เด็กสาวม.ปลายเธอก้าวลงจากรถแท็กซี่ ก่อนจะก้าวเดินเข้าบ้านของตัวเอง บ้านที่ดูใหญ่โต สวยหรูตรงหน้า แต่ใครจะรู้ว่ามันแทบจะไม่เหมือนบ้านเอาเสียเลย
“ไปไหนมา กลับมาซะดึกดื่น” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อเห็นร่างบางเดินเข้ามาภายในตัวบ้าน
“ป๊า!” เด็กสาวตะโกนลั่นสุดเสียง ก่อนเธอจะวิ่งโผล่เข้ากอดผู้เป็นพ่อแน่น
หมับ! “โอ้ย! ฮ่าๆๆ” แรงกระแทกทำให้วิทวัสถึงกับจุกอก แต่เขาก็ลั่นหัวเราะออกมาในท่าทางดีใจของลูกสาวสุดที่รัก
“คิดถึง” วิวพูดเสียงอู้อี้ออกมา ในระหว่างที่ใบหน้าสวย ยังคงแนบชิดติดกับอกของผู้เป็นพ่อ จะไม่ให้เธอดีใจหนักขนาดนี้ได้ไง พ่อของเธอกว่าจะได้กลับมาบ้านก็แค่เดือนล่ะ2-3ครั้งเท่านั้น เธอถึงได้บอกไงว่าบ้านก็ไม่เหมือนบ้าน ส่วนใหญ่ก็มีแต่แม่บ้านกับพี่เลี้ยงเท่านั้น เธอเองเคยพูดเรื่องนี้กับพ่อของเธอไปแล้ว ว่าเธอไม่ได้ต้องการอะไรมาก ขอแค่ท่านกลับมาทำงานที่ไทย แต่ท่านก็ให้เหตุผลกลับมาว่าที่ทำไปก็เพื่ออยากให้เธอสบาย
“อ้อนอีกแล้ว” วิทวัสยกมือขึ้นลูบหัวทุยอย่างเอ็นดู ก่อนจะก้มจูบกุมผมด้วยความรัก
“มีป๊าให้อ้อนแค่คนเดียวหนิ..” : (
“..แล้วไงยังไง ตกลงไปไหนมา”
“ไปเดินเล่นห้างมาน่ะป๊า..” วิวผลักก่อนออก ก่อนจะเอ่ยตอบคำคำโกหกก้อนโตตอบพ่อของเธอออกไป
“แล้วทำไมวิวไม่ให้พี่บุษไปเป็นเพื่อน”
“ก็สอบเสร็จวิวก็ไปเลย..เกรงใจพี่บุษด้วย” วิวตอบกลับไป หญิงสาวที่พูดถึงนั้นก็คือบุษบา พี่เลี้ยงของเธอตั้งแต่ตอนที่เธออายุได้ประมาน5ขวบ และที่เธอเรียกเขาว่าพี่ เพราะบุษบาในปัจจุบันพึ่งอายุได้เพียง32ปีเท่านั้น อีกอย่างบุษบาก็ไม่ได้แก่อย่างที่คิด หญิงสาวยังสาวยังสวยและนิสัยดีอีกด้วย หญิงสาวคอยดูแลเธอในทุกๆ อย่างทุกๆ เรื่อง
“แล้วนี่พี่บุษละคะ”
“เห็นเข้าห้องไปแล้วนะลูก”
“อ่อ..” วิวพยักหน้าอย่างรับรู้ ก่อนสองพ่อลูกจะพากันเดินเข้ามานั่งที่โซฟาหนังในห้องรับแขก
“แล้วอย่างนี้ ไปอยู่ข้างนอกป๊าจะอดห่วงเราได้ไหมเนี่ย” วิทวัสยกมือขึ้นโยกหัวทุยเบาๆ เขาเอ่ยออกไปอย่างเป็นห่วง ก่อนจะหยิบบางอย่างขึ้นมาแล้วยื่นส่งให้กับลูกสาว
“อะไรคะ?” วิวรับกล่องบางอย่างจากผู้เป็นพ่อมาถือเอาไว้ เธอเงยหน้าขึ้นมองพ่อของเธอ ก่อนจะค่อยๆ เปิดกล่องสีเหลี่ยมเล็กนั่น
“จะเข้ามหาลัยแล้วไม่ใช่ ป๊าคิดว่าหนูอยากจะได้มันเสียอีก” วิทวัสเอ่ยออกไป เขายกยิ้มขึ้นเมื่อเห็นดวงตาใสของลูกสาวกำลังเบิกกว้าง
“ป๊า!” วิวร้องเรียกชื่อผู้เป็นพ่อออกมาอย่างดีใจ ในกล่องนั่น มีกุญแจกับคีย์การ์ด เธอก็รู้ทันทีว่ามันคือกุญแจรถกับคีย์การ์ดคอนโดเพราะมันสลักชื่อคอนโดเอาไว้ที่ขอบบัตร เด็กสาวโผล่เข้ากอดผู้เป็นพ่ออีกครั้ง
“ขอบคุณนะคะ” ฟอด..ก่อนจะหอมแก้มของผู้เป็นพ่ออย่างขอบคุณ
“มีความสุขไหมลูก?”
“ถ้าป๊าอยู่บ้านบ่อย ก็คงมีมากกว่านี้ค่ะ” สีหน้าเด็กสาวเจื่อนลงทันทีก่อนเอ่ยตอบออกไป
“ป๊าจะพยายามนะ” วิทวัสเอ่ยกลับมา ใช่ว่าเขาเองไม่อยากกลับมาทำงานที่ไทยนะ แต่เขาเองทิ้งงานที่นั่นไม่ได้จริงๆ อีกอย่างค่าเงินมันก็ดีกว่าที่ไทยเป็นไหนๆ
“ค่ะ หนูเข้าใจว่าป๊าทำเพื่อหนู”
“แล้วนี่วิวจะเข้าไปดูเมื่อไหร่?”
“ใกล้ๆ เปิดเทอมก็ได้ค่ะ ป๊าไปกับวิวนะ”
“จะไปวันไหนก็บอกป๊าก่อนแล้วกัน เรื่องข้าวของป๊าให้คนจัดการไว้ให้แล้ว”
“ขอบคุณนะคะป๊า” วิวสวมกอดเอวผู้เป็นพ่ออีกครั้ง ตั้งแต่จำความได้ไม่มีครั้งไหนเลยที่พ่อของเธอจะทำให้เธอต้องเสียใจ ท่านหาทุกอย่างมาให้เธออย่างที่เธอไม่ต้องร้องขอ มันเลยทำให้เธอรู้สึกว่าเธอไม่ได้ขาดอะไรบางอย่างในชีวิตไป แค่เท่าที่มี เธอก็มีความสุขแล้ว
เวลาต่อมา..
หลังจากที่พูดคุยและนั่งทานข้าวกับผู้เป็นพ่ออยู่พัก วิวก็เดินตรงดิ่งเข้าห้องนอนของตัวเองทันที ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำจนเสร็จสรรพ เธอเดินออกมาตรงระเบียงห้องนอน มือบางจับผ้าขนหนูผืนเล็กอยู่ก่อนจะขยี้เช็ดผมที่เปียกอย่างลวกๆ
ดวงตาใสเหม่อมองไปยังด้านนอก ก่อนหัวใจจะกระตุกเต้นแรงเมื่ออยู่ๆ คำพูดของผู้ชายคนนั้นก็ดังลั่นขึ้นมาในหัวของเธอ
“หึ..ไม่มีหรอกผีน่ะ มีแต่ผัว”
“หยาบคาย” ปากบางกระจับเอ่ยออกไปอย่างแผ่วเบา เกิดมาเธอเองก็พึ่งเจอ ผู้ชายอะไร? ดูป่าเถื่อนและหยาบคายที่สุด
“แล้วเราจะไปคิดถึงคนแบบนั้นทำไมเนี่ย ยัยบ้า!” มือบางยกขึ้นใช้ผ้าขนหนูขยี้หัวตัวเองอีกครั้ง อย่างหงุดหงิด ทำไมเธอต้องเก็บเรื่องราวเมื่อตอนหัวค่ำ มาคิดให้ว้าวุ่นใจอย่างนี้ด้วย ไม่เห็นมีอะไรต้องเก็บมาสนใจเลยสักนิด ไม่เลยสักนิด!
“เฮ้อ..” ก่อนหญิงสาวจะลอบถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เมื่อเธอพยายามไร้ความคิดถึงเล่านั้นออกไป ก่อนจะพาตัวเองเดินเข้าห้องนอนตามเดิม