“มันไม่ใช่แบบนั้น” ภูบดีดึงมือเล็กของคนที่ตั้งท่าจะลุกหนี
“บุษจะแต่งงานกับอาชัชค่ะ” บุษบาหันไปมองเขาน้ำตานองหน้า ถ้าเขาไม่รักเธอ เธอก็จะประชดชีวิตแบบนั้นจริงๆ
“ไม่งอนอาแบบนั้นสิ” เขาโอบรัดจนเธอล้มลงมาบนตักแบบนั้น
“บุษไม่ใช่เด็กค่ะ ไม่มีความจำเป็นต้องงอน” เธอดิ้นรนแต่กลับยิ่งถูกกอดรัด
“อารู้ บุษเป็นสาวแล้ว...” เขาเชยคางมนให้หันมาสบตากันตรงๆ
“อย่ามาหลอกเด็กแบบบุษเลย” เธอผลักไสอกกว้าง
“ไม่ใช่แค่สาว แต่สวยมากด้วย”
“อารักแค่พ่อ อาก็เหมือนทุกคน...ที่ให้ความสำคัญกับบุษเป็นอันดับสุดท้าย”
“ไม่จริง บุษสำคัญกับอาอันดับหนึ่ง” เขาใช้จมูกเคล้นคลึงจมูกรั้นเบาๆ
“ถ้าอาไม่พิสูจน์มันในคืนนี้ บุษจะไปหาอาชัช แล้วบุษก็จะไม่รองานแต่ง แต่จะวิวาห์เหาะกับอาชัชให้มันรู้แล้วรู้รอด”
สาวน้อยพูดแต่ละคำด้วยแรงอารมณ์ ปากสีแวววาวขยับเข้ามาในระยะประชิด แล้วมันก็เกินจะหักห้ามใจ
“ถ้าอาภู...อื้อ...” เธอถูกจูบอีกครั้ง และมันก็ช่างร้อนแรง ไม่มีความอ่อนหวานอย่างเมื่อก่อนหน้านี้
“รู้ไหมว่าเป็นเมียอาต้องเจอกับอะไร” เขาลูบไล้ไปบนบ่าเล็ก เกี่ยวสายเดี่ยวเล็กๆ นั่นให้หลุดลงมาตามแขนบอบบาง
“ไม่ทราบค่ะ...อืม...” เธอถูกขยี้ริมฝีปาก และมือสองข้างก็คล้องบ่าแกร่ง ก่อนจะโถมกายเข้าไปแนบชิดกับอกกว้าง
จูบที่เริ่มจากความเร่าร้อน มันก็ดีไปอีกแบบ ความรู้สึกเหมือนกระแสไฟลามไปทั่วกาย มันวูบวาบและก็จั๊กจี้ไปทั่วทุกที่
มือกว้างลูบไล้มาตามแผ่นหลัง แล้วไม่นานมันก็ไต่ขึ้นมาจากทางชายเสื้อ เธอโนบราและตอนนี้อาก็คงรู้แล้ว
“เป็นเมียอา ก็ไม่มีสิทธิ์พูดถึงผู้ชายคนไหนอีก” ภูบดีพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ตอนนี้ตากลับมาจ้องกัน แล้วปากก็ยังผนึกกันอย่างแนบแน่น มันใกล้จนมองไม่ชัด แต่ก็รู้สึกได้ว่าเธอนั้นช่างน่ารักและก็แสนจะโอนอ่อนผ่อนตาม
“อืม...ค่ะ...อาก็เหมือนกันนะคะ ถ้าเป็นผัวบุษแล้ว อาก็ไม่มีสิทธิ์พูดถึงผู้หญิงคนอื่น และก็ห้ามรักใครมากกว่าบุษ ไม่แม้แต่พ่อของบุษ” เธอขยับปากเข้าใส่อย่างยั่วเย้า จงใจแลบลิ้นออกไปให้เขาดูดคลึง
มือกว้างซุกซนแล้วก็ไล้มาทางด้านหน้า ไม่นานมันก็ตะปบมาบนเต้าของเธอ
“อื้อ...อาขา...” เธอทั้งเด้งทั้งแอ่นให้กับมือข้างนั้น อยากให้อาภูทำแบบนี้กับเธอตั้งนานแล้ว
เธอไม่ได้อยากเป็นหลาน เธออยากเป็นเมียอาภูต่างหาก
“อาจะรักแค่บุษ...” เขาดูดดึงปากแวววาวนั่นอย่างไม่รู้เบื่อ จับให้เธอขยับมาคร่อมหน้าตักอีกครั้งในท่วงท่าที่แสนอันตราย
ปากยังคงโรมรันเข้าใส่กัน แล้วไม่นานมือเล็กก็ลูบต่ำลงไปจนถึงขอบกางเกงของคนเป็นอา
“อาขา...อารักบุษไหมคะ”
เสียงหวานๆ ออดอ้อน ในขณะที่ปากเล็กก็กำลังพรมจูบมาที่ซอกคอ ซอกหู มือนุ่มนิ่มเลียนแบบการกระทำของเขา มันไล้ไปตามเนื้อตัว แล้วเขาก็กระสันด้วยความอยากที่มากล้น
ถ้าถามว่ามีสติพอที่จะหยุดไหม เขามั่นใจว่ามี แต่สติก็ร้องบอกว่าเขาเองก็ปรารถนาเพียงเธอ และสิ่งที่กำลังจะทำร่วมกันก็คือความงดงามของความรัก
คือผู้ใหญ่สองคนที่มีหัวใจที่ตรงกัน
“อารักบุษ...” เขาดันร่างอิ่มออกห่างแล้วก็จ้องลึกเข้าไปในตาแสนเยิ้มฉ่ำคู่นั้น
“จริงนะคะ” เธอยิ้มและก็น้ำตาคลอในเวลาเดียวกัน
“จริง และไม่ใช่แบบหลาน แต่อารักบุษแบบที่ผู้ชายคนหนึ่งที่มีเลือดเนื้อ...ที่จะรักผู้หญิงคนหนึ่งได้”
เธอถูกลากมือไปวางที่กลางอกซ้าย ตากลับมาจ้องกันแบบที่มันช่างชัดเจนว่ามันคือสิ่งที่มาจากใจของอา
“บุษก็รักอาค่ะ อยากเป็นผู้หญิงของอา เป็นเมียของอา และก็เป็นอะไรก็ได้ที่อาจะรัก และรักตลอดไปค่ะ”
ปากค่อยๆ ขยับเข้าจูบกันอย่างดูดดื่ม พอได้พูดความในใจมันก็ยิ่งทำให้ร่างกายมีปฏิกิริยากับเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้น มันมากกว่าแค่ร่างกายที่ต้องการกัน แต่มันคือการแสดงออกชัดเจนว่าเขาต้องการเธอ และเธอนั้นก็ต้องการเขา
“โอ้ว...” เธอแอ่นทั้งเต้า ขย่มทั้งเอว ร่อนส่ายสะบัดเข้าหาคนที่ไม่ได้หยุดปรนเปรอ
แล้วไม่นานอาภูก็ช้อนกระเตงเธอเดินเข้าไปในห้องนอน ปากไม่เคยหยุดงับ หยุดดูดดึงกัน สะโพกของเธอร่อนหากลางกายที่นูนเป่งของอา
ก่อนจะถูกวางลงที่กลางเตียง ตากลมโตเบิกกว้างทันทีที่อาสุดที่รักเริ่มปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเอง
เธอมองเรือนกายกำยำที่เปลือยเปล่า แท่งร้อนกำลังชี้มาที่เธอ และร่างกายมันก็มีแต่สั่นระริก
“ชอบทุกอย่างที่เห็นไหม” ภูบดีแกล้งกระเซ้าคนที่เอาแต่จ้อง
“ค่ะ” บุษบาเบือนหน้าหนี อาจจะก๋ากั่น แต่มันก็เขินไม่ใช่น้อย
“อาไม่มีที่ป้องกันนะ ถ้าท้องขึ้นมา เราก็ต้องมีลูกนะ”
เธอหันไปมองอาตาค้าง ไม่คิดว่าเขาจะพูดเรื่อง ‘ลูก’ ขึ้นมา
นึกว่ามันเป็นคำต้องห้ามของผู้ชายพราวเสน่ห์แบบอาเสียอีก
“หรือบุษยังไม่อยากมี” เขาขยับขึ้นไปคุกเข่าที่กลางหว่างขาอวบ พอขยับเข้าไปในระยะประชิด ขาคู่นั้นก็ยิ่งต้องถ่างกว้างขึ้น
“อา...” เธอยันคนที่โน้มลงมาทาบทับ เบือนหน้าหนีคนที่ใช้จมูกคลอเคลียเบาๆ ไปทุกที่ ตอนนี้อับอายจริงจังที่ร่างแกร่งกำลังเสียดสีอยู่เหนือกาย
“ว่าไง อยากมีลูกกับอาไหม”
“อยากสิคะ” เธอหันไปจ้องคนที่เอาแต่ยิ้มกว้าง
ถ้าเป็นอาภู เธอยินยอมพร้อมใจกับทุกสิ่งที่เขาจะมอบให้
ปากกลับมาจูบกันอย่างดูดดื่ม ชายเสื้อสายเดี่ยวถูกตลบขึ้นเนื้อเนินอกตามติดด้วยปากหยักที่พรมจูบลงต่ำมาที่ความขาวอวบอิ่มที่ประดับด้วยเม็ดเล็กสีชมพู
“อ๊า...” มันเสียวมาก วาบหวามจนเกินพรรณนา ยิ่งลิ้นสากจงใจระรัวเข้าใส่ยอดถัน ร่างกายก็เหมือนจะยิ่งบิดไปมาอย่างกระสับกระส่าย
แล้วไม่นานมือกว้างก็ตะปบมาที่กลางกาย เขาเคล้นคลึงมาที่กลางร่องที่ยังคงอยู่ใต้เสื้อผ้า
“โอ้ว...อาภูขา...ซี้ด...” เธอสูดปากดังลั่น รู้สึกเหมือนกางเกงถูกดึงให้เสียดสีกับร่องสาว เม็ดติ่งเหมือนจะสั่นระริกขึ้นมาอย่างเฝ้ารอ
“นมหนูหวานมาก”
“โอ้ว...” เธอแอ่นถลาปรนเปรอปากหยัก ร่องรักจงใจร่อนเข้าใส่มือร้ายที่ตะปบลงมาแรงๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า
“หอยก็หอมมาก...”
กางเกงตัวนอกหลุดออกไปอย่างว่องไว เมื่อกี้ปากหยักยังสาละวนกับยอดถันของเธอ แต่ตอนนี้เขาไต่ลงไปจนถึงจุดที่แสนอ่อนไหว
ลมหายใจที่พรมรดร่องฉ่ำ ยิ่งทำให้เธอกระสับกระส่ายอย่างเฝ้ารอ มันเป็นความตื่นเต้นกับความละอายที่ถูกจ้องพื้นที่ส่วนตัวที่ผสมปนเปกันไป
“อย่าค่ะ” แล้วเธอก็รีบหยุดมือกว้างที่กำลังจะรั้งชั้นในตัวบางลง
“ถ้าไม่ถอดชิ้นนี้ แล้วเราจะเป็นหนึ่งเดียวกันได้ยังไง”
เสียงห้าวทำให้มือเล็กๆ ของเธอค่อยๆ ขยับออกห่าง แล้วไม่นานเธอก็เปิดเปลือยทุกสัดส่วนให้อามองอย่างสำรวจตรวจตรา
“อาภู...อาภูขา...” เธอครวญกระเส่ายามที่นิ้วยาวๆ จงใจเขี่ยไซ้มาตามร่องกลางกาย แล้วไม่นานมันก็สะท้านไปหมดด้วยความเสียวที่เกินจะต้านทาน
“หนูสวยทั้งตัวเลย” ภูบดีอยากจูบดอกไม้ดอกงามนี่ แต่พอจ้องก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายกำลังกลายร่างเป็นดอกไม้สีชมพู
“หนูอายเหรอ” เขาขยับขึ้นไปกระซิบถามคนที่มักจะมั่นใจเสมอ
“ค่ะ...หนูอาย...”
เขายิ้มให้กับคำตอบที่แสนน่ารัก ก่อนจะมอบจูบอันแสนเร่าร้อนให้ปากอวบอิ่มที่อยู่ใกล้เพียงแค่นิ้วกั้น
-------------------------
นักเขียนได้ลงตัวอย่างนิยายทั้ง 6 เรื่องแล้วนะคะ เมื่ออ่านตัวอย่างจบ นักอ่านสามารถเลือกปลดเหรียญตอนนิยายที่ชื่นชอบได้เลยค่ะ
นักเขียนจะใส่ชื่อเรื่องกับตอนที่ต่อกับเนื้อหาตัวอย่างไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ
1.คู่ขาท่านประธาน
2.ลุงข้างบ้าน
3.คุณอาข้างเตียง
4.ขย่มสวาทคุณอาข้างบ้าน
5.แอบขย่มอา
6.ยั่วรักลุงกร้าวใจ