EP1 - รอบออดิชั่นกับความถูกใจมากกว่าความถูกต้อง

1554 Words
1 - รอบออดิชั่นกับความถูกใจมากกว่าความถูกต้อง “ขอต้อนรับเข้าสู่รายการ VOCAL รายการค้นหาสุดยอดผู้มีความสามารถพิเศษสร้างสรรค์แบบที่ไม่เคยมีในโลก สุดยอดสิ่งที่มีไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน เราพร้อมแล้วที่จะค้นหาผู้มีความสามารถมาแสดงสู่สายตาของผู้ชมทั่วโลกผ่านรายการ VOCAL ครั้งแรกของรายการนี้” เสียงของพิธีกรหนุ่มอย่าง ‘ชีเบล’ เริ่มต้นเปิดรายการใหม่ที่ทางประเทศไทยซื้อลิขสิทธิ์มาจากสิงคโปร์ รายการใหม่ที่มีขึ้นในปี 2024 และได้รับเสียงต้อนรับจากผู้ชมทั่วโลกเมื่อออกอากาศซีซั่นแรก เรตติ้งสูงทุกตอนและกระแสตอบรับในทางที่ดีเป็นภาพรวมส่วนใหญ่ ทางประเทศไทยจึงซื้อลิขสิทธิ์มาทำการอากาศในรูปแบบของประเทศตัวเอง และหลังจากนี้ไปจะเป็นการบันทึกเทปการออกอากาศเพื่อส่งออกสู่สานตาประชาชนครั้งแรก ก่อนที่รายการจะออกอากาศจริงในเดือนมีนาคมนี้ ทุกอย่างถือว่าใหม่และท้าทายที่สุดกับประเทศนี้ เพราะการซื้อลิขสิทธิ์จากรายการที่มีเรตติ้งสูงที่สุด จึงต้องทำให้ดีที่สุดเทียบเท่าหรือคงคุณภาพต้นฉบับรูปแบบรายการให้ได้มากที่สุด รายการนี้ค้นหาความสามารถของมนุษย์ที่มีศักยภาพพร้อมถ่ายทอดแสดงออกมาว่าคุณเจ๋งและไม่เหมือนใคร ที่นี่เป็นรายการที่เปิดรับสมัครครั้งแรกและแปลกใหม่ ทำให้มีผู้สนใจจำนวนมากสมัครเข้ามา เพราะความแปลกใหม่นี้เองทำให้ทุกคนพร้อมท้าทายกับโจทย์ใหม่ ๆ แสดงความสามารถแปลกตาให้ผู้คนเห็นมากที่สุด ในสตูดิโอรับรองผู้เข้าแข่งขันหรือรอบออดิชั่น ขณะนี้เต็มไปด้วยผู้คนที่เดินตบเท้าเข้ามามากหน้าหลายตา ทั้งชายหญิงและหลากหลายเพศสภาพ แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคของการแข่งขัน ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร เพศไหน ทางรายการพร้อมรับสมัครเสมอ และหนึ่งในนั้นก็มีคนที่สนใจกรอกใบสมัครและรอเจ้าหน้าที่ในงานติดแผ่นสติ๊กเกอร์ตัวเลขผู้เข้าแข่งขันบนเสื้อยืดที่ใส่มา ตื่นเต้นมากเลย... ผมชื่อแดง เป็นเด็กชายอายุสิบสอง ตัวผอม เส้นผมสีแดงจากการย้อมตามแฟชั่นชายแท้ ผมอายุแค่นี้แต่ตั้งใจมาสมัครรายการระดับโลกซื้อลิขสิทธิ์มาจากสิงคโปร์ได้ ถือว่ากล้าและท้าทายตัวเองเลยก็ว่าได้ ผมเดินเข้ามาในสตูดิโอรองรับผู้เข้าแข่งขัน ผมไม่เคยตื่นเต้นอะไรขนาดนี้มาก่อน ตอนเดินผ่านประตูมา ผมเห็นผู้คนมากหน้าหลายตา จ้องมองผมบ้างก็แอบหวั่นกลัวแต่ผมต้องสู้ให้ได้ ผมเดินเข้ามา ถือใบสมัครวางลงหน้าโต๊ะเจ้าหน้าที่ ผมเห็นสาวคนหนึ่งยิ้มให้ผม มองดูใบสมัครแล้วติดสติ๊กเกอร์แผ่นใหญ่บนเสื้อระบุหมายเลขผู้เข้ามาออดิชั่น ผมสบตากลุ่มสตาร์ฟที่นั่งโต๊ะยาวหลายคน แต่อยู่แถวของผู้หญิงตรงหน้า เธอมองผมและถามอะไรบางอย่าง “น้องชื่ออะไรคะ” “ผมชื่อแดงครับ” “น้องเด็กมากเลยนะ อายุสิบสองแต่มีความฝันใหญ่มาก รายการนี้เป็นรายการที่ซื้อลิขสิทธิ์มาครั้งแรก ต้นฉบับทำไว้ดีมาก หวังว่าจะไม่ทำให้ขายหน้านะ” “ว่าไงนะครับ” ผมเข้าใจว่ารายการนี้ซื้อลิขสิทธิ์มาจากสิงคโปร์ ความคาดหวังในรูปแบบประเทศนี้ถือว่าสูงใช้ได้ ผมเคยดูรายการ VOCAL ต้นฉบับจากสิงคโปร์แล้ว บอกเลยว่ากรรมการเคร่งครัดและให้ผ่านยากมาก การแสดงต้องแปลกใหม่หรือเข้าตาอย่างสมเหตุสมผลที่สุด ผมยังไม่ถึงสตูดิโอห้องจัดรายการ ผมก็โดนทีมงานกดดันไปหนึ่งกรุบแล้ว ผมเคยดูรายการหนึ่งมา ผมไม่รู้ว่าขายสคริปหรือเรื่องจริง ผมดูไปยังคาดไม่ถึงว่าจะเอาคนแบบนั้นมาออกรายการได้ ผมเป็นคนหนึ่งที่จะไม่ทำให้รายการเสียชื่อเสียงเด็ดขาด “น้องเข้าใจนะว่ารายการนี้ไม่ใช่รายการประกวดร้องเพลง มันคือรายการแสดงความสามารถ ถ้าน้องดูไทยแลนด์ก๊อบซาเล้งมาจะรู้รูปแบบรายการดี แต่ VOCAL ตัดสินไม่เหมือนกัน น้องศึกษารูปแบบรายการตามแบบฟอร์มก่อนสมัครแล้วใช่ไหม” “ใช่ครับ” ก่อนผมมาออกรายการ ผมอ่านใบสมัครและรูปแบบรายการที่ทางเว็บไซต์แนบมา ผมเป็นคนอ่านหนังสือมากกว่าแปดบรรทัด ผมชอบอ่านเพราะชอบเขียนนิยายอยู่แล้ว ไม่งั้นถ้าผมไม่อ่านมา ผมจะมาที่นี่ทำไมให้เสียเวลาอธิบาย ผมไม่กล้าพูดอะไรมาก ขอเตรียมตัวเตรียมใจก่อนเข้าออดิชั่น ถ้าผ่านผมจะโล่งใจไประดับหนึ่ง “น้องแดง อายุสิบสอง แข่งขันในความสามารถร้องเพลงแบบไม่เหมือนใครนะคะ” ผมว่าไม่ต้องย้ำก็ได้ว่านี่ไม่ใช่รายการประกวดร้องเพลง ผมรู้รูปแบบรายการเพราะนี่ไม่ใช่รายการประกวดร้องเพลงโดยตรง จะมีกรรมการหันมาแล้วบอกว่าอยู่ทีมใคร เมื่อทุกอย่างติดป้ายและรอเข้าออดิชั่น ผมไปนั่งรอตรงมุมห้องกว้าง ๆ ทางซ้ายมือที่มีเก้าอี้เรียงเป็นแถว ผมนั่งแถวกลางนั่งหายใจออกเป็นการปลอบตัวเองไปในตัว เพื่อความสมจริงผมซ้อมร้องออกมาเบา ๆ เตรียมเพลงที่ชอบมาหลายเพลง จะได้ปลดปล่อยอย่างเป็นตัวเองที่สุด “นาย...” ผมตกใจเมื่อมีเด็กผู้ชายอีกคนเข้ามาทักผม ผมแปลกใจเพราะคนตรงหน้าผมไม่ได้รู้จักกันมาก่อน หน้าตาแปลกการแต่งตัวเน้นสีสดใส เสื้อยืดสีเขียวกางเกงยีนส์ขาสั้น แต่งตัวสุภาพระดับหนึ่งใส่ที่คาดผมรูปดาว ผ้าคาดผสีน้ำเงิน แต่งตัวยิ่งกว่าศิลปินลูกทุ่ง ในเมื่อเขาทักมาเป็นมิตร ผมก็ทักทายเขาเป็นมิตรเช่นกัน “สวัสดีเราแดงนะ” “เราแมกซ์นะ” เขามาขอจับมือเป็นการทักทายเพราะเห็นว่าเป็นผู้เข้าแข่งขันเหมือนกัน ดูท่าทางเขาจะมีความสามารถแปลกตาผมเช่นกัน ผมขอทำความรู้จักกันเผื่อว่าเข้าร่วมไปด้วยกันจะได้เจอกันมากขึ้น เขาแนะนำตัวให้ผมฟังว่า เขาชื่อแมกซ์ อายุสิบสองเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน แต่คนละห้อง ผมไม่เคยรู้มาก่อน อยู่โรงเรียนเดียวกันแต่ไม่เคยเห็นหน้ากันมันแปลกมากเลย เขาเป็นเด็กทะเล้น ชอบแกล้งคนอื่นและพร้อมบวก ตอนแนะนำตัวผมยังตกใจเลย เจอนักเลงในคราบเด็กประถมแบบนี้จะให้ทำตัวยังไง “ยินดีที่ได้รู้จักนะ” “เช่นกัน ว่าแต่ทำไมเราไม่เคยเห็นนายในโรงเรียนเลยล่ะ” “ไม่รู้สิ เราอาจไม่สูงสิงกับใคร ถ้าไม่ได้อยากรู้จักหรือเข้าหาก่อน เราก็มีกลุ่มเพื่อนเหมือนกัน” ผมบอกเลยว่าผมมีสังคมและเพื่อนอยู่เหมือนกันใช่ว่าจะอยู่คนเดียวบนโลกใบนี้สักหน่อย การที่ผมมาสมัครรายการใหม่นี้ถือว่าเป็นการท้าทายตัวเองได้ดีมากทีเดียว เห็นตั้งแต่รายการระดับโลกซื้อลิขสิทธิ์เข้ามา ผมตื่นเต้นกรอกใบสมัครมาส่งวันนี้หน้างานตามกติกา ไม่คิดว่าจะเจอเพื่อนโรงเรียนเดียวกัน ถือเป็นโอกาสดีที่ผมจะสร้างมิตรภาพมากกว่าศัตรู “ก็ดีแล้ว เราจะได้สบายใจ” “นายไม่ชอบผู้ชายแบบเราเหรอ” “ไม่ใช่แบบนั้น...” ผมไม่ได้หมายความว่าผมไม่ชอบตัวตนของแมกซ์แต่ก็ไม่ได้รังเกียจ ผมไม่เคยเจอผู้ชายหัวรุนแรง เป็นผู้ชายเหมือนกันแต่ผมกลัวมากเพราะถ้าใครทำร้ายผมแทบตาย ผมจะกลัวฝังใจมาก ถ้าแมกซ์ไม่ใช่คนหัวร้อนไม่มีเหตุผล ผมคงหนีไปแล้ว “เราเป็นกำลังใจให้นะ ว่าแต่นายมาแข่งอะไร” “ร้องเพลง” “เรามาแข่งจักรยานลอยกลางอากาศ แต่เดี๋ยวก่อนนะ รายการนี้ไม่ได้ประกวดร้องเพลงนะ” ผมมักจะย้ำกับตัวเองและคนอื่นเสมอว่ารายการนี้ค้นหาความสามารถที่ไม่ใช่การยืนเฉย ๆ อย่างการร้องเพลงหรือแสดงการออกกำลังกายเท่านั้น ต้องมีการเคลื่อนไหวอย่างแปลกตาที่สุด ผมคุยกับเขาพักหนึ่งไม่คิดว่าจะมีความสามารถพิเศษธรรมดาที่แสนพิเศษ “ไม่อยากเชื่อเลยว่านายจะพิเศษขนาดนี้” “ถ้าชอบก็มาโหวตให้กันนะ ถ้ามันไม่ผิดกติกา” ผมทำความรู้จักกับแมกซ์ในฐานะผู้เข้าแข่งขันด้วยกัน คุยไปคุยมาทุกอย่างไปด้วยดีจนน่าตกใจ สงสัยแววจะผ่านเข้ารอบต่อไปก็พอมีบ้างแล้ว ผมไม่ใช้ความเป็นเส้นสายผ่านเข้ารอบอยู่แล้ว “งั้นเดี๋ยวเราไปด้วยกันนะ ตัวเลขใกล้กันเลย” “เหมือนนายตั้งใจมาต่อจากเราอะ” ในระหว่างที่พวกเขาทั้งสองกำลังคุยกัน หนึ่งในกรรมการตัดสินเดินผ่านมาดูความเรียบร้อยในห้องรับรองผู้ออดิชั่น ผมเห็นคน ๆ หนึ่งที่เข้าตาแต่ไม่เข้าไปในหัวใจ ผมเป็นกรรมการขนาดนี้ สงสัยต้องตัดสินอย่างเป็นธรรมแล้วล่ะเพราะคนตรงหน้าดูผ่านตาผมดี ผมต้องยื้อเวลารายการเป็นการซื้อด้วยเงินผมเองสักหน่อย ขอทางรายการให้แอร์ไทม์คนนี้เยอะ ๆ ก็พอใจแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD