Episode 5
เมื่อเกิดความเหนื่อยล้าทางร่างกาย ฉันก็สามารถหลับได้ทุกที่ทุกเวลาแม้ว่าสถานการณ์ตรงหน้าจะไม่ค่อยอำนวยสักเท่าไหร่ และตอนนี้ฉันก็ได้เข้ามาอยู่ในภวังค์อย่างไม่ทันตั้งตัวแล้ว...
'ฉันรักนายมาก แต่นายกลับตอบแทนฉันด้วยแบบนี้เหรอ!!!' เสียงหวานใสของฉันเอ่ยดังขึ้นด้วยความเสียใจใบหน้าหวานของฉันเปอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา
ทำไม... ทำไมฉันต้องฝันเรื่องแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา ทั้งๆที่ฉันอยากจะลืมมันไปให้หมดแท้ๆ และตอนนี้แม้ว่าฉันจะพยายามควบคุมตัวเองให้ไม่ฝันเรื่องนี้อีก แต่มันก็ทำไม่ได้... เหตุการณ์ในวันนั้นยังวนเวียนอยู่ในจิตใจฉันอยู่
'เธอกำลังเข้าใจผิดนะเซ มันไม่ได้เป็นแบบที่เธอคิด' เสียงทุ้มเข้มเอ่ยขัดค้านและเขาก็พยายามใช้มือหนาดึงแขนฉันเอาไว้และกอดรั้งฉันไม่ให้ฉันไปจากชีวิตเขา
'แล้วมันเป็นแบบไหนละกาย!?' ฉันพยายามเอ่ยขึ้นอย่างใจเย็นที่สุด แต่จิตใจของฉันตอนนี้มันได้แหลกสลายเหมือนเศษแก้วที่แตกไม่เป็นชิ้นดีแล้ว
'ฉันอธิบายได้...'
'งั้นก็พูดมาสิว่าผู้หญิงที่นายนอนด้วยเป็นใคร ถ้าบอกว่าเป็นเพื่อนคงจะฟังไม่ขึ้นสักเท่าไหร่นะ' ฉันบอกออกมาก่อนจะยิ้มแห้งและหัวเราะเบาๆด้วยความสมเพชตัวเอง
ฉันโดนแฟนที่รักที่สุดหักหลัง... หมอนั่นชื่อว่า 'กาย' แฟนคนสำคัญที่ฉันมั่นใจว่าฉันรักเขาและพร้อมที่จะสร้างครอบครัวกับเขา
แต่แล้วฉันก็ไปเห็นเรื่องที่ไม่ควรรู้เข้า... ถ้าวันนั้นฉันไม่ไปแอบเซอร์ไพร์สวันเกิดของเขาที่คอนโดละก็... ฉันอาจจะไม่ต้องเห็นเขานอนกับผู้หญิงคนอื่น ที่สำคัญฉันมารู้ภายหลังว่าเขาเป็นคนที่เจ้าชู้มากๆ และเวลาที่เขาอยู่กับฉันเขาดีเสมอมาไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงให้คิดเล็กคิดน้อยสักครั้ง
'กายขอโทษ กายผิดไปแล้วครับ กายจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว' เสียงทุ้มเข้มเอ่ยดังขึ้นด้วยความรู้สึกผิดพร้อมกับกระชับอ้อมกอดแน่นมากขึ้นกว่าเดิม ฉันได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่
เรื่องที่เขาทำกับฉันมันไม่สามารถอภัยให้ได้ง่ายๆ แม้ว่าเรื่องนี้จะผ่านมานานแล้ว แต่ฉันก็ไม่อาจจะลืมมันได้จริงๆ แถมยังเก็บมาฝันเกือบทุกวันอีกต่างหาก
'ที่กายต้องทำแบบนี้... เพราะเซไม่ยอมมีอะไรกับกายสักที กายก็ต้องมีความต้องการเหมือนกันนะ' เสียงทุ้มเข้มเอ่ยขึ้นพลางหอมแก้มฉันฟอดใหญ่ สายตาที่เขามองฉันดูเว้าวอนมาก แต่คำพูดของเขาทำให้หัวใจของฉันมันเจ็บจึกมากกว่าเดิม
'เพราะว่าฉันไม่มีอะไรกับนายแค่นี้ นายเลยต้องไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นเหรอ!? เหอะ... เหตุผลมันฟังไม่ขึ้นเลยนะ' ฉันหัวเราะในลำคอเบาๆด้วยความสมเพชตัวเองมากกว่าดดิม
'ถ้าเซยอมมีอะไรกับกายละก็... กายจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว'
'ฝันไปเหอะ! ฉันจะไม่มีอะไรกับนาย และต่อไปนี้เราเลิกกัน' ฉันบอกออกมาอย่างแน่วแน่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะผลักเขาออกไปไปลตัวสุดแรง จากนั้นฉันก็วิ่งออกมาจากคอนโดของเขาทันที
นับแต่วันนั้นฉันก็เอาแต่ร้องไห้กับเรื่องที่เกิดขึ้น ฉันไว้ใจเขาทุกอย่าง รักเขามากๆ แต่ไม่นึกเลยว่าเขาจะไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่น ด้วยเหตุผลที่ว่าฉันไม่ยอมมีอะไรกับเขา... ถ้าวันนั้นฉันไปมีอะไรกับเขา ฉันว่าฉันคงจะต้องเสียใจมากกว่านี้แน่ๆ
'ฮึก...ฮือ ที่ผ่านมาฉันไม่เคยดีพอสำหรับนายเลยใช่ไหม' ฉันได้แต่โทษตัวเองกับสิ่งที่เกิดขึ้น และเอาแต่เก็บตัวร้องไห้ จนวันหนึ่งฉันก็เข้มแข็งขึ้นและเลิกร้องไห้แม้ว่าจิตใจของฉันยังคงเอาแต่นึกถึงเรื่องนี้ก็ตาม
แต่ฉันไม่อยากแสดงความอ่อนแอให้คนอื่นเห็นอีกแล้ว ฉันจะต้องเข้มแข็งขึ้นและเดินหน้าต่อไป... แต่สิ่งที่ฉันยังจำได้ติดตาอยู่อีกเหตุการณ์นึงนั่นก็คือ วันนั้น... วันที่กายต้องการมีอะไรกับฉัน
'เซ กายทนไม่ไหวแล้ว มามีอะไรกันเถอะนะ' เสียงทุ้มเข้มเอ่ยดังขึ้นก่อนจะผลักฉันนอนลงบนเตียงและจากนั้นเขาก็กระชากเสื้อผ้าฉันออกด้วยความหื่นกระหาย
วันนั้นเป็นวันที่ฉันกลัวมากๆ... ฉันไม่เคยโดนอะไรแบบนี้มาก่อน และไม่คิดว่าตัวเองจะต้องเสียครั้งแรกให้แฟนตัวเองตอนที่ยังไม่พร้อม
"ไม่ หยุดนะ หยุดดดดด!!!"
"เซ เธอเป็นไรเนี่ย ร้องไห้ออกมาทำไม" เสียงทุ้มเข้มของบุ๊คส์เอ่ยดังขึ้นเรียกสติฉันและมันก็ทำให้ฉันหลุดออกมาจากความฝันที่แสนโหดร้าย แต่ในความฝันนั้นเป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นกับชีวิตฉันมาก่อน
"ฮึก... ฮือ... ฉันกลัว" ฉันบอกออกมาก่อนจะกอดบุ๊คส์ทันที แม้ว่าฉันกับเขาจะไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่ตอนนี้ฉันอยากจะหาที่พึ่งทางใจ ฉันไม่สามารถเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังได้ ได้แต่เก็บเอาไว้คนเดียว
"เธอเป็นอะไร ฝันร้ายเหรอ ไม่ต้องกลัวนะครับ" เสียงทุ้มเข้มเอ่ยปลอบใจฉันพร้อมกับใช้มือหนาลูบหัวฉันอย่างอ่อนโยนและความอ่อนโยนของเขาทำให้ฉันถึงกับปล่อยโฮออกมาอย่างทนไม่ไหว
ที่จริงมีหลายครั้งที่กายพูดคำพูดร้ายแรงกับฉันหลังจากที่เลิกกันไป มันทำให้ฉันยังเจ็บช้ำมาจนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าจะผ่านมาหลายปีแล้วก็ตาม
"เธอฝันอะไร บอกฉันได้ไหม" เสียงทุ้มเข้มของบุ๊คส์เอ่ยขึ้นอย่างใจเย็นพร้อมกับใช้นิ้วเรียวยาวเช็ดน้ำตาให้กับฉัน
"ฉัน... เกลียดที่ตัวเองดูแรดแบบนี้" ฉันบอกออกมาตามตรง ฉันเกลียดใบหน้าของตัวเองที่ดูเป็นผู้หญิงแรงๆ แม้ว่าฉันจะพยายามแต่งหน้าให้บางแล้ว แต่พวกผู้ชายมักมองฉันว่าฉันเป็นคนแรงๆผ่านโลกมาเยอะเสมอ
ทั้งๆที่ฉันไม่ได้เป็นคนแบบนั้น และเพราะลักษณะภายนอกแบบนั้นของฉันเลยดึงดูดให้กายเข้ามาในชีวิตของฉัน
"เธอสวยจะตาย ไม่ได้แรดสักหน่อย" ร่างสูงเอ่ยปลอบใจฉัน แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด
"ไม่ต้องมาพูดเลย ครั้งแรกที่นายเจอฉันนายก็เรียกฉันว่ายัยแรดแล้ว" ฉันบอกออกมาตามตรงก่อนจะมองหน้าเขา
"ฉันไม่รู้ว่าเธอฝันอะไรหรอกนะเธอเลยถามคำถามแบบนี้กับฉัน แต่ฉันบอกได้คำเดียวว่าตอนที่ฉันเห็นเธอครั้งแรกฉันรู้สึกสนใจในตัวเธอสุดๆ แถมเธอยังสวยมากๆด้วย ที่สำคัญฉันไม่เคย..." ร่างสูงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จริงจังและเขาก็หยุดพูดประโยคสุดท้าย ทำให้ฉันถึงกับเลิกคิ้วมองเขาด้วยความสงสัย
"นายจะพูดอะไรต่อ พูดต่อดิ"
"ไม่มีอะไร ว่าแต่เธอฝันร้ายเหรอ นอนเถอะ ฉันจะนอนกอดเธอให้ฝันดีเอง" ร่างสูงเอ่ยขึ้นอย่างเปลี่ยนเรื่องก่อนจะกระตุกยิ้มที่มุมปากจากนั้นเขาก็จับหัวของฉันให้หนุนแขนของเขาและเขาก็จับแขนของฉันให้นอนกอดเขา
พูดง่ายๆก็คือพวกเราตอนนี้กำลังนอนกอดกันเหมือนคู่รัก ทั้งๆที่พวกเราไม่ได้เป็นอะไรกันเลยแท้ๆ
"นอนซะนะเด็กดี" ร่างสูงเอ่ยบอกพลางลูบหัวฉันอย่างเอ็นดู ถ้าเป็นปกติฉันคงจะโวยวายและตบตีเขาไปแล้ว
แต่ตอนนี้จิตใจของฉันมันรู้สึกแย่จนไม่อยากจะทำอะไรแบบนั้น และฉันก็รู้สึกดีที่เขาเข้ามาปลอบ ถ้าปล่อยเลยตามเลยไปคงจะไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง...
"ถ้าเธอฝันร้ายฉันจะปกป้องเธอเอง สัญญาเลย" บุ๊คส์เอ่ยบอกก่อนจะยื่นนิ้วก้อยมาเกี่ยวกับนิ้วก้อยของฉัน ฉันได้แต่อมยิ้มขำเล็กน้อยกับท่าทีที่เหมือนเด็กๆ
"ถ้าฉันฝันร้ายฉันต่อยนายแน่ คอยดู"
"ฝันดีนะครับเซญ่า"