Lavender ลาเวนเดอร์ 5

1178 Words
Lavender ลาเวนเดอร์ 5 “ใครวะ” พี่มาร์ถามอย่างกับจำไม่ได้ จนคนตรงหน้าดึงแมสลงอีกนิด ฉันเลิกสนใจพี่มาร์กับชายคนนั้นก่อนจะหันไปยังร้านน้ำปั่นเมื่อเมนูที่สั่งได้ครบแล้ว จ่ายเงินเสร็จก็ขยับมายืนข้างพี่ชายคนโต พี่มีนยื่นมือมาช่วยถือไว้อย่างใจดี ระหว่างนี้ก็เหมือนพี่มาร์กำลังจ้องหน้าคนคนนั้นอยู่ “แต่งอะไรมิดชิดขนาดนี้ แล้วมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง” พี่มาร์ถามคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ “มาซื้อก๋วยเตี๋ยว แต่พี่สาวลืมผมไว้ทั้งกระเป๋าสตางค์ทั้งโทรศัพท์อยู่บนรถหมดเลย ผมเห็นน้องเขาเลยเข้ามาขอยืมโทรศัพท์น่ะ” “เออ นี่น้องพี่เอง แล้วจะกลับยังไง” “อา ขอไปรอบ้านพี่ได้ไหม แฟนคลับตามอะ” “เออ ๆ แล้วไหนก๋วยเตี๋ยว” พี่มาร์ยังถามต่อด้วยความสงสัย เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้ถือก๋วยเตี๋ยวอยู่ แล้วยังบอกว่าไม่มีกระเป๋าสตางค์ด้วย “พอดีเลย ไปจ่ายให้ผมหน่อยครับ แม่ค้าจ้องผมไม่วางตาเลยผมไม่มีตังค์” “เออ ๆ เดินไป” พี่มาร์เดินตามผู้ชายคนนั้นไปแล้ว ฉันส่งแก้วแตงโมปั่นให้พี่มีนทันที ก่อนจะชวนไปรอที่รถ สักพักพี่มาร์ก็กลับมาพร้อมผู้ชายคนนั้น ที่หิ้วถุงก๋วยเตี๋ยวและอะไรบางอย่างกลับมาด้วย เราไม่ได้คุยอะไรกันมากนักแต่เลือกที่จะขึ้นรถเพื่อกลับบ้านกันทันที ฉันส่งแก้วแตงโมปั่นให้มาร์ที่นั่งอยู่ด้านหน้าเงียบ ๆ ไม่ได้พูดกับใครอีก “ขอบคุณครับ หนูซื้อของตัวเองมาไหม?” ยามคุยกับฉันพี่มาร์และพี่มีนจะใช้น้ำเสียงต่างจากที่ใช้กับคนอื่นอย่างชัดเจน และนับว่าดีที่คนที่นั่งอยู่เบาะด้านหลังข้าง ๆ ฉันไม่ได้เอ่ยแซวอะไรออกมา “ไม่ซื้อค่ะ กินชานมไข่มุกแล้ว” “อ๋อ โอเค งั้นถึงบ้านเราก็กินข้าวกันเลย ให้คนดังที่โดนทิ้งกินด้วยนะ” “ค่ะ” ก็ขึ้นรถมาขนาดนี้แล้วจะให้ปฏิเสธอะไรได้ล่ะจริงไหม เรานั่งที่เก้าอี้ในห้องกินข้าว บนโต๊ะทุกคนมีชามก๋วยเตี๋ยวของตัวเองวางอยู่ตรงหน้า และมีเมนูอีกสองอย่างที่คนที่ฉันเพิ่งรู้จักอย่าง พี่ความสุข ซื้อมานั้นวางอยู่ เป็นสลัดโรลแล้วก็ยังมีไส้อั่วย่าง เขาดูกินเยอะมากเลยนะแต่ก็ยังหุ่นดีงงเหมือนกัน อ้อ พอมาถึงบ้านเขาถึงได้วางใจถอดเสื้อฮู้ดและหมวกออก ถึงทำให้ฉันได้เห็นว่าเขานั้นหน้าตาดีมาก ๆ ผิวก็ขาวจัด ตัวสูง ดูเหมือนดาราหรือพวกไอดอลอะไรแบบนั้นเลยล่ะ “อร่อยนะ กินดู” คนที่เพิ่งเจอกันคะยั้นคะยอให้ลองชิม ฉันจึงยื่นมือไปคีบสลัดโรลมาวางที่จานตัวเองท่ามกลางความตกใจของพี่ชาย เพราะฉันนั้นไว้ตัวมากกับทุกคน คงไม่คิดว่าฉันจะยอมยื่นมือไปคีบอะไรมาชิมแบบนี้ มันอาจจะแปลกที่ฉันจะบอกว่าตั้งแต่ที่เจอคนตรงหน้า ฉันไม่ได้รู้สึกกลัวเลยสักนิด ทั้งยังรู้สึกว่าตัวเองสามารถวางใจเขาได้ทั้งที่เพิ่งจะเคยเจอกันครั้งแรก “อ้าว เอาออกทำไมล่ะ” คนที่นั่งฝั่งตรงข้ามทวนถามอย่างไม่เข้าใจเมื่อเห็นว่าฉันใช้ตะเกียบคีบแครอทในสลัดโรลออกจนหมด จากนั้นก็ใช้ช้อนตักน้ำจิ้มมาราดแล้วค่อยชิม รสชาติเปรี้ยว ๆ เผ็ด ๆ ของน้ำจิ้มซีฟู้ดทำให้ฉันอมยิ้มอย่างอารมณ์ดี อร่อยมาก “ชอบเหรอ?” พี่มาร์ที่นั่งฝั่งตรงข้ามเอ่ยถามฉันด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “น้ำจิ้มอร่อยค่ะ” ฉันตอบแค่นั้นก่อนจะกินก๋วยเตี๋ยวตัวเองต่อสลับกับกินสลัดโรลที่พี่มีนที่นั่งข้างฉันนั้นคีบมาใส่จานแล้วช่วยแยกแครอทออกให้อย่างน่ารัก “งั้นถ้าวันไหนกลับเร็วพี่จะซื้อมาให้นะ” พี่มีนมองฉันด้วยรอยยิ้มบาง ๆ ยามเห็นว่าฉันกินอะไรได้เยอะขึ้น และนี่คงเป็นเรื่องน่าตกใจในรอบหลายปีที่ฉันมานั่งกินข้าวกับพี่ชายทั้งสองคนแบบนี้ “ไม่เอาค่ะ” ฉันบอกปฏิเสธ “งั้นพี่จะพาไปซื้อดีไหม เดินไปซื้อด้วยกัน” “แบบนั้นก็ได้ค่ะ” เพราะหากฉันไปเองฉันก็จะได้ไม่ต้องใช้เงินของพี่ ๆ แต่ว่านะสลัดโรลอันนี้อร่อยจริง ๆ นะคะ ฉันชอบน้ำจิ้มรสชาตินี้มาก ๆ เลยอะ อยากเก็บไว้กินกับอกไก่ย่างจังคงจะอร่อยน่าดู “เป็นนายแบบยังไงกินเยอะขนาดนี้” พี่มาร์ถามคนที่นั่งข้าง ๆ อย่างสงสัย อ้อ สรุปเขาเป็นนายแบบอย่างนั้นสินะ มิน่าล่ะถึงได้ดูดีมากขนาดนี้ “กินแล้วก็ออกกำลังกายไงครับ” “แล้วพี่สาวจะมารับตอนไหน” พี่มีนเอ่ยถามพี่ความสุข ฉันที่กินก๋วยเตี๋ยวอิ่มแล้วก็นั่งรอเก็บชามไปล้าง แต่พอเอาเข้าจริงชายหนุ่มทั้งสามคนกลับล้างชามของตัวเองโดยแย่งชามฉันไปล้างให้ด้วย งง ฉันเป็นผู้หญิงนะคะจะมาให้พวกเขาล้างจานให้ได้ยังไงกันล่ะ “เดี๋ยวก็ถึงแล้วครับ เมื่อกี้รีบไปส่งเพื่อนกับผู้จัดการไปจีนนะ” “อ๋อ แล้วคิวแกเมื่อไหร่จะว่างให้พี่วะ ลูกค้าอยากได้แกจนตัวสั่น” พี่มาร์แซวพี่ความสุข ระหว่างที่เดินไปนั่งที่ห้องรับแขก จังหวะที่ฉันกำลังจะเดินกลับขึ้นบนห้องนอน สายตาก็เหลือบมองออกไปนอกบ้าน รถคันหนึ่งขับมาจอดและเปิดไฟภายในรถทำให้เห็นว่าภายในรถคันนั้นมีคนนั่งอยู่สองคนมีผู้หญิงคนหนึ่งและอีกคนมองเป็นเงาคล้ายผู้ชายนั่งอยู่ “มาพอดีเลย ขอบคุณมากนะครับพี่ที่ช่วยผมน่ะ” “พี่ทำดีหวังผลไม่รู้หรือไง” พี่มาร์แกล้งแซวกลับไปอย่างไม่คิดอะไรมาก “อยากให้ช่วยอะไรบอกได้เลยครับ” “ได้ ค่อยบอกแล้วนี่คุณเอมมาคนเดียวเหรอ?” พี่มาร์เอ่ยถามระหว่างที่เดินไปส่งพี่ความสุขที่หน้าบ้าน ระหว่างนั้นฉันเองก็คล้ายกับถูกมนต์สะกดให้เดินออกมาหยุดยืนที่หน้าประตูบ้าน โดยที่สายตาจ้องมองไปยังรถคันนั้นที่ยังคงจอดอยู่ “ใช่ครับ ทำไมเหรอ?” “เปล่า ๆ ปกติจะมีผู้จัดการด้วยเลยสงสัย” เสียงพี่มาร์และพี่ความสุขดังออกห่างเรื่อย ๆ แต่สายตาฉันยังมองเห็นเงาผู้ชายคนนั้นที่นั่งอยู่ในรถ ไหนบอกว่าพี่สาวมารับคนเดียวแล้วคนนั้นในรถคืออะไร...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD