ขณะเดียวกันอีกทางด้านหนึ่ง…
“บอสคะ”
“ครับ”
“ทางนั้นตอบรับงานมาแล้วนะคะ ไม่ทราบว่าจะนัดดูตัววันไหนดีคะ”
ทันทีที่เลขาส่วนตัวถามแบบนั้น มังกรนักธุรกิจชื่อดังทายาทของบริษัทยักษ์ใหญ่ซึ่งทำกิจการเกี่ยวกับเครื่องมือแพทย์และกำลังง่วนอยู่กับการอ่านสัญญาการซื้อขายระหว่างบริษัทตนกับโรงพยาบาลคู่ค้านั้นก็ถึงกับชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปถามเลขาคนเก่งของตัวเอง
“แล้วกับคนนี้สามารถทำอะไรได้บ้าง”
“ทุกอย่างค่ะ ยกเว้นบริการทางเพศ”
“ยกเว้นบริการทางเพศ…” นักธุรกิจหนุ่มทวนคำพูดนั้นเสียงแผ่วก่อนเงียบไปครู่หนึ่งราวกับกำลังขบคิดอะไรบางอย่างในหัว ไม่นานจึงตอบกลับไป “ถ้าเป็นไปได้ฉันอยากเจอวันนี้เลยว่าแต่… ผู้หญิงคนนั้นชื่อพราวรุ้งใช่ไหม”
ชายหนุ่มถามเพิ่มเติม เขาไม่แน่ใจว่าคนที่เลขาคนเก่งของเขากำลังกล่าวถึงอยู่ในตอนนี้นั้นใช่คนเดียวกับที่เขาเคยเห็นผ่าน ๆ ตาหลังจากที่ทางเว็บไซต์ดาร์กไซด์เสนอมาให้เลือกในฐานะที่เขาเป็นลูกค้าระดับมาสเตอร์คลาสหรือไม่
“ใช่แล้วค่ะ” เลขาพยักหน้าตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงสุภาพแล้วเดินจากไป ตั้งใจจะไปจัดการธุระที่หัวหน้าสั่งให้ทำ ขณะที่ชายหนุ่มก้มหน้ากลับลงไปให้ความสนใจกับเอกสารตรงหน้าของตัวเองตามหน้าที่ที่ต้องทำต่อ
ภายในหัวของมังกรพลันฉายภาพผู้หญิงนามว่าพราวรุ้งขึ้นมาซ้ำ ๆ เขาจำใบหน้างดงามของเธอได้ในทันทีที่เห็นภาพถ่ายของเธอเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
“พราวรุ้ง…” เสียงทุ้มเอ่ยชื่อเธอเบา ๆ กับตัวเองหลังจากนั่งอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวเพียงลำพัง จากนั้นรอยยิ้มจาง ๆ ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาเมื่อกำลังจินตนาการอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเธออย่างห้ามไม่ได้
ส่วนทางฝั่งของพราวรุ้งนั้น…
“ต้องการนัดทานข้าวกันวันนี้เลยเหรอคะ”
[ใช่ค่ะ พอดีตารางงานของบอสค่อนข้างแน่น ถ้าเป็นไปได้บอสเลยอยากนัดทานข้าวในวันนี้เลย…]
“…”
[ไม่ทราบว่าคุณพราวรุ้งสะดวกหรือเปล่าคะ] คนปลายสายถาม ขณะที่คนถูกถามนิ่งไปครู่หนึ่ง เธอไม่คิดมาก่อนว่าผู้ชายวัยสามสิบที่เธอเพิ่งกดตอบรับงานไปเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้จะใจร้อนอยากเจอเธอเร็วขนาดนี้
“เดี๋ยวขอเช็กตารางงานก่อนนะคะ” พราวรุ้งตอบกลับไปพร้อมเปิดเข้าไปดูปฏิทินเพื่อกดเช็กตารางงานที่มีอยู่เพียงน้อยนิดของตัวเอง ตอนนี้เธอไม่สามารถปฏิเสธงานชิ้นนี้ได้แล้วเนื่องจากเพิ่งตัดตัวเลือกชายวัยหกสิบปีไป
โดยหลังจากที่เช็กตารางงานของตัวเองจากโทรศัพท์ที่กำลังคุยสายกับลูกค้าเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนให้คำตอบกลับไป
“ตกลงค่ะ เราสามารถนัดเจอกันได้ค่ะ” แม้พราวรุ้งจะไม่ได้อยากทำงานในวันนี้เนื่องจากยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ทว่าเพื่อเงินที่เธอต้องการและอยากได้ เธอจึงจำใจต้องตอบรับงานที่ถูกเพิ่มเข้ามาอย่างกะทันหันในวันนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้
[ถ้าคุณพราวรุ้งสะดวกวันนี้ ดิฉันจะแจ้งร้านและเวลากลับไปให้ทางแชตนะคะ ไม่ทราบว่าคุณพราวรุ้งอยากทานอาหารสไตล์ไหนดีคะ อยากทานอาหารเอเชียหรือยุโรป] เลขาของลูกค้าถามกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ดูเป็นมิตรกว่าในตอนแรกเล็กน้อย
“อะไรก็ได้ค่ะ ฉันทานได้หมดเลย” พราวรุ้งตอบ จากนั้นเป็นฝ่ายถามกลับไปบ้างเนื่องจากเธอไม่รู้ข้อมูลอะไรที่เกี่ยวกับลูกค้าคนนี้เลย “ว่าแต่ไม่ทราบว่าฉันต้องแต่งตัวแบบไหนไปเจอเหรอคะ มีการแต่งตัวที่อยากได้หรือเปล่า”
[ไม่มีค่ะ เอาตามที่คุณพราวรุ้งสะดวกเลย แต่ถ้าเป็นไปได้…]
“…”
[ใส่เดรสรัดรูปมาก็ดีนะคะ] คนปลายสายให้คำแนะนำกลับมา ซึ่งพอได้ยินแบบนั้นพราวรุ้งก็เงียบไปครู่หนึ่งแล้วจึงพยักหน้ากับตัวเองเบา ๆ
“เข้าใจแล้วค่ะ ฉันจะใส่เดรสรัดรูปไป” หญิงสาวรับปากแบบส่ง ๆ ทั้งที่ตอนนี้ยังไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าในตู้เสื้อผ้าของตัวเองนั้นมีชุดเดรสรัดรูปที่ต้องการสวมใส่หรือไม่ เพราะโดยนิสัยพื้นฐานของเธอแล้วชอบสวมใส่เสื้อผ้าที่ปิดบังรูปร่างของตัวเองมากกว่า อีกทั้งยังไม่ค่อยสะดวกใจที่จะสวมใส่เสื้อผ้าที่เปิดเผยเนื้อหนังมากเท่าไรนัก เนื่องจากไม่ชอบเวลาที่ใครต่อใครจ้องมองเรือนร่างของเธออย่างไม่ปิดบัง
[แล้วเจอกันนะคะ] เลขาสาวตอบกลับมาและเป็นฝ่ายกดวางสายไปก่อน ขณะที่พราวรุ้งทำได้เพียงพ่นลมหายใจออกมาอย่างแรงด้วยความหนักใจ ก่อนที่นาทีต่อมาจะติดต่อไปหาจ๊ะจ๋าเพื่อนสนิทซึ่งเป็นคนแนะนำงานนี้ให้แก่เธอ เธอคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะสามารถแนะนำมือใหม่อย่างเธอได้ตามประสาผู้ที่มีประสบการณ์มากกว่า