตะลึง ราวกับถูกเวทมนต์ขลังร่ายเข้าใส่ กลีบปากอิ่มเผยอออกจากกันด้วยความทึ่งจัดกับการตกแต่งห้องนอนของพ่อหนุ่มหล่อร้ายกาจอย่างราฟาล การ์รัสโซ่ เพราะการตกแต่งห้องนอนนั้นบ่งบอกความเป็นตัวตนของเขาได้เป็นอย่างดี ดิบเถื่อน และลึกลับ... ราฟาลตกแต่งห้องนอนของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม องค์ประกอบภายในต่างๆ ถูกเน้นในเรื่องของการใช้งานมากกว่าความสวยงาม สีสันภายในห้องนอนเน้นความเรียบหรูด้วยโทนสีเข้มทั่วทั้งห้อง และนั่นก็ทำให้กลิ่นไอแห่งความลึกลับและร้ายกาจแผ่ปกคลุมไปทั่วทั้งอณูเนื้อภายในห้องนอนแห่งนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD