Lavender ลาเวนเดอร์ 4

1864 Words
Lavender ลาเวนเดอร์ 4 “พี่มายด์จ๋า” “จ๋าว่ายังไง” พี่มายด์ขายรับฉันเสียงหวานทันที “เดี๋ยวลูกค้าลาเวนเดอร์จะเข้ามาเลือกแบบแจกันนะคะ อีกสักสิบนาทีค่ะ” “ได้เลย” พี่มายด์ขานรับ สักพักลูกค้าก็เข้ามาเลือกแบบแจกันด้วยท่าทางตื่นเต้น แต่ที่น่าตกใจอีกอย่างคืออะไรรู้ไหม หลังจากมีลูกค้าคนแรกทักมาเรื่องดอกลาเวนเดอร์สักพักก็มีลูกค้าทักเข้ามาที่ร้านกันอีกเยอะมากและถามถึงดอกลาเวนเดอร์ว่าเหลืออยู่ไหม ฉันเองก็ตอบลูกค้าไปเกือบ ๆ เจ็ดคนและตอนนี้กลัวดอกไม้จะไม่พอเลยถามพี่พิมพ์อีกครั้ง “พี่พิมพ์จ๋า” “จ๋าลูก ว่ายังไง” พี่พิมพ์ขานรับ และมักจะเผลอเรียกฉันว่าลูกอยู่เรื่อย ๆ แม้พี่พิมพ์จะอายุมากกว่าฉันไม่กี่ปีก็ตาม ฉันไม่ได้คิดมากหรอกนะเวลาพี่พิมพ์พูดแบบนี้แล้วน่ารักมากเลยล่ะ “มีออเดอร์ลาเวนเดอร์เข้ามาอีกเจ็ดหนูขายเป็นดอกแห้งนะคะ แล้วก็มีถามเข้ามาอีกเยอะมาก ๆ เลยกลัวจะไม่พอค่ะ” “หนูรับมาเจ็ดแล้วใช่ไหม?” พี่พิมพ์เอ่ยถาม “ใช่ค่ะพี่” “รับเพิ่มได้อีกสักห้านะดอกแห้ง ดอกสดเป็นช่อเลยไม่ได้แต่ปักแซมได้อยู่” “ได้ค่ะหนูจะแจ้งลูกค้า” “ว่าแต่วันนี้วันสำคัญอะไรเหรอคะทำไมลูกค้าออเดอร์ดอกลาเวนเดอร์เยอะจัง” พี่มายด์ชวนลูกค้าคุย “คือวันนี้มีงานพบปะนายแบบที่ชื่อชอบค่ะ แล้วดอกไม้ที่นายแบบชอบคือดอกลาเวนเดอร์ หายากมากปกติน้องเขาไม่รับดอกไม้หรืออะไรหรอกนะคะ แต่วันนี้เหมือนทางโมเดลลิ่งประกาศบอกว่ารับได้แฟนคลับเลยตามหากันใหญ่ พี่เองก็ด้วย” พี่ลูกค้าที่โทรเข้ามาสั่งดอกไม้เล่าให้เราฟังทั้งยังยิ้มอย่างมีความสุข “เป็นที่รักของแฟนคลับมากแน่เลย” พี่มายด์ยิ้มบาง ๆ มองลูกค้าอย่างชื่นชม “ใช่ค่ะ ขนาดคนที่ไม่ติดตามดาราแบบพี่เจอน้องเขาไปคือไปไหนไม่ถูกเลย แล้วปกติที่ร้านจะมีดอกลาเวนเดอร์เข้าตลอดเลยไหมคะ พี่หาที่อื่นไม่มีเลยปกติจะสั่งมาจากต่างประเทศให้น้องตลอด” โห ทุ่มสุด ๆ เลยล่ะ สั่งดอกไม้มาจากต่างประเทศให้คนที่ชอบแบบนี้ “ปกติจะสั่งเข้ามานิดหน่อยค่ะ เพราะลูกค้ายังเข้าไม่ถึงดอกลาเวนเดอร์สักเท่าไหร่” “ต่อไปมีมาเยอะแน่ ๆ ค่ะ กลุ่มแฟนคลับน้องรู้แล้วว่าที่นี่มีดอกไม้เยอะพี่แอบถ่ายแล้วก็โปรโมตให้แล้วนะคะ” “ขอบคุณนะคะพี่ โอกาสหน้าเชิญใหม่ได้เลยนะคะ หรือจะติดต่อผ่านไลน์ออฟฟิเชียลของเราก็ได้นะคะ” พี่มายด์ขายร้านให้ลูกค้าเต็มที่เลยล่ะ “ได้เลยค่ะ เดี๋ยวเวลาใช้ดอกไม้ให้ลูกค้าพี่จะมาสั่งร้านนี้แล้วล่ะ” “ดอกไม้เสร็จแล้วนะคะ” เสียงพี่พิมพ์เอ่ยแจ้งขึ้นมา ยามลูกค้าเห็นดอกไม้ที่เสร็จแล้วถึงกับน้ำตารื้น เมื่อลูกค้าเดินมาจ่ายเงินฉันก็ออกใบเสร็จเก็บไว้ที่ร้านและออกใบเสร็จให้ลูกค้าส่วนเงินลูกค้าโอนเข้าบัญชีร้านแล้วเรียบร้อย “ร้านเราหอมฟุ้งไปด้วยกลิ่นลาเวนเดอร์เลย” พี่มาลีที่เพิ่งจัดช่อดอกกุหลาบขาวเสร็จเงยหน้าขึ้นมองรอบ ๆ ร้านก็พบว่าตอนนี้มุมด้านหนึ่งของโต๊ะกลางร้านเต็มไปด้วยดอกลาเวนเดอร์ที่ถูกจัดช่อและแจกันบางรายต้องขายงานที่ปักแซมเพราะดอกไม้ไม่พอ “ลูกค้าใหม่ทั้งนั้นเลยค่ะ” เอ่ยตอบพี่ ๆ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ร้านขึ้นมาเมื่อมีสายเรียกเข้าอีกครั้ง และฉันก็เริ่มทำงานตัวเองต่อไปอย่างมีความสุข กระทั่งถึงเวลาร้านปิดเราช่วยกันเปลี่ยนน้ำที่ใช้แช่ดอกไม้ช่วยกัน ทำความสะอาดร้านดูแลความเรียบร้อยต่าง ๆ ก่อนจะแยกย้ายกันกลับไปพัก พรุ่งนี้ไม่มีเรียนแต่ฉันจะต้องทบทวนบทเรียนเตรียมติวกับเพื่อนแล้วช่วงบ่าย ๆ ค่อยมาทำงาน “กลับดี ๆ นะเหมย” “ค่ะพี่ หนูไปละนะ” โบกมือลาพี่พิมพ์ก่อนออกจากร้าน แต่พอเปิดประตูออกมาก็เห็นว่าพี่มีนและพี่มาร์ยืนรออยู่หน้าร้าน และไม่รู้ว่ามากันตั้งแต่เมื่อไหร่ “มารับกลับบ้านครับ” พี่มาร์เอ่ยบอกพร้อมกับยื่นแก้วชานมมาให้หนึ่งแก้ว ฉันยื่นมือไปรับก่อนจะพยักหน้าเข้าใจ จากนั้นก็เดินตามพี่ชายไปขึ้นรถ พี่มาร์เปิดประตูด้านหลังให้ฉันขึ้นไปนั่งก่อนที่พี่มาร์จะนั่งที่เบาะด้านหน้าโดยมีพี่มีนทำหน้าที่ขับรถ “กินที่ร้านไหนดี” “กินบ้านได้ไหมคะ” ฉันเอ่ยบอกเสียงเบา “ได้งั้นเราซื้อกลับไปกินที่บ้าน อยากกินอะไร” “อยากกินก๋วยเตี๋ยว” พี่มาร์ตอบ ฉันเองก็อยากกินเหมือนกันนะก๋วยเตี๋ยวน่ะ “เหมยกินอะไรดี” พี่มีนเอ่ยถาม “ก๋วยเตี๋ยวก็ได้ค่ะ” “งั้นไปร้านโปรดเหมยดีไหม แล้วซื้อกลับไปกินที่บ้านด้วยกัน” “มะ ไม่ค่ะไม่ไป” ร้านนั้นอยู่ใกล้บ้านพวกเขา ฉันไม่อยากไป “งั้นร้านหน้าหมู่บ้านเราไหม อร่อยอยู่นะเคยไปกิน” “ค่ะ ร้านหน้าหมู่บ้าน” ฉันเอ่ยเสริมพี่มาร์แทบจะทันที เพราะไม่อยากไปร้านนั้น พี่มีนขานรับอย่างว่าง่ายก่อนจะค่อย ๆ ขับรถไปตามเส้นทางที่คุ้นเคย แต่ปกติฉันจะนั่งรถโดยสารประจำทางครั้งนี้แตกต่างออกไปเพราะมีพี่ชายมารับ ก็รู้สึกแปลก ๆ ดีนั่นแหละ “ลงไปด้วยไหม?” พี่มาร์หันกลับมามองหน้าฉันอย่างขอความคิดเห็น “ไปค่ะ” “งั้นก็ไปกันเถอะ” พี่มาร์เอ่ยบอก หลังจากจอดรถเราทั้งสามคนก็เดินไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเพื่อสั่งกลับไปกินที่บ้าน ระหว่างรอก๋วยเตี๋ยว พี่มาร์ก็ชี้นิ้วให้ฉันดูร้านขายโตเกียวรถเข็น “พี่อยากกิน” พี่มาร์บอก ฉันพยักหน้ารับเตรียมอาสาไปซื้อให้ “ไม่ ๆ เดี๋ยวพี่ไปเองหนูรอก๋วยเตี๋ยวนะ รอกับพี่มีน” พี่มาร์บอก “ค่ะ” “ยุงกัดเหรอ?” คล้อยหลังพี่มาร์เดินออกไปสักพัก พี่มีนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก็เอ่ยถามเมื่อเห็นว่าฉันยกมือตีที่แขนตัวเองเบา ๆ ฉันพยักหน้าให้พี่ชายก่อนจะนั่งเงียบ ๆ ต่อไป ไม่นานของที่สั่งก็ได้ พี่มีนเดินไปรับของฉันเองก็เตรียมเงินค่าอาหารให้พี่ชายแต่ก็โดนเมินเมื่อพี่มีนไม่ยอมรับเงินจากฉันเลย “ครั้งหน้าจะไม่มาด้วย” กระทั่งเอ่ยบอกไปแบบนั้นพี่มีนถึงได้ถอนหายใจแล้วหันกลับมามองฉัน “งั้นไปซื้อแตงโมปั่นให้พี่หน่อย อยากกิน แลกกัน” พี่มีนยื่นข้อเสนอมาเมื่อเขาไม่ยอมรับเงินจากฉันไปเลยสักบาทเดียว “ค่ะ” อย่างน้อยก็หักล้างค่าใช้จ่ายไปได้ ก็บอกแล้วฉันไม่สบายใจที่จะใช้เงินพี่ชายถึงแม้จะรู้ว่าพวกเขาเต็มใจให้ฉันก็ตาม และฉันก็ชินที่จะทำแบบนี้ไปเสียแล้ว เดินห่างจากพี่ชายได้สามก้าวก็เดินหันกลับมาถาม “พี่มาร์จะกินอะไรคะ” “เอาเหมือนพี่ก็ได้” “ค่ะ” ขานรับเสร็จก็เดินไปยังร้านน้ำผลไม้ปั่นทันที ฉันสั่งเครื่องดื่มเพียงแค่สองแก้วเพราะฉันกินชานมมาแล้วเลยไม่อยากกินอีก ระหว่างที่ยืนรอก็ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ตัวเองไปเรื่อยไม่ได้สนใจรอบข้างนัก “เอ่อ ขอโทษนะครับ” จู่ ๆ ก็มีเสียงเรียกหนึ่งดังขึ้นใกล้ ๆ “...” ฉันเงยหน้ามองคนที่ทักตัวเอง อีกฝ่ายตัวสูงและหุ่นดีอยู่ไม่น้อย ขนาดสวมเสื้อฮู้ดคลุมหมวกใส่แมสขนาดนี้ยังรู้สึกได้เลยว่าเขานั้นดูดีไม่น้อย “ขอรบกวนสักครู่ได้ไหมครับ” คนตรงหน้าเอ่ยถามอย่างเกรงใจ “ค่ะ” “ผมขอยืมโทรศัพท์ได้ไหม แต่ถ้าไม่สะดวกคุณช่วยกดเบอร์แล้วโทรให้ก็ได้ครับ พอดีผมจะติดต่อหาพี่สาวแต่โทรศัพท์ดันอยู่ในรถพี่สาว” “ค่ะ” ฉันพยักหน้าให้อีกฝ่ายและยื่นโทรศัพท์ให้เขากดโทรเอง เป็นการกระทำที่ดูโง่ใช่ไหมล่ะแต่ฉันเชื่อในความรู้สึกตัวเองว่าเขาไม่ใช่โจรอย่างแน่นอน “ขอบคุณครับ” คนตรงหน้ารับโทรศัพท์ไปและกดเบอร์อยู่สักพักก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู ไม่นานก็ได้ยินเขาคุยกับปลายสาย "คนสวย คนสวยลืมน้องชายไว้ที่ตลาดนะครับ” “เกินไปแล้วนะ ผมยังยืนอยู่ที่หน้าตลาดอยู่เลยไม่ได้เอากระเป๋าสตางค์กับโทรศัพท์มาเลย มีแฟนคลับตามด้วย” “ผมขอยืมโทรครับ ไม่อยู่เลยเหรอ แป๊บนะคนสวยเหมือนเจอคนรู้จัก” คนตรงหน้าเอ่ยบอกกับปลายสายและมองเลยหลังฉันไป พร้อม ๆ กับที่มีเงาของพี่ชายขยับเข้ามายืนขวางฉันไว้จากผู้ชายคนนั้น “ใคร รู้จักเหรอ?” พี่มีนเอ่ยถามเสียงเข้มเมื่อเดินเข้ามาใกล้ และคนที่ยืนขวางฉันอยู่คือพี่มาร์ที่กำลังจ้องมองคนตรงหน้าเรา “พี่มาร์ผมเอง” คนที่เข้ามายืมโทรศัพท์ดึงแมสลงน้อย ๆ พร้อมกับบอกพี่ชายฉันเสียงกระซิบ “ใครวะ” พี่มาร์ถามอย่างกับจำไม่ได้ จนคนตรงหน้าดึงแมสลงอีกนิด ฉันเลิกสนใจพี่มาร์กับชายคนนั้นก่อนจะหันไปยังร้านน้ำปั่นเมื่อเมนูที่สั่งได้ครบแล้ว จ่ายเงินเสร็จก็ขยับมายืนข้างพี่ชายคนโต พี่มีนยื่นมือมาช่วยถือไว้อย่างใจดี ระหว่างนี้ก็เหมือนพี่มาร์กำลังจ้องหน้าคนคนนั้นอยู่ “แต่งอะไรมิดชิดขนาดนี้ แล้วมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง” พี่มาร์ถามคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ “มาซื้อก๋วยเตี๋ยว แต่พี่สาวลืมผมไว้ทั้งกระเป๋าสตางค์ทั้งโทรศัพท์อยู่บนรถหมดเลย ผมเห็นน้องเขาเลยเข้ามาขอยืมโทรศัพท์น่ะ” “เออ นี่น้องพี่เอง แล้วจะกลับยังไง” “อา ขอไปรอบ้านพี่ได้ไหม แฟนคลับตามอะ” “เออ ๆ แล้วไหนก๋วยเตี๋ยว” พี่มาร์ยังถามต่อด้วยความสงสัย เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้ถือก๋วยเตี๋ยวอยู่ แล้วยังบอกว่าไม่มีกระเป๋าสตางค์ด้วย “พอดีเลย ไปจ่ายให้ผมหน่อยครับ แม่ค้าจ้องผมไม่วางตาเลยผมไม่มีตังค์”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD